ตอนที่ 10 คุณยอมรับความสัมพันธ์ของพวกเราไหม
เสียงถอนหายใจดังขึ้นในระหว่างกลุ่มเพื่อนๆ
“ขอโทษนะ เราขอตัวไปห้องน้ำก่อน” เธอกลัวว่าจะ
ถูกซักไซ้ไล่เลียงต่อ เป้ยฉ่ายเวยจึงหาข้ออ้างเพื่อหลบ เลี่ยง
หลังจากเดินผ่านระเบียงไปยังห้องน้ำ เป้ยฉ่ายเวยก็ ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เมื่อเธอก้าวเข้าห้องน้ำไป แขนของเธอถูกใครบาง คนดึงเอาไว้ ทำเอาเธอใจหายใจคว่ำ หลังของเธอพิงไว้ ที่ประตู ฉูเจ๋อหยางยกมือขึ้นวางลงตรงข้างๆศีรษะของ เธอ สายตาจ้องเขม็ง “คุณเอาเบอร์โทรของผมใส่ไว้ใน บัญชีดำงั้นหรือ?”
“สงสัยมือไปโดนเข้าน่ะคะ” เป้ยฉ่ายเวยแก้ตัวน้ำ ขุ่นๆ อยากจะหลบออกไปทางข้างๆเขา ฉูเจ๋อหยางกลับ จับมือเธอแน่น “เอาเบอร์โทรของผมใส่ไว้ในบัญชีดำไม่ พอ ยังลบwe chatของผมทิ้งด้วย เป้ยฉ่ายเวยคุณคิด ว่าผมเป็นเด็กอมมือหรือยังไง?”
เป้ยฉ่ายเวยเงยหน้าขึ้น จ้องมองลึกเข้าไปยัง สายตาคู่นั้นที่เธอหลงใหลมานานหลายปี เธอเก็บซ่อน ความรู้สึกในใจมานาน ไม่กล้าเอ่ยถาม ครั้งนี้เธอจึงได้ โอกาส “ฉูเจ๋อหยาง คุณชอบฉันบ้างไหมคะ?”
หลังจากเอ่ยถามออกไปแล้ว เธอเห็นในสายตาเขาแสดงความตกตะลึง ราวกับว่าคำถามนี้ของเธอช่าง กะทันหันเหลือเกิน
คิ้วของฉูเจ๋อหยางขมวดเข้าหากัน สักพักหนึ่งเขาจึง เอ่ยปาก “เป้ยฉ่ายเวย พวกเราอยู่ด้วยกันมานานแล้ว คุณยังต้องการให้ผมพูดอีกหรือ?”
อยู่ด้วยกันมานานแล้วยังไงล่ะ คุณยอมรับความ สัมพันธ์ของพวกเราไหม?
เป้ยฉ่ายเวยสงสัยอยู่ในใจ
ดูเอาเถอะ ผู้ชายคนนี้นอกจากตอนที่ทำกิจกรรม ร่วมกันก็เรียกเธอ เวยเวย แต่เวลาอื่นเรียกชื่อนามสกุล ซะเต็มยศ ขนาดเพื่อนร่วมชั้นเรียนมาด้วยกัน ยังไม่รู้ ชื่อเต็มขนาดนี้เลย
“ฉูเจ๋อหยาง ฉันเหนื่อยหน่ายกับความสัมพันธ์แบบนี้ มากพอแล้วคะ” เป้ยฉ่ายเวยขัดขืนปัดมือของเขาออก พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ถ้าคุณไม่ยอมตอบฉัน ฉันก็จะ ไม่ทนอยู่ต่อไปอีกแล้วคะ”
นูเจ๋อหยางเป็นคนที่ใจเย็นและมีเหตุผลมาก แต่ เพราะเรื่องเป็นอย่างนี้ ถึงจะเก่งในเรื่องตัวบทกฎหมาย แค่ไหน สำหรับคำที่เป้ยฉ่ายเวยพูด เขาได้แต่เงียบขรึม อยู่สักครู่ แล้วจึงตอบว่า “ได้ แล้วแต่คุณละกัน”
เขาเปิดประตูออก เดินหายไปอย่างรวดเร็ว หายวับ ไปราวกับว่าเขาไม่ได้มาที่นี่
เป้ยฉ่ายเวยลากขาตัวเองที่ยืนที่ออยู่เดินไปที่ อ่างล้างหน้า เปิดก๊อกออก รอง สาดเข้าหน้าอย่างไม่ คิดชีวิต แล้วเงยหน้าขึ้นมองตัวเองในกระจก ใบหน้า เธอขาวซีดเปียกปอนไปหมด
ตอนที่เอ่ยถามออกไปนั้น เธอได้แต่หวังลมๆแล้งๆ ถ้า เจ๋อหยางกล้าตอบออกมาว่าชอบเธอละก็ เพื่อ การกระทำที่ผ่านมาของเขา ยินดีที่จะชดใช้ด้วยชีวิต เพื่อแลกกับการอภัยของเพื่อนรักเธอ แต่ว่าเขาเปล่า เขาได้แต่อึ้งไม่ตอบอะไร
ผู้ชายช่างใจร้ายเหลือเกิน เธออยู่กับเขาถึง 3 ปี เขา กลับไม่ยอมรับเธอ
ใช่สิ สมน้ำหน้าตัวเองที่ไปหลงรักเขา
เวลาบ่าย 3 โมง งานเลี้ยงของโรงเรียนเริ่มขึ้นอย่าง เป็นทางการ เริ่มต้นด้วยการแสดงของรุ่นน้องใน โรงเรียนบนเวที การเต้นเท้าไฟอย่างร้อนแรงและ มายากลชั้นเลิศ ดึงดูดมาซึ่งเสียงปรบมือของบรรดา เพื่อนๆที่นั่งชมอยู่ด้านล่าง ผู้อำนวยการของโรงเรียนที่ นั่งอยู่ตรงกลางขึ้นเวทีกล่าวอะไรนิดหน่อย บรรยากาศ เต็มไปด้วยความคึกคักสนุกสนาน
หนานฉิงชวนฉูเจ๋อหยางและหลี่จื่อเชียนมานั่งที่โต๊ะ นี้ จะว่าไปก็ยังมีที่นั่งเหลืออยู่บ้าง เพื่อนคนอื่นๆเห็น หนานฉิงนั่งติดกับฉูเจ๋อหยาง ก็เข้าใจได้โดยปริยาย กล่าวทักทายเขาด้วยความกะตือรือล้น
เป้ยฉ่ายเวยได้แต่อมยิ้ม ไม่มองหน้าใครทั้งนั้น ก้ม หน้าก้มตาตั้งใจจะปอกเปลือกส้มทาน
“มาผมเอง” หลี่จื่อเชียนเอ่ยขึ้น พลางหยิบส้มที่ยัง ไม่ทันได้ปอกเปลือกออกไปจากมือของเป้ยฉ่ายเวย นิ้วมือยาวเรียวแข็งแรงของเขาค่อยๆปอกเปลือกส้มสี เหลืองอมส้มออก “ถ้าคุณปอกไปเรื่อยๆเล็บจะดีนะ ครับ คุณทานเถอะเดี๋ยวผมปอกให้”
เป้ยฉ่ายเวยไม่ได้ปฏิเสธอะไร พยักหน้าไปทางเขา “ขอบคุณคะ”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ”
หลี่จื่อเชียนไม่อยากให้บรรยากาศระหว่างคนทั้ง สองน่าอึดอัด จึงหาเรื่องคุยกับเป้ยฉ่ายเวย เขาเล่าเรื่อง สนุกๆระหว่างที่อยู่ที่อังกฤษ จนเป้ยฉ่ายเวยต้องหัวเราะ ออกมา ทั้งสองพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน จนรู้สึกสนิท สนมกันมากยิ่งขึ้น
สายตาของฉูเจ๋อหยางที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามจับจ้องอยู่ ที่เป้ยฉ่ายเวยโดยตลอด
“อาเจ๋อคุณอยากทานไหมคะ?” หนานฉิงเอาส้มที่ ปอกเปลือกเรียบร้อยแล้ว ยื่นให้ฉูเจ๋อหยาง พลางเอ่ย ว่า “ครูใหญ่บอกว่าส้มนี้เพิ่งเก็บสดๆมาจากสวนเมื่อเช้า เลยนะคะ หวานมาก”
ฉูเจ๋อหยางตอบลืมคำเดียว ก้มหน้าก้มตา หยิบส้มในมือของหนานฉิงมากิน หนานฉิงอึ้งไป ในใจรู้สึกซาบซึ้ง ขึ้นมาทันที เธอเข้าใจว่าผู้ชายคนนี้ยังชอบเธออยู่ แต่ว่า ปากแข็งไม่ยอมรับเท่านั้นเอง”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ