ทนายคนนี้เป็นแฟนฉัน

ตอนที่ 4 ทำไมถึงยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนะ



ตอนที่ 4 ทำไมถึงยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนะ

คุยกันไปคุยกันมา หัวข้อสนทนาก็กลับมาสู่ฉู่เจ๋อ หยาง “ตอนอยู่มหาวิทยาลัยเขาก็เป็นนักเรียนทุน สาขาวิชากฎหมาย เป็นศิษย์รักศิษย์โปรดของอาจารย์ ด้วย แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่าเขาจะใช้วิชาที่เรียนมาเปิด สำนักงานกฎหมายได้มีชื่อเสียงขนาดนี้”

หนานฉิงยิ้มหน้าบาน ราวกับพูดถึงแฟนของตัวเอง ยังไงยังงั้น รอยยิ้มด้วยความภาคภูมิใจของเธอทำให้เป้ ยฉ่ายเวยรุ้สึกเจ็บปวดใจ เธอก้มหน้าลงซ่อนความผิด หวังและไม่สบายใจเอาไว้

4 ปีแล้ว เธอควรจะพอได้แล้ว ทำไมเธอยังรู้สึกไม่ สบายใจอยู่อีกนะ?

ผู้ชายคนนั้นก็ไม่ใช่ของเธอสักหน่อย เป็นของหนาน

ฉิงต่างหาก

หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ว หนานฉิงบอกว่าอยาก ไปดูที่ทำงานของเป้ยฉ่ายเวยหน่อย เธอกลับมามือ เปล่า เลยอยากจะไปซื้อรองเท้าที่ร้านสัก 2 คู่ เป้ยฉ่า ยเวยยินดีมาก ขับรถพาเธอไปที่ร้าน

“ใช้ได้เลยนะ เป็นร้านแบรนด์ดังซะด้วย” หนานฉิง รู้สึกพอใจอย่างมากกับที่ทำงานของเป้ยฉ่ายเวย เธอ เดินชมไปรอบๆร้าน พลางกล่าวว่า “ที่นี่อยู่ไม่ไกลจาก สำนักงานกฎหมายของอาเจ๋อเท่าไหร่นี่ ก็อยู่ใจกลาง เมืองเหมือนๆกัน!”
“จริงหรือ ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลย” เป้ยฉ่ายเวยยิ้มไป พูดไป พลางดึงหนานฉิงเข้ามาใกล้ “พอดี 2 วันก่อนฉัน เพิ่งเอาแบบใหม่มาลง เธอมาลองสิ ดูสิว่าชอบไหม”

“ได้ๆ ฉันขอลองหน่อย

เป้ยฉ่ายเวยเอารองเท้าแบบใหม่มาให้หนานฉิงลอง พลางแนะนำเธอว่าแบบไหนที่ห้ามโดนน้ำ ทันใดนั้น เสียงพนักงานในร้านเอ่ยต้อนรับลูกค้า ราวกับว่ามี ลูกค้าเข้ามา

“คุณผู้ชายคะ ต้องการให้ดิฉันแนะนำให้หรือจะ เลือกเองดีคะ?”

“ผมเลือกเองดีกว่าครับ” น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำลอด เข้ามาในหู เป้ยฉ่ายเวยยืนตัวแข็งทื่อ เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็ เห็นหนานฉิงลุกขึ้นจากที่นั่งวิ่งเท้าเปล่าไปทางชั้นวาง สินค้าด้านโน้น หัวใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะปนเศร้า

คนรักในอดีตได้กลับมาเจอกันอีกครั้ง คงจะเป็น เรื่องที่ดีไม่น้อย?

“อาเจ๋อ……” หนานฉิงอดใจไว้ไม่อยู่ เดินเข้าไป ทักทายเขา เห็นสายตาของเขาที่เจอตัวเองแล้ว รู้สึก ตะลึงนิดหน่อย จึงเอ่ยทักไปว่า “ไม่ได้เจอกันตั้งนาน เลยนะคะ”

แต่ว่าแค่เพียงเสี้ยววินาที สายตาของเขาก็กลับสู่ สภาพปกติ พยักหน้าให้หนานฉิงครั้งหนึ่ง ด้วยท่าทีอันเมินเฉยของเขาทำให้หนานฉิงรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ ยังถามอีกว่า “อาเจ๋อ คุณมาทำอะไรที่นี่คะ?”

“ซื้อของให้เพื่อนนะครับ” ฉู่เจ๋อหยางบอก พลางส่ง สายตาไปทางด้านหลังเห็นเป้ยฉ่ายเวยยืนอยู่ “คุณคง เป็นผู้จัดการของร้านนี้ใช่ไหมครับ ช่วยเลือกรองเท้าให้ ผมสักคู่หนึ่งได้ไหม?”

เป้ยฉ่ายเวยพยักหน้าตอบรับ “ได้คะ งั้นเชิญทางนี้ดี กว่าคะ”

เธอเพิ่งหยิบรองเท้าแบบใหม่คู่หนึ่งออกมา ฉู่เจ๋อ หยางบอกว่าใช้ได้ จึงสั่งให้ห่อกลับบ้าน เป้ยฉ่ายเวย บอกให้พนักงานในร้านออกบิล แล้วส่งถุงใส่รองเท้าให้ ฉู่เจ๋อหยาง

ขณะที่ฉู่เจ๋อหยางรับบิลแล้วกำลังเดินออกไป หนาน ฉิงที่ไม่ได้เจอกันนานอดไม่ได้ตามเขาออกไป ยื่นมือ ออกไปดึงแขนเสื้อของ เจ่อหยางไว้ ใช้น้ำเสียงนุ่มนวล กล่าวว่า “อาเจ๋อ พวกเราไม่ได้เจอกันนานแล้ว เราไปหา ที่นั่งคุยกันดีไหมคะ?”

“เอาไว้คราวหน้านะครับ ผมมีธุระ” ฉู่เจ๋อหยางตอบ เบาๆ พลางเอามือของหนานฉิงออกไปด้วยสีหน้าเรียบ เฉย

จากนั้นจึงเดินถือถุงสินค้าออกไป

หนานฉิงตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงกลับมาซบไหล่เบี้ยฉ่ายเวยร้องไห้ พูดแบบน่าสงสารว่า “เวยเวย เธอคิด ว่าเขาไม่ชอบฉันแล้วใช่ไหม? สายตาของเขามองฉัน เหมือนคนแปลกหน้า ฉันรับไม่ได้จริงๆ!”

“ไม่หรอกน่า เขาชอบเธอจะตาย” เป้ยฉ่ายเวยตบ ไหล่หนานฉิงเบาๆ ปลอบเธอว่า “ถ้าเขาไม่ชอบเธอ หลายปีมานี้ ในกระเป๋าสตาค์เขาทำไมถึงยังมีรูปเธออยู่

“อะไรนะ?” หนานฉิงเงยหน้าขึ้น ในสายตาที่เอ่อไป ด้วยน้ำตาเต็มไปด้วยความสงสัย “เวยเวย เธอรู้ได้ยัง ไง?”

เป้ยฉ่ายเวยหน้าซีด รีบแก้ตัวไปว่า “อ่อ เพื่อนสมัย เรียนของเขาชอบพาภรรยามาซื้อรองเท้าที่ร้านฉันอยู่ บ่อยๆ เขารู้ว่าเมื่อก่อนเธอเคยคบกับฉู่เจ๋อหยาง ตอนที่ คุยกันเขาก็เลยเล่าให้ฉันฟังน่ะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ