ตอนที่ 6 พาฉันไปนะ
ตอนที่ 6 พาฉันไปนะ
5 ปีที่แล้ว คือเขาที่ทำให้คุณพ่อตาย ยึดบริษัทเป็น ของตัวเอง ตอนนี้ปล่อยให้เขาจับตัวเองไปไม่ได้เด็ดขาด ป้าย บิงเวยคิดขณะที่วิ่งอย่างพรวดพราด หลบเข้าไปห้องของตัวเอง ในโรงแรมอย่างรวดเร็ว
หลังปิดประตู ป้ายบึงเวยยังคงหายใจรัวๆไม่หยุด มือเล็ก ตบเบาๆ ตรงหน้าอกของตัวเองตลอด อยากจะกดหัวใจที่ตื่น ตระหนกลง
“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ต้องไม่เป็นไรแน่นอน” ป้ายบังเวย
พูดเองเออเอง ปลอบใจตัวเองอย่างต่อเนื่อง
“คนหละ ทำไมไม่เห็นแล้ว ท่านประธานรับสั่ง ต้องจับผู้ หญิงคนนั้นให้ได้” ได้ยินเสียงดุร้ายของชายนอกประตู ภายใน ใจของป้ายบึงเวยส่งเสียงพึมพำ ทำไมต้องมาเจอผู้ชายที่ สมควรตายคนนั้นในที่นี้ด้วย หลินจื้อซี ออกไปทำธุระ คงไม่ กลับมาเร็วๆแน่นอน
ถ้าพวกเขาจับเธอกลับไปจริงๆควรทำยังไง ป้ายบึงเวยยิ่ง คิดยิ่งนึกกลัวภายหลัง
“เหล่าซาน นายไปตรวจสอบข้อมูลผู้เข้าพักที่เคาน์เตอร์ต้อนรับ เหล่าชื่อ นายกับฉัน ค้นห้องที่นี่ทีละห้อง” ได้ยินอย่าง นี้ ป้ายบิงเวยหน้าซีดทันที
ใจตกไปอยู่ตาตุ่ม หากค้นห้อง พวกเขาก็จะพบตัวเองใน ไม่ช้า ป้ายบึงเวยรีบเดินไปที่หน้าตู้เสื้อผ้า แล้วรีบซ่อนตัวใน เสื้อผ้าอย่างร้อนรน อธิษฐานให้ฟ้าช่วยเธอด้วย อย่าถูกจับได้
ในตู้เสื้อผ้าเพราะอารมณ์ตึงเครียดของป้ายบึงเวยและ พื้นที่แคบ มีเหงื่อบาง ๆ ไหลออกมาจากปีกจมูก ฝ่ามือของป่า ยมิงเวยนั้นหนาวเย็นอย่างน่าประหลาด แต่เหงื่อยังคงไหลไม่
“เปิดประตู เปิดประตู ไม่มีคนฉันจะชนประตูเข้าไปแล้ว นะ” ชายข้างนอกตบประตูห้องของป้ายบึงเวยอย่างรุนแรง ป่า ยบึงเวยในตู้เสื้อผ้าจับชายเสื้อของเธอแน่นจนมีรอยย่นหลาย เส้น “นายคือใครกัน” เสียงผู้ชายที่คุ้นเคยได้ดังขึ้น
เฉียง? เป็นเสียงของเฉียง เป็นเสียงของเฉียงจริงๆด้วย
ป้ายบึงเวยได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของเฉียง เสมือนว่าได้ยิน เสียงดนตรีจากสวรรค์ ยังเป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าเสียงของเฉียง น่าฟังขนาดนี้ “อาต้า ห้ามไร้มารยาท
“ท่านประธานหลิน ลูกน้องไม่มีมารยาท ช่างน่าอายเหลือ เกิน” นอกประตูส่งเสียงของมู่หรงเฉินขึ้น
ท่านประธานหลิน หลินจื่อกลับมาแล้ว? ป้ายบิงเวย คาดเดาไว้ ยิ่งต้องกลั้นหายใจและฟังเสียงที่อยู่นอกประตูมู่หรงเฉิน? ดูแลคนของนายให้ดี” เสียงเยือกเย็นของหลินจือ ส่งมา เสียงที่สงบราบเรียบ แฝงไปด้วยพลังที่แข็งแกร่ง
“อาต้า รีบขอโทษท่านประธานหลิน
ขอโทษครับ ท่านประธานหลิน เป็นเพราะผมทำงานไม่ดี เองครับ”
ไม่ว่าคนของนายกำลังทำอะไร ก็ห้ามรบกวนท่าน ประธานเราพักผ่อนเด็ดขาด เฉียงพูดอย่างไม่เกรงใจ
“ขออภัย ท่านประธานหลิน อาต้า ไปเถอะ” หลังจากได้ ยินมู่ทรงเฉินพาคนออกไป ใจที่สั่นไหวเต้นระรัวของฝ่ายบึงเวย ในที่สุดก็รู้สึกโล่งขึ้นมา เปิดตู้เสื้อผ้าเดินออกมา หลินจือ และ เฉียง ได้เข้าห้องก่อนหน้านี้แล้ว ทั้งสองฝ่ายบึงเวยออกมา จากตู้เสื้อผ้า อย่างสงสัย
“เฉียง นายออกไปก่อน” เฉียงรับค่าหลินจื่อซี หันหลังปิด ประตูแล้วเดินออกไป “ เธอซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าทำไม?” หลิน จื่อ จ้องมองป้ายบึงเวย ด้วยใบหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ
“ฉัน… ฉันกลัว … พวกเขาเคาะประตูเคาะได้รุนแรงขนาด นั้น ฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นใครกันแน่ ในต่างบ้านต่างเมือง ถ้าเป็น พวกนักเลงอันธพาลจะทำยังไงดี ฉันเลยซ่อนในตู้เสื้อผ้าดีกว่า ป้ายบึงเวยอธิบายอย่างตะกุกตะกัก
หลินจื่อซีมองหญิงสาวตรงหน้า ท่าที่เหมือนเสียขวัญอย่าง หนัก เลยไม่ได้คิดมากอะไร เพราะไม่ว่าหญิงสาวคนไหน เจอเหตุการณ์นี้ในต่างแดน ก็ต้องหวาดกลัวเหมือนกัน
ไม่ต้องกลัว มีฉันอยู่” หลินจือ ปลดกระดุมเสื้อสูท
แขวนไว้ในห้องแต่งตัวอย่างสุขุม ถ้าเธออยู่ในห้องแล้วรู้สึก เบื่อ เวลาออกไปก็เรียกเฉียงไปเป็นเพื่อน รับรองความ ปลอดภัย”
ในความเชื่อของป้ายทิ้งเวยนั้น หลินจือเป็นผู้ชายที่ไม่ หาความแน่นอนอะไรไม่ได้ หน้าบึ้งตลอดเวลา
ตอนนี้ชายคนนี้พูดคำเหล่านี้อย่างอ่อนละมุน ในใจของ ป้ายบิงเวยมีความอบอุ่นซาบซึ้งเล็กน้อย “ขอบคุณค่ะ คุณ หลิน”
ป้ายบึงเวยโค้งคำนับให้หลินจือ อย่างซึ้งใจ
เห็นการกระทำเช่นนี้ของป้ายทิ้งเวย หลินจือรู้สึกตะลึง เล็กน้อย “ ไม่เป็นไร เธอคือภรรยาของฉัน ในความสัมพันธ์ ตามสัญญานั้น ฉันก็ควรที่จะรับรองความปลอดภัยของเธอ
หลินจื่อหยิบเอกสารทางการขึ้นมาในห้อง แล้วดู เอกสารอย่างตั้งใจ ดูเหมือนจะไม่มองข้ามป้ายบึงเวยที่อยู่ใน ห้อง ป้ายบึงเวยได้แค่นั่งเงียบๆบนโซฟา ดูหลินจื้อที่กำลัง ทำงานอย่างจริงจัง เริ่มชื่นชมชายตรงหน้าอย่างไม่รู้ตัว นอกจากพฤติกรรมส่วนตัว ยากที่จะสัมผัสเข้าถึง ลองคิดดูแล้ว เขาก็ยังดีอยู่นะ
ล้วนพูดว่า ผู้ชายที่ตั้งใจทำงานนั้นหล่อที่สุด ณ ตอนนี้ป้ายทิ้งเลยรู้สึกว่า หลินจื่อซีเช่นนี้ หล่อมากจริงๆ เสื้อเชิ้ตขาว โอตกูตูร์ ผมสั้นที่เรียบง่ายและสดชื่น สีหน้าที่จริงจังกับดวงตา ที่ลึกล้ำ ริมฝีปากบาง ลูกกระเดือกอันเซ็กซี่
“คุณหลิน พรุ่งนี้เราไปจากที่นี่ได้ไหมคะ?” ป้ายบังเวย ว่าที่นี่ไม่ควรอยู่นาน มิฉะนั้นทรงเฉินไม่ช้าก็เร็วก็จะตามเธอ เจอแน่ หลินจือ วางเอกสารในมือลง มองป้ายทิ้งเวยด้วย ความสงสัย “ทำไม?”
ฉันก็แค่คิดว่าที่นี่ไม่ปลอดภัย ป้ายบึงเวย ก้มหน้าลง ไม่กล้าดูหลินจือ กลัวว่าหลินจือ จะสังเกตอะไรได้ หลินจือ ขมวดคิ้ว ราวกับว่าครุ่นคิดอะไรอยู่ ตามหา คือเธอ? หรือว่าคนที่คนพวกนั้น
ได้ยินประโยคนี้ ป้ายบึงเวยรีบลุกขึ้นมา ” เป็นไปได้ยังไง กัน ฉันมาที่นี่ครั้งแรก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามู่หรงเฉันคือใคร
หลินจือ วางเอกสารในมือ มองผ่านป่ายบึงเวย ด้วย ความหมายที่ลึกซึ้ง “ เรากลับพรุ่งนี้เลย
ได้ยินหลินจือ พูดแบบนี้ ป้ายบึงเวยดีใจกับข่าวดีที่คาด ไม่ถึง “จริงหรือ? คุณหลิน? เพียงเท่านี้คุณก็รับปากกับฉัน แล้ว?” หลินจือซีลุกขึ้นเดินไปตรงหน้าฝ่ายบึงเวย “ ธุระทางนี้ ของฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว เธอไม่อยากอยู่ต่อก็กลับเถอะ ป้ายบึงเวยไม่สามารถควบคุมความตื่นเต้นดีใจของเธอได้ ผู้ชายคนนี้พูดง่ายขณะนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ช่างเหอะ ออกจากที่นี่ก่อนดีกว่า ถูกทรงเฉินหาพบคงไม่ดีแน่ “ได้ค่ะ คุณหลิน ฉันไปจัดกระเป๋านะ
เห็นร่างป้ายบึงเวยจัดกระเป๋าสัมภาระ ดวงตาที่ลึกล้ำของ หลินจื่อซี ดูเหมือนว่าจะครุ่นคิดอะไรอยู่ เขามั่นใจว่าป้ายบึงเว ยก็คือคนที่ทรงเฉินต้องการตัว เพราะตัวเองไม่ได้บอกกับป๋า ยมิงเวย คนคนนั้นชื่อ ทรงเฉิน ยัยเด็กนี่กลับหลุดปากพูด ออกมาเอง
ตอนแรกที่ได้ช่วยผู้หญิงคนนี้ไว้ในโรงแรม แค่คิดว่าเป็น เพียงเด็กผู้หญิงที่บ้านยากจน ประวัติอื่นเลยไม่ได้ตรวจสอบ อย่างละเอียด
และตัวเองก็ได้ประกาศบอกครอบครัว ได้แต่งงานกับผู้ หญิงคนนี้แล้ว เกิดข้อผิดพลาดอะไรอีกไม่ได้แน่นอน…
ยัยเด็กที่มีความสัมพันธ์บุญคุณความแค้นอะไรกับมู่หรง เฉิน เขาไม่สนใจ เขาแค่ต้องการแน่ใจว่า เรื่องของเขา จะไม่ เสียเพราะคนอื่นก็พอแล้ว ดูเหมือนว่าหลังจากกลับประเทศ ต้องให้เฉียงไปเช็คประวัติที่มาของฝ่ายบึงเวยเสียแล้ว…….
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ