ตอนที่ 6 การขอแต่งงานสายฟ้าแลบ
ทันทีทีอวกานกานออกมาถึงประตูหลักหน้าโรงพยาบาล เธอก็ เห็นป้าสะใภ้ใหญ่และหนุ่มแมงดายืนอยู่ข้างๆ สวนหย่อม
ในมือของหนุ่มแมงดามีดอกกุหลาบอยู่ช่อหนึ่ง เหมือนกับ ดอกกุหลาบเมื่อครู่ของฟังจือหันไม่มีผิดเพี้ยน
จิตใต้สำนึกของอวกานการสั่งให้ร่างกายหันหนีเดินอ้อม ไปอีกทาง แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว
สายตาอันแหลมคมของป้าสะใภ้ใหญ่พบเธอเข้าให้แล้ว
ป้าสะใภ้ใหญ่ตะโกนเรียกเธอจากตรงนั้น “กานกา….กาน
กาน…….
หยางเทียนโย่ว ใส่เกียร์หมาวิ่งมาตรงหน้าอวกานกาน มือ ประคองช่อดอกกุหลาบ คุกเข่าหนึ่งข้าง ยื่นแหวนมาตรงหน้า เธอ “ความตายก็มิอาจแปรเปลี่ยนความรักของสองเรา แล้ว โฉนยังต้องเพรียกหาคืนวันร่วมกันอยู่อีกเล่า[1]
อวกานกานที่จู่ๆ ก็ถูกท่องบทกลอนใส่ รู้สึกหนาวๆ
หวั่นๆ “…”
“ตลอดมาผมคิดว่าความรักควรเป็นดั่งในกวี จนกระทั่ง คุณประสบอุบัติเหตุสลบไป ผ้าคาดเอวมพอดีดังเดิม เพื่อ เจ้าข้ายอมผอมจนเหลือแต่กระดูก มิเคยเสียใจ[2] ผมถึงรู้ว่าผมรักคุณมากแค่ไหน ผมขาดคุณไปไม่ได้ คุณคือชีวิตและ หัวใจของผม มีคุณผมจึงมีลมหายใจ โปรดแต่งงานกับผมนะ ครับ กานกาน ผมจะทำให้คุณเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุดบน โลกใบนี้
อวีกานทานขนลุกไปทั่วทั้งตัว
เสียวสุดๆ ใช้กวีโบราณบวกกับวลีฮิตในอินเทอร์เน็ตขอ
แต่งงาน?
คงเป็นเพราะการปรากฏตัวของ “สามี” ฟังจือหันไป กระตุ้นพวกเขา
คงกลัวว่าเธอจะโดนฟังจือหันหลอก จากนั้นแผนชั่วๆ ของพวกเขาก็จะสูญเปล่า
คนบ้านลุงต้องการจะทำอะไรกันแน่ แล้วเสนอผล ประโยชน์อะไรให้เจ้าแมงดานี่ เขาถึงยอมเต็มใจมาขอคน แปลกหน้าอย่างเธอแต่งงาน
ในที่สุดป้าสะใภ้ใหญ่ก็วิ่งตามมาทัน เสียงหายใจหอบ แฮ่กๆ ที่เต็มไปด้วยความปลื้มปีติยินดี “กานกาน เยี่ยมไปเลย ในที่สุดความรักหนูกับหยางเทียน โย่วก็ผลิดอกออกผล โร แมนติกสุดๆ แต่งเลย…แต่งเลย… ปรบมือไปพลางพร้อมกับ พูดสองพยางค์หลัง
การที่ป้าสะใภ้ใหญ่ตะโกนอยู่อย่างนี้ ทำให้คนที่มามุงดู ทั้งหมดก็พลอยตะโกนตามไปด้วย “แต่งเลย…แต่งเลย…” คู่รักที่รักกันจึงซึ่งกำลังจะเป็นฝั่งเป็นฝาทั้งที ย่อมเป็นเรื่องแสนโร แมนติกจับใจผู้คน
หยางเทียน โย่วได้รับแรงเชียร์จากผู้คน ยิ้มหน้าระรื่นยิ่ง กว่าเดิม เขาใช้แววตาซาบซึ้งใจมองคนที่มามุงรอบๆ จากนั้น ใช้สายตามองอวกานกานอย่างลึกซึ้ง “โปรดแต่งงานกับผมนะ ครับ กานกาน ต่อจากนี้สิบปี ยี่สิบปี ห้าสิบปี แม้กระทั่งชาติ หน้าหรือชาติหน้าๆ ผมก็จะยังรักคุณเหมือนตอนนี้ไม่มี เปลี่ยนแปลง!”
อวกานการฟังเสียงเร่งรัดจากผู้คนรอบๆ รู้สึกเหมือนใน สมองมีอัลปาก้าหนึ่งล้านตัววิ่งผ่านแผ่นเหล็ก
กลุ่มจีนมุงที่ไม่ได้รู้เรื่องราวความเป็นมาเป็นไป จะมา เออออห่อหมกร่วมส่งเสียงเชียร์ทำพระแสงอะไร แต่จะว่าไปป้า สะใภ้ใหญ่นี่ก็หัวหมอไม่เบา กะจะใช้โอกาสนี้ต้อนเป็ดเข้า เล้า[3] ใช้ประโยชน์จากแรงเชียร์จากฝูงชน บังคับให้เธอต้อง ตอบตกลง
อวกานกานยกยิ้มพูดอย่างเย็นชา “นายจบจาก มหาวิทยาลัยซัง [4] หรือจง[5]ล่ะ การแสดงการขอแต่งงาน ของนายนี่มันเข้าถึงอารมณ์ สมจริงสุดๆ ไปเลย” ใบหน้า เหมือนยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม คำพูดทุกคำล้วนเหน็บแหนมเสียดสี
หยางเทียนโยวชาไปทั้งใบหน้า แต่ก็ยังหัวเราะออกมา ใช้น้ำเสียงที่จริงใจใสซื่อกว่าเมื่อครู่พูด “กานกาน ผมรู้ว่าตอน นี้คุณความจำเสื่อม ยังจำผมไม่ได้ ผมเองก็ไม่รู้ว่า การที่ผมมาขอคุณแต่งงานตอนนี้ มันว่าเป็นการแสดงถึงความรักผม คุณหรือเปล่า ชีวิตหาไม่ ได้โปรดแต่งงานกับผม!
นัยน์ตาของอวกานแฝงไปด้วยรอยยิ้ม วาจากลับพ่น ค่าพูดเย็นชาออกมาสองพยางค์ ไม่แต่ง
[1] บทกวีท่อนหนึ่งในยุคซ่งเหนือ หมายถึง ความรักที่ทั้ง จำเป็นต้องด้วยกัน ทุกวัน ขอเพียงแค่รักกันก็เพียงพอแล้ว
ท่อนบรรยายคิดถึงคนรัก คิดถึงคนร่างกายผ่ายผอม แต่เพื่อ คิดถึงเธอฉันก็ยอมผอมจนร่างเหลือแต่กระดูก
[3] ต้อนเปิดเล้า บังคับให้ในไม่อยากทำหรือ ไม่ถนัด
[4] มหาวิทยาลัยซัง (Shanghai Theatre Academy) มหาวิทยาลัยแนวหน้าของจีนที่ชื่อเสียงด้านเอกการละคร
[5] มหาวิทยาลัยจง (The Central Academy of Drama) เป็นมหาวิทยาลัยแนวหน้าของชื่อเสียงด้านละคร
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ