ตอนที่ 9 ค่าเลี้ยงดูที่ถูกปฏิเสธ
ซึ่งเหอหายไปแล้วยังไง ทำไมเขาต้องรับผิดชอบตามหา
เทียนซินพูดขึ้นด้วยเสียงที่สดใส “ได้ยินแบบนี้ค่อยสบายใจ หน่อย นี่ก็ดึกแล้วนะไป คุณรีบเข้านอนเถอะ
“โอเค”
“ราตรีสวัสดิ์ เทียนซินบอกลาอย่างอบอุ่น
มู่ไปเก็บโทรศัพท์มือถือลงไป หยุดรถไว้ข้างทาง แล้ว หยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ
ระหว่างที่รถหลายคันวิ่งผ่านเขาไป เขาก็หัวเราะให้กับตัว
เอง
เธอด้วย
เธอเป็นผู้ใหญ่แล้วนะ ทำไมจะกลับบ้านเองไม่ได้
ไปเลี้ยวรถกลับบ้าน แต่เพื่อความปลอดภัยเขาเลยสั่ง
ให้คนไปสืบเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของซิงเหอ อย่างน้อย วิธีนี้ก็จะทำให้เขารู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ อีกทั้งได้รู้สักทีว่าไม่กี่ปีที่ ผ่านมานี้ เกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่
เขาอยากรู้ว่าผู้หญิงที่ได้รับเงินค่าเลี้ยงดูเป็นจํานวนมาก มาจบลงในสภาพแบบนี้ได้ยังไง
เช้าวันรุ่งขึ้น ไปก็ได้รับข้อมูลของชิงเหอในช่วงสามปีที่
ผ่านมา
หลังจากหย่ากัน คุณอาก็รับเธอเข้าไปอยู่ด้วย
จากความสัมพันธ์ของครอบครัว เขารู้ว่าคุณอาของเธอมี ลูกชายหนึ่งคน พวกเขาทั้งสามคอยช่วยเหลือกันและกัน แต่ ชีวิตของพวกเขาก็เริ่มตกต่ำลงเมื่อเฉิงถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรค
เพื่อหารายได้ ซึ่งเหอต้องทำงานจิปาถะหลายอย่าง
เป็นทั้งแม่บ้านทำความสะอาด คนล้างจาน พนักงาน เสิร์ฟ… เธอหมดเวลาไปกับการทำงานใช้แรงงานทุกประเภท
อย่างไรก็ตามเธอโดนกลั่นแกล้งและถูกปลีกตัวออกห่าง จากทุกที่ที่เธอไปทำงาน สาเหตุมาจากการที่เธอเป็นคนเงียบๆ และไม่เต็มใจที่จะคบหาสมาคมกับผู้อื่น นี่หมายความว่าไม่มี งานไหนเลยที่เธอทำได้เป็นหนึ่งเดือน
สามปีของการที่ต้องเปลี่ยนงานอันโหดร้ายจากที่หนึ่งไป อีกที่หนึ่งอยู่เสมอทำให้เธอเจ็บปวดทรมาน
มู่ไปก็ยังแปลกใจอยู่ดีเมื่อเขานึกย้อนกลับไปถึงการพบ กันเมื่อวาน มันดูเหมือนกับว่าเธอแก่ลงไปมากหลังจากที่พวก เขาหย่ากัน
เขาแทบจะจําเธอไม่ได้แล้ว
ถ้าไม่ใช่เพราะการเผชิญหน้ากันเมื่อวาน เขาคงไม่มีทางรู้ เลยว่าเธอต้องอดทนกับความเจ็บปวดและความโหดร้ายมาก แค่ไหน…
อย่างไรก็ตามยังมีสิ่งหนึ่งที่คาใจเขาอยู่ ทำไมเธอถึงไม่
ใช้เงินค่าเลี้ยงดูที่ได้ไป
เขารู้ว่าซิงเหอไม่ใช่คนใช้เงินฟุ่มเฟือย หรือถึงแม้ว่าเธอ จะใช้ มันก็เป็นไปไม่ได้เลยที่เธอจะผลาญเงินจำนวนนั้นหมด ภายในระยะเวลาสั้นๆ
ม่ไปเอนหลังพิงกับเก้าอี้ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ดูเหมือน จะมีบางอย่างที่เขาไม่รู้ซ่อนอยู่อีก
ตอนที่ไปก้าวเข้ามาในห้องอาหาร ทุกคนในครอบครัว
ของเขาก็นั่งทานอาหารเช้าอยู่ก่อนแล้ว สีหลินตื่นนอนเป็นคนแรกเนื่องจากเมื่อวานเขาเข้านอน
เร็ว ตอนที่ไปนั่งลงเขาก็กินข้าวเสร็จแล้ว “ฝากพาหลินหลิน ไปโรงเรียนหน่อย” มู่ไปสั่งสาวใช้คนหนึ่งในบ้าน
“ค่ะท่าน” สาวใช้ปฏิบัติตามคำสั่ง เธอจูงมือสีหลินและพา เขาออกจากห้องอาหาร
คุณนายสีตักข้าวบาร์เลย์ต้มเข้าปากคำนึงด้วยช้อนลาย ครามก่อนถามว่า “ทำไมเมื่อวานลูกถึงรีบกลับกะทันหันล่ะ ลูก คือเหตุผลที่พวกเราไปรวมตัวกันที่นั่นนะรู้ไหม มันดูไม่เหมาะสมแค่ไหนที่ลูกทิ้งพ่อกับแม่ไว้อย่างนั้น “ผมก็โทรไปบอกว่าสีหลินไม่ค่อยสบายแล้วไม่ใช่หรือ
ครับ อีกอย่างคือแม่…” ไปมองไปที่แม่ของเขา คำถามที่
เหลือติดอยู่ในสําคอ
คุณนายสีถามเขากลับด้วยรอยยิ้ม “มีอะไรจะ
ม่ไปเลยพูดต่อ “ซิงเหอได้รับค่าเลี้ยงดูหลังจากเราหย่ากัน
ไหมครับ”
ซ้อนของคุณนายสีค้างอยู่กลางอากาศ แล้วหน้าของเธอก็
ดูแย่ลง…
ดูจากปฏิกิริยาตอบสนองของเธอ ไปก็รู้ได้ทันทีว่าคำ
ตอบคือไม่
“ทำไมแม่ไม่บอกผมว่าแม่ไม่ได้ให้ค่าเลี้ยงดูกับเธอ” เขา คิดว่าเงินก้อนนั้นจะช่วยให้ชิงเหออยู่อย่างสุขสบาย นั่นเป็น เหตุผลที่เขาเคยไม่คิดจะตรวจสอบชีวิตของเธอเลย
ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาพบกันโดยบังเอิญเมื่อวาน เขาก็ คงไม่มีวันรู้
พอสีหน้าของคุณนายนิ่งอึ้งไป เธอก็ยักไหล่ “ไม่ใช่ว่าแม่ ไม่ให้ค่าเลี้ยงดูกับเธอ เป็นเธอต่างหากที่ไม่อยากได้มัน
“แต่ยังไงแม่ก็ควรจะบอกผม
“ทำไมแม่ต้องบอกด้วย เธอไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลสีของเราอีกแล้ว ตัดความสัมพันธ์ให้เด็ดขาดย่อมดีกว่า ถ้า เธอไม่อยากได้ความช่วยเหลือจากเรา แม่ว่าก็ถือว่าเป็นเรื่อง น่ายินดีที่หลุดพ้นจากกัน
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ