ตอนที่ 8 ตัวตนที่กลับคืนมา
หลังเหลือบมองไปที่เซี่ยจื้ออย่างรวดเร็ว เธอก็พยักหน้า
เขายิ้มแล้วพูดว่า “เยี่ยมไปเลย! ดีจริงๆ ที่ความทรงจำ ของพี่กลับมาแล้ว! ลืมเรื่องที่ผ่านๆ มาแล้วมาเริ่มต้นใหม่กัน เถอะ หลังเรียนจบปีนี้ผมสัญญาว่าจะตั้งใจทำงานอย่างหนัก เพื่อช่วยเหลือครอบครัวของเรา ร่างกายของพี่ยังอ่อนแออยู่ ดังนั้นควรอยู่บ้านและพักผ่อนให้มากๆ ปล่อยให้ทุกอย่างเป็น หน้าที่ของผมเอง ผมจะหาเงินเข้าบ้านเยอะๆ มาให้พวกเรา สามคนใช้!”
ซิงเหอตอบรับด้วยรอยยิ้ม “พี่เชื่อนาย แต่ช่วยหยุดกังวล ได้แล้ว พี่รับรองว่าพี่สบายดี
ซึ่งเหอรับรู้ได้ถึงความห่วงใยที่แฝงอยู่ในถ้อยคำของน้อง
ชาย
“พี่ก็เป็นคนนะ ในเมื่อชีวิตพลิกผันขนาดนี้ แล้วพี่จะยัง สบายดีอยู่ได้ยังไง พี่เป็นถึงดาวเด่นของมหาลัย 5 มีอนาคตที่ สดใสรออยู่ ถ้าไม่ใช่เพราะอุบัติเหตุบ้าๆ นั่น
สิ่งที่ชิงเหอได้พบเจอ ถ้าเกิดขึ้นกับคนอื่นมันคงเป็นอะไรที่ ทำให้สิ้นหวังมากๆ
เป็นใครก็คงท้อแท้ถ้าอนาคตที่สดใสถูกพรากไป
แต่ว่าซิงเหอนั้นไม่เหมือนคนทั่วๆ ไป
เธอเชื่อว่าความสามารถของตัวเองไม่ได้ขึ้นอยู่กับใบ ประกาศนียบัตรจากมหาวิทยาลัย S
เธอเชื่อว่าตัวเองสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้หลังจากการ
หย่าและสามารถรอดพ้นจากความยากจนได้
เธอจะไม่เกรงกลัวต่อสิ่งที่เคยตรึงเธอไว้กับความตกต่ำอีก
ต่อไป
เธอจะเอาชีวิตของเธอกลับคืนมา และครั้งนี้จะไม่มีใคร หรืออะไรมาขวางเธอได้อีก
“พี่สบายดีจริงๆ นายไม่เชื่อในตัวพี่เหรอ เออนี่ แล้วนาย อยากทำงานแบบไหนล่ะ” ซึ่งเหอถามเพื่อเปลี่ยนเรื่อง
“ผมเรียนคณะวิทยาการคอมพิวเตอร์ก็เลยวางแผนจะ เข้าไปทำงานกับบริษัทอินเทอร์เน็ต แต่พี่ไม่ต้องห่วงนะ ผมจะ ไม่เข้าสีเอ็มไพร์แน่นอน” เซี่ยจื้อพูดด้วยความตื่นเต้นนิดๆ
สีเอ็มไพร์เปรียบเสมือนประเทศของพวกเขา เป็นบริษัท
อินเทอร์เน็ตที่โด่งดังที่สุดในจีนในยุคที่ธุรกิจออนไลน์กำลัง เป็นที่น่าสนใจ
ธุรกิจของสีเอ็มไพร์เคยจำกัดอยู่แค่โรงแรมกับ
อสังหาริมทรัพย์ แต่เพราะไปเล็งเห็นว่าธุรกิจออนไลน์จะทำ กำไรได้ดีในภายภาคหน้า จึงได้ขยายบริษัทไปทางนั้น
ภายใต้การนำที่สมบูรณ์แบบของเขา วันนี้สีเอ็มไพร์กลายมาเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในจีน และไปเองก็ติดอยู่ในสิบ อันดับมหาเศรษฐีโลกซึ่งจัดโดยนิตยสารฟอร์บสมาหลายปี แล้ว
ซึ่งเหอพูดอย่างอ่อนโยน “สีเอ็มไพร์มีเทคโนโลยีที่ดีที่สุด มีการบริหารที่ดีและยังให้ผลตอบแทนที่น่าดึงดูด มันเป็นสถาน ที่ที่เหมาะสำหรับโปรแกรมเมอร์ไฟแรงแบบนาย นายควรจะ ไป”
เซี่ยจื้อตอบอย่างหนักแน่น “ข้ามศพผมไปก่อนเถอะ พวก เขาปฏิบัติกับพี่แย่ขนาดนั้น เป็นไปไม่ได้หรอกที่ผมจะทำงาน ให้
“ก็ได้ พี่ไม่บังคับหรอกถ้านายไม่อยากไป ในอนาคตเรา จะมีบริษัทอินเทอร์เน็ตเป็นของตัวเองบ้าง
“นั่นเป็นแผนที่ผมอยากทำมาโดยตลอด เชื่อผมนะ ผม ต้องทำให้พี่ภูมิใจแน่นอน!” เซี่ยจื้อพูดด้วยความกระตือรือร้น เป็นอย่างมาก ด้วยความสามารถของเซี่ยจื้อ ซึ่งเหอเชื่อว่า ลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำได้อย่างที่พูด
ไม่ใช่ว่าเขาต้องการมัน แต่ถ้าเกิดสถานการณ์เลวร้ายขึ้น มา เขาก็ยังมีเธอ ให้พึ่งพิง
ขณะที่ชิงเหอกำลังคุยเล่นกับเซี่ยจื้อจนดึก ไปก็กำลัง
ตามหาเธออยู่
เขาตามหาเธอมาเป็นเวลาสองชั่วโมงแล้วแต่ก็ไม่เจอ
เขาค่อยตระหนักได้ว่าเขาทำตัวน่าขำแค่ไหนตอนที่เทียน ชิน โทรมา
“ไป คุณนอนหรือยัง” มันเป็นกิจวัตรของเทียนซินที่จะ โทรหาเขาทุกคืน
พูดตามตรง ไปไม่มีหัวข้อที่สามารถคุยร่วมกับเธอได้ มากนัก และเขาก็ไม่สนใจที่จะฟังเธอเล่าเรื่องที่เธอทำในแต่ละ วัน ดังนั้นการโทรมาของเทียนซินจึงไม่ค่อยอยู่นอกเหนือไป จากการสวัสดีและราตรีสวัสดิ์อย่างพอเป็นพิธีเท่านั้น
“ผมยังไม่นอน คุณมีเรื่องอะไรอยากคุยไหม” ไปถาม
แบบขอไปที
“หลินหลินเป็นยังไงบ้าง เขาดูอาการไม่ค่อยดีตอนกิน อาหารเย็น” เทียนซินถามอย่างระมัดระวัง เธอรู้ว่าสีหลินไม่ ชอบเธอ แต่เพื่อที่จะรักษาภาพลักษณ์ไว้ เธอเลยแกล้งทำ เหมือนว่าไม่เห็น
“เขาสบายดี ตอนนี้กำลังนอนหลับอยู่
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ