ตอนที่ 2 จรีภรณ์ สบายดีหรือเปล่า
ตอนที่ 2 จริภรณ์ สบายดีหรือเปล่า
ผ่านไปสามปี
เมืองซู
สำนักงานที่ตกแต่งประดับด้วยความหรูหรา ในมือของ ผู้ชายคนหนึ่งถือใบแผนการณ์อยู่
ในขณะเดียวกัน หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่อยู่ตรงหน้าเขา กำลังโฆษณาแนะนำรายการอยู่
ปลายนิ้วของผู้ชายที่สูงยาวเข่าดีคนนั้นกำลังเคาะที่หน้า จอ คิ้วหนาๆของเขาก็ค่อยๆต่ำลง ดวงตาดำทั้งสองข้างก็ต้อง ไปที่หน้าจอ ราวกับว่าจะไม่ให้พลาดสักรายละเอียด
ช่วงนี้ เขาได้ยินมาว่าที่ดินทางทิศตะวันออกกำลังเปิด
ประมูล
เขาคำนวณคิดอยู่ในใจ ถ้าสามารถประมูลที่ดินตรงนี้ได้ อย่างราบรื่น ตำแหน่งของเขาก็จะไม่มีใครในเมืองซูตีเสมอขึ้น มาได้
ทันใดนั้นเอง บนหน้าจอก็ปรากฏเงาที่คุ้นเคย เส้น ประสาทในสมองเขาเหมือนกับไฟฟ้า เขาลุกขึ้นจากที่นั่งทันทีทันใด
ซึ่งทำให้เลขาจ้าวโจวที่อยู่ด้านข้างต้องตกใจไปด้วย เขา รีบวิ่งไปด้านหน้าแล้วถามว่า ท่านประธานจิรภาส “ท่านมีอะไร จะสั่งครับ”
จิรภาสตกตะลึงและดวงตาอันร้อนแรงก็จ้องไปที่ผู้ชายร่าง
ผอมคนนั้น
ความรู้สึกนึกคิดของเขาได้หวนกลับมาเมื่อตอนสามปี
ก่อน
สามปีก่อนหน้านี้ บริษัทของเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับ เหตุการณ์ยาเสพติดเนื่องจากการก่อกวนและมีผู้คนเป็นจำนวน มากที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ความไม่รอบคอบที่เล็กน้อยก็ สามารถนำมาสู่หายนะก็เป็นได้
เขาจะต้องสู้อย่างสุดกำลังเพื่อความอยู่รอด
เขาคิดว่าเพียงแค่ไล่เธอออกไป เธอก็จะอยู่อย่างสงบไม่มี อะไรต้องเป็นกังวล
เพียงแค่เธอออกไป เขาก็สามารถทำสิ่งที่เหลืออยู่ได้โดย ไม่ต้องลังเล แม้ว่าบริษัทจะประสบกับภาวะล่มสลายแต่เขาเอง ก็เต็มใจที่จะยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยตัวของเขาเอง
แต่ก็โชคดีที่บริษัทค่อยๆฟื้นตัวกลับมา
เขาเพิ่งจะฟื้นตัวและแทบจะอดใจรอไม่ได้ที่จะรับรู้เรื่อง
ราวของเธอ
แต่สามปีแล้วสินะ สามปีละ
สามปีที่ผ่านมานี้ เขาคิดถึงเธออยู่ตลอดเวลา เขาตามหา เธอทุกที่บนโลกใบนี้และส่งผู้คนนับไม่ถ้วนไปติดตามเรื่องราว ข่าวสารของเธอ แต่ตั้งแต่คืนนั้นเป็นต้นมา เธอหายไปเฉกเช่น กับบุคคลสูญหาย
ในช่วงสามปีที่ผ่านมา เขาทำธุรกิจในทุกๆที่ที่เขาไป
ในช่วงสามปีที่ผ่านมานั้น บริษัทอยู่ภายใต้การนำของเขา มันได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว จากบริษัทขนาดเล็กที่ไม่ค่อยมี คนรู้จักได้กลายมาเป็นบริษัทด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีชื่อเสียง ไปทั่วโลก
หลังจากนั้น ก็เป็นการรับซื้อกิจการ พูดโดยรวมแล้ว ช่วงไม่กี่ปีมานี้กิจการของเขาพอที่จะพูดได้ว่านับวันยิ่งโตเต็มที่ แต่มันเกิดขึ้นได้อย่างไร สามปีที่ผ่านมา เขาลืมเธอไม่ลง
เขาลืมรอยยิ้มของเธอคนนั้นไม่ได้ และไม่สามารถ ลืมแววตาที่ไร้เยื่อใยในคืนที่เธอออกไปได้ ทุกๆคนที่คิดถึง
เขาก็จะรู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างมาก
เขาทราบดีว่าเธอต้องเกลียดเขาเข้ากระดูกแน่ๆ
ปัจจุบันนี้ เขากลับไปเมืองที่เขาคุ้นเคยเป็นอย่างดีอีกครั้ง ที่นี่ยังคงมีกลิ่นอายของเธอ นั่นคือคนที่เขารักอย่างสุดหัวใจ
จิรภาสไม่มีคำพูดใดๆ ดวงตาสีดำทั้งคู่มีแต่ความ
ระทมทุกข์ใจ ได้แต่พูดพึมพำว่า “จริภรณ์ คุณตะเป็นอย่างไร บ้างนะ”
ผมจะไม่ปล่อยให้คุณไปจากผมอีกแน่นอน แน่นอน
“ฮัดเช้ย!” ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเข้าสู่ฤดูร้อนแล้ว แต่ บรรยากาศในตอนเช้ายังคงมีความเย็นสบายอยู่บ้าง จริภรณ์ อดไม่ได้ที่จะจาม ในขณะที่เธอกำลังรีบเดินไปที่สถานีรถไฟ ใต้ดินเพื่อไปทํางาน
ในตอนนั้นเองเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น พอรับ โทรศัพท์เธอก็ได้ยินเสียงตะโกนร้องเรียกของเจ้านายที่ชื่อว่า ชนุตต์ “ฮัลโหล นี่เธอ ซื้ออาหารเช้ามาให้ผมด้วย ผมอยาก ทานซุปร้านฤดี เธอมีเวลาแค่ 30 นาทีที่จะซื้อมา ถ้าหลังจาก นั้นก็ไม่ต้องมาแล้ว
พูดจบก็วางสายไป จะไม่ให้โอกาสอีกฝ่ายได้ปฏิเสธอะไร เลยสักนิด ทำให้จรีภรณ์มีอารมณ์ของความอยากด่ากราดขึ้น มาทันที
ร้านฤดีตั้งอยู่ที่ถนนสว่าง อยู่ห่างจากบริษัท ขับรถ ประมาณหนึ่งชั่วโมง โดยเฉพาะตอนนี้ตอนที่เป็นช่วงเวลาเร่ง ด่วน เวลาครึ่งชั่วโมงจะถึงไหม ก็คงไม่ต้องพูดถึง
เห็นได้ชัดว่า
ลําบาก
นายชนุตต์คนนี้เป็นคนที่ชอบทำให้คนอื่น
ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ เธอได้มาสัมภาษณ์งานเป็นผู้ช่วยที่ บริษัทนี้ ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆเธอถึงถูกใจอีตาชนุตต์คนนี้ได้
ด้วยเหตุนี้เองเธอจึงโชคดีมากๆ ที่ประธานกรรมการเลือก เธอเขามาเป็นผู้ช่วยนายชนุตต์
แต่ดันกลับกลายเป็นว่าคุณชายใหญ่ผู้นี้คือทายาทรุ่นที่ สองผู้เกียจคร้านซึ่งทุกๆวันถ้าไม่ก่อความวุ่นวายหรือทำให้คน อื่นเดือดร้อนก็จะอยู่กับพวกผู้หญิงตลอดเวลา
หรือเพียงแค่ทำเอกสารที่จัดการเสร็จแล้วอย่างลวกๆแล้ว ก็แกล้งให้จริภรณ์ทำใหม่อีกชุดตลอดทั้งคืน
ซึ่งเป็นแบบนี้นับครั้งไม่ถ้วน
เนื่องมาจากแรกเริ่มเดิมที่ที่จริงแล้ว นายชนุตต์เพิ่งมาที่ บริษัท อยากจะฉวยตำแหน่งในบริษัทของเขา พูดคุยเรื่อง ราวต่างๆ ในชีวิตรวมไปถึงเรื่องสเปคที่ชอบกับพนักงานผู้หญิง สวยๆ
แต่คิดไม่ถึงว่าคุณจิรัฏฐ์จะส่งคนที่หน้าเยียชามาเป็นผู้ช่วย
ของเขา
เขาเคยจินตนาการไปถึงว่าผู้ช่วยของตัวเองนั้นจะต้องเป็น ผู้หญิงที่ซาดิสม์ซึ่งจะทำให้มีความตื่นเต้นเร้าใจเวลาอยู่ที่ สํานักงาน
แต่ตั้งแต่ที่เขาเห็นผู้หญิงคนนี้เป็นครั้งแรก เขาก็รู้เลยว่า ชีวิตที่แสนสบายของเขาได้สิ้นสุดลงแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกครั้งที่เขาเห็นผู้หญิงคนนี้นิ่งสงบ ตลอดเวลา เขาเองก็เป็นบ้าอยู่ระดับนึง ที่ในหลายๆครั้งเขา ก็อยากจะไล่ผู้หญิงคนนี้ออกบริษัท แต่ทุกครั้งพอนึกถึงสิ่งนี้ก็ จะนึกถึงของตนที่อุตส่าห์ส่งคนมาช่วย เขาคงโกรธจนขบฟัน ของเขาจนแน่นแน่ๆ
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เขามุ่งเป้าคอยเล่นงานเธอ
หลายปีมานี้ จรีภรณ์จะต้องเผชิญหน้าแต่กับการก ลั่นแกล้งของชนุตต์ แต่ก็รับมือได้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีบาง อย่างซ่อนอยู่ อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่เคยไปฟ้องท่านชายใหญ่ เลย ประเด็นนี้จึงทำให้นายชนุตต์ได้ปลอดใจอย่างมาก
จริงๆแล้วเขาก็รู้ว่าครั้งนี้เขาจะถูกย้ายกลับไปที่เมืองซู ความจริงแล้วมันเป็นการทดสอบว่าเขาเหมาะกับการที่จะ สืบทอดบริษัทเอส.แอลกรุ๊ปจำกัดหรือไม่ ดังนั้นจึงทำให้ต้อง พาจรีภรณ์ไปกับเขาด้วยเพื่อจะได้กำหนดเขา
การต้องเผชิญกับคำถามของตัวเองทำให้ชนุตต์โกรธ โดยเฉพาะที่ปู่ของเขาส่งจริภรณ์ผู้หญิงที่หน้านิ่งแบบ มาก นั้นไปด้วย บางเวลาเขาก็โมโหใส่จริภรณ์ไม่มากก็น้อย
บางครั้ง เขาก็รู้สึกว่าตัวเองทำเกินไป แต่ถึงอย่างไรเขาก็ เกลียดเธออย่างมาก
ชนุตต์เห็นเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว เขานั่งไขว่ห้าง พร้อมกับคิดในใจว่าจะหาเรื่องอะไรให้เธอดีเพราะอยู่ว่างๆ รู้สึกน่าเบื่อ
ขณะที่กำลังคิดนั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
จรีภรณ์ถือข้าวเช้าที่ซื้อเสร็จแล้วเดินเข้ามา บนศีรษะของ เธอก็มีเหงื่อออกเล็กน้อย ดูเหมือนว่าเธอเพิ่งจะวิ่งมาที่นี่เท่าที่ เธอจะทําได้
เขาเงยหน้าและเพ่งมองไปที่จริภรณ์ เธอสวมชุดสูท ทำงานตัวใหญ่ดูแข็งที่อไม่เหมาะและไม่พอดีกับตัวตลอด ผมก็ถูกมัดรวบง่ายๆ ไม่มีเครื่องประดับอะไรเลย บนใบหน้าก็ ไม่มีการแต่งหน้าใดๆทั้งสิ้น สิ่งเหล่านี้ขัดกับรสนิยมของเขา โดยสิ้นเชิง เขามองเธอด้วยสายตาอันเบื่อหน่าย
“คุณชายชนุตต์คะ ซื้ออาหารเช้ามาให้แล้วค่ะ” จริภรณ์ ค่อยยกอาหารเช้าวางไว้บนโต๊ะสำนักงาน
กล่องสีฟ้าที่ถูกรองไว้ด้วยมือของจริภรณ์เหมือนกับ กล้วยไม้ขาวที่ลอยอยู่ในทะเลสาบ
นิ้วที่เรียวยาวสวยงามขาวละเอียดราวกับหัวหอมสีขาว อาจจะกล่าวได้ว่านี่คือนิ้วของเธอ ชนุตต์มองที่มือของจริภรณ์ อย่างอึ้งทิ้ง เขารู้สึกว่านี่คือครั้งแรกที่เขาได้เห็นมือที่ สวยงามขนาดนี้ ถึงแม้ว่าจะเทียบกับมาส์กมือก็เทียบไม่ได้เลย
สักนิด
เขาก็เลยยื่นมือของเขาออกไปลูบด้วยความตั้งใจ
“คุณทําอะไรคะ”
จริภรณ์สะบัดมือออกด้วยความตกใจจนไปชนชาที่อยู่ ข้างๆพลิกคว่ำลงและหกใส่กางเกงของชนุตต์ ชนุตต์สะบัด ออกและก็มีความรู้สึกแสบร้อนขึ้นมา
“นี่เธอ! ผู้หญิงที่ควรตาย” ชนุตต์อดไม่ได้ที่จะก่นด่าคำ สาปแช่งด้วยน้ำเสียงที่โกรธและเจ็บปวด ตัวเขาล้มลงกับพื้น ทันทีพร้อมกับจับส่วนที่รู้สึกปวดแสบปวดร้อน
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ