ตอนที่ 1 ออกจากบ้านไปตัวเปล่า
ตอนที่ 1 ออกจากบ้านไปตัวเปล่า
เมืองซู
ในคฤหาสน์ทางชานเมืองตะวันออก
ในห้อง รูหราแห่งนี้ ชายหญิงกำลังร่วมรักกันราวกับ หนังใหญ่ละคร AV
ประจวบเหมาะกับการที่จรีภรณ์มาพบเห็นโดยบังเอิญหลัง จากที่กลับจากการตรวจที่โรงพยาบาล เธอยืนอึ้งอยู่หน้าประตู อยู่ไปชั่วขณะ
เธอเห็นคนสองคนกำลังทำเรื่องสกปรกอย่างลอยหน้า
ลอยตา
ความอัปยศอดสูได้โถมเข้ามากับพร้อมความโกรธที่มีอยู่ เต็มอก ทำให้ในใจของเธอเต็มไปด้วยความไม่พอใจและ อยากที่ระบายออกมา เธอหันไปมองถ้วยชาที่วางอยู่บนโต๊ะ และคว้าขึ้นมาสาดใส่ชายหญิงคู่นั้น
ด้วยเสียงกรีดร้อง สองคนที่อยู่บนเตียงก็หยุดทันที
ชญาภาก็ได้รีบเอามือไปคว้าผ้าห่มมาปกปิดเรือนร่างของ ตัวเองด้วยความรู้สึกที่ตื่นตกใจและค่อยๆขยับเข้ามาแนบชิดกับจิรภาสราวกับกวางน้อยที่ตกใจและหวาดกลัวจนทำให้ผู้อด ไม่ได้ที่จะรักและสงสาร
“หน้าไม่อาย นังแพศยา
จรีภรณ์รีบเดินมาที่เตียงและจะตบเข้าไปที่หน้าของชญา แต่มือยังไม่ทันถึงหน้าก็ถูกจับเอาไว้ก่อน
เธอเงยหน้าขึ้นมาด้วยความตกใจและมองที่สายตาอัน เยือกเย็นของจิรภาส ยังไม่ได้ทันทำอะไรก็ถูกตบฉาดลงที่ ใบหน้า
การตบนี้ทำให้ในหัวรู้สึกมึนจนมีเสียง “วิ่งๆ เธอก็มืดลงทันที พร้อมกับพยุงตัวเองให้ไปพิงที่ตู้เสื้อผ้าเพื่อไม่ ให้ตัวเองล้มลง
ตาของ
ความเจ็บปวดบนใบหน้าไม่เท่ากับความเจ็บปวดที่อยู่ใน ใจ เธอเงยหน้าขึ้นมองเห็นสายตาที่เคยหยันของชญาภา
ในใจนั้นชัดเจนมากว่าการตบครั้งนี้เอาชนะเธอได้อย่าง สมบูรณ์แบบ
จรีภรณ์ถือใบตรวจไว้ในมือและหัวเราะกับตัวเอง หัวเราะ ด้วยความโง่ของตัวเธอเอง ทำไมถึงคิดว่าเขาเป็นคนดีที่ได้ วางใจได้ล่ะ
มองดูสามีกับน้องสาวของตัวเองคลอเคลียกันอยู่บนเตียง โดยไม่ละอายแก่ใจ เธอเจ็บปวดใจเข้าไปถึงในกระดูกและเธอ รู้สึกหนาวเหน็บไปหมดทั้งตัว
ความสิ้นหวังถาโถมเข้ามา เธอเงยหน้าขึ้นมองจิรภาส
และพบว่าเขากำลังมองมาด้วยแววตาที่เย็นชา ผู้ชายคนนี้ ช่างเลือดเย็นอะไรเช่นนี้
เธอค่อยๆเดินออกจากห้องและนั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่น อย่างเงียบๆ
คนที่อยู่ในห้องก็ยังคงทำเรื่องอย่างว่าอย่างต่อเนื่องและ สิ่งที่ต่างออกไปคือ เสียงที่ดังกว่าเสียงคลื่นราวกับว่าจงใจจะ กระตุ้นประสาทของจริภรณ์
จริภรณ์อดทนอดกลั้นมาถึงขีดสุด
การกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลก็หายไป
ความพยายามใน
จนกระทั่งตอนเย็น จิรภาสก็ได้เดินออกมาจากด้านใน
และเขาก็มานั่งที่โซฟาตรงข้ามกับจรีภรณ์ ในมือถือใบ หย่าและโยนให้ไปตรงหน้าของจริภรณ์ และพูดขึ้นมาว่าด้วย ริมฝีปากอันเบาบางว่า “เซ็นซะ” ด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็นที่
ไร้อารมณ์และความรู้สึกเหมือนกับว่าเป็นคำสั่ง
“โอเค” สายตาที่อยู่บนหน้าที่ไร้อารมณ์ของจรีภรร์นั้น มองไปที่หนังสือสัญญาหย่า แม้กระทั่งข้อตกลงที่อยู่ด้านล่าง เธอก็ยังไม่อยากจะมองและเธอก็หยิบปากกามาเซ็นชื่อของ ตนเองลงไป
จิรภาสขมวดคิ้วและมองเธออย่างนิ่งเฉย ความนิ่งสงบ ของจริภรณ์ทำให้เขารู้สึกบ้าคลั่ง เขาคิดว่าเธอจะก่อเรื่องวุ่นวาย เขาคิดว่าเธอจะขอร้องไม่หย่ากับเขา เพราะเธอเป็นคน ที่รักเขามากที่สุด
อย่างไรก็ตามตั้งแต่แรกจนถึงตอนนี้แต่เธอเองก็ไม่เคย ถามสักคำว่าทำไม แม้กระทั่งสายตาเธอก็ไม่มองตัวเอง
“ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป ขอให้คุณย้ายออกจากที่นี่ทันที จิรภาสมองไปที่ความมืดด้านนอกและนึกขึ้นได้ตอนที่แต่งงาน กับเธอ เธอก็ไม่มีพ่อไม่มีแม่ เขาเองก็ไม่รู้ว่าหลังจากที่ขับไล่ เธอออกไปเธอจะไปที่ไหน
เขาหวังว่า เขาจะได้เห็นแววตาของเธอที่สับสนและมี ความอาลัยอาวรณ์ต่อเขา แต่จริภรณ์ตอบกลับมาเพียงน้ำ เสียงอันเย็นชาและลุกขึ้นเดินไปที่ชั้นสอง
“ส่วนเรื่องแบ่งทรัพย์สิน คุณก็จะไม่ได้จากผมสักแดง เดียว” จิรภาสพูดด้วยน้ำเสียงโมโหและเสียหน้า เขารู้สึกว่า ในใจของเขามีชิ้นส่วนที่ขาดหายไปเหมือนกับลำไส้ที่บิดพัน
ร่างกายของจรีภรณ์แข็งทื่อและมือที่กำลังผลักประตูก็นิ่ง หยุดลง ดวงตาของเธอก็จ้องไปที่ด้านหน้า แววตาที่บ่งบอกถึง การตัดขาดอย่างชัดเจน “คุณจิรภาส สิ่งที่คุณซื้อให้ฉัน ฉันจะ คืนให้คุณเลยแม้แต่นิดเดียวและจะคืนให้คุณทั้งหมด แต่ถ้า เป็นของฉัน ก็ไม่ต้องคืน คุณช่วยทิ้งมันไปซะ “
พูดจบ เธอดูเหมือนว่าจะคิดอะไรบางอย่างได้
เธอ
หันกลับไปมองจิรภาสและยิ้มที่มุมปาก แสงสลัวสะท้อนบน ใบหน้าของเธอ รอยยิ้มของเธอราวกับดอกกล้วยไม้ที่บ้านในยามค่ำคืน นิ่งสงบและสง่า “ขอบคุณค่ะ
จิรภาสมองจริภรณ์ด้วยความงงงวยจนเธอค่อยๆเดินลับ
หายไปในห้องโถง
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ผู้หญิงคนนี้กับเขาก็ไม่มีความ สัมพันธ์ใดๆต่อกันอีก
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา รอยยิ้มของเธอเป็นของคนอื่น เท่านั้น
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา พวกเขาก็เหมือนเป็นคนแปลกหน้า
ต่อกันและกัน
แต่นี่ ใช่สิ่งที่เขาต้องการ ไม่ใช่หรอ
จิรภาสหรี่ตาลงเล็กน้อยด้วยความรู้สึกของคนแปลกหน้า พอผ่านไปสักพักหนึ่ง เขาก็รู้สึกตัวขึ้นมาทันทีจากรอยยิ้มของ จริภรณ์และได้พูดพึมพำว่า “ ก็ดี
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ