ตอน6พอใจแล้วใช่มั้ย
ตอนที่ 6 พอใจแล้วใช่มั้ย
“เธอกล้ามากที่กล้าทำเรื่องที่น่าละอายแบบนี้ขึ้นมาได้ ฉัน…”
จริงๆแล้วนี่ก็เพื่อให้เธอเก็บข้าวของออกไปจากที่นี่ หรือ จะให้เธออยู่ที่นี่ต่อไป ในใจของเขาก็เกิดความสับสนขึ้นมา
ในขณะที่ยังคงสับสน ฟางน่าก้าวเข้ามาข้างหน้าแล้วพูด ออกมา “ฉันขอช่วยสั่งสอนมันเองค่ะ!” ในขณะที่พูดก็ง้างมือขึ้น มาแล้วฟาดลงไปบนหน้าของเซียหวั่น จนใบหน้าของเซีย หรั่มหันไปตามแรง
“เพี้ยะ!” เสียงดังชัด ฝ่ามือของฟางน่าตบลงบนหน้าเธอ อย่างรุนแรง จนใบหน้าขาวๆของเซียหวั่นปรากฏรอยนิ้วมือ ทั้งห้านิ้วขึ้นมาอย่างชัดเจน
เธอไม่ได้มองไปที่ฟางลีน่า แต่หันไปมองเย่เงินหลิน
โดยตรง
เธอพูดออกมาด้วยสายตาที่สื่อออกมาอย่างชัดเจน “ทีนี้ก็ พอใจคุณแล้วหรือยัง?
คิ้วของเย่เงินหลินขมวดออกมาอย่างไม่รู้ตัว เพียงชั่วพริบ ตาก็กลับมาเป็นดังปกติ ราวกับไม่รู้ไม่เห็นอะไรซะอย่างนั้นแล้วหันกลับไปวิ่งต่อบนลู่วิ่ง
ท่านพ่อบ้านรีบตวาดใส่ฟางลีน่า โดยทันที “หล่อนมีหน้าที่ สั่งสอนคนอื่นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน กลับไปยืนรวมกลุ่ม
ฟางลีน่าได้ลงมือตบหน้าเซียหวั่นด้วยตัวเอง ไม่ต้องพูด เลยว่าได้ระบายอารมณ์ออกไปเท่าไหร่ จ้าวเทียนอัยและซุนเห มิงเหมิงมองไปยังหน้าของเซียซีหวั่นที่ถูกประทับรอยนิ้วมือ ก็ รู้สึกสะใจมาก
ใบหน้าที่รู้สึกแสบร้อนของเซียหวั่น เธอกัดริมฝีปาก และหายใจเข้าลึกๆสองที่แล้วแล้วเดินไปหยิบผ้าขนหนูและ ถาดแล้วเดินตามคนอื่นๆไปยืนเรียงแถวราวกับไม่มีอะไรเกิด ขึ้นมาก่อน
เย่เชินหลินไม่มองก็รู้ว่าเธอจะต้องแสดงออกมาเป็นปกติ ความนิ่งเงียบและการควบคุมตัวเองไว้เหล่านี้จะทำให้คน อยากท้าทายมากขึ้น เขาอดคิดออกมาไม่ได้ ว่าแท้ที่จริงแล้ว อะไรที่ทำให้เธอยอมเป็นหมาก ในเกมส์นี้
เรียกให้ท่านพ่อบ้านจัดคนไปค้นหาโดยเฉพาะ แต่ก็ไม่ได้ ข่าวที่มีประโยชน์มามากนัก เลยยากที่จะคาดเดาแรงจูงใจของ เธอ
ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุเพราะอะไรก็ตาม การดำรงอยู่ของเธอ นั้นได้มีความต้องการที่จะทำลายเขาก็อย่ามาโทษลูกน้องของ เขาที่ไร้หัวใจเลย
เยเงินหลินออกกำลังกายเสร็จแล้ว ยามที่เช็ดเหงื่อก็ยังคง ใช้ผ้าขนหนูของฟางลีน่า การกระทำเล็กๆน้อยๆของเขาก็ ทำให้ท่านพ่อบ้านและสาวใช้คนอื่นๆ ล้วนคิดว่าทุกอย่างที่ คุณชายใหญ่ทำต่อฟางน่าเป็นสิ่งยืนยัน
ผู้หญิงขี้อิจฉาหลายคนก็ดูเหมือนว่าจะเจอที่พึ่งแล้ว ในใจ ก็เริ่มวางแผนว่าจะทำอย่างไรให้เซียหวั่นรีบออกไปจากที่นี่
คอยอยู่รับใช้เย่เงินหลินทานอาหารเช้า เขายังไม่ออก จากบ้านไปก็หันไปบอกท่านพ่อบ้านว่าวันนี้จะมีแขกคนสำคัญ
มา
“พวกเธอเรียกเขาว่าคุณไม่ก็ได้ ให้เกียรติเขาด้วย
“ครับ! ท่านพ่อบ้านเอ่ยรับทราบออกมาอย่างนอบน้อม เย่เงินหลินพูดจบ ก็เข้าห้องทำงานไป
เมื่อช่างตัดเสื้อเอาชุดที่ตัดเสร็จมาส่ง ท่านพ่อบ้านก็ให้ ทุกคนมารวมตัวกัน แล้วแจกจ่ายขุดตามชื่อที่ปักไว้ด้านในเสื้อ คนละสองชุด
“เสื้อผ้าสองชุดนี้ ซักเอาไว้ตัวนึงแล้วเอาไปเปลี่ยนตัวนึง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นก็ตาม พวก เธอจะต้องใส่ชุดเครื่องแบบ ใครที่ไม่อยากใส่ หรือใส่แล้วชุด เกิดสกปรกหรือชำรุดออกมา จะต้องโดนทำโทษ ฉันที่เข้มงวด อาจทำให้พวกเธอต้องลาออกไป ได้ยินแล้วหรือยัง?” ท่านพ่อ บ้านถามเสียงสูง
“เข้าใจแล้วค่ะ!” ทุกคนตอบออกมาพร้อมกัน
“ตอนนี้ก็กลับห้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้า อีกสิบนาทีก็กลับมา
รวมตัว!”
ระหว่างทางเดินกลับห้อง ฟางลีน่า จ้าวเทียนอัยและซุนเห มิ่งเหยิงยืนกลุ่มซุบซิบวางแผนกันอยู่ครู่หนึ่ง
เซียหวั่นเร่งเท้าเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว เธอเปิดประตู เข้าไป ยามที่วางชุดลงบนเตียงนอน เตรียมตัวเปลี่ยนชุด
เธอดึงซิบด้านข้างของกระโปรงลงไปพลาง แล้วเอื้อมมือ ไปหยิบชุดบนเตียงไปพลาง แต่กลับคิดไม่ถึงเลยว่า สิ่งที่เธอ หยิบขึ้นมานั้น เป็นเพียงแค่เศษผ้าไม่กี่ชิ้น
เธอรู้สึกไม่เชื่อตาตัวเอง แล้วหยิบกระโปรงอีกตัวขึ้นมา
แต่ก็ยังเป็นเศษผ้าเหมือนเดิม
เซียหวั่นกำเศษผ้าชิ้นใหญ่เหล่านั้นแน่น อยากจะออกไป โต้กับผู้หญิงพวกนั้นสักรอบจริงๆ แล้วอยากไปฟ้องต่อหน้า เย่เงินหลินสุดๆ
แต่เธอฉลาดกว่าคนเหล่านั้น สิ่งที่คนแซ่เย่ยอมให้ฟาง น่าตบเธอได้ สำหรับเรื่องนี้แล้วก็คงไม่ใส่ใจ
ยังมีท่านพ่อบ้าน ที่เขามักจะทำตามคำสั่งของคนแซ่เย่ แน่ๆ ก็ไม่มีทางที่จะมาช่วยเธอ
สิบนาทีก็มาถึงอย่างรวดเร็ว เธอโยนเศษผ้าเหล่านั้นทิ้ง แล้ววิ่งออกมา โชคดีที่หลิวเสี่ยวเจียวเพิ่งเปลี่ยนชุดออกมาจากห้องพอดี
“เสี่ยวเจียว ยืมชุดอีกชุดของเธอมาให้ฉันใส่ได้หรือ เปล่า?” เธอเดินเข้าไป ถามออกไปอย่างรีบร้อน
หลิวเสี่ยวเจียวงุนงงเล็กน้อย รีบพูดกลับออกไปทันที ได้ เลย แต่ชุดของฉันมันเล็กซะขนาดนั้น เธอคง ใส่ไม่ได้หรอกนะ
ในขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกันจิ๋วจิ๋วก็เดินเข้ามาเช่น เดียวกัน เมื่อเธอเห็นเซียหวั่นยังอยู่ในชุดเดิม ถามออกมา ด้วยความแปลกใจ “ทำไมเธอยังไม่เปลี่ยนชุดอีกล่ะ?”
“ชุดของฉันถูกพวกเขาตัดไปหมดแล้ว ตอนนี้เหลือเป็น เพียงเศษผ้าผืนนึง จิ๋วจิ๋ว เธอเอาชุดอีกตัวมาให้ฉันยืมก่อนได้ มั้ย? คืนนี้ฉันจะซักให้สะอาดแล้วคืนให้กับเธอเอง
“หา ? มันจะเกินไปมั้ย? เธอไปฟ้องท่านพ่อบ้านเลยสิ จิ่วจิ๋วพูดออกอย่างประหลาดใจ
“ไม่มีประโยชน์หรอก” เธอพูดเสียงเบา
“โอเค งั้นเธอก็ใส่ชุดฉันไปก่อน ตามฉันมาเลย
ก่อนที่เซี่ยซีหวั่นจะไปเปลี่ยนชุด ก็พูดกับหลิวเสี่ยวเจียวว่า “เธอรีบไปเถอะ เดี๋ยวท่านพ่อบ้านจะโกรธเอา
“ไม่ หวั่น ฉันกับจิ๋วจิ๋วจะรอเธอ ถ้าพวกเราไปสายกันทั้ง สามคน ท่านพ่อบ้านคงไม่พุ่งเป้ามาที่เธอคนเดียวแน่” หลิว เสี่ยวเจียวพูดด้วยรักในความยุติธรรม
และแล้วก็ยังมีสองคนที่ช่วยเหลือเธอ เซียหวั่นก็คิดว่า หัวใจยังคงไม่ด้านชา
ยามทั้งสามคนวิ่งมาถึงที่ที่รวมตัวกัน สีหน้าของท่านพ่อ บ้านโกรธทะมึนไปทั้งหน้าอย่างที่คิดเอาไว้ไม่มีผิด
ฟางน่าที่มองไปยังเซียหวั่นที่อยู่ในชุดแม่บ้าน ก็ กวาดตามองไปยังจ้าวเทียนอย แล้วคิดในใจว่า ที่จริงก็ตัดไป แล้ว ทำไมมันยังเหลือชุดให้ใส่อีกกัน?
จ้าวเทียนอัยก็รู้สึกแปลกใจเช่นเดียวกัน เป็นเธอที่ลงมือ ตัดมันด้วยตัวเอง ตัดหมดทั้งสองชิ้นแล้วด้วย
เพ่งมองไปดีๆถึงจะพบว่าชุดที่เธอใส่ชุดนั้นดูไม่ค่อยพอดี ตัวเท่าไหร่ ฟางน่ามองออกเช่นเดียวกัน เธอกระแอมออกมา เบาๆ เรียกสติท่านพ่อบ้าน
“นี่ ทำไมชุดของพวกเราทุกคนใส่แล้วมันพอดี แต่ของ เซียหวั่นกลับใหญ่ซะขนาดนั้นล่ะ?”
ท่านพ่อบ้านโกรธจนหน้าเปลี่ยนสี แล้วถามขึ้นมา “เซีย หวั่น เกิดอะไรขึ้นกับกระโปรงของหล่อน?”
เซียชีหวั่นตอบกลับมาเสียงนิ่ง “กระโปรงของหนูทั้งสอง ตัวถูกคนตัดจนขาดไปแล้ว ใส่ไม่ได้แล้ว ส่วนตัวนี้หนูยืมมา ค่ะ”
ท่านพ่อบ้านมองเธอ แล้วกลับไปมองพวกผู้หญิงที่เหลือ แล้วเดินเข้าไปถาม “พวกเธอทั้งหมดใครเป็นคนตัดกระโปรงของหล่อนกัน?”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ