เดิมพันรักจอมมาเฟีย

บทที่ 5



บทที่ 5

ไม่มีสิ่งใดหรือใครเปลี่ยนแปลงเพลย์บอยจอมร้ายกาจเช่นฟ รานเชสโก้ได้ เพราะหลังจากทานมือกับอเล็สซานโดรพร้อม ครอบครัวที่พากันมาเยี่ยมเขากับอัลบาโร ฟรานเซสโก้วิ่งรถ คู่ใจออกมาระเริงราตรีทันที จุดหมายของเขาคือที่เดิม ผับบา ยอง ผับที่เหล่ามาเฟียมักเข้ามาใช้บริการ มาเฟียคนอื่นมีลูกน้อง รอบกาย แต่เขา…ฉายเดี่ยว

ชายหนุ่มรูปงามร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาในผับ โดยมีสายตา ของมาเฟียหลายคนที่เข้ามาใช้บริการ รวมถึงลูกน้องของเขา เหล่านั้นที่พากันมองฟรานเซสโก้เป็นตาเดียว สายตาทั้งหลาย นั้นมีทั้งเป็นมิตรและศัตรู แล้วคนที่เป็นศัตรูคู่อริก็ไม่มีใครอยาก ยุ่งเกี่ยวกับฟรานเซสโก้สักเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะอำนาจของ บิดากับคนเป็นอา มีมากเกินกว่าใครจะกล้ายุ่งเกี่ยว

ฟรานเซสโก้ไม่อยากเป็นมาเฟีย แต่เมื่อบิดาเสียชีวิตและทิ้ง

อาณาเขตที่เขาต้องดูแลเกือบครึ่งของกรุงโรม และเป็นเขตที่

มาเฟียรายอื่นอยากครอบครอง ฟรานเชสโก้จำต้องรับตำแหน่ง

มาเฟียอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วเขาก็ทำหน้าที่ได้ดี เฉียบขาด

ตัดสินใจว่องไว ไม่บ้าอำนาจและมีคุณธรรมไม่ต่างกับตอนที่

บิดายังมีชีวิตอยู่

มาเฟียนิสัยแย่หลายคนที่แสวงหาอำนาจและอาณาเขต หลายครั้งที่เข้ามาทับพื้นที่ และพยายามยึดครองเป็นของตน แต่ก็ถูกฟรานเซสโก้ที่ใครต่อใครหลายชีวิตคิดว่า มือใหม่ได้ ประสบการณ์และอ่อนหัดจัดการวิ่งกลับบ้านแทบไม่ทัน และมี เหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ชื่อเสียงของฟรานเซสโก้โด่งดังคือ เขาใช้ ปากกาประจำตัวจัดการกับลูกน้องของมาเฟียรายหนึ่งที่สอบ ทำร้ายร่วมสิบคน ความโหดอีกหนึ่งเรื่องคือ ตัดหูข้างซ้ายของ คนที่ลอบทำร้ายทุกคนส่งไปเป็นของขวัญให้คนออกคำสั่ง รับ ตั้งแต่นั้นจึงไม่มีคนกล้าแหยมกับเขา

“ว่าไงเซสโก้ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” เซนเธ่ มาเฟียเฒ่าที่ไม่ ยอมปลดระวางอำนาจ แม้ว่าวัยจะย่างเข้าปีที่เจ็ดสิบ เขาเคย บอกใครๆ ว่า จะวางมือต่อเมื่อหมดลมหายใจ ทักชายหนุ่มรุ่น หลานที่กำลังเดินผ่านโต๊ะที่ตัวเองนั่ง “สบายดีนะ

ฟรานเชสโก้ไม่อยากเสวนากับเซนเธ่ แต่เมื่ออีกฝ่ายทัก เขา จึงหยุดและหันมาเผชิญหน้า เขาโค้งตัวเพียงนิดเป็นเชิงให้ เกียรติในฐานะของวงการเลื่อนสายตามองเซเรเก้ หลานสุด ที่รักของเซนเธที่นั่งดื่มอยู่ใกล้ๆ เพียงแวบเดียวก็หันมามองหน้า คนทักตน

“สบายดีครับ แล้วคุณปู่ล่ะครับ สบายดีไหม” เซนเธ่หน้าตึงขึ้น มาเล็กน้อยเมื่อได้ฟรานเซสโก้เรียกตนว่า มันเป็นเรื่องจริงที่ เขาไม่อยากให้ใครเอ่ย นอกจากคนในครอบครัว

“สบายดี” เซนเธ่ตอบเสียงเรียบ ใบหน้าไม่มีรอยยิ้ม

“ผมขอตัวนะครับ” เหมือนฟรานเซสโก้ไม่อยากพูดคุยกับเฒ่า มาเฟีย เขาตัดบทและเดินไปยังโต๊ะที่จองไว้ทันที
“ไปทักมันทำไม ดูมันสิ กวนกลับซะงั้น น่ากระทืบชะมัด”

เซเรเก้พูด มองตามร่างฟรานเซสโก้ที่ตนไม่ชอบหน้า นึก อยากจะเอาเท้าเหยียบร่างอีกฝ่ายๆ ให้จมดิน แล้วจึงเอาลูก ตะกั่วเป่าหัว

“ฉันกลัวว่ามันจะกระทืบแกมากกว่า

เซนเธ่รู้นิสัยหลานชายดี ปากดีไม่มีใครเกิน แต่พอเอาเข้าจริง ก็ต้องพึ่งบรรดาลูกน้องให้ช่วยเหลือ ส่วนตัวเองสั่งการอย่าง เดียว

“โธ่! ปู่ พูดแบบนี้ดูถูกกันชัดๆ

“ฉันไม่ได้ดูถูกแก ฉันดูไม่ผิดต่างหากล่ะ” เซนเธจิบบรั่นดีขึ้น เดิม ดวงตามองฟรานเชสโก้ที่นั่งห่างออกไปไม่กี่โต๊ะ “ตราบใด ที่มันไม่มายุ่งกับเรา เราก็ไม่ควรยุ่งกับมัน แต่ถ้าคิดจะทำให้คน อื่นทําแทน”

“ปู่พูดอย่างนี้หมายความว่าไงครับ” เซเรเก้ให้ความสนใจ ทันที

“มีคนอยากฆ่ามันหลายคน ปล่อยให้คนอื่นจัดการไปสิ ส่วน เราก็รอจังหวะกวาดให้เรียบ

คนสูงวัยอยู่วงการนี้มานาน นานพอจะรู้ว่า ใครเป็นมิตรกับ ใครและใครเป็นศัตรูกับใคร รวมถึงใครที่ไม่สมควรยุ่ง เซนเธ ฉลาดพอที่จะนั่งมองดูคนอื่นฆ่าแกงกัน ส่วนตนก็ฉกฉวยผล ประโยชน์ กวาดให้เรียบ ในที่นี้หมายถึง หากมีใครสักคนทำให้ชื่อของฟราน-เซสโก้ถูกลบออกบัญชีรายชื่อมาเฟียได้ เขาจะยึด พื้นที่ทีฟรานเซส-โก้ดูแล รวมถึงคนที่ทำให้มาเฟียหนุ่มไม่อยู่ใน โลกนี้ แค่เขาอดทนรออย่างใจเย็น เพียงแค่นี้ก็มีอำนาจมากขึ้น

เซเรเก้กระตุกมุมปากยิ้ม วิธีการของเซนเธ่แม้ว่าต้องใช้เวลา รอคอย แต่ก็ยังดีกว่าเสียเลือดเสียเนื้อคนของตน ทว่าการรอ คอยมันทรมานใจไม่น้อย เพราะต้องทนเห็นคนไม่ชอบหน้าเดิน อย่างสง่างาม มันอึดอัดแต่ก็เป็นเรื่องที่ต้องอดทน ทนเพื่อให้ถึง วันนั้น ในหัวของเซเรเก้มีความคิดบางอย่างวาบเข้ามา เขาไม่ ชอบการรอคอยที่ไม่มีกำหนด เห็นทีงานนี้ต้องหาผู้ช่วยเสียแล้ว

ฟรานเซสโก้ทรุดกายลงนั่งบนโซฟาหนังเนื้อดี วันนี้เขามีนัด กับเพื่อนโดโนแวน วัลดัสและแม็กซิมิสกลุ่มเพื่อนสนิทที่ไม่ได้อยู่ ในแวดวงมาเฟีย เป็นเพื่อนที่คบหากันมานานร่วมยี่สิบปี โดโน แวนทำธุรกิจด้านอสิงหาริมทรัพย์ วัสดัสเป็นเจ้าของบริษัทผลิต เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสาร แม็กซิมิสดูแลกิจการ สถานีโทรทัศน์อีเอ็มไอต่อจากบิดาที่อำลาวงการไปพักผ่อนรอบ โลก

เมื่อฟรานเซสโก้มาถึง ทั้งหมดนั่งดื่ม นั่งคุยกันตามประสา เพื่อน โดยมีสาวสวยที่ทางผับมีไว้บริการนักท่องราตรีทั้งหลาย หัวข้อการสนทนาของพวกเขาไม่ได้เป็นความลับ เป็นเรื่อง สัพเพเหระทั่วไป

“วันอาทิตย์นี้พวกนายว่างไหม” แม็กซิมิสถามเพื่อน

“ทำไม แกจะชวนไปไหน” โดโนแวนถาม
“ไปดูมวยกัน มีแมตซ์สำคัญอาทิตย์นี้ น่าสนใจนะ” คนชวน

“น่าสำคัญยังไง” ฟรานเซสโก้เป็นเจ้าของคำถาม

“นักมวยสวย”

“มวยหญิงเหรอ” เสียงของโดโนแวนถามขึ้นมา

“ใช่ มวยหญิง สถานีโทรทัศน์ของฉันถ่ายทอดสด ฉันเลย ชวนพวกนายไปดู เปลี่ยนบรรยากาศจากดูมวยชายไปดูมวย หญิงบ้าง ได้ข่าวว่าคู่นี้สูสีกันเลยนะ เก่งทั้งคู่ สวยทั้งคู่ด้วย” แม็ก ซิมิสเชื้อชวนเพื่อน

“ก็น่าสนนะ เคยดูแต่มวยผู้ชาย เปลี่ยนมาดูมวยหญิงบ้างก็ ดี” โดโนแวน ให้ความสนใจ “ไป ฉันไป”

“นายสองคนล่ะไปไหม” คราวนี้ก็เหลืออีกสองคนที่ตอบโดย

ไม่คิด

“ฉันไป” วัสดัสตอบรับ

“ฉันไม่ชอบดูมวยพวกนายก็รู้ แต่ในเมื่อพวกนายไป ฉันก็ ไป” ฟรานเซสโก้รับคำชวน

“ถ้างั้นตอนสิบโมงเจอกันที่สนามมวยนะ”

เพื่อนทั้งสามพยักหน้ารับการนัดหมาย และเมื่อเรื่องนี้คุยกัน จบ พวกเขาก็คุยกันเรื่องอื่นต่อ เมื่อถึงเวลาอันสมควร พวกเขา ต่างพากันแยกย้ายกลับที่พัก โดยมีสาวสวยหนีบกายไปด้วย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ