แค้น มิอาจซ่อนรัก

บทที่ 9



บทที่ 9

“อย่าสำคัญตัวเองมากขนาดนั้นสิครับ ที่ผมบอกว่ามีความสุข เพราะผมได้ทำเพื่อแม่และพ่อเลี้ยง การมาอยู่ที่นี่ให้พี่โขกสับมัน คือการตอบแทนบุญคุณท่านทั้งสอง นั่นคือสิ่งที่ลูกคนหนึ่งจะ ทำให้ท่านได้ ไม่เหมือนใครบางคนที่เอาแต่ใจตัวเอง ทั้งที่เรียน จบถึงปริญญาโทจากเมืองนอก แต่ทำตัวราวกับคนไม่มีการ ศึกษาเลยสักนิดเดียว” น้ำเหนือเอ่ยประชดคนที่นั่งตรงหน้า ไม่ กลัวหากเขาจะทำอะไรให้เจ็บช้ำอีก เพราะทำใจไว้แล้วว่าการมา อยู่ที่นี่ชีวิตคงไม่ได้ราบรื่นสักเท่าไหร่

เพลง!

คำกล่าวหาพวกนั้นทำให้ภาคนโมโหขั้นสุด ยกจานข้าวที่ อยู่ตรงหน้าขว้างลงที่พื้นจนแตกกระจาย น้ำเหนือสะดุ้งโหยง ด้วยความตกใจ ตั้งแต่รู้จักกับภาคินมาเขาไม่เคยโมโหร้ายเลย สักครั้ง แต่หลังจากคืนนั้นเขาก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนโดยสิ้น เชิง

กล้าดียังไงมาว่าพี่อย่างนี้!” เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินอ้อม มากระชากแขน ให้เดินออกไปจากห้องครัว “ปากเก่งนักใช่ไหมเดี๋ยวได้เห็นกัน”

“ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ” น้ำเหนือพยายามแกะมือเขา แต่ทว่า ยิ่งแกะอีกฝ่ายยิ่งทําไว้แน่นกว่าเดิม ทำเอาเจ้าตัวทำหน้าเหยเก ด้วยความเจ็บปวด

“ไม่ปล่อย! คนอย่างนายไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรทั้งนั้น

“เลวที่สุด ผมไม่มีทางยอมพี่แน่” ในวินาทีนั้นน้ำเหนือก้ม หน้าลงกัดแขนเขาทันที

“อ๊ากกก!! ไอ้บ้าเอ๊ย”

ภาคินจําต้องยอมปล่อยให้อีกฝ่ายเป็นอิสระ เพราะที่แขนมี รอยฟันจนเป็นห้อเลือดชัดเจน ในวินาทีนั้นน้ำเหนือรีบวิ่งเข้าไป ในห้องนอน แต่ทว่าภาคนกลับคว้าตัวไว้ได้ก่อน

“เก่งนักใช่ไหม เดี๋ยวจับกดซะตรงนี้เลย” ภาคินผลักร่างเล็ก ให้ล้มลงบนพื้นไม้ปาร์เกต์ ก่อนจะคร่อมตัวเอาไว้ เขาตรึงข้อมือ น้อย ๆ ทั้งสองข้างไว้บนพื้น

“จะทำอะไรก็ทำเลยสิ คนอย่างผมไม่มีทางสู้พี่ได้อยู่แล้วนี่ หนุ่มน้อยเอ่ยประชด จ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่ลดละ หยาดน้ำใส ไหลลงจากหางตาเป็นสาย

“คิดว่านํ้าตาของนายจะทำให้พี่ใจอ่อนได้งั้นเหรอ…ไม่มี ทาง” น้ำเสียงที่แข็งกระด้างช่างขัดกับหัวใจที่เต้นระส่ำ รู้สึกเจ็บ แปลบ ๆ เมื่อต้องทำให้เขาคนนี้ร้องไห้เสียใจอีกแล้ว

“หากร่างกายของผมจะช่วยทำให้เรื่องทุกอย่างมันดีขึ้น ผมก็จะยอม โดยไม่ขัดขืนอะไรทั้งนั้น ขอให้ความเคียดแค้นของพี่ มันอยู่แต่ภายในบ้านหลังนี้ ระบายมันมาที่ตัวผมเลยครับ ผม พร้อมแล้ว” กล่าวจบเจ้าตัวก็เอียงหน้าหนี ไม่อยากสบตาเขาให้ รู้สึกเจ็บปวดไปมากกว่านี้

“ถ้าต้องการอย่างนั้นพี่ก็จะจัดให้ แล้วอย่ามาร้องโอดครวญ ทีหลังว่าพี่ใจร้ายก็แล้วกัน”

ภาคนโน้มใบหน้าลงไปประกบจูบริมฝีปากบางอย่างอื่น กระหาย ในขณะเดียวกันก็แยกขาเรียวออกจากกันด้วยท่อนขา แกร่ง บดเบียดกลางกายที่ส่วนกลางอย่างเร่าร้อน

แควก!!!

ไม่นานชายหนุ่มก็ผละใบหน้าขึ้นมา ก่อนจะจับคอเสื้อของ น้ำเหนือฉีกแยกออกจากกันอย่างป่าเถื่อน มือหนาบรรจงลูบไล้ ผิวขาวนวลเนียนอย่างแผ่วเบา จ้องมองดวงหน้าหวานอย่าง เสน่หา แม้ว่าน้ำเหนือจะมีท่าทีเป็นเฉยเอียงหน้าน้ำตาไหลอยู่ ก็ตามที

“อยากรู้เหมือนกันว่าจะเป็นพี่ได้สักกี่น้ำ” กล่าวจบก็รีบ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองออกจนเหลือเพียงร่างกายเต็มไปด้วย มัดกล้ามเนื้อ

“อ๊ะ…อื้อออ..”

น้ำเหนือเกร็งไปทั้งร่างเมื่อยอดอกถูกลิ้นเย็นตวัดเลียอย่างบ้า คลั่ง ความเสียวซ่านทำให้หนุ่มน้อยปัดป่ายมือไปทั่ว ใบหน้า หวานส่ายไปมาเมื่อเขาละเลงลิ้นระรัว
เมื่อพอใจแล้วชายหนุ่มก็เลื้อยตัวขึ้นไปทับทาบร่างบอบบาง จับมือเรียวมาประสานไว้แนบลงกับพื้น ส่งสายตาคมจ้องมอง ดวงหน้าหวาน แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ยอมสบตา

“มองตา !” เขาสั่ง

“เหนือยังคงนิ่งไม่ยอมทำตาม

“ไม่ฟังกันใช่ไหม ได้

กล่าวจบก็โน้มใบหน้าลงประกบจูบอีกครั้ง แม้ว่าน้ำเหนือจะ เอียงหน้าหนี แต่เขาก็ยังดื้อดึงที่จะครอบครองริมฝีปากนั้นให้ได้ ในที่สุดน้ำเหนือก็ต้องยอมสยบ เมื่อส่วนล่างถูกรุกล้ำด้วยแท่ง ร้อนอย่างไม่ทันตั้งตัว

“อื้อ….จะ …..จะ…เจ็บ”

“นายดื้อกับพี่เองนะ ต้องเจออย่างนี้ใช่ไหมถึงจะยอม” เขา เอ่ยเสียงกระเส่าตรงหน้า ในขณะเดียวกันก็ปล่อยมือเรียวให้เป็น อิสระ สอดไปที่แผ่นหลังกอดร่างบางไว้แน่น

“คนใจร้ายฮึก…” ความเจ็บที่แผ่ซ่านไปทั้งร่างทำให้น้ำเสียง สั่นเครือจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง

“พี่ร้ายได้กว่านี้อีกรู้ไว้ด้วย” ชายหนุ่มกระตุกยิ้มร้าย จากนั้น ก็โน้มใบหน้าลงประกบจูบ กระแทกกระทั้นความใหญ่โตเข้าไป อย่างบ้าคลั่งราวกับตั้งใจลงโทษอีกฝ่ายที่ขัดใจเมื่อครู่

บ! ปิบ! ปิบ!
ส่วนล่างที่เชื่อมต่อกันถูกเสียดสีซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนแดงเลือก แต่ทว่าตอนนี้น้ำเหนือกลับไม่รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด มีเพียง ความเสียวที่แผ่ซ่านไปทั่วร่าง นั่นยิ่งทำให้ภาคินได้ใจ ถาโถม ความรุนแรงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

ท่วงท่าแห่งรักถูกเปลี่ยนไปตามความต้องการของชายหนุ่ม ความเร่าร้อนของเขาทำให้น้ำเหนือเผลอร้องครวญครางอยู่ หลายครั้ง เขาเริ่มมีส่วนร่วมในกิจกรรมรักอย่างควบคุมตัวเอง ไม่ได้ นั่นทำให้ภาคินยิ่งได้ใจ

สงครามสวาทอันเร่าร้อนผ่านไปเนิ่นนานจวบจนถึงจุดหมาย ปลายทาง ภาคินออกแรงกระเด้ง ๆ เมื่อรู้ตัวว่าอีกไม่นาน ของเหลวในร่างกายจะถูกฉีดเข้าไปในตัวหนุ่มน้อย ส่วนคน ที่นอนบิดเร่าอยู่ใต้ร่างเริ่มเกร็งตัว มือเรียวที่เกาะแผ่นหลังชาย หนุ่มเริ่มกอดรัดแน่นยิ่งขึ้น ร่างทั้งสองกระตุกพร้อมกัน เสียง ครวญครางอันเสียวสยิวดังระงมท่วมเรือนไม้ที่อยู่ท่ามกลางป่า ธรรมชาติ

เมื่อสงครามรักสงบลงภาคินก็ฟุบตัวทับทาบร่างบางไว้ จาก นั้นจึงเงยขึ้นมามองดวงหน้าหวานที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ เขาได้ มือหนาปาดเหงื่อออก ให้อย่างเสน่หา

“ต่อไปนี้นายไม่มีสิทธิ์ไปชอบใครแล้วนะ เพราะทั้งตัวและ หัวใจของนายเป็นของพี่แล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อน โยน ราวกับลืมเรื่องเคียดแค้นก่อนหน้าเสียสนิท

“พี่คินจะได้แค่ตัว แต่ไม่มีวันได้หัวใจผมอีกแล้ว…ไม่มีวัน
เมื่อได้ยินอย่างนั้นแทนที่ภาคินจะโมโหร้าย แต่ทว่ากลับ ชะงักงัน รู้สึกเจ็บแปลบ ๆ ที่หัวใจ ใช่สินะตอนนี้เขาและน้ำเหนือ เปรียบเหมือนเส้นขนานไม่มีทางมาบรรจบกันได้เลย แต่ถึง อย่างไรหนุ่มน้อยคนนี้จะต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น แม้ หัวใจอีกฝ่ายจะเปลี่ยนไปแล้ว แต่ทว่าเขาจะไม่ยอมให้ใครมา เชยชมเรือนร่างนี้แม้แต่ปลายก้อย

“ถ้าอย่างนั้นนายต้องอยู่ในกรงที่สร้างไว้ เป็นเมียบำเรอ พี่อยากจะเชยชมตอนไหนก็ได้ นายจะไม่มีทางได้คบใครหน้า ไหนอีกตลอดชีวิต”

กล่าวจบเขาก็อุ้มร่างเล็กขึ้น ในท่าเจ้าสาว เดินเข้าไปในห้อง นอนตัวเอง คืนนี้น้ำเหนือจะต้องเป็นหมอนข้างให้เขากอดทั้งคืน โดยไม่มีสิทธิ์เอ่ยปฏิเสธแม้แต่คำเดียว


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ