แค้น มิอาจซ่อนรัก

บทที่ 2



บทที่ 2

ที่เขาต้องถามอย่างนี้ เพราะช่วงที่อยู่เมืองนอก ได้ติดต่อพูด คุยกับน้ำเหนือแทบจะทุกวัน แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่เคยเล่าเรื่อง นี้ให้ฟังเลย

“คือ…ท่านรักกันมาได้พักใหญ่แล้วครับ” น้ำเหนือก้มหน้า ตอบเบาเสียง เขาเองก็ไม่ได้เห็นด้วยในการแต่งงานครั้งนี้ แต่ ทว่าท่านทั้งสองรักกันจึงไม่มีสิทธิ์จะห้าม แถมยังรู้ดีแก่ใจว่า ความรักครั้งนี้ มันเกิดขึ้นก่อนที่มารดาของภาคินจะเสียชีวิตด้วย

“พักใหญ่ของนายมันนานแค่ไหนแล้ว หรือจริง ๆ แล้วน้า จันทร์กับพ่อแอบเป็นชู้กันก่อนแม่พี่ตาย” ภาคนนั่งยอง ๆ ลงตรง หน้า ก่อนจะจับแขนข้างหนึ่งบีบแรง ๆ คาดคั้นเอาความจริง

น้ำเหนือเอาแต่เงียบ พูดอะไรไม่ออกเพราะมันคือเรื่อง จริงอย่างที่อีกฝ่ายกล่าว

“เงียบอย่างนี้แสดงว่าจริง พี่ไม่นึกเลยว่าน้าจันทร์จะเป็นคน แบบนี้ อุตส่าห์รักไม่ต่างจากญาติผู้ใหญ่ แต่แท้ที่จริงแล้วก็ สันดานเมียน้อยชัด ๆ แอบลักกินขโมยกินของคนอื่น” เขาน้ำเหนือ

เป็นแม่เลี้ยงของนายเองก็จะได้มีหน้าตา ดีกว่าต้องมาเป็น แค่ลูกแม่บ้านไหม!

ได้ยังไง ก็เหมือนที่เรารักยังไงล่ะน้ำเหนือเอ่ยด้วยน้ำ เสียงเว้าวอน ดวงตาสวยมีหยาดเอ่อคลอ แค่เพียงกะพริบมัน ไหลลงอาบสองแก้มทันที

“ใช่เรารักกัน ถึงเสียใจมากยังไงล่ะ รักกันคุยกัน เด็ดขาด พวกเธอสองแม่มันไม่จากปลิงที่คอยสูบเลือด สูบพ่อของหรอก” ภาคินตะโกนใส่หน้าความ เคียดแค้น แม้เขาจะน้ำเหนือคนมากแค่ไหน แต่ทว่าเจ็บปวดรับ มันกลบความรู้สึกพวกนั้นจนหมดไปแล้ว

เพียะ!

“ผ่านมาผมหลงคิดพี่เป็นคนมีเหตุผลแต่ไม่เลย มัน งี่เง่าเอาแต่ใจ จิตใจคับแคบ อย่างผมไม่เสียเวลามารักอย่างหรอก ฮึก…
“พี่ก็ไม่นึกว่านายจะเป็นคนเห็นแก่ได้ขนาดนี้เหมือนกัน ก่อน ที่เราจะกลายเป็นพี่น้องกัน พี่ขอเปลี่ยนสถานะให้นายมาเป็นเมีย ก่อนก็แล้วกัน” พูดจบภาคนก็ลากตัวหนุ่มน้อยขึ้นไปบนเตียง

“พี่คนจะทำบ้าอะไร ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะ” น้ำเหนือ โวยวาย เสียงดัง แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่ยอมลดดีกรีความดุดันลงเลยสัก นิด เขาตรึงข้อมือทั้งสองข้างไว้บนเตียง ส่งสายตาคมจ้องมอง ดวงหน้าหวานอย่างโกรธแค้น

“ปล่อยให้โง่สิ ครั้งนี้ถือว่าเป็นค่าเลี้ยงดูที่พ่อกับแม่พี่ส่งเสีย นายเรียนจนจบก็แล้วกัน” กล่าวจบก็โน้มใบหน้าลงไปซุกไซร้ที่ ซอกคอขาวอย่างหุ่นกระหาย กลิ่นกายยั่วเย้าปลุกอารมณ์ให้คุก รุ่นขึ้นเป็นเท่าตัวจนไม่อาจห้ามใจ

น้ำเหนือได้แต่ส่ายหน้าไปมา หยาดน้ำใสๆ ไหลลงจากหาง ตาเป็นสาย เขาไม่เคยนึกเลยว่าจะมีวันนี้ วันที่เขาและภาคินต้อง กลายมาเป็นศัตรูกัน แม้ว่าจะเคยทำใจไว้บ้างแต่ทว่าพอถึงเวลา กลับสร้างความเจ็บปวดให้เกินกว่าที่คิด

“ผมเกลียดพี่คิน เกลียดที่สุดในโลก ฮือ ๆ” น้ำเหนือตะโกน สุดเสียง แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับเงยหน้าขึ้นมาสบตามอง ใบหน้า หล่อแดงก่ำด้วยฤทธิ์ความกำหนัดที่แล่นพล่าน ในร่าง ยิ่งได้สูด กลิ่นกายหอมเป็นเอกลักษณ์ ยิ่งทำให้ความต้องการท่วมท้นขึ้น เป็นเท่าตัว

“ได้! เกลียดนักใช่ไหมวันนี้พี่จะทำให้นายเกลียดยิ่งขึ้นไป อีก” ภาคินโน้มใบหน้าคมลงประกบจูบริมฝีปากบาง บดจูบอย่างหนักหน่วงราวกับอีกฝ่ายเป็นที่ระบายความโกรธแค้น มือ หนาคลายข้อมือน้อย ๆ ให้เป็นอิสระ จากนั้นเลื้อยมาปลดเปลื้อง อาภรณ์ เผยให้เห็นเรือนกายสวยล่อตาล่อใจ

น้ำเหนือยกมือขึ้นไปวางบนแผ่นหลังเขา ทั้งข่วนและหยิก เพื่อให้อีกฝ่ายเจ็บปวดและยอมปล่อยให้เป็นอิสระ แต่ทว่า เรี่ยวแรงแค่นั้นกลับไม่เป็นผลให้เขาระคายเคืองแม้แต่น้อย

“เพิ่งรู้ว่านายชอบความรุนแรง จะเอาอย่างนั้นใช่ไหม ใบหน้าหล่อผละออกมาเอ่ยด้วยรอยยิ้มมัจจุราช บ่งบอกว่าเขา ไม่สะทกสะท้านกับความเจ็บปวดอันน้อยนิดนั่นเลย

“ฮือ ๆ ผมเกลียดพี่ได้ยินไหม เกลียดที่สุดในโลก” เขาทำได้ เพียงร้องไห้ร้องห่ม ตะโกนด่าพร้อมทั้งน้ำตาอย่างหมดทางสู้

“ยิ่งนายเจ็บปวด ยิ่งสะใจ ในเมื่อน้าจันทร์ทำอย่างนั้นกับ แม่พี่ได้ พี่ก็จะเอาตัวนายมาเป็นที่ระบายความใคร่เหมือนกัน” พูดจบเขาก็ก้มหน้าลงอีกครั้ง ส่งปลายลิ้นตวัดเลียยอดปทุมถัน สีชมพูระเรื่อ น้ำเหนือได้แต่กำมือแน่น ๆ ทุบบนแผ่นหลังระรัว แต่ทว่าความเสียวกลับแผ่ซ่านไปทั่วร่าง ทำให้ความพยศเปลี่ยน เป็นความสมยอมอย่างช่วยไม่ได้ ความชำนาญของเขาทำให้ หนุ่มน้อยอ่อนระทวยได้อย่างง่ายดาย

ผ้าพื้นเมืองล้านนาถูกปลดเปลื้องติดมือเขาออกไป ทำให้ เรือนร่างขาวนวลเนียนโชว์หราอล่างฉ่าง

“อื้อ…อ่อย…”

น้ำเหนือพยายามประท้วงในลำคอ เขาแทบไม่ปล่อยให้มีโอกาสแม้แต่จะหายใจ ในช่วงเวลานั้นชายหนุ่มก็ปลดตะขอ กางเกงยีนแบรนด์ดัง รูดซิปลง จากนั้นก็งัดเจ้าท่อนเอ็นตัวเขื่อง ออกมาชมโลกภายนอก รูดขึ้นลงสามสี่ครั้งเพื่ออุ่นเครื่อง ค ความ ต้องการอันหนักหน่วงทำให้ชายหนุ่ม ไม่คิดแม้แต่จะเปลื้อง อาภรณ์ออกให้เสียเวลา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ