แค้น มิอาจซ่อนรัก

บทที่ 1



บทที่ 1

ลงจากรถที่เช่ามาจากสนามบินแล้ว ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งหุ่น กํายาสมส่วน ใบหน้าหล่อคมสัน ก็ลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ทอดสายตามองไปยังบ้านไม้สองชั้นสไตล์รีสอร์ต ที่เจ้าตัวเคย อาศัยอยู่มาตั้งแต่เด็กจนโต แต่ทว่าพอเรียนจบชั้นมอปลาย ภาค น ก็ต้องไปเรียนต่อต่างประเทศตามคำสั่งของบิดา

จากวันนั้นถึงวันนี้ก็เข้าสู่ปีที่หกแล้ว เขาจบการศึกษา ปริญญาตรีและโทด้านบริหาร จากมหาวิทยาลัยชื่อดังของ อังกฤษ จึงบินกลับมาอยู่ที่ไร่โอภาสแห่งนี้อย่างถาวร

ภาคินกลับก่อนกำหนดหนึ่งสัปดาห์ เพื่อจะมาเซอร์ไพรซ์ บิดา และต้องการเจอหน้าหนุ่มน้อยที่เคยเติบโตด้วยกันมาตั้งแต่ วัยเยาว์นามว่า น้ำเหนือ เขาเป็นลูกชายแม่บ้านคนโปรดของ มารดา ซึ่งภาคินเองก็ให้ความเคารพนับถือไม่ต่างจากญาติ ผู้ใหญ่คนหนึ่ง

น้ำเหนือเป็นหนุ่มน้อยที่เติบโตมาในไร่แห่งนี้พร้อมกับภาค น เขาเป็นหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาออกไปทางหวานเล็กน้อย เก่ง เรื่องงานบ้านงานเรือนยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก แถมยังมีอัธยาศัยดีเข้ากับผู้อื่นได้ง่าย อุปนิสัยเหล่านี้ทำให้ภาคินหลงรักได้อย่าง ง่ายดาย และทั้งสองต่างก็มีใจให้กันตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น แต่ทว่าเรื่องนี้กลับเป็นความลับรู้กันเพียงแค่สองคนเท่านั้น

ชายหนุ่มเร่งฝีเท้าเดินมาเกือบจะถึงหน้าบ้าน ทว่ากลับต้อง ชะงักงันด้วยความสงสัย เมื่อได้ยินเสียงสะล้อซอซึ่ง บรรเลงดัง แว่วมาราวกับกําลังมีงานรื่นเริง หลอดไฟนับร้อยถูกประดับ ตกแต่งบริเวณสวนรอบบ้าน นั่นยิ่งทำให้เจ้าตัวมั่นใจเข้าไปใหญ่

“มีงานอะไรกันนะ

ผู้มาใหม่เอ่ยเบา ๆ ก่อนจะลากกระเป๋าเดินเข้าไปด้วยรอย ยิ้ม เพราะคิดถึงและโหยหาอุ่นไอรักจากบ้านหลังนี้มาตลอด ยิ่ง เข้าไปใกล้ยิ่งรู้สึกประหลาดใจ เพราะมีแขกเหรื่อมาร่วมงาน หลายสิบชีวิต เขาจำได้ว่าส่วนมากคือเพื่อนสนิทของบิดา

“อ้าว! ภาคินไหนพ่อเราบอกว่าจะกลับอาทิตย์หน้า” กำลัง จะเดินเข้าไปในงาน ก็มีหนุ่มวัยกลางคนเอ่ยทักทายอย่างเป็น กันเอง ในมือก็ถือแก้วไวน์สีเลือดนกไว้ดื่มด้วย

“สวัสดีครับคุณอา พอดีผมอยากกลับมาเซอร์ไพรซ์พ่อน่ะ ครับ” เจ้าตัวกล่าวพลางยกมือไหว้ชายสูงวัยกว่าอย่างมีสัมมา คารวะ

“อ้าว! พ่อเราไม่ได้บอกเหรอว่าจะแต่งงานวันนี้

“ว่าไงนะครับ! พ่อจะแต่งงานงั้นเหรอ” ได้ยินอย่างนั้นชาย หนุ่มก็เบิกตาโพลงด้วยความตกใจ เขาไม่นึกเลยว่าบิดาจะกล้า ทำอย่างนี้ ทั้งที่มารดาเพิ่งจะเสียไปเมื่อปีที่แล้วนี่เอง แถมก่อนมารดาสิ้นลมหายใจ ผู้เป็นบิดายังสัญญาว่าจะไม่รักใครอีก ตลอดชีวิต

“อ้าวนี่เราไม่รู้เรื่องหรอกเหรอ” เมื่อรู้อย่างนั้นอีกฝ่ายก็ทำ หน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก

“ไม่ครับ พ่อไม่เคยบอกอะไรผมเลย แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็น ใครครับ” ความโกรธแค้นเริ่มปะทุขึ้นภายในอก เขาไม่เคยคิด ว่าจะโกรธบิดาได้มากถึงเพียงนี้ และไม่มีวันอภัยให้อย่าง แน่นอน

“เอ่อ… จันทร์นะ งั้นเดี๋ยวอาขอตัวก่อนนะ” กล่าวจบก็รีบ เดินหนีโดยเร็ว ปล่อยให้ชายผู้มาใหม่ยืนถลึงตามองไปยังเวที กำมือแน่นจนสั่น เมื่อเห็นว่าคู่บ่าวสาวกำลังเดินควงแขนขึ้นไป บนเวที สวมชุดพื้นเมืองบ่าวสาวชาวเหนือ สีหน้าของคนทั้งสอง เต็มไปด้วยรอยยิ้ม บ่งบอกว่ากำลังมีความสุขมากแค่ไหน

ระหว่างนั้นภาคินก็บังเอิญเห็นหนุ่มน้อยที่เขาเฝ้ารอวันมา พบเจอ จึงรีบเดินเข้าไปตั้งแขนไว้ก่อนจะเดินไปยังหน้าเวทีเสีย ก่อน

เมื่อโดนรังแขนไว้เหนือก็สลัดออกโดยอัตโนมัติ หันขวับ มาจ้องมองอย่างไม่พอใจ แต่ทว่าเมื่อรู้ว่าเป็นใครใบหน้าหวาน มีรอยยิ้มขึ้นมาทันที

“พี่คิน!”

“มานี่เลย” เขาไม่มีอารมณ์ส่งยิ้มตอบ แม้ว่าอยากจะทำมัน มากเหลือเกิน แต่ตอนนี้เรื่องที่บิดาแต่งงาน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเขามันสำคัญกว่านั้น

“พี่คนจะพาผมไปไหน ปล่อยนะครับ” หนุ่มน้อยพยายาม เอ่ยท้วง แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับยังคงกระชากแขนอย่างไร้ความ ปรานี ผิดแปลกกับภาคนที่เคยอ่อนโยนคนนั้น

“ตามมาเถอะน่า แล้วก็หุบปากด้วยไม่งั้นพี่จัดการนายแน่ เขาลากตัวน้ำเหนือเดินเข้าไปในบ้าน ขึ้นไปยังชั้นสองเข้าห้อง นอนตัวเอง

ปัง!

“โอ๊ย! พี่ดินทําบ้าอะไรเนี่ย” เมื่อเข้ามาในห้องแล้ว ภาคินก็ ผลักร่างบอบบางลงที่พื้นอย่างไม่ไยดี ทำให้ก้นงามงอนกระแทก พื้นจนรู้สึกเจ็บไม่น้อย

“อธิบายมาซิว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง! แม่นายกับพ่อพี่แต่งงาน กันได้ยังไง!” อีกฝ่ายยืนกอดอกทำหน้ายักษ์ ตะโกนออกไปสุด เสียง จ้องมองดวงหน้าอีกฝ่ายอย่างเดือดดาล


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ