บทที่18 รถไฟชนกัน
หลังจากที่จัดการเรื่องเงิน เรียบร้อย เหยาเหยาก็ได้หันไป ยักคิ้วให้จ้าวเทียนเล็กน้อย ซึ่งเขาก็ส่งยิ้มกลับมาให้
“ มีอีกเรื่องหนึ่งที่ฉันต้องประกาศ…จ้าวหยูเหมย ” เธอหันไป หาเด็กสาวที่ยืนอยู่ด้านข้าง
“หนูอยากร่วมงานกับฉันไหม…หนูเป็นคนที่พรสวรรค์มาก ฉันอยากให้หนูมาอยู่ในสังกัดเดียวกันกับฉัน ทางเรามีทีมงานที่ ดีที่สุดในการฝึกฝนหนูให้เป็นนักดนตรีระดับโลกได้อย่าง แน่นอน ” เธอถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม ข้อเสนอนี้เธอยังไม่เคยมอบ ให้กับใครเลย
เธอเห็นภาพเด็กสาวคนนี้ซ้อนทับกับตัวเธอในอดีต และเธอก็ เชื่อในสายตาของตัวเอง
“ ตกลงค่ะ…หนูดีใจมากเลย ” จ้าวหยูเหมยยิ้มทั้งน้ำตา วันนี้ เป็นวันที่เธอมีความสุขที่สุด
ฝูงชนที่อยู่รอบๆเวทีต่างพากันตื่นเต้นขึ้นทันทีกับสิ่งที่พึ่งได้ยิน ไป นี่อาจจะเป็นต้นกำเนิดของซุปเปอร์สตาร์คนใหม่ก็ได้ และ พวกเขาก็ร่วมเป็นสักขีพยานเหตุการณ์สำคัญนี้
ตลอดเวลาที่เหยาเหยาพูด เธอไม่ได้ชายตามองไปยังไปชั่ว หลิงเลยแม้แต่น้อย คนที่มีนิสัยแบบนี้เธอรังเกียจที่สุด
ฉันต้องขอโทษทางผู้จัดงานด้วยจริงๆค่ะ…สําหรับความวุ่นวายที่เกิดขึ้น แต่เนื่องจากที่ฉันได้เดินทางกลับมาจาก ฝรั่งเศสด้วยธุระส่วนตัว ตอนนี้ต้องขอตัวก่อน” เธอกล่าวลา พร้อมทั้งเดินออกไปกับพวกบอดี้การ์ด
ซึ่งผู้ชมต่างก็เข้าใจดีจึงเริ่มที่จะสลายตัว แยกย้ายกันกลับ บ้าน แต่ข่าวการมาถึงของเหยาเหยามันก็ได้กระจายออกไป ไกลแล้ว
“ พี่ชาย…พี่สาวบอกว่า เธอจะมารับพวกเราไปทานข้าวเย็น วันนี้ ” จ้าวหยูเหมยวิ่งมากอดแขนข้าวเทียนด้วยความดีใจ
“ทำไมน้องต้องดีใจขนาดนั้นด้วยล่ะ ” เขาถามขึ้นด้วยความ สงสัย เธอก็เป็นแค่ดาราไม่ใช่เหรอ
” โธ่…นี่พี่ไม่รู้เหรอ หนูเป็นแฟนคลับเธอมาเกือบ5ปีแล้วนะ ในห้องหนูยังมีโปสเตอร์ของเธอแปะอยู่เลย ” เธอมองจ้าวเทียน ด้วยแววตาน้อยใจ นี่พี่ชายเคยสนใจอะไรเธอบ้างไหม
คือ…พี่ว่านี่มันก็จะเที่ยงแล้ว พวกเราไปทานข้าวกันเถอะ” เขาพูดจาเฉไฉไปทางอื่น ตัวเขาคงจะอยู่แดนสวรรค์มานานเกิน ไป เลยยังปรับตัวเข้ากับความคิดบนโลกมนุษย์ไม่ค่อยได้ละมั้ง
หลังจากที่ได้ไปจ่ายค่าเทอมให้จ้าวหยูเหมยแล้ว ทั้งคู่ก็แวะ ทานข้าวพร้อมกันก่อนจะกลับบ้าน
จ้าวหยูเหมยเธอตื่นเต้นมาก หยิบเอาเสื้อผ้ามาลองใส่ไม่หยุด เพื่อเตรียมไว้สําหรับเย็นนี้
ก๊อก ก๊อก!
ถึงเวลาตอนเย็นก็ได้มีคนมาเคาะประตูห้อง
ดีจ้า….เสี่ยวเหมย ” ลี่เฟียร้องทักขึ้นอย่างอารมณ์ดี
“อ๊ะ…พี่เฟยมาได้ยังไงกันคะ ” จ้าวหยูเหมยร้องขึ้นอย่าง ตกใจ เธอยื่นหน้าออกไปเพื่อหาคนที่เธอเฝ้ารอ แต่ก็ไม่พบจึงมี สีหน้าผิดหวังเล็กน้อย
ถ้าหาพี่เหยาเหยาอยู่ละก็…เธอรออยู่ในรถข้างล่างนะ” เฟยตอบอย่างไม่สบอารมณ์ เด็กสาวคนนี้เมื่อก่อนยังชอบเข้ามา อ้อนเธออยู่เลย นี่ได้พบคนใหม่แล้วลืมพี่งั้นเหรอ
” หนูก็คิดถึงพี่เหมือนกันน้า ว่าแต่พวกพี่รู้จักกันด้วยเหรอ… หรือว่า ” เมื่อเธอเห็นสีหน้าของเฟยก็ได้เข้าไปกอดแขนอย่าง เอาใจ แล้วถามขึ้นด้วยความสงสัย
“พวกเราเป็นญาติกันนะ…พี่ชายเธอไม่เคยบอกเหรอ พี่จําได้ ว่าเคยเล่าให้ฟังแล้วนะ ” เฟยลูบหัวสาวน้อยด้วยความเอ็นดู
สําหรับเธอแล้ว จ้าวหยูเหมยก็เหมือนกับเป็นน้องสาวของเธอ คนหนึ่ง เธอมีความรู้สึกสบายใจเมื่อได้อยู่ใกล้กับเด็กคนนี้
” พี่ชาย…ทำไมไม่บอกหนูล่ะ” เธอหันไปทำแก้มป่องใส่ข้าว เทียนที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“คือ…พี่ว่าพวกเรารีบไปกันเถอะ เดี๋ยวคนอื่นจะรอนาน ” เขา รีบเดินนำออกไปทันที เหตุผลที่เขาไม่ได้บอกก็เพราะคิดว่ามัน ไม่ใช่เรื่องสำคัญนี่สิ แต่คงพูดออกไปไม่ได้หรอก
เมื่อมาถึงที่รถ เขาก็พบกับหนูเฉินที่ทำหน้าที่เป็นคนขับอยู่
เขาจึงได้พูดทักทายออกไป ซึ่งอีกฝ่ายก็ส่งยิ้มประหลาดๆมา ให้ ส่วนเหยาเหยานั้นทักทายกลับมาด้วยรอยยิ้ม
*หรือว่าครั้งก่อนฉันลงมือแรงเกินไปหรือเปล่า
ตลอดทางจนมาถึงภัตตาคาร ทั้งสามสาวได้พูดคุยกันอย่าง ร่าเริง โดยส่วนใหญ่จะเป็นน้องสาวเขาที่เป็นฝ่ายถามเรื่องราว เกี่ยวกับวงการบันเทิง
เมื่อมาถึงห้องที่ได้จองเอาไว้ ระหว่างที่กำลังรออาหาร
“ พรุ่งนี้นายมั่นใจใช่ไหม…เรื่องของของฉัน ” ลี่เฟยที่อดทน รอไม่ไหวเป็นฝ่ายถามขึ้นมาก่อน
ทุกคนที่อยู่ในห้องยกเว้นจ้าวหยูเหมย ก็หันมาสนใจฟังทันที “ฉันรับปากแล้ว…เธอมั่นใจได้เลย ” จ้าวเทียนตอบอย่าง
มั่นใจ
“นายหมายถึงตอนนี้นายอยู่ในขั้นผู้เชี่ยวชาญแล้วงั้นเห รอ ” หวูเฉินถามขึ้นเสียงดังด้วยความตกใจ
จ้าวเทียนไม่ได้ตอบ แต่เขายกมือซ้ายขึ้นมา มองเห็นเป็น ลมปราณสีแดงกระจายออกมาจากมือเขา
!!
” นาย….สัตว์ประหลาดชัดๆ ” ลี่หวูเฉินรู้สึกอึ้งไปเล็กน้อย
ตัวเขาฝึกหนักมาตลอดเกือบ20ปี ยังสู้จ้าวเทียนที่ฝึกมาไม่ถึง เดือนไม่ได้เลย หรือเพราะเขาไม่มีพรสวรรค์
ลี่เฟยที่เห็นพี่ชายนั่งทำหน้าจิตตก เธอก็ต้องแอบกลั้นหัวเราะ
เอาไว้
ก๊อก ก๊อก !
พริบ!
ประตูห้องได้เปิดออกมา หญิงสาวสองคนเดินตรงเข้ามาทาง พวกเขาทันที
ฉันขอแนะนำให้พวกนายรู้จักนะ….คนนี้เป็นคู่หมั้นของพี่ห เฉินเอง ชื่อว่าพี่กงซือ ” เธอแนะนำหญิงสาวที่เดินนำเข้ามาก่อน ซึ่งมีรูปร่างหน้าตาสวยงาม สวมชุดกระโปรงยาวสีขาว เธอส่งยิ้ม ให้เล็กน้อย
ส่วนคนนี้เธอเป็นน้องสาวของพี่ชื่อ ชื่อว่า ” เฟยกำลังจะ แนะนําหญิงสาวอีกคน แต่เธอก็เป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาข้าวเทียน ก่อน ด้วยสีหน้ายินดี
” เราเจอกันอีกแล้วนะน้องจ้าว” กงเสี่ยวเหมยส่งยิ้มให้จ้าว เทียนด้วยความสุข หลังจากเรื่องในวันนั้นเธอก็อยากเจอชายคน นี้มาตลอด แต่ก็ไม่กล้าไปถามเอาจากซุยเหยา
!!
” เอ๋…นายรู้จักพี่เสี่ยวเหมยด้วยเหรอ ” ลี่เฟยถามขึ้นด้วย ความสงสัย
กงเสี่ยวเหมยจึงเป็นฝ่ายเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทุกคนฟัง
” ต้องขอบคุณน้องจ้าวมากเลยนะ….ที่ช่วยน้องสาวพี่เอาไว้ กง อลู่กล่าวขอบคุณด้วยความจริงใจ
* ไม่เป็นไรหรอกครับ….มันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย ” เขาตอบขึ้น ตามตรง เรื่องนี้มันเล็กน้อยจริงๆเขาเองยังไม่ทันทำอะไรเลย
ตอนนี้ทุกคนก็ได้มาครบแล้ว จ้าวเทียนนั่งอยู่ตรงกลาง ระ
หว่างลี่เฟยกับกงเสี่ยวเหมย ด้านตรงข้ามเป็นสี่เหยาเหยากับ
จ้าวหยูเหมย
เมื่ออาหารเข้ามาเสิร์ฟทุกคนก็กินกันอย่างมีความสุข ยกเว้น เพียงแค่คนเดียว….
เหยาเหยาตอนนี้เธอกำลังมองภาพตรงหน้า ด้วยความ หงุดหงิดอย่างไม่ทราบสาเหตุ เมื่อเธอเห็นกงเสี่ยวเหมยนั่งคุย หัวเราะกับจ้าวเทียนด้วยสีหน้ามีความสุข
เธอก็รู้สึกเจ็บจี๊ดๆ ในใจ…
“งั้นเหรอ…ถ้าน้องจ้าวก็สนใจเรื่องสมุนไพร ทำไมไม่มาดูที่ ร้านสุมนไพรของตระกูลพี่ล่ะ ถึงแม้อาจจะไม่ใหญ่เท่าร้านของ ตระกูลลี่ แต่เราก็มีของหายากที่สั่งมาจากต่างประเทศเหมือนกัน นะ” กงเสี่ยวเหมยพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม เธออยากจะแนะนำจ้าว เทียนให้ครอบครัวรู้จัก
“หืม…หายากนะเนี่ยที่น้องสาวพี่จะชวนผู้ชายมาที่บ้าน อิ อิ ” กงซีอลู่พูดหยอกขึ้นด้วยเสียงหัวเราะ
จ้าวเทียนคิดซักพัก ก็ตอบตกลง เขายังต้องเตรียมตัวยา เพื่อใช้ฝึกวิชาขั้นต่อไปอยู่พอดี ลองไปดูหลายๆที่อาจจะเจอสิ่งที่ ต้องการก็ได้
แอ๊ะ!
ลี่เฟยที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่ก็ได้สังเกตเห็นเหยาเหยาแอบมอง มาทางจ้าวเทียนกับกงเสี่ยวเหมยด้วยแววตาเศร้าๆ เธอก็ชะงัก ไปนิดหนึ่ง
เดี๋ยวนะ! หรือเหยาเหยาจะชอบจ้าวเทียน…
งั้นฉันควรทํายังไงดี…
เธอมองไปที่สี่เหยาเหยากับกงเสี่ยวเหมย เหมือนครุ่นคิดอะไร บางอย่าง จากนั้นเธอก็ตัดสินใจได้ทันที เธอลุกขึ้นเดินไปฝั่งตรง ข้าม
พี่เหยาเหยา…ฉันขอนั่งตรงนี้ได้ไหม ฉันอยากคุยกับน้องหยู
เหมย เรามีเรื่องต้องคุยกันเยอะแยะเลย ” เฟยพูดออกมาด้วย สีหน้าร่าเริงไม่มีอะไรผิดสังเกต
“อ่า…ได้จ๊ะ” เหยาเหยาอึ้งไปเล็กน้อย แต่พอมองไปยังที่นั่ง ข้างจ้าวเทียน แววตาเธอก็เปลี่ยนเป็นสดใส แล้วรีบตกลงทันที หลังจากเปลี่ยนที่นั่งกันเสร็จ
” วันนี้ฉันต้องขอบคุณนายอีกทีนะ…ที่ช่วยฉันเอาไว้ ” เหยา เหยาหันไปบอกจ้าวเทียนด้วยรอยยิ้ม
* ไม่เป็นไรหรอก…เธอเองก็ได้ช่วยน้องสาวฉันไว้เหมือนกันฉันรู้สึกขอบคุณเธอจริงๆ เพราะตอนนั้นตัวฉันไม่สามารถทำอะไร ได้เลย ” เขาพูดความจริงออกมา
ตอนนั้นเขาอยากจะสั่งสอนพวกที่มันกลั่นแกล้งน้องสาวเขา แต่ก็ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้ เพราะที่นี่คือโลกมนุษย์ มันไม่ สามารถใช้กำลังตัดสินปัญหาทุกอย่างได้
” ฉันถามอะไรหน่อยได้ไหม…ตอนที่นายใช้มือกุมข้อเท้าฉัน เอาไว้ ทำไมฉันถึงได้รู้สึกว่ามีคลื่นความอบอุ่นแพร่กระจายเข้า มาล่ะ” เธอถามด้วยสีหน้าเขินอายเล็กน้อย เมื่อคิดถึงเรื่องใน ตอนนั้น
กึก!
มือที่ถือซ้อนของกงเสี่ยวเหมยแข็งค้างไปในทันที อะไรคือใช้มือกุมข้อเท้าเอาไว้…
อะไรคือคลื่นความอบอุ่น..
เธอแอบมองไปที่ใบหน้าเขินอายของเหยาเหยา แล้วก็ สามารถรู้อะไรบางอย่างได้ทันที
อย่าบอกนะว่าเธอ…
ชิ้ง!
ชั่วขณะหนึ่งที่สายตาของหญิงสาวทั้งสองคน ได้สบเข้าด้วย กัน มันเหมือนกับมีประกายไฟพุ่งเข้าปะทะกันอย่างแรง
หม…ทำไมเขารู้สึกขนลุก จ้าวเทียนที่นั่งอยู่ตรงกลางรู้สึก ตกใจเล็กน้อย ความรู้สึกเหมือนมันจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น เขาได้ กวาดสายตาไปรอบห้องอย่างละเอียด แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ
ลี่เฟยกำลังรู้สึกสนใจเหตุการณ์ตรงหน้ามาก แต่เมื่อเธอมอง ไปที่สีหน้ามึนงงของจ้าวเทียน
เธอก็ยิ้มขึ้นอย่างเหนื่อยใจ…
“ ตาที่มนี่ยังไม่รู้ตัวอีก…
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ