จุติใหม่มหาเทพ เทียน

บทที่17 เปิดเผย



บทที่17 เปิดเผย

ขอโทษนะคะ…ฉันขอยืมไมค์หน่อยได้ไหม

!!

พิธีกรชายอึ้งไปเล็กน้อย เขาพึ่งเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้

” ไม่ได้หรอกครับ…คุณ! ” ในขณะเขากำลังจะตอบปฏิเสธไป ด้วยความเป็นมืออาชีพ

อีกฝ่ายก็แอบถอดแว่น กับเปิดหมวกขึ้นไปเล็กน้อย ทำให้มี เพียงเขาคนเดียวที่เห็นใบหน้านั้นชัดๆ เพียงแค่พริบตาเดียว จากนั้นเธอก็ใส่แว่นเหมือนเดิม

แต่ในชั่วพริบตานั้น ก็ทำให้เขาแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ เพราะตัวเขานั้นเป็นแฟนคลับเดนตายของเธอคนนี้มา5ปีแล้ว

ไม่คิดว่าวันนี้…

!!

ช่วววว เธอส่งสัญญาณให้เขาเงียบไว้

“ขอยืมไมค์หน่อยได้ไหมคะ ” เธอถามขึ้นอีกครั้ง

พริบ!

พิธีกรชายคุกเข่าลงข้างหนึ่ง ยื่นไมค์ส่งให้เหยาเหยาด้วย ความเต็มใจ
ช่างหัวความเป็นมืออาชีพมันเถอะ ต่อให้โดนไล่ออกเขาก็ไม่ สนแล้วตอนนี้…

ทุกคนที่อยู่รอบๆตอนนี้อึ้งไปกันหมด และพากันคิดไปใน ทิศทางเดียวกันว่า ไอหมอนั่นมันทําบ้าอะไรกัน ไปคุกเข่าให้แขก รับเชิญทำไม

เหยาเหยาเมื่อรับไมค์มาแล้ว เธอก็ไม่ได้สนใจสายตาของ คนรอบข้าง เธอเดินไปจับมือของจ้าวหยูเหมยแล้วพามายืนอยู่ ตรงกลางเวทีด้วยกัน

ตอนนี้ผู้ชมส่วนใหญ่เริ่มจะลุกขึ้นเตรียมตัวกลับแล้ว ไม่ได้มี ใครสนใจเหตุการณ์บนเวทีอีก

“La laaa le lal la Laaaaaaa

โซปราโน (Soprano) เป็นระดับเสียงสูงสุดของนักร้องโอ เปร่าหญิงมันได้สะกดผู้ชมทั้งหมดไว้ทันที

ห้องประชุมจัดแสดงงานดนตรี ที่เคยมีเสียงเลื่อนเก้าอี้ เสียง พูดคุยต่างๆ ที่ดังวุ่นวาย ตอนนี้มันได้เงียบมาก จนได้ยินแม้แต่ เสียงเข็มหล่น

ทุกสายตาได้จับจ้องมายังหญิงสาวสวมหมวกปีกกว้าง ที่ยืน อยู่บนเวที พวกกรรมการเองก็หันกลับมามองด้วยสีหน้าที่แตก ต่างกัน เพียงแต่มีอยู่คนหนึ่งที่อ้าปากค้างไปแล้ว

นั่นคือนักไวโอลินชาวฝรั่งเศส เพราะก่อนที่เขาจะเดินทางมา ที่ประเทศจีน ได้เคยมีโอกาสไปงานเปิดตัวสินค้าตัวใหม่ ของผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่ฝรั่งเศส

ซึ่งที่แห่งนั้นเขาก็ได้ยินเสียง Soprano ที่สุดยอดแบบนี้เช่นกัน ฉันขอเวลาพวกคุณซักครู่ได้ไหม…เด็กสาวคนนี้ชื่อ จ้าวหยู เหมย ” เธอโอบไปที่ไหล่ของจ้าวหยูเหมยอย่างอ่อนโยน

” พวกเราพึ่งพบหน้ากันครั้งแรก ที่งานนิทรรศการดนตรีใน โรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งเธอก็ได้ชวนฉันมาชมการแสดงของเธอและ เพื่อนๆ

แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องแสดง เธอกลับพบว่าเพื่อนในทีมของ เธอทุกคน ถูกข่มขู่กดดันให้ถอนตัวโดยผู้มีอำนาจบางกลุ่ม ทำให้เธอต้องขึ้นแสดงคนเดียวด้วยความกล้าหาญ เพราะการ แสดงในวันนี้มันจะทำให้เธอได้รับโอกาสในการทำตามความ ฝัน”

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้พวกผู้ชมที่อยู่ห้องประชุมขนาดใหญ่ก็ถูก เถียงกันเสียงดังทันที แต่ละคนเริ่มส่งเสียงในความไม่พอใจ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ชื่นชอบในการแสดงของของจ้าวหยูเหมย และรู้สึกคาใจในผลตัดสินของกรรมการ

“ฉันนึกแล้วทำไมมันแปลก ” ” ใครเป็นคนกดดันเพื่อนเธอ กัน”

” ฉันก็ว่าแล้วเธอเล่นได้ดีกว่าคนก่อนหน้ามากทำไมถึงแพ้

“นี่มันใช้อำนาจกดดันนักเรียนงั้นเหรอ”

เสียงของผู้ชมเริ่มวุ่นวายขึ้นทันที สายตานับพันมองไปที่ไปฮัวหลังและพวกกรรมการที่น่าสงสัย ผู้ชมที่มาก็ไม่ใช่คนโง่ พวกเขา ย่อมรู้ดีว่าคนที่ได้ผลประโยชน์จากเหตุการณ์แบบนี้คือใคร

เฉินอี้ที่เห็นสถานการณ์เริ่มไม่ดีก็หยิบไมค์ขึ้นมาทันที

” ผมว่าคุณก็แค่ไม่พอใจที่คนของคุณแพ้การแข่ง…..แต่คุณมา พูดแบบนี้มันทําให้คนอื่นอีกหลายคนเสียหาย อีกทั้งผู้ชนะก็ยัง เป็นเพียงเด็กสาวคนหนึ่ง คำพูดของคุณจะทำลายอนาคตเธอได้ ผมสามารถฟ้องร้องคุณกลับได้นะ ” ตัวเฉินอี้เองก็อยู่ในวงการนี้ มานานเขารู้จักวิธีการพูดเบี่ยงประเด็น แล้วใช้ประโยชน์เช่นกัน

” ถ้าอย่างนั้นรบกวนคุณช่วยตอบคำถามฉันหน่อย….ในเมื่อ ทุกคนก็เห็นว่าการแสดงของเธอดีกว่าทีมก่อนหน้ามาก ทำไม คุณถึงตัดสินแบบนี้ ” เธอถามกลับอย่างใจเย็นไม่ได้เกรงกลัว เฉิ นอจะฟ้องร้องแม้แต่น้อย

คุณจะฟ้องฉันเหรอ ทนายของคุณมีความกล้าพอรึเปล่า…

” ก็อย่างที่ฉันได้อธิบายไปยังไง…ที่การแสดงของเธอดีนั่นก็ เพราะเสียงร้องของคุณ แต่การตัดสินให้คะแนนจะพิจารณาแต่ ผลงานของนักเรียนเท่านั้น แม้แต่กรรมการอีกสองท่านก็ยังเห็น ด้วยกับผมเช่นกัน ” เฉินอี้ผายมือไปยังกรรมการอีกสองท่านด้วย ท่าทีเป็นต่อ

โดยที่เขาไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า นักไวโอลินชาวฝรั่งเศสคน นั้น มีสีหน้าเหมือนอมแมลงวันเข้าไปเป็นร้อยตัวแล้ว เขาตกใจ มากที่เฉิน ดึงเขาไปซวยด้วย

ไม่ได้การ เขาต้องรีบหาทางรอด…
แค่กๆ

คือจะว่าไปผมต้องขอโทษทุกคนด้วย….เพราะผมมัวแต่ตก

ตะลึงกับเสียงร้องอันไพเราะของแขกรับเชิญ จึงไม่ได้ตั้งใจฟัง เสียงเล่นเปียโนของนักแสดง มันเป็นความผิดของผมเอง ” นัก ไวโอลินชาวฝรั่งเศส รีบพูดขอโทษขึ้นอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์นี้สร้างความตกตะลึงให้ผู้คนที่ได้เห็นมาก แม้แต่

ตัวเหยาเหยาเองก็ยังอึ้งไปเล็กน้อย

ส่วนเฉินอี้นั้นใบหน้าแข็งค้างไปแล้ว กับความหน้าไม่อายของ กรรมการคนนี

” ถ้าแบบนี้ทำไมเราไม่ให้เด็กทั้งสองคนมาแข่งขันกัน แบบตัว ต่อตัวละในเพลงเดิมที่ใช้แสดง ” ลี่เหยาเหยาพูดขึ้นแบบสบายๆ

เธอรู้ว่าเฉินอี้ต้องหาเหตุผลปฏิเสธแน่นอน แต่เธอเพียง

ต้องการแสดงบางอย่างให้ผู้ชมเห็นเท่านั้น

ผมคงให้คุณทำแบบนั้นไม่ได้…ไม่อย่างนั้นถ้าหากมีผู้เข้า แข่งขันคนอื่นไม่พอใจผลการตัดสินขึ้นมาอีก แล้วท้าทายผู้ชนะ ให้แข่งขันใหม่ มันจะไม่จบเหรอ ” เฉินอี้ยิ้มเล็กน้อย ทุกอย่างยัง อยู่ในความควบคุมของเขา

“ตัวคุณเองเป็นเพียงนักร้องไร้ชื่อเสียง…เพียงแค่เพราะคุณมี เสียงที่ดี แต่ประสบการณ์ของคุณยังน้อยนัก ฉันอยู่ในวงการณ์นี้ มาสิบกว่าปี มีลูกศิษย์มากมายที่โด่งดังเพราะการสอนของฉัน ” เฉินอี้ยิ้มเล็กน้อย เมื่อเห็นผู้ชมมากมายเริ่มคล้อยตามเขา
พวกคุณทุกคนก็คงเคยเห็นผลงานที่ผ่านมาของฉันกันไป แล้วใช่ไหม…จะเชื่อในสิ่งที่นักร้องไร้ชื่อเสียงพูดออกมา หรือจะ เชื่อฉันที่เป็นกรรมการตัดสินมากไปด้วยประสบการณ์เป็นสิบปี กันละ ” เฉินอี้พูดขึ้นอย่างอวดดี คิดจะเล่นกับเขามันยังเร็วไปสิบ ปี

อีกๆๆ

มือที่จับไมค์ของเหยาเหยา สั่นสะท้านอย่างแรง รอยยิ้มเธอ เริ่มเปลี่ยนไปเป็นเย็นชา ครั้งแรกในชีวิตที่เธอโดนดูถูกขนาดนี้ แกว่าฉันเป็นนักร้องไร้ชื่อเสียงเหรอ….

แกว่าฉันมีประสบการณ์น้อยเหรอ….

แกเชื่อมั่นในชื่อเสียงของแกมากใช่ไหม…

งั้นเราจะได้เห็นกัน….

ลี่ฉุยเห็นท่าทางของเหยาเหยา ก็ร้องผิดท่าในใจ

เขามองไปที่เฉิน ด้วยความสงสาร แม้อีกฝ่ายจะเล่นตุกติกไป บ้าง แต่เรื่องแบบนี้ก็พบเจอได้บ่อยในวงการนี้

* คุณเฉิน…ผมคิดว่าคุณควรจะขอโทษเธอนะ ” ลิ่ฉุยหันบอก เฉินอี้เบาๆ ยังไงก็เป็นที่คุ้นเคยกัน แม้จะไม่ถูกกันแต่เขาไม่อยาก เห็นอีกฝ่ายจบสิ้นแบบนี้

หม…ทำไมผมต้องขอโทษ ทุกสิ่งที่ผมพูดออกมาเป็นความ จริง เธอต่างหากที่ต้องขอโทษที่ทำให้งานแสดงวุ่นวายไปหมด “เฉินอี้ตอบออกมาเสียงดัง เขาจงใจพูดใส่ไมค์ ให้ทุกคนได้ยิน กันหมด

“ว่ายังไง….ถ้าคุณยอมรับผิดแล้วก้มหัวขอโทษผมและผู้ชนะ ในงานวันนี้ ผมก็จะไม่เอาเรื่อง ไม่อย่างนั้นผมจะให้ทนายฟ้อง ร้องคุณ แล้วจะตัดอนาคตเส้นทางนักร้องของคุณ อย่าคิดว่าแค่ คุณปกปิดใบหน้าแล้วคุณจะรอด ผมสืบหาตัวคุณได้ไม่ยาก หรอก”

ผมจะไม่ยอมให้มีคนที่ทำตัวไม่เหมาะสม แบบคุณอยู่ใน วงการของพวกเราเด็ดขาด!

สิ้นเสียงของเฉินอี้ ผู้คนที่อยู่ในห้องประชุมก็เงียบกันทันที

พริบ!

ฉุยลุกขึ้นยืน แล้วออกคำสั่งเสียงดัง “ ทั้งหมดประจำ 11 ตำแหน่ง ”

ชายในชุดสูทสีดำาเกือบ 50คน กรูกันลงไปยืนล้อมเวทีไว้อย่าง แน่นหนาทันที พวกเขาทั้งหมดเป็นบอดี้การ์ดของตระกูลลี่ ที่ฉุย ได้เรียกตัวมาตั้งแต่เห็นคุณหนูบนเวทีแล้ว

เมื่อเหยาเหยาเห็นคนในตระกูลของเธอได้มายืนคุ้มกัน รอบๆเวทีเรียบร้อยแล้ว ก็มีสีหน้ายินดีเกิดขึ้น เธอมองไปที่ลิฉุย ด้วยสายตาชื่นชม

ตอนนี้เธอก็ไม่มีอะไรให้กังวลอีกแล้ว แววตาท้าทายของเธอ มองไปทางเฉินอี้แล้วพูดขึ้น
“คุณหาว่าฉันไร้ชื่อเสียง! ” เธอถอดหมวกปีกกว้างออก * คุณบอกว่าฉันไม่มีประสบการณ์ ” เธอถอดวิกผมออก

‘คุณต้องการติดเส้นทางในวงการของฉันใช่ไหม ” เธอถอด แว่นตากันแดดออก

ตอนนี้ใบหน้าที่แท้จริงของเธอได้ปรากฏออกมา ให้ทุกคนได้ เห็นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

“ฉันเหยาเหยา…หวังว่าคุณจะทำได้อย่างที่พูดนะ ”

กรี๊ดดด เฮฮอออ เสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งดังสนั่น ความ วุ่นวายเกิดขึ้นเพราะฝูงชนที่บ้าคลั่ง ได้วิ่งกระจุกตัวเข้าไปทาง เวที

” นั่นเธอ!”” เหยาเหยาผมรักคุณ!” “กรี๊ดดด ฉันเจอลี่เหยา

เหยาตัวเป็นๆ

“ ไม่ได้แล้วฉันต้องบอกเพื่อน ” ” พวกเรารักคุณ!

” ฉันอยากได้ลายเซ็นต์มานานแล้ว วันนี้ฉันต้องไม่พลาด

จ้าวเทียนยืนมองฝูงคนที่วิ่งตรงเข้าไปรุมล้อมตรงเวทีอย่าง เนืองแน่น มันเป็นความวุ่นวายที่ไม่สามารถควบคุมได้

ดีที่มีบอดีการ์ด50คนคอยยืนป้องกันไว้อยู่ ทำให้ไม่มีใคร เข้าไปถึงตัวเหยาเหยาได้ ไม่อย่างนั้นอาจจะมีคนถูกเหยียบเอา ได้
” เพราะแบบนี้เอง…ฉันถึงคิดว่าเคยเห็นเธอมาก่อน ” เขานึก ไปถึงภาพหญิงสาวบนป้ายโฆษณาที่เขาเคยเห็น

* คุณเฉิน!!!…ฉันเปิดเผยตัวให้คุณได้รู้แล้ว เชิญทำสิ่งที่คุณ บอกไว้ได้เลย ” เหยาเหยาพูดออกมาด้วยเสียงเฉยชา

เธอมองไปที่เฉิน อย่างท้าทาย

ตอนนี้เฉินอี้เขาพังทลายแล้ว เมื่อเขาคิดไปถึงสิ่งที่เขาได้พูด ออกไปมากมาย เขาอยากเอาหัวโขกโต๊ะตายให้รู้แล้วรู้รอด ถ้าฉันรู้ว่าเธอคือเหยาเหยาต่อให้เอามีดมาคอฉัน ฉันก็ไม่

กล้าพูดคําเหล่านั้นออกไปหรอก

จบสิ้นแล้ว ฉันต้องหาทางรอดให้ได้

ใช่แล้วเด็กสาวคนนั้น…

คุณ…ผมต้องขอโทษในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ผมมัน สายตามืดมัวไปเองที่ตัดสินออกมาผิดๆ ผมจะรีบทำการยื่นเรื่อง ขอเปลี่ยนผลการตัดสินใหม่ ทั้งหมดเป็นความผิดของผมเพียงผู้ เดียว ” เขารีบก้มหัวขอโทษอย่างรวดเร็ว ยอมเสียเสียชื่อเสียง แต่ก็ยังรักษาทางรอดไว้ได้

“ตอนนี้มันสายไปแล้ว ในเมื่อผลตัดสินมันออกมาแล้ว ถ้า ยังมีการเปลี่ยนแปลงอีกก็คงเป็นแบบที่คุณพูดไว้ว่าผู้เข้าแข่งขัน คนอื่นๆคงไม่ยอม ”

” แต่ฉันรู้สึกว่าการกระทำทุกอย่างของคุณในวันนี้ มันบ่งบอก ว่า สถาบันสอนดนตรีของคุณ ขาดความน่าเชื่อถือเป็นอันมาก ”
ดังนั้นฉันขอเป็นตัวแทนต้นสังกัด ขอยกเลิกงานทุกอย่างที่ เกี่ยวข้องกับสถาบันของคุณตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

สิ้นเสียงของเหยาเหยา เฉินอี้ก็ทรุดลงไปนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น ทันที

เขาไร้เรี่ยวแรงที่จะยืนขึ้นมาได้อีก

* มันจบแล้ว…อนาคตของฉัน “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ