บทที่9 แผนการของซุยลี่เหยา
ภายในคลับแมวป่า
* สวัสดีครับ…นายน้อยหลี่ผมได้เตรียมห้อง VIPไว้ให้แล้ว ตามผมมาทางนี้เลย” พนักงานต้อนรับได้พาพวกเขาไปที่ชั้นสอง
“โห…ฉันเคยได้ยินว่าห้องVIPที่นี่แพงมากเลยใช่ไหม หยาง ” สาวผมสั้นถามออกมาเบาๆ
ประมาณคืนละ5แสนหยวน…สำหรับพี่ถือว่าไม่แพงนะ นอกจากพวกเราจะได้รับไวน์ชั้นดีและอาหารจากเชฟมือหนึ่ง ที่ สำคัญเราจะได้คอนเนคชั่นทางธุรกิจเพิ่มด้วย ” หยางจงอธิบาย ให้สาวๆฟัง
ภายห้อง VIPสุดหรู มีชุดโซฟาวางอยู่กลางห้อง ด้านข้างมีจุด บริการอาหารและเครื่องดื่ม โดยเชฟมากฝีมือ ถือว่ามีทุกอย่าง ครบในห้องเดียว
จ้าวเทียนตอนนี้หยุดยืน อยู่ตรงหน้ากำแพงกระจกใส ซึ่ง สามารถมองทะลุลงไปยังเวทีด้านล่าง ที่กำลังมีการแสดงต่างๆ เพื่อมอบความสุขให้ลูกค้า
เขามองไปยังไวน์ขวดละแสนหยวนที่หยางจงสั่งมา ก็อดนึก สะท้อนใจไม่ได้ ตอนเขาอยู่ที่แดนสวรรค์ก็เป็นคนชอบสะสมของ พวกนี้เหมือนกัน
แต่ของสะสมของเขานั้นหากคนธรรมดา ได้ดื่มไปเพียงอีกเดียว จะมีอายุขัยเพิ่มขึ้น100ปี ต่างกับที่เขาเห็นในห้องนี้ ที่ยิ่ง ดื่มก็ยิ่งอายุสั้นลง
” พี่จ้าว…พี่ฝึกฝนมานานแค่ไหนแล้ว ” เฉินจิ้งเอ่ยปากถามขึ้น ตอนนี้พื้นที่ในห้องนี้ถูกแบ่งเป็นสองกลุ่ม คือพวกนายน้อยหลีกับ สาวๆที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน กับข้าวเทียนและเฉินจิ้ง ที่กำลังยืนอยู่หน้ากำแพงกระจก มองไปยังบรรยากาศด้านล่าง
* 2วัน… จ้าวเทียนตอบแบบสบายๆ ตอนนี้เขากำลังมองหา คนอยู่ เขาได้จดจําใบหน้าหมาทิ้งไว้แล้ว จากข้อมูลที่ไปสืบมา
“พี่จ้าวถ้าไม่อยากบอก…ก็อย่าล้อผมเล่นเลยพี่ ” เฉินจิ้งพูด ออกไปแบบขาไม่ออก เขาฝึกหนักจนเลือดตาแทบกระเด็นกว่าจะ มีฝีมือแบบทุกวันนี้ แล้วจ้าวเทียนที่เก่งกว่าเขาจะใช้เวลาแค่2วัน ได้อย่างไร
เฉินจิ้งยังได้ลองถามจ้าวเทียนเกี่ยวกับ เทคนิคการต่อสู้แบบ ต่างๆ ซึ่งจ้าวเทียนก็ตอบได้ทั้งหมดแบบตรงประเด็น โดยที่ไม่ ต้องหยุดคิดแม้แต่น้อย ทำให้เขาได้รับประโยชน์อย่างมาก
” พวกเธอกำลังคุยเรื่องศิลปะการต่อสู้อยู่เหรอ ” กงเสี่ยวเหม ยถามขึ้นจากด้านหลัง ซึ่งเธอได้มายืนฟังอยู่ซักพักแล้ว
ตัวเธอเองก็มีความลับที่ไม่ได้บอกให้เพื่อนๆ ในกลุ่ม ครอบครัวเธอมีกิจการบางส่วนเกี่ยวกับสำนักมวยจีน และเธอ เองก็ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีเช่นกัน ทำให้เมื่อได้ยินสิ่งที่จ้าว เทียนอธิบายให้เฉินจิ้งฟัง เธอก็ได้รับประโยชน์ไปด้วย
ทั้งสามจึงดูเหมือนกับ มีเรื่องพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน แต่ความจริงแล้วนี้จ้าวเทียนเริ่มรู้สึกรำคาญนิดๆ เพราะตัวเขา กําลังหาคนอยู่ การเขาเริ่มหมดความอดทน
เหตุการณ์ทุกอย่างสายตาของสาวผมสั้น จึงแกล้งพูด ขึ้นว่า
พวกเธอสิ เตือนเสี่ยวเหมยแล้ว ว่าอย่ากับไอ
จนนั่น เดี๋ยวโดนมันหลอกเอา
สีหน้าของหยางจงเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำ เขาอุตส่าห์พยามทุก อย่าง แต่กงเสี่ยวเหมยกลับไม่สนใจ แล้วตอนเธอไปคุยกับสวะนั้นอย่างมีความสุข
“พวกดูสิ…แต่มันเข้าในห้องเอาแต่มองหาเหยื่อ ข้างล่างเกาะสีดำพูดเสริมขึ้น ทำให้ตอนซุยเหยาอับอายมาก เพราะเธอเป็นคนพาจ้าวเทียนเข้ารู้จักกับเพื่อน
เมื่อเห็นใบหน้ายิ้มแย้มของกงเสี่ยวเหมยอยู่พวก จ้าวเทียน ซุยเหยาก็ทนได้ต่อไป
“ เสี่ยวเหมยมานั่งคุยกับฉันทางนี้” ซุยเหยาร้องเสียงดัง
ตลอดเวลาเธอมองกงเสี่ยวเหมยอยู่ระดับเดียวมาตลอด เมื่อเห็นเพื่อนเธอทำตัวตกต่ำลง จึงมีความรู้สึกเหมือนตัวเอง โดนลงด้วย
* ใช่แล้วเสี่ยวเหมย…ถ้าเธออยากคุยเรื่องศิลปะการต่อสู้ก็มา คุยกับพี่หยางสิ พี่หยางเขาเป็นแชมป์เทควันโด สมัยเรียนมหา ลัยเลยนะ ” นายน้อยหลี่ช่วยพูดขึ้น เขาลุกเดินไปหาจ้าวเทียน อย่างอวดดี
“เธอจะไปถามเรื่องการต่อสู้กับคนอ่อนแอแบบนี้ได้ไง… เหยาเล่าให้ฉันฟังเมื่อกี้ว่าจ้าวเทียนมันเป็นไอกระจอกที่โดน รังแกทุกวัน ถึงขนาดเคยคุกเข่าก้มหัวให้น้องสาวเธอด้วยซ้ำ นายน้อยหลี่ พูดดูถูกจ้าวเทียนแบบไม่ไว้หน้า เขาต้องช่วยพี่ หยางจงจีบกงเสี่ยวเหมย ให้ได้
“หา…นี่จริงสิ เขาเคยคุกเข่าให้น้องสาวเธอด้วยเหรอ ทำไม ไม่เคยเล่าให้พวกฉันฟังเลย” สาวผมสั้น พูดล้อเลียนขึ้น
จ้าวเทียนมองไปที่ซุยเหยาด้วยสายตาเย็นชา เหตุการณ์ครั้ง
นั้นเป็นตอนที่เขาขอเงินไปรักษาพ่อ คนที่เห็นก็มีแต่สามแม่ลูก
ตระกูลซุยกับจางถงเท่านั้น
นี่เธอถึงเอาเรื่องนี้มาเล่าให้คนนอกฟังเพื่อมาดูถูกเขา เธอก็ เป็นแบบน้องสาวเธอสินะ ที่ชอบเหยียบย่ำคนอื่น
เมื่อเห็นสายตาเย็นชา ที่จ้าวเทียนมองมาซุยลี่เหยาก็รู้สึกผิด ในใจเล็กน้อย แต่ความรู้สึกผิดนั้นก็ถูกความกังวลเกี่ยวกับการ หมั้นลบหายไปทันที
เธอกลัวว่าพ่อเธอจะจับคู่เธอกับจ้าวเทียน เธอเลยจงใจทำตัว สนิทสนมกับนายน้อยหลี่ที่ฐานะเพียบพร้อมกว่าจ้าวเทียนหลาย เท่า เพื่อให้จ้าวเทียนรู้ตัวเองว่าไม่คู่ควร อย่าคิดคาดหวังจะได้แต่งงานกับเธอ
กึกๆ
พื้นกระเบื้องที่อยู่ใต้เท้าจ้าวเทียน เหมือนถูกกระแทกแตกออก เป็นชิ้นเล็กๆ ด้วยพลังปราณที่เปลี่ยนแปลงไปเพราะอารมณ์ โกรธเกรี้ยวของจ้าวเทียน
” พี่จ้าว…ผมรู้ว่าพี่โกรธ แต่เธอเป็นลูกสาวของลุงซุยนะ ” เฉิน จึงได้เอามือมาโอบไหล่จ้าวเทียนไว้ แล้วกระซิบบอกเบาๆ โชคดี ที่ในห้องนี้มีเสียงเพลงดังมาก อีกทั้งยังค่อนข้างมืด จึงไม่มีคน อื่นสังเกตเห็นเศษกระเบื้องบนพื้น
ใช่แล้วเธอเป็นลูกสาวของลุงซุย…
ลุงซุยเหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่ที่เหลือเพียงคนเดียวของเรา… อารมณ์ของจ้าวเทียนค่อยๆเย็นลง เขาแยกตัวออกไปยืน หลับตา พิงกำแพงตรงมุมห้องคนเดียว ไม่สนใจผู้ใด เขากลัวว่า
หากเขาทนไม่ได้จริงๆ บึ้มดเหล่านี้ตาย
ตูม!!
ประตูห้อง VIP ถูกถีบเข้ามาอย่างแรง !
คนสิบกว่าคนกรูกันเข้ามา จากนั้นก็ปิดประตูล็อคเอาไว้ สร้าง ความตกใจให้พวกที่อยู่ด้านในเป็นอันมาก จ้าวเทียนเพียงมอง ด้วยหางตา จากนั้นก็ยืนหลับตาไม่สนใจต่อ
ตอนนี้เขากำลังลอบฟังการสนทนาของห้อง VIP ด้านบนอยู่เพราะเขาได้ยินชื่อของเป้าหมายในคืนนี้หลุดออกมา
“พวกแกเป็นใครวะ” นายน้อยหถามขึ้นด้วยความโกรธ เขา ก็ค่อยข้างมีชื่อเสียง ในเมืองนี้ ไม่คิดว่าจะมีคนกล้ามาลูบคม แถมยังเกิดขึ้นในคลับแมวป่าอีก
” พี่เวีย…มันสองตัวนี่เลยที่รุมกระทืบผม ” ชายคนหนึ่งใบหน้า บวมช้า เดินออกมาชี้ตัว นายน้อยหลี่ กับหยางตง
“ แกมันไอขี้เมาที่ลวนลามผู้หญิงนี่หว่า ” นายน้อยหลี่จำได้ใน ทันที เขามองไปยังนักเลงสิบกว่าคนที่ต้องมาอย่างดุร้าย แล้วก็ รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา
“พวกแกไปทำให้มันอยู่นิ่งๆ ให้น้องข้าได้เอาคืนจนสะใจก่อน แล้วกัน” พี่เว่ยร้องสั่งขึ้น
พวกผู้หญิงในห้องกรีดร้องขึ้นด้วยความหวาดกลัว ถอยไป
หลบอยู่ตรงอีกด้านหนึ่งของห้อง เฉินจึงได้ยืนขึ้นเอาตัวบังอยู่
ข้างหน้าซุยลี่เหยาไว้
เขาไม่ค่อยชอบหน้าพวกคุณชายทั้งสองนั่นอยู่แล้วจึงไม่คิด ช่วยเหลือ หน้าที่เขาคือคุ้มกันลูกสาวลุงซุยก็พอ
สายตาเขากวาดมองไปทางข้าวเทียน ที่ยังยืนไม่สนใจใครอยู่ อีกด้านหนึ่ง แล้วก็ถอนหายใจเล็กน้อย จากการกระทำของคน พวกนี้ คงหวังให้พี่จ้าวช่วยเหลือได้ยาก
พวกนายต้องการเงินเท่าไหร่ละ พวกฉันจะจ่ายให้ จะได้ไม่ ต้องมีความบาดหมางกัน ฉันขอบอกไว้ก่อนนะ ในเมืองนี้พวกฉันก็ค่อนข้างมีอำนาจนะ ” หยางจงพูดขึ้นด้วยความถือดีเล็กน้อย
* ใช่แล้ว…พวกเราจะจ่ายเงินให้ อย่าผิดใจกันด้วยเรื่องแค่นี้ เลย” นายน้อยหลี่ช่วยเสริมขึ้น ขอแค่เขากลับไปได้อย่าง ปลอดภัย จะให้พ่อเขาจัดการพวกมันแน่
“หนวกหู…วันนี้พวกแกต้องโดนกระทืบก่อน เรื่องอื่นค่อยว่า กัน” พี่เว่ยพูดขึ้นด้วยสีหน้าชั่วร้าย เขาเจอมาเยอะแล้วไอพวกลูก คนรวย ปากพูดอย่างแต่ในสมองคิดอีกอย่าง
มีแต่ต้องสั่งสอนให้มันหลาบ มันจะได้ไม่กล้ามาแก้แค้นอีก
* หยุดนะ!…ถ้าพวกแกไม่ออกไปฉันจะแจ้งตำรวจ ” ซุยลี่เหยา พูดขึ้นเสียงดัง มือเธอถือ โทรศัพท์เอาไว้ เมื่อมีเฉินจิ้งปกป้องอยู่ เธอก็เกิดความกล้าขึ้นมาทันที พ่อเธอเคยบอกว่าเฉินจิ้งเคยฝึก อยู่กับหน่วยรบพิเศษเป็นคนพึ่งพาได้
เฉินจิ้งที่ได้ยินซุยลี่เหยาพูด ก็เอามือตบไปที่หน้าผากทันที แม้แต่ตัวเขายังคิดได้ว่าถ้าพวกมันถึงขนาดพาคนบุกเข้ามาใน คลับไอโซชั้นสูงได้ โดยไม่มีใครมาห้าม แสดงว่าต้องมีคนหนุน หลังแน่นอน จะกลัวตำรวจได้อย่างไร
” ฮา ฮา ฮา ข่าวะ…นี่พวกเธอมาที่นี่โดยไม่รู้อะไรเลยเหรอ สถานที่นี้มีไว้เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับธุรกิจสีเทา เธอคิด ว่าเขาจะยอมให้ตำรวจมายุ่งเหรอ”
“ฉันจะบอกเธอไว้นะน้องสาว…ขอแค่ไม่มีใครตายในนี้ตำรวจ ก็ได้แต่หลับตาข้างหนึ่งตลอดแหละ ” พี่เว่ยหัวเราะออกมาเมื่อ ได้ยินคำพูดของซุยลี่เหยา
” ตอนแรกก็ว่าจะไม่สนใจพวกเธอแล้วล่ะ…แต่ในเมื่อเธอ เสนอตัวมาให้เองแบบนี้ สงสัยฉันต้องตั้งตัวเธอกับเพื่อนไว้ทั้งคืน แล้ว” พี่เว่ยพูดขึ้นด้วยสีหน้าลามก พวกลูกน้องที่อยู่ข้างหลัง ร้อง เฮกันอย่างสนุกสนาน สาวๆพวกนี้สวยกันทุกคน พวกเขาคงจะมี ส่วนแบ่งบ้าง
จัดการไอสองตัวนี้ก่อน ” สิ้นเสียง ชายสิบกว่าคนก็รุมเข้าใส่ พวกนายน้อยหลีทันที แต่ทั้งคู่ต่างได้เรียนการต่อสู้มาบ้าง โดย เฉพาะหยางจง เขาคนเดียวสามารถรับมือนักเลงได้สี่คนทำให้ พอต้านทานได้บ้าง
” เฉินจิ้ง เธอไปช่วยพวกเขาก่อนเลยไม่ต้องห่วงฉัน ” ซุยลี่ เหยาเธอวิเคราะห์สถานการณ์ดูแล้ว ถ้าเฉินจิ้งลงมืออีกคนอาจจะ ชนะได้ แต่ถ้ายืนดูพวกนายน้อยหลล้มลงไป สุดท้ายพวกเธอก็ ต้องสู้อยู่ดี
เฉินจิ้งมีท่าทีอึดอัดเล็กน้อย ที่เขายังไม่ลงมือ เพราะเขาสัมผัส ได้ว่าชายที่ยืนอยู่ด้านหลังหัวหน้านักเลงนั้น มีออร่าที่น่ากลัวมาก เขาจึงต้องรอจังหวะดีๆ อีกอย่างในห้องนี้ยังมีพี่จ้าวอยู่ ยังไงเขา กับซุยลี่เหยาก็คงไม่เป็นไร
“ นายจําไม่ได้เหรอไง พ่อฉันบอกว่าให้นายเชื่อฟังฉันตอนมา ทีนี่ย เหยา ตกดดันขึ้น
เฮ้ออ…
เฉินจิ้งได้ถอนหายใจออกมา พร้อมกับคิดในใจ
* บัดซบ…ฉันไม่น่าบอกเธอให้พาฉันมาเที่ยวที่นี่เลย
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ