บทที่3 พิษเก้าหยิน
” พอแค่นั้นแหละ!”
เสียงชายชราดังขึ้น
คนกลุ่มหนึ่งเดินออกมาจากทางห้องโถงด้านหลัง โดยมีชาย ชราอายุประมาณ 60 ปีสวมชุดจีนคอปกสีดำเดินออกมา ด้าน ข้างมีชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีใบหน้าคล้ายกับลู่ไป แต่ดูเป็นผู้ใหญ่ กว่า เขาเดินตามออกมาด้วยสีหน้าบูดบึง
* จ้าวเทียนนายเป็นยังไงบ้าง ” เฟยที่เดินตามหลังชายชรา อยู่ ก็ได้วิ่งมาหาจ้าวเทียนทันทีด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นจ้าว เทียนไม่ได้รับบาดเจ็บเธอก็หันไปหาลู่ไปทันที
“นายกล้ารังแกเพื่อนฉัน ในร้านของฉันเหรอ” เธอพูดขึ้น ด้วยน้ำเสียงเอาเรื่อง แต่เมื่อมองเห็นแก้มที่บวมบูดของลู่ไป ก็ หลุดขำออกมาเล็กน้อย
“ หนอย…ยัยนี่!” ลู่ไปกัดฟันด้วยความอาย เขายกมือขึ้นจะ
ตบ เฟย
“หยุด!…ยังอับอายไม่พออีกเหรอ ” ชายหนุ่มที่อยู่ข้างชาย ชราร้องห้ามด้วยความโกรธ เขาเดินเข้ามาดูอาการของน้องชาย และถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ชายหนุ่มคนนี้คือลู่เหยียน เป็นลูกชายคนโตตระกูลลู่ ดูแล ธุรกิจทั้งหมดของตระกูล ในด้านยาจีน วันนี้ที่มาพบผู้เฒ่าหยางปู่ของเฟย เพื่อที่จะคุยถึงความร่วมมือในอนาคต และเสนอ เงื่อนไขบางอย่าง
หลังจากที่เขาได้ฟังเรื่องราวจากน้องชาย ก็ได้เดินมาหยุดตรง หน้าจ้าวเทียน
แววตาเย็นชามองไปที่จ้าวเทียนด้วยท่าที่คุกคาม แล้วพูดขึ้น “นายกล้าลงมือกับน้องชายฉัน นี่คิดถึงผลของมันหรือป่าว
จ้าวเทียนไม่ได้ตอบอะไร เขายังคงยืนมองกลับไปอย่าง เฉยชา ไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัว
“ดี…หวังว่าแกคงไม่เสียใจ ” ลู่เหยียนพูดเสร็จก็พาพวกลู่ไป # เดินไปหาปู่ของลี่เฟย
*ท่านลี่ ผมต้องขออภัยในความไร้มารยาทของน้องชายด้วย”
เขาพาน้องชายมาก้มหัวขอโทษชายชรา
“ไม่เป็นไรหรอก เรื่องทะเลาะของคนหนุ่มสาวฉันไม่ถือสา หรอก” ปู่ของลี่เฟยตอบด้วยท่าทีสบายๆ
” งั้นผมคงต้องขอตัวก่อน ” ลู่เหยียนพูดขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะพา คนของเขาออกจากร้าน เพียงแต่ตอนที่เดินผ่านลี่เฟยนั้น เขา หยุดมองเธอด้วยท่าทีสนใจครู่หนึ่งก่อนไป
“ หลานพาเพื่อนไปคุยกันด้านในเถอะ ” ชายชราพูดกับเฟย ก่อนจะเดินเข้าไปด้านในร้าน
ด้านนอกร้านสมุนไพรตระกูล
” พี่ใหญ่ต้องล้างแค้นให้ผมนะพี่ ” ลู่ไปพูดขึ้นด้วยความโกรธ แค้น
ฉันรู้แล้ว…ฉันไม่ปล่อยให้คนที่มาลูบคมตระกูลลูมีชีวิตอยู่ สบายหรอก ” ลู่เหยียนเอ่ยตอบ พวกเขาเดินขึ้นไปนั่งบนรถหรูที่ จอดรอรับอยู่
“ฟังฉันนะ นายจะจัดการจ้าวเทียนยังไงก็ได้ แต่อย่าให้ถึง ตาย ดีที่สุดคือ ให้ไอโง่จางลงเป็นคนลงมือเอง ” ลู่เหยียนสั่งน้อง ชาย ตอนที่เขาเดินออกมาพร้อมกับผู้เฒ่า เป็นตอนที่บอดี้ การ์ดจะล้วงปืนออกมาพอดี
“ทำไมละครับพี่ใหญ่ ในเมืองนี้ยังจะมีคนปกป้องมันอีกเหรอ “ลู่ไปถามขึ้นด้วยความสงสัย
ฉันบอกไม่ได้…นี่เป็นความลับสุดยอดที่รู้กันเพียงไม่กี่คน
“ นายจำไว้เพียงอย่างเดียว ในเมืองนี้ตระกูลไหนเป็นคน ลงมือฆ่าจ้าวเทียนกับน้องสาว ก็จะลงนรกตามพวกมันไปด้วย ” ลู่เหยียนพูดขึ้นด้วยสีหน้าลึกลับ เขานึกไปถึงความลับที่พ่อบอก เขา วันที่ครอบครัวของจ้าวเทียนล้มละลาย
” เอ่อ…แล้วผมต้องทำยังไง ” ลู่ไปถามขึ้น
“นี่มันง่ายมาก…นายแค่ไปบอกจางลงว่าตระกูลลี่จะช่วย เหลือจ้าวเทียนก็พอ ” ลู่เหยียนยิ้มขึ้นอย่างชั่วร้าย ” หลังจากนั้น พวกเราก็รอดูเรื่องสนุก ”
“ได้เลยพี่ใหญ่ ผมกลับบ้านไปจะติดต่อจางลงทันที “ลู่ไป พูดขึ้น เขาแทบรอไม่ไหวแล้ว
ดีที่สุดคือไอโง่จางลงมันเป็นคนฆ่าจ้าวเทียนเอง พวกเราได้ ถือโอกาสกำจัดตระกูลจางออกไปด้วยเลย เมืองนี้จะได้เป็นของ ตระกูลเรา ” ลู่เหยียนพูดขึ้นด้วยความคาดหวัง
ห้องโถงด้านในตระกูล
“คุณปู่นี่เพื่อนหนูเอง จ้าวเทียน ” เฟยแนะนำตัวจ้าวเทียน กับปของเธอ
บนโต๊ะน้ำชา ผู้เฒ่าตระกูลลี่กำลังนั่งจิบน้ำชาอยู่ด้านข้าง หลานสาว ด้วยท่าทีสงบ สายตาของท่านกำลังพิจารณาจ้าว เทียนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ทางด้านหลังของชายชรานั้นมีบอดี้ การ์ดมือดียืนอยู่สองคน
“ฮ่า ฮา หลานสาวฉันเล่าเรื่องเธอให้ฟังเยอะแยะไปหมด นับว่าเป็นเด็กหนุ่มที่เก่งจริงๆ จากที่หลานสาวฉันบอกมา เธอ คงจะฝึกฝนถึงขั้นนักสู้ระดับ แล้วใช่ไหม ” ชายชราพูดขึ้นอย่าง อารมณ์ดี
” สวัสดีครับท่าน ” จ้าวเทียนทำความเคารพด้วยท่าทีสุภาพ นี่คงเป็นปู่ของลี่เฟย ที่เป็นคนฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ให้เธอตั้งแต่ เด็ก ทั้งยังเป็นผู้ที่สร้างกิจการทุกอย่างมาจากสองมือของท่าน เองโดยไม่พึ่งพาผู้ใด เขาจึงอดไม่ได้ให้รู้สึกเคารพนับถือชาย ชราคนนี้
“ เธอเรียกฉันว่าปูลี่ก็ได้…ฉันไม่ถือหรอก ” เนื่องจากเขารักและเอ็นดูหลานสาวมาก จึงเผื่อแผ่ไปยังเพื่อนสนิทของหลานสาว ด้วย
แววตาเฉียบคมของจ้าวเทียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อมองไปที่ อกด้านขวาของชายชรา เหมือนสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง แต่ เขาก็เลือกที่จะไม่พูดอะไร
แต่การกระทำเล็กน้อยนั้น ไม่อาจรอดพ้นจากสายตาของชาย
ชราไปได้
“หนุ่มน้อยเธอเห็นอะไรงั้นเหรอ ” ชายชราถามขึ้น แววตาเริ่ม เปลี่ยนไป
จ้าวเทียนเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่จะมองไปที่ใบหน้าของเฟย ด้วยความลังเล
“ไม่ต้องห่วง เธอพูดออกมาเถอะ” ของเฟยพูดขึ้นด้วยน้ำ
เสียงจริงจัง
“เกิดอะไรขึ้น…นายเห็นอะไร ” เฟยถามด้วยความสงสัย เธอสับสนเล็กน้อย
” ปลี่เคยได้รับบาดเจ็บ ที่อกด้านขวาใช่ไหมครับ ” จ้าวเทียน ถามขึ้น
สีหน้าของปูลี่แปลกไปเล็กน้อย ” เธอมองออกด้วยเหรอ เป็น แผลเก่าเมื่อสิบปีก่อนน่ะ ”
ออนนายรู้ด้วยเหรอ อย่าบอกนะว่านายมีความรู้เกี่ยวกับ แพทย์แผนจีนด้วย แต่ไม่ต้องห่วงหรอก อาการบาดเจ็บของฉันใกล้จะหายดีแล้ว ” ลี่เฟยพูดด้วยน้ำเสียงแปลกใจเล็กน้อย นี่เพื่อนเธอไปทำอะไรมาเนี่ย ทำไมถึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้
แค่เพียงการมองอย่างเดียวก็รู้ถึงอาการบาดเจ็บของเธอได้ แม้แต่หมอเก่งๆ ยังทำไม่ได้เลย จ้าวเทียนนิ่งไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของเฟย แต่เขาก็
ตัดสินใจพูดต่อ
“ พักนี้อาการของปู่ลี่กำเริบขึ้นบ่อยๆ ใช่ไหมครับ นั่นแสดง ว่าอาการบาดเจ็บของท่านนั้นมันกำลังทรุดหนักลงเรื่อยๆ หาก เป็นแบบนี้ต่อไป…
!!
* นายหมายความว่ายังไง…อาการบาดเจ็บของฉันกำลังจะ หายแล้วนี่ ” ลี่เฟยพูดออกมาด้วยความตกใจ เธอหันกลับไปหา ของเธอด้วยสีหน้ากังวล
เฮอ…
เสียงถอนหายใจของชายชราดังขึ้น ท่านมองดูหลานสาวด้วย ความอ่อนโยน เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ท่านปกปิดหลานสาวเอาไว้ เพราะไม่อยากให้เธอเป็นห่วง
ลี่เฟยนั้นแม้จะมีนิสัยโผงผางไปบ้าง แต่เธอก็ไม่ใช่คนโง่ เมื่อ เห็นท่าทีของเธอก็เข้าใจได้ทันที ว่าสิ่งที่จ้าวเทียนบอกนั้นเป็น ความจริง
“จ้าวเทียนนายบอกมา อาการของฉันเลวร้ายขนาดไหน “เธอหันไปถามหาคำตอบจากข้าวเทียน
“ช้าที่สุดหนึ่งเดือน อวัยวะสำคัญจะถูกทำลาย ถึงตอนนั้นก็ หมดทางรักษาแล้ว”
“ไม่นะ…มันไม่จริง ” เฟยหันไปมองเธอด้วยความเสียใจ น้ำตาเธอไหลออกมาเป็นสาย ซึ่งก็มองเธอกลับด้วยสายตา ปลอบโยน ท่านยกมือขึ้นมาลูบหัวหลานสาวด้วยความรัก
หรือที่เหยียนมาหา ก็เกี่ยวกับเรื่องนี้ ” เฟยนึกขึ้นได้ เหมือนจะได้ยินลู่เหยียนเสนอเงื่อนไขอะไรบางอย่าง แต่ของ เธอปฏิเสธไป
ท่านปู่ลี่ได้ถอนหายใจอีกครั้ง แล้วพูดขึ้น
” เด็กตระกูลมาเสนอเงื่อนไข ในการมอบเม็ดยาล้ำค่า ที่จะ ช่วยยื้อชีวิตของปูไปอีกสิบปี แลกกับหุ้น20%ของกิจการตระกูล ลี่ทั้งหมด
” เราก็ตอบตกลงไปสิค่ะ….ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าชีวิตท่าน อีกแล้ว” ลี่เฟยพูดขึ้นด้วยสีหน้าโล่งใจ หุ้นเพียง20%หากช่วย ชีวิตท่านได้มันก็คุ้มมาก
“ นั้นเป็นเพียงเงื่อนไขข้อแรก ” ปลี่พูดออกมาเบา ท่านถอน หายใจก่อนจะพูดต่อ
* เงื่อนไขข้อสุดท้ายคือ หลานต้องแต่งงานกับลู่เหยียน ”
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบทันที
แววตาจ้าวเทียนเปลี่ยนเป็นเย็นชา เขายังจำได้ดี ในอดีต เฟยเคยไปช่วยเหลือเพื่อนสาวคนหนึ่งที่ถูกเหยี่ยนใช้กำลัง บังคับพาตัวไปจากห้องเรียน
เหตุการณ์ครั้งนั้น พวกลู่เหยียนโดนลี่เฟยซึ่งเป็นผู้หญิงจัดการ จนน่วมไปทั้งตัว เรื่องนี้ได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว สร้าง ความอับอายให้ตระกูลเป็นอย่างมาก จนเกิดเป็นความแค้นกัน ขึ้น
หากลี่เฟยต้องแต่งเข้าตระกูลไป ชีวิตหลังจากนั้นคง…
* ไม่ต้องห่วง…ปูตอบปฏิเสธไปแล้ว ”
” ไม่มีทางให้หลานต้องมีชีวิตที่ทุกข์ทรมานเพราะปู่หรอก ”
ปลี่พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง ท่านยกมือห้ามเฟยที่เหมือนจะ พูดอะไรบางอย่างออกมา
“ ท่านปู่ลี่ก่อนที่จะได้รับอาการบาดเจ็บ เคยอยู่ในระดับผู้ เชี่ยวชาญใช่ไหมคับ” จ้าวเทียนถามขึ้น
!!
“ เธอรู้ได้อย่างไร ” ปู่ลี่ถามด้วยความแปลกใจ เพราะผู้ที่อยู่ ในระดับนักรบไม่น่าจะมองเห็นระดับพลังในอดีตของท่านได้ ต่อ ให้มีความรู้เรื่องแพทย์จีนก็ตามที
อาการบาดเจ็บที่ท่านได้รับ คงจะมาจากวิชามือพิษเก้าหยินพิษที่เยือกเย็นชั่วร้ายจะไปเกาะกินอวัยวะสำคัญ ทำให้ท่านต้อง คอยใช้ลมปราณต่อต้านมาตลอดสิบปี
สีหน้าปลี่เปลี่ยนเป็นตกใจ ท่านพูดออกมาด้วยความหวัง
“เธอ…หรือว่า ”
* ใช่ครับ…ผมสามารถรักษาท่านได้
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ