จักรพรรดิเซียนตกสวรรค์

บทที่ 8 คุณทำได้อย่างไร



บทที่ 8 คุณทำได้อย่างไร

หยางหัวและคนอื่น ๆ เองก็มักจะติดตามจางจื่อเข้ามาเที่ยวเล่นที่ นี่ ดังนั้นพวกเขาก็พอมีฝีมือเลือกมาเช่นกัน

เมื่อเห็นม้าที่จางจื่อเช้าเลือก พวกเขาพยักหน้าและชมเชย ทันที “พี่เค้ายังคงเก่งกาจ ม้าสีเหลืองน้ำตาลเป็นม้าที่ระเบิดพลัง ได้มากที่สุดในที่แห่งนี้ เหมาะสำหรับการแข่งขันระยะสั้น พี่เค้า จะต้องชนะแน่นอน!!

จางจื่อเท้าเชิดจมูกขึ้นและมองไปที่หลินหยุนด้วยความภาค ภูมิใจ “ไง ถึงตานายเลือกแล้ว!”

หลินหยุนอยากจะโจมตีความหยิ่งผยองของจางจื่อเท้าให้ หนักๆ สักที จู่ๆ เขาก็พูดกับอันซินด้วยรอยยิ้มว่า “อันซิน เธอสุ่ม เลือกมาให้ฉันก็พอ

“หา…ให้ฉันเลือกหรือ? ฉันเลือกไม่เป็น!” อันซินไปที่จมูก เล็กน่ารักของตัวเองอย่างประหลาดใจ

“ไม่เป็นไร เลือกมาสักตัวก็พอ!” หลินหยุนกล่าวอย่างมั่นใจ

“ก็ได้!” อันซินรู้สึกได้ถึงความมั่นใจของหลินหยุน ดังนั้นจึง ตอบรับเขา

เมื่อเห็นว่าหลินหยุนขอให้อันในเลือกมาให้เหล่าเพื่อนร่วม โรงเรียนเหล่านั้นก็เผยรอยยิ้มเย้ยหยัน
“ดูเหมือนว่าไอ้แมงดาหยุนจะเลือกมาไม่เป็นตั้งแต่แรก แต่ว่า เขาหาคนผิดแล้ว อันซินก็ไม่ได้เก่งไปกว่าเขาเท่าไหร่! ”

“ฮ่าฮ่า ไอ้แมงดาหยุนจะต้องแพ้แน่นอน พวกเรารอดูละครดีๆ เถอะ!” หยางหัวมีสีหน้าสะใจ

อันซินเดินไปที่กลุ่มม้า จากนั้นจึงมองดูตัวนั้นตัวนี้ ในสายตา เธอทุกตัวก็เหมือนกันหมด เธอไม่รู้สักนิดว่าจะเลือกตัวไหนดี

หญิงวัยกลางคนขมวดคิ้วและพูด “เด็กหนุ่มคนนี้ออกจะ ประมาทเกินไปหน่อยมั้ง ถึงกับให้เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ เลือกมาให้ เขา? ฉันดูแล้วเด็กสาวนั่นไม่รู้เรื่องม้าเลยสักนิด!”

“ในสมัยโบราณขุนศึกเกิดขึ้นหลังจุดไฟสัญญาณ จอมทัพ โกรธเพื่อโฉมงาม ที่ฉันเดาว่าเด็กชายรู้อยู่แล้วว่าเขากำลังจะแพ้ ดังนั้นเขาจึงหาทางทำให้เด็กหญิงตัวน้อยนั่นพึงพอใจ

“เด็กคนนี้ เป็นพวกคลั่งรัก! ชายคนนั้นส่ายหัวและกล่าวด้วย รอยยิ้ม แต่สายตาที่มองไปยังหลินหยุนนั้นดูถูกเหยียดหยามอยู่

บ้าง

อันซินเห็นม้าสีแดงพุทราที่ค่อนข้างสูงและแข็งแรง “แกแล้ว กัน ตัวใหญ่ขนาดนี้ คงวิ่งเร็วมาก!”

เมื่ออันซีนให้พนักงานนำม้าของเธอออกมาสู่สาธารณะ จาง จื่อเท้าและคนอื่น ๆ ก็หัวเราะออกมา

จางจื่อเห้ามองไปที่อันซินอย่างถือดี สีหน้าปรากฏแววละโมบ เขายิ้มอย่างมีเลศนัยและเอ่ย “อันซิน ที่แท้ในใจเธอก็มีฉันอยู่เธออยากให้ฉันชนะ ก็ว่ามาตามตรงก็ได้นี่ ไม่เห็นจะต้องเลือกมา ไร้ประโยชน์ให้เขา

“ม้าไร้ประโยชน์?” อันซินหันไปมองที่ม้าสีแดงพุทรา “ม้าที่สูง และแข็งแรงแบบนี้ จะเป็นม้าพิการได้ยังไง?

“เธอเคยเห็นหมูวิ่งเร็วรึเปล่าล่ะ?” จางจื่อเท้าหัวเราะเสียงดัง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความประชดประชัน

หยางหัวและคนอื่น ๆ ก็เริ่มล้อเลียนอันซีน “นั่นสิ หมูทุกตัวก็ อ้วนและแข็งแรง อันชิ้นทำไมเธอไม่เลือกหัวหมูให้หลินหยุนไป ลยล่ะ!”

“แต่ว่ามาพิการนี้ก็เข้ากับไอ้แมงดาหยุนดีไม่เลว!”

“ฮ่าฮ่า! ใช่ เป็นคู่ที่สมบูรณ์แบบ! “

ชายและหญิงวัยกลางคนยังแอบส่ายหัว “สาวน้อยคนนี้ไม่มี ความรู้อย่างสิ้นเชิง! เด็กคนนั้นแพ้แน่แล้ว!”

หลังจากฟังคำอธิบายของหลาย ๆ คนแล้ว อันซินก็เข้าใจ ความผิดพลาดของตนทันที เธอมองไปที่หลินหยุนอย่างเศร้า ๆ และเอ่ยด้วยความคับข้องใจ “ขอโทษด้วยนะหลินหยุน ฉันเลือก ม้าที่ไร้ประโยชน์ให้นาย!

หลินหยุนลูบผมของอันซินและเอ่ยด้วยรอยยิ้มจาง ๆ อย่าไป คำพูดไร้สาระของพวกเขา ม้าที่เธอเลือกนั้นยอดเยี่ยม สามารถ ชนะพวกเขาได้แน่นอน!

“ถึงเวลานั้นพวกเขาจะได้รู้ว่าม้าของใครกันแน่ที่ไร้ประโยชน์
“จริงๆ หรือ?” ดวงตาของอันซินเปล่งประกายขึ้นมา “ที่นาย ไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้นเพื่อปลอบใจฉันใช่ไหม?”

หลินหยุนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เธอรอดูแล้วกัน!

หลินหยุนนำม้าสีแดงพุทรามายืนเคียงข้างกับจางจื่อเห้า “เริ่ม ได้รึยัง?”

“ในเมื่อนายรีบแพ้ขนาดนี้ พวกเราก็ข้ามขั้นตอนต่อไปกัน เถอะ เริ่มแข่งได้!” จางจื่อเค้าพูดอย่างหยิ่งผยอง

“อย่างนั้นก็เริ่มเถอะ!” หลินหยุนเอ่ยเรียบๆ

ทั้งสองคนไปยังสนามแข่ง เมื่อผู้ตัดสินเป่านกหวีด จางจื่อเท้า ก็ขี่ม้าสีน้ำตาลรีบนำออกไปก่อนแล้ว

“ดี!” หยางหัวและคนอื่น ๆ ส่งเสียงเชียร์ดังลั่น ทักษะการขี่ม้า

ของจางจื่อเท้านั้นยอดเยี่ยมจริงๆ

หลินหยุนกลับไม่รีบไม่ร้อน เขาปล่อยให้ร่างของม้าสีแดงพุ ทราค่อยๆ ก้าวไปข้างหน้าทีละก้าวช้าๆ

“ฮ่าฮ่า ไอ้แมงดาหยุนแต่เดิมก็ขี่ม้าไม่เป็นพี่เค้าชนะแน่! หยางหัวเอยอย่างมั่นใจ

อันนกุมมือแน่นและพูดอย่างกระวนกระวาย “พี่หลินหยุ นทำไมถึงยังไม่ไปอีก ที่เขาทำไหนเลยจะเรียกว่าแข่งม้า นี่เรียก ว่ากำลังเดินเล่นชัดๆ!”

คู่สามีภรรยาวัยกลางคนดูประหลาดใจ พวกเขาไม่เข้าใจว่าหลินหยุนกำลังทำอะไรอยู่ ถึงจะแพ้ อย่างน้อยก็ต้องทำให้ดีที่สุด แพ้อย่างสมศักดิ์ศรี

“เด็กคนนี้ ช่างเป็นพวกขี้ขลาดจริงๆ ไม่แปลกใจที่คนอื่นจะ เรียกเขาว่าไอ้ขี้แพ้! ” ผู้หญิงคนนั้นมีสีหน้าเหยียดหยาม พริบตา จางจื่อเช้าก็วิ่งไปได้สามในสี่ ปลายทางของเขาอยู่แค่

เพียงตรงหน้า แต่หลินหยุนกลับยังคงควบม้าสีแดงพุทราไป

อย่างช้าๆ

“หลินหยุน สู้ๆ!” อันซีนร้องตะโกนออกมาเสียงดัง

“ได้!” หลินหยุนตอบรับ จากนั้นก็กุมบังเหียน ม้าสีแดงพุทรา คำรามขึ้น จากนั้นจึงพุ่งตัวออกไป

จางจื่อเค้าได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวและหันกลับมาเหลือบ มองดู เขายิ้มสะใจ “ไอ้คนขี้แพ้ ตอนนี้ถึงค่อยไล่ตามมา สายไป แล้ว แกแพ้แล้ว!”

จู่ๆ หลินหยุนก็ยกสองนิ้วขึ้นเป่านกหวีดออกมาจากปาก

“มาแล้ว ใกล้จะถึงแล้ว ชัยชนะเป็นของฉัน!” จางจื่อเช้าที่ กำลังจะถึงเส้นชัยจู่ๆ ก็พบว่ามาที่เขานั่งอยู่นั้นไม่ยอมเคลื่อนไหว

“ต๊ะ!”

ไม่ว่าจางจื่อเท้าจะสั่งการยังไงหรือแม้กระทั่งมันด้วยแส้ม้า ตัวนั้นกลับยืดอยู่บนพื้น ไม่ยอมขยับแม้แต่ก้าวเดียว

“น่าแปลก ทำไมจู่ๆ พี่เข้าถึงไม่ยอมขยับ” มีคนถามด้วยความสงสัย

หยางหัวเอ่ยอย่างสะใจ “พี่เค้าจะต้องจงใจหยุดลงเพื่อรอดู เรื่องตลกของหลินหยุนแน่ ไม่ต้องกังวล!

ตอนนี้จางจื่อเท้ากำลังสาปแช่งออกมานับครั้งไม่ถ้วน “ไปสิวะ ไอ้ม้าเวรเป็นอะไรไปวะเนี่ย!!

รีบไปสิ!”

เมื่อเห็นว่าหลินหยุนกำลังไล่ตามมาแล้ว ก็มีคนพบว่ามีบาง อย่างผิดปกติ “อะไรกัน? หลินหยุนกำลังจะตามทันแล้ว ทำไมพี่ เท้ายังไม่ไป?”

หยางหัวเองก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติและร้องออกมาเสียง ดัง “พี่เท้า หลินหยุนกำลังตามทันแล้ว!”

หยางหัวยังคงคิดว่าจางจื่อเท้าประมาทไปชั่วขณะ

จางจื่อเห้ามองไปที่หลินหยุนที่เข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ เขา แทบอยากจะร้องไห้ “ฉันก็อยากจะไป แต่ถ้ามันไม่ยอมขยับ!”

หากการแข่งขันนี่คือการวิ่งแทนการขี่ม้า จางจื่อเช้าก็แทบ อยากจะลงไปวิ่งให้รู้แล้วรู้รอด

คู่สามีภรรยาวัยกลางคนก็มีสีหน้าประหลาดใจเช่นกัน หญิง สาวเอ่ยอย่างสงสัย “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมฉันรู้สึกว่ามีอะไรผิด ปกติกับม้าของเด็กคนนั้น?”

ชายที่อยู่ข้างๆ เขาพยักหน้า “เสียงเป่านกหวีดเมื่อกี้ ถ้าฉันเดาไม่ผิด น่าจะเป็นคำสั่งให้ที่มีต่อม้าสีน้ำตาล”

“ไม่น่าแปลกใจที่เด็กคนนั้นเลือกมาไร้ประโยชน์แต่ยังดูมั่นอก มั่นใจ คิดไม่ถึงว่าเขาจะมีไม้นี้อยู่! ” ชายคนนั้นมองไปที่หลินหยุ นด้วยความสนใจ

ผู้หญิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “หี นี่ถือเป็นการโกง!”

“ภาษาสัตว์ก็เป็นความสามารถอย่างหนึ่ง เป็นความ แข็งแกร่ง!” ชายคนนั้นกล่าวด้วยรอยยิ้ม

จางจื่อเห้าเฝ้าดูหลินหยุนที่ตามติดเขาเข้ามา จากนั้นก็ค่อยๆ

เดินผ่านหน้าเขาไปอย่างช้าๆ แล้วเดินเข้าเส้นชัยไปในที่สุด

“เย้!” อันซินดีใจจนใบหน้าเล็ก ๆ เปลี่ยนเป็นสีแดงขึ้นมา หลังจากที่หลินหยุนถึงเส้นชัย ทันใดนั้นมาของจางจื่อเช้าก็ กลับมาเชื่อฟังอีกครั้ง จนทำให้จางจื่อเค้าก็โมโหจนแทบจะ กระอักเป็นเลือด

หลินหยุนกลับมายังข้างๆ อันซิน สู่อันซินเอ่ยอย่างตื่นเต้น “พี่ หลิน คุณเยี่ยมมาก!”

พูดจบ อันซินกามเสียงเบา “คุณทำได้อย่างไร?” หลินหยุนเอ่ยเบาๆ “ฉันเคยเรียนภาษาม้า ม้าตัวนั้นฟังฉัน

“ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง! ” อันซินมองไปที่หลินหยุนด้วยท่าที เลื่อมใส ดวงตาเปล่งประกายระยิบระยับ

“นายแพ้แล้ว!” เมื่อเห็นจางจื่อเห้ากลับมานอกสนาม หลินหยุนก็เอ่ยเรียบๆ

ใบหน้าของจางจื่อเท้าน่าเกลียดอย่างยิ่ง เขาแค่นเสียงเย็น “แกขี้โกง เกมนี้ไม่นับ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ