รักหมดใจยัยแม่มด

บทที่2 พักเที่ยง



บทที่2 พักเที่ยง

“ว้าว ยอดเลย”

ฉันมองเข้าไปในดวงตาของรามิลอืม……จริงใจ รักเพื่อน ซื่อๆ ไว้ใจได้สินะเขาทำตาลุกวาว

“เธอพอจะเป็นเพื่อนกับฉันได้มั้ย”

ฉันยิ้มอ่อนๆ”ได้สิ”ก็ดีเหมือนกันมีเพื่อนหน้าตาดีเพิ่มขึ้นอีกหนึ่ง อัตตราผู้ชายในห้องที่เห็นฉันยิ้มก็ร้องเหมือนคนเป็นบ้าไปซะ หมด

“อ๊ากน่ารักชะมัดยิ้มกระชากใจ”

“แม่ของลูกเค้าเลย”

“ชีวิตนี้ใช้คุ้มแล้ว”

“โอ้ย อยากได้ชะมัด”

เหอะน่ารำคาญสิ้นดี

ตบ!!
“นั่งที่”เสียงของอาจารย์คนหนึ่งพูดขึ้นอายุประมาณ48ได้มั้งทุก คนดูกลัวหล่อนมากแค่ชั่วพริบตาเดียวทุกคนก็นั่งที่เรียบร้อยหมด แล้วอยู่ๆก็ได้ยินเสียงของเซโร่น้ำหนักเสียงไม่ดังไม่เบาพอได้ยิน แค่2คน มาวันแรกก็โปรยเสน่ห์เลยนะไม่เบาจริงๆ ก็คนมันสวยอะ โว้ยอยู่เฉยๆก็สวยและมีเสน่ห์อยู่แล้ว

ทำไมหวั่นไหวกับฉันหรอ” ”

เขาทําท่าทางสบายๆ

“หีคนอย่างเธออะหรอให้แก้ผ้าต่อหน้าฉันฉันก็ไม่หวั่นไหว หรอก”

หนอยไอ้บ้านี่

“นายกล้าว่าฉันหรอ”

เขาทำหน้ากวนตีนแล้วเหมือนคิดอะไรบางอย่าง

คุณครูที่สอนอยู่ถามคำถามขึ้น”มีใครทำโจทย์ข้อนี้ได้มั้ยหาก ใครทำได้ครูจะบวกคะแนนให้ทั้งคู่บัดดี้”ทั้งห้องเงียบสนิทฉันที่ เอาแต่โมโหไอ้บ้าข้างๆจึงไม่ได้ฟังที่ครูพูดเซโร่หันมายิ้มทางฉัน
โอ้ยทำไมยิ้มละลายขนาดนี้วะเนี้ย

“ยิ้มไรของนาย”

“มีไรสนุกๆเล่นแล้วนะสิ”

“หื้ม”ฉันทำท่างง

“ครูครับลิเลียน่าทำได้ครับ”

ทันทีที่เซโร่พูดจบทุกคนในห้องหันมามองทางฉันเป็นตาเดียว ฉันที่หันไปมองโจทย์บนกระดานด้วยสายตาแม่มดอย่างฉันมอง แวบแรกก็คิดออกแล้วละคุณครูเอ่ยขึ้น

“เชิญ”

ฉันหันไปมองคนข้างๆ

“ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้เฮงซวย”

ฉันเดินไปหน้าห้องแล้วยิ้มมุมปากง่ายเหมือนนับเลขเลยแฮะฉัน ใช้เวลาเพียง3นาทีก็เขียนวิธีการหาคำตอบเสร็จเรียบร้อยคุณครู เดินเข้ามาตรวจคำตอบแล้วยิ้มมาทางฉันพร้อมกับพูดว่า
“ถูกต้อง”

ทุกคนในห้องอ้าปากค้างเลยทีเดียว

ทันทีที่ฉันมานั่งลงยังที่ของฉันไอ้ตัวปัญหาก็เอ่ยขึ้น

“ก็ไม่โง่หน

“นายพึ่งรู้หรอ”

กริ่ง!!!

หมดชั่วโมงสะท้

“เย้พักเที่ยงแล้ว”

ฉันบิดขี้เกียจพร้อมกับเตรียมจะลุกขึ้นรามิลก็วิ่งมาหาฉัน

“เราไปกินข้าวกันมั้ย

“ได้ รอแปปนึงนะ”

ฉันเดินไปที่โต๊ะของมิลลี่
มิลลี่ไปกินข้าวกัน

มิลลี่ยิ้มตอบ

“ได้ รอฉันแป๊ปนึงนะ”

มิลลี่รีบเก็บของ

ฉันพามิลลี่กลับมาที่โต๊ะของฉันที่มีรามิลยืนอยู่

“ปะไปกินข้าวกัน”

โรงอาหาร

“มิลลี่แนะนำร้านอาหารให้ฉันหน่อยสิขอร้านอร่อยๆนะ

เซโร่หันมามอง
“นอกจากจะเฮงซวยแล้วยังเป็นภาระคนอื่นอีกนะ”

นี่เขาว่าฉันหรอ

“ฉันไปขอร้องนายรึไง

“สงสารเพื่อนอ่ะ”

“คนอย่างนายสงสารคนอื่นเป็นด้วยหรอ”เราสองคนเถียงกันอยู่ นานรามิลที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่นานก็เข้ามาห้ามมวยของพวกเรา สองคน

“พอแค่นี้ก่อนนะฉันว่าเราไปซื้อข้าวดีกว่าแล้วเจอกันที่โต๊ะนะ”

รามิลรีบดึงเซโร่ไปร้านอาหาร

ส่วนฉันกับมิลลี่ก็พากันไปเลือกอาหาร

มิลลี่เธอชอบกินอันไหนหรอ”

“อืมฉันว่าอันนี้อร่อยนะแล้วก็ฉันกินประจำเลยละ”มิลลี่ทำท่า ทางแนะนํา
“งั้นเอาอันนี้สองจานค่ะ เท่าไหร่คะ”

“250คะ”

เมื่อได้อาหารแล้วฉันและมิลลี่เดินไปหารามิลที่โต๊ะกินข้าวซึ่ง มันหาไม่ยากหรอกผู้หญิงมุงอยู่เต็มโต๊ะเลยมีเทพพระบุตรทั้งสอง คนแหนะแต่กว่าฉันจะเดินไปถึงผู้หญิงพวกนั้นก็ไปกันหมดละและ เป็นธรรมดาที่ฉันเดินไปทางไหนพวกผู้คนก็จะหันมามองก็แน่ละ ฉันมันสวย หุๆๆ

“นี่พวกเธอกินไรกันอะ”รามิลทักขึ้น

“อ่อผัดกระเพราทะเลอ่ะมันดูน่าอร่อยดีแล้วมันก็มีผักน้อยด้วย”

“เอ้อลิเลียนว่าฉันยังไม่ได้จ่ายค่าข้าวให้เธอเลยรอแปปนะ”มิลลี่ เอ่ย

“ไม่ต้องหรอกฉันเลี้ยงเธอแล้วกัน”

“ได้ไง”

“ได้สิเธอเป็นเพื่อนฉันหนิ”
มิลลี่ทำท่าซึ้งใจ

“ขอบคุณน่ะ”

ในขณะที่ฉันกำลังจะก้มกินข้าวพวกผู้ชายก็มารุมฉันเต็มโต๊ะเลย

ทีเดียว

“น้องสาวจะชื่ออะไรจะ

“น้องสาวบ้านอยู่แถวไหนหรอจ้ะ”

“น้องสาวมีแฟนรึยังจ๊ะ”

“เป็นแฟนพี่มั้ยจ้ะ”

“แลกเบอร์กันมั้ยจ้ะ”

เห้อน่ารำคาญสิ้นดี

“ขอเวลาส่วนตัวในการทานข้าวด้วยค่ะ”

“เอ้าได้ยินมั้ยทุกคนนางฟ้าบอกต้องการกินข้าวเงียบๆงั้นพวก

เราอย่ากวนใจเธอดีกว่า”
รามิลอมยิ้ม

“วาวลิเลียน่าเธอฮอดจ้ง”

เซโร่ทำท่าทางเบื่อหน่าย

“อ่อยเก่งจัง”

ฉันเบะปากมองบน

“หึงฉันหรอ”

“หลงตัวเอง”

ขณะที่เรากำลังจะวางมวยรอบที่สองมิลล์ก็ขัดไว้

“เอาละแกกินข้าวดีกว่าเนาะ

“โอเคแก”

อยู่ๆนายเซโร่ก็ยิ้มมุมปากแล้วกอะไรบางอย่างมากของ

ฉัน
“อะกินเยอะๆจะได้ไม่อ้วน

เขากผักสีเขียวใส่จานฉัน

“อ้วนบ้านนายสิหนฉันออกจะดีแล้วฉันก็ไม่ชอบกินผักด้วยเอา คืนไปเลย”

“ไม่เอาเอาไปแล้วไม่รับคืน”

เขายกจานหนีฉัน

“อะแกไม่เป็นไรนะฉันกินเอง”มิลลี่แย้งขึ้น

“ขอบใจนะมิลลี่”

ฉันหันไปมองทางเซโร่แล้วทำหน้าทำตาแบบว่าฉันเป็นฝ่ายชนะ

“ไอ้คนเฮงซวย”

รามิลยิ้มกว้าง

“ยิ่งได้รู้จักยิ่งรู้ว่าลิเลียน่าน่ารักมากๆเลวว่ามั้ยเซโร่”
ฉันยิ้มตอบส่วนนายเซโร่เลิกคิ้วขึ้นข้างนึง

“ฉันว่าเฮงซวยมากกว่านะ

“นายสิเฮงซวย”

“นี่ฉันจะไปซื้อน้ำมีใครเอาอะไรมั้ย”

มิลลี่เอ่ยขึ้น

“ฉันเอาชาเขียว”

รามิลเอ่ยแล้วยื่นเงินให้มิลลี่

“ฉันเอาชาเย็น”

เซโร่เอ่ยแล้วยื่นเงินให้มิลลี่

“งั้นฉันเอาน้ำมะพร้าวปั่นนะ”

ฉันก็ล่าวแล้วทำแบบเดียวกับทั้งสองคน

“รอแปปนึงนะเดี๋ยวไปซื้อให้
ทันทีมิลลี่ลุกไปฉันรู้สึกว่ามีคนตามเธอไปฉันเลยลุกขึ้นเพื่อจะ ตามเธอไปด้วยเหมือนกัน

พรวด!!

รามิลทําหน้าสงสัย

“เธอจะไปไหนหรอ”

“ฉันรู้สึกแปลกๆเดี๋ยวมาน่ะ”

ทั้งรามิลและเซโร่ทำท่างงๆฉันรีบเดินออกมาทันทีและเห็นภาพ ที่ไม่ควรเห็นกลุ่มผู้หญิงที่เดินตามมิลลี่มากำลังรุมตบเธอคนนึง ผลักเธอจนหัวโขกกับต้นไม้หัวของมิลลี่มีเลือดไหลลงมา อีกคน เดินเข้าไปกระชากจิกหัวแล้วตบไปหลายที

“อีกระเทยมาให้กูระบายอารมณ์สะดีๆ”

ผู้หญิงคนนึงที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าแก๊งพูดขึ้น

“โอ้ยปล่อยฉันนะ”

ทุกคนเริ่มเข้ามามุงดูฉันที่กำลังจะก้าวเข้าไปเซโร่กับรามิลก็ท้วง

ขึ้น
“นี่ยัยเฮงซวยจะทำอะไร

“นั่นสิ เลียน่าเธอจะทําอะไรหรอ”

ฉันไม่หันไปมองแล้วเดินเข้าไปทันที

“เฮ้ยยัยบ้าไม่ได้ยินที่ถามรึไง”

เซโร่พยายามเรียกฉัน

ฉันเดินเข้ามาถึงกลุ่มคนที่กำลังตบตีมิลลี่

“หยุดเดี๋ยวนี้”ฉันเอ่ยด้วยเสียงเย็นชา

คนที่กำลังจะตบมิลลี่ก็หันมามองฉัน

“เกี่ยวอะไรกับแกมิทราบ”

“เกี่ยวสิเธอตบเพื่อนฉัน

“เดี๋ยวนี้อีกระเทยมีเพื่อนใหม่แล้วหรอคงเป็นพวกเดียวกันสินะ ถึงได้อยู่ด้วยกันได้”
“ก็ใช่น่ะสิเพราะมีความคิดที่ไม่เหมือนพวกเธอไงถึงอยู่ด้วยกัน

ได้

แกหมายความว่าไง ”

“ตามที่พูด”

ฉันเดินเข้าไปประคองมิลลี่

“ไปห้องพยาบาลกัน”

ขณะที่ฉันจะเดินออกไปหัวหน้าแก๊งได้เรียกฉันไว้

เดี๋ยวก่อนเธอนะถ้าอยากออกไปคงต้องช่วยระบายอารมให้ฉัน ก่อน”

หัวหน้าแก๊งเอ่ยขึ้นพร้อมยิ้มมุมปาก

แล้วเดินเข้ามาหวังจะตบฉัน

“เธอไม่มีสิทธิแตะตัวฉัน”

“ทําไมจะแตะไม่ได้
“เพราะฉันไม่ชอบให้สิ่งของต่ำๆมาโดนตัวฉันนะสิ

“นี่แกตบกับฉันสักยกนึงมั้ย”

เธอทำท่าทางมั่นอกมั่นใจว่าจะชนะ

“การใช้ความรุนแรงมันเป็นวิธีต่ำๆของคนๆ

ตอนนี้หล่อนทําหน้าอยากฆ่าฉันมาก

“นี่แกแกรู้มั้ยฉันลูกใครพ่อของฉันเป็นคนที่กำลังจะจับมือร่วม ธุรกิจกับบริษัทของตระกูลวงสวัสดิ์แต่พูดไปพวกแกคงไม่รู้จัก หรอกเพราะพวกแกมันจน”

ฉันจะไม่รู้จักได้ไงก็มันเป็นตระกูลฉัน

ฉันยิ้มมุมปาก

“บริษัทพ่อเธอชื่ออะไรหรอ”

” ฉันจะบอกให้เอาบุญละกันบริษัทm.z.จำกัดรู้จักมั้ย”

“หงั้นฉันก็จะบอกให้เอาบุญถ้าพวกเธอยังไม่ขอโทษเพื่อนของฉันและฉันบริษัทพ่อพวกเธอจะไม่ได้ทำธุรกิจกับตระกูลวง สวัสดิ์แน่นอน”

“แกเป็นใครมา ฉัน

ฉันเริ่มนับ

“2..”

“ฉันไม่กลัวแกหรอกพวกคนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงทุกคนมาดูเร็วพวก คนจนอยากตีเสมอคนรวย”

ทุกคนเริ่มเข้ามาดูอยู่เรื่อยๆ

รามิลและเซโร่เดินเข้ามาหยุดตรงหน้าฉัน

“3หมดเวลาถ้าแค่อบรมณ์สั่งสอนลูกยังทำไม่ได้งั้นคงดูแลธุรกิจ ไม่ไหวฝากบอกพ่อเธอด้วยว่าตระกูลวงสวัสดิ์จะไม่ร่วมทำธุรกิจ ใดๆทั้งสิ้นรวมถึงธุรกิจของพวกลูกสมุนเธอด้วย”

“แกหมายความว่ายังไง
“ตามที่พูด”

รามิลหันไปมองหน้าของผู้หญิงพวกนั้น

“โอ๊ะโอพวกเธอกล้ามีเรื่องกับคุณหนูตระกูลวงสวัสดิ์เชียวหรือ ไม่ธรรมดาจริงๆฉันจะรอดูพวกเธอนะ”

“ห้ะ…คุณหนูตระกูลวงสวัสดิ์

แค่พริบตาเดียวทีนี้ก็มีแต่เสียงฮือฮา

ฉันที่จะพามิลลี่ออกไปทำแผลนึกอะไรขึ้นได้จึงหันไปยิ้มเย็นชา

ใส่คนพวกนั้น

“แล้วก็สิ่งที่เธอทำวันนี้เธอได้รับโทษแน่นอน”

ฉันประคองพามิลลี่มาถึงห้องพยาบาลเซโร่กับรามิลก็เดินตาม

มา

“ว้าวเธอโหดมากเลยอ่ะ”

รามิลพูดพร้อมชมฉันไม่หยุดปาก
เซโร่ทำท่าทางเบื่อหน่าย

เฮงซวยสร้างแต่เรื่อง ”

“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย”

“ขอบใจนะลิเลียน่า”

มิลลี่เอ่ยขึ้น

“ไม่เป็นไรเธอเป็นเพื่อนฉันฉันก็ต้องช่วยเธอ แต่เปลี่ยนจากคำ ขอบคุณเป็นไปอยู่เป็นเพื่อนฉันที่บ้าน1วันได้มั้ย”

“ได้ ตกลง”

“งั้นเดี๋ยววันหยุดนี้ฉันไปรับเธอน่ะ”

“อืมได้ แล้วฉันจะเขียนทางไปบ้านให้น่ะ”

“จ๊ะ”

“ว่าแต่บ้านลิเลียน่าอยู่ตรงไหนหรอ”รามิลถามอย่างสงสัย
“อยู่ข้างบ้านนายเซโร่”

“ห้ะจริงดิ”รามิลทําท่าทางตกใจ

“อืม”เซโร่ยักคิ้วยืนยัน

“วาวสุดยอดไปเลยงั้นพวกเธอก็แอบไปหากันบ่อยนะสิ”

“ไม่ใช่”ฉันและเซโร่พูดพร้อมกัน

“อ่อไม่ใช่ก็ไม่ใช่

“นี่จะเสร็จแล้ว”ฉันเอ๋ยหลังทำแผลให้มิลลี่เรียบร้อยแล้ว

“ขอบใจน่ะ”

“จ๊ะมิลลี่กลับบ้านยังไงจ๊ะวันนี้ให้ฉันไปส่งนะ”

“ไม่เป็นไรจ้ะฉันกลับเองดีกว่า”

“ฉันอยากไปส่งเธออ่ะฉันจะได้รู้บ้านเธด้วยไงตกลงมั้ย”

“อึมงั้นก็ได้”
ความจริงแล้วฉันอยากจะช่วยมิลลี่มากกว่า

เมื่อถึงเวลาเลิกเรียนฉันพามิลลี่มารอตรงหน้าโรงเรียนฉันและมิ ลลี่แยกกับเซโร่ตรงหน้าโรงเรียนเขาไปได้ไม่นานคนขับรถที่บ้าน ฉันก็มาเรียกฉัน

“เชิญครับคุณหนู”

“ไปส่งเพื่อนฉันตามแผนที่นี้นะ”

“ครับ”

“นี่มิลลี่เธออยู่กับใครหรอ”

“แม่จ้ะแล้วเธอล่ะ”

“ฉันอยู่กับพ่อกับแม่จะ
“ถึงแล้วครับคุณหนู

“โอ้วไวจัง”

ฉันไปก่อนน่ะลิเลียน”

“บายวันหยุดเจอกัน”

“ปาย”

ฉันรอจนมิลลี่เข้าบ้านเรียบร้อยแล้วค่อยให้คนขับรถขับกลับบ้าน

“วันนี้เป็นอย่างไรบ้างครับคุณหนู

“ก็ดีนะคะ”

“ดีใจที่คุณหนูชอบนะครับ”

“ขอบคุณค่ะ”

เมื่อมาถึงบ้านพ่อกับแม่ไม่อยู่สินะเห้อ
ฉันเดินขึ้นไปบนห้องอาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกไปที่ระเบียงคิด อะไรเพลินๆอยู่น้ำตาก็ไหลลงมาช้าๆใครว่าเป็นลูกคนรวยแล้วดี ทุกอย่างไม่จริงหรอกเพราะฉันทั้งเหงาและรู้สึกว่างเปล่ามากกว่า อีก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ