My love คุณคือแม่ของลูก

บทที่ 10 เสี่ยวเป่าไม่สบาย



บทที่ 10 เสี่ยวเป่าไม่สบาย

หลังจากที่เห้ออี้ลั่วเสร็จจากสัมมนา เขาก็รีบกลับไปที่ห้อง พักของตัวเองเป็นอันดับแรก

ภายในห้องกลับว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่เลย

เห้ออี้ถั่วมองไปทางโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะน้ำชา รอย ยิ้มที่ทำอะไรไม่ถูกก็เผยออกมา

ผู้หญิงตัวเล็กคนนี้ก็หนีไปแบบนี้เลยหรอ?

ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่หมั้นของเห้ออี้ลั่ว แต่กลับหนีไปอย่าง รวดเร็ว

เห้ออี้ลั่วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ถือเล่นในมืออยู่สักพัก

ก็เปิดหน้าจอขึ้น หน้าจอยังคงแสดงภาพที่เฉียวเมิ่งเยว่ เปิดดูครั้งล่าสุด

เห้ออี้ถั่วมองไปที่รูปภาพ สายตานุ่มนวลขึ้นมา และเผยให้ เห็นรอยยิ้มที่มุ่งมั่น

**

เฉียวเมิ่งเยว่อยู่ที่หน้าประตูทางเข้าที่จัดงาน รอหลินจื้อที่ กำลังมา ยิ้มถาม: “ ศาสตราจารย์หลินคะเราจะตรงกับไปที่ โรงพยาบาลเลยหรือจะไปทานอาหารกลางวันก่อนคะ?”
“กลับโรงพยาบาลเลย” หลินจือมองไปที่เฉียวเมิ่งเยว่ ถาม ขึ้น: “เรื่องของคุณกับเห้ออี้ถั่วเป็นมายังไงหรอ?”

“คุณก็กลายเป็นคนชอบนินทาแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ?

“ก็แค่อยากรู้ไง”

“อย่าไปฟังที่เห้ออี้ถั่วพูดนะคะ ฉันกับเขาก็แค่เคยเจอหน้า กันไม่กี่ครั้งเอง”

เมื่อหลินจื้อเห็นท่าทางเฉยเมยของเธอ ก็ไม่ได้ถามอะไร มากมาย “คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับการบรรยายครั้งนี้บ้าง? คิดว่าควรจะปรับปรุงด้านไหนบ้าง?”

“ปกติแล้วฉันจะไม่ค่อยได้ฟังการบรรยายแนวนี้มากนัก เป็นหลักสูตรที่นอกเหนือทั้งหมดเลย”

*นั่นเป็นเพราะว่าคุณเจียมตัวเกินไป ทักษะวิชาชีพและ ความรู้เชิงทฤษฎีของคุณไม่ได้น้อยไปกว่าของคนอื่นๆที่มา ในวันนี้เลยนะ”

“ศาสตราจารย์คุณคะ นี่คุณกำลังพยายามจะถือขาของฉัน อยู่หรือเปล่า” เฉียวเมิ่งเยว่กระพริบตาอย่างมีเลศนัย

“ใช่แล้ว รอจนถึงวันที่คุณแต่งงานกับเห้ออี้ลัวอย่างเป็น ทางการแล้ว ผมก็สามารถถือขาคณได้แล้วไง?ในอนาคต เงินทุนสําหรับการทำวิจัยก็ไม่จำเป็นต้องไปขอคนอื่นอีก แล้วไง
“เอาล่ะ ศาสตราจารย์ทำไมเมื่อก่อนฉันถึงไม่รู้สึกเลยว่า คุณเป็นคนที่มีอารมณ์ขันแบบนี้”

“เมื่อก่อนไม่ค่อยจะมีโอกาสแสดงออกมาไง” หลินจื้อ หัวเราะตอบ

เฉียวเมิ่งเยว่ก็หัวเราะฮ่า ฮ่า เสียงดัง “ฉันดูตารางงานของ ตัวเองแล้ว ภาพถ่ายตอนบรรยายกับวิดีโอและคำถามเชิง โต้ตอบจะจัดการให้คุณภายในพรุ่งนี้ คุณคิดว่าไงคะ?”

“เรื่องนั้นไม่ต้องรีบ คุณแค่เรียบเรียงให้เสร็จภายใน สัปดาห์หน้าก็พอ”

“ค่ะ”

**

ถึงแม้ว่าหลินจื้อจะบอกว่าเอกสารการบรรยายนั้นเรียบ เรียงให้เสร็จภายในอาทิตย์ แต่เฉียวเมิ่งเยวก็เตรียมเอกสาร ทุกอย่างจนเสร็จภายในคืนนั้น เช้าวันที่สองก็ส่งไปให้หลิน จื้อเลย

ระหว่างที่เดินกลับห้องทำงาน ก็ต้องตกใจกับสถานการณ์ หน้าห้องทำงาน

ทางเดินและประตูหน้าห้องทำงานยืนแน่นไปด้วยผู้คน

รวมถึงพยาบาลและแพทย์แม้แต่ผู้ป่วยก็ยังมาเบียดกันอย่างหนาแน่น

เฉียวเมิ่งเยวทำเสียงกระแอม “สาวๆ ตอนนี้มันเป็นเวลา ทํางานนะ ช่วยมีความเป็นมืออาชีพหน่อยได้ไหม?

ฝูงชนก็พากันแยกย้ายออกจากกัน เสี่ยวอันเบียดเสียด ออกมาจากฝูงชน “พี่เฉียว มีคนมาหา

“ใครหรอ?ถึงทำพวกเธอออกมายืนต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ แบบนี้?”

“คุณก็ไปดูสิเดี๋ยวก็รู้เอง”

เฉียวเมิ่งเยว่เกิดความสงสัยในใจ เดินฝ่าฝูงชนเข้าไปใน ห้องทํางาน

ข้างหน้าต่างห้องทำงาน มีผู้ชายคนหนึ่งที่ถูกแสงแดด ยามเช้าสาดส่อง กำลังยืนหันหลังให้เธออยู่

เฉียวเมิ่งเยว่ไม่จำเป็นต้องมองอย่างใกล้ชิดก็รู้ได้เลยว่า เขาเป็นใคร

นิ้วเรียวยาวของเห้ออี้ลั่ว กำลังเคาะใบไม้ของต้นไม้ใน กระถางที่วางอยู่ข้างๆเขา อย่างกระสับกระส่าย

เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้ามาทางด้านหลัง เห้ออี้ลั่วก็หันกลับมา เผยรอยยิ้มที่สง่าออกมา “ผมต้องการความช่วยเหลือจาก คุณ”
“ที่นี่คือโรงพยาบาล นอกจากว่าคุณจะไม่สบาย ไม่อย่าง นั้น ฉันก็คิดไม่ออกแล้วว่าเรามีเรื่องด่วนอะไรต่ออีก” เฉียว เมิ่งเยว่พูด

“สถานการณ์ของเสี่ยวเป่านั้นค่อนข้างพิเศษ อยากจะให้ คุณช่วยไปกับผมหน่อย”

เฉียวเมิ่งเยว่นิ่งไป ใบหน้าของเสี่ยวเป่าปรากฏขึ้นในใจ เธออย่างรวดเร็ว ถามอย่างกังวล: “เกิดอะไรขึ้นกับเขา?”

เห้ออัล้วพอใจมากกับอาการที่แสดงออกของเธอ จูงมือ เธอก้วงเดินไปด้านหน้า ระหว่างทางค่อยคุย

**

เฉียวเมิ่งเยว่ตกเป็นเป้าสายตาของผู้ชายทั่วทั้งโรง พยาบาล เข้าไปนั่งในรถของเห้ออี้ลั่วอย่างไม่เต็มใจ

หลังจากที่เห้ออี้ถั่วช่วยเธอคาดเข็มขัดนิรภัยเสร็จ ก็ขับรถ ออกไปทันที

จนกระทั่งรถได้ขับออกนอกโรงพยาบาลไป เขาก็พูดขึ้น: “เมื่อคืนเสี่ยวเป่ามีไข้ขึ้นสูง แต่เขาไม่ยอมให้ใครแตะต้อง ตัวเองนอกจากผม แพทย์ประจำครอบครัวไม่สามารถช่วย เขาดูอาการได้

เฉียวเมิ่งเยว่นึกถึงครั้งสุดท้ายที่เจอกับเสี่ยวเป่า พูดด้วย ความไม่มั่นใจ: “เขาก็อาจจะไม่ยอมให้ฉันแตะตัวเหมือนกัน
“คงไม่หรอก เขาชอบคุณมากนะ”

เมื่อได้ยินอย่างนั้นเฉียวเมิ่งเยวมองไปทางเห้ออี้ลั่ว พบว่า เห้ออี้ลัวกระตือรือร้นเล็กน้อย

แม้ว่าจะไม่สามารถมองเห็นได้จากสีหน้าของเขา แต่เฉียว เมิ่งเยว่ก็รู้สึกได้

ทันใดนั้นหัวใจของเฉียวเมิ่งเยวก็สั่นสะเทือน “เสี่ยวเป่า เขา สถานการณ์ของเขาเป็นยังไงบ้าง?”

“หลายวันก่อนได้รับบาดเจ็บที่เท้า หลายวันนี้อุณหภูมิลด ลงตลอด รอยแผลก็ชายช้า และยังไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้อีก ในตอนกลางคืนเปิดแอร์อุณหภูมิต่ำ เตะผ้าห่มทำให้ตัวเอง เป็นหวัด”

เฉียวเมิ่งเยวพยักหน้าอย่างเงียบๆ

หลังจากที่รถขับออกจากถนนสายหลักก็เลี้ยวเข้าสู่ ทางหลวง

เฉียวเมิ่งเยว่ก็เคยออกไปกับรถฉุกเฉิน 120 ของโรง พยาบาลแล้วหลายครั้ง ยังพอเข้าใจสภาพการจราจรของ เมืองเยว่เฉิง และรู้ว่ามีที่พักอาศัยระดับสูงหลายแห่งที่ตั้ง อยู่ใกล้กับทางด่วน

แต่เมื่อไปถึงปลายทางเฉียวเมิ่งเยว่ก็อดไม่ได้ที่จะชะงัก ไปสักพัก
มีบ้านพักวิลล่าหลายหลัง ซ่อนตัวอยู่ในภูเขาและป่าไม้อัน เขียวชอุ่ม แต่บางครั้งมีบางมุมของหลังคาที่เผยออกมา

แม้ว่าตอนนี้จะเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วง ต้นไม้บนภูเขา กลับยังคงเขียวชอุ่ม แต่เมื่อเทียบกับต้นไม้ของภูเขาอื่นๆ ที่ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือหลุดร่วงจนหมด ดูมีความโดดเด่น มาก

รถแล่นขึ้นไปตามถนนบนภูเขาและในที่สุดก็หยุดอยู่หน้า วิลล่าหลังหนึ่ง

เฉียวเมิ่งเยวมองไปที่วิลล่า ดวงตาของเขาส่องประกาย ด้วยความประหลาดใจ

เห้ออี้ลั่วลงจากรถไปเปิดประตูให้เธอ เลิกคิ้วแล้วมองเธอ “เป็นอะไรไป?”

“ไม่เป็นไร เสี่ยวเป่าอยู่ไหนหรอ?”

“ชั้นบน”

เฉียวเมิ่งเยว่พยักหน้า เดินตามหลังเห้ออี้ลัวขึ้นไปชั้นบน เห้ออี้ถั่วเปิดประตูห้องบนชั้นสองออก ให้เฉียวเมิ่งเยว่ เข้าไป

มันเป็นห้องสําหรับเด็กขนาดใหญ่ ดูจากการจัดวางและ การออกแบบของห้องแล้ว เป็นห้องที่สวยงามและละเอียดอ่อนมาก

แต่ว่าของเล่น ผ้าห่มและหนังสือที่ขว้างเต็มพื้น ดูเหมือน จะยุ่งเหยิงไปหมด

เฉียวเมิ่งเยวหาเสี่ยวเป่าพบ บนเตียงการ์ตูนที่มีขนาด ใหญ่เกินไป

ใบหน้าที่แดงก่ำของเด็กชายตัวเล็กๆ ถูกเอนนอนอยู่บน ผ้าห่ม หน้าท้องเล็กก็ถูกเปิดเผยออกมา

ดูจากใบหน้าของเขาที่ขมวดคิ้วเล็กๆ เห็นได้ชัดเลยว่า ตอนนี้เขาไม่สบาย

เฉียวเมิ่งเยวถามขึ้น: “คุณได้วัดอุณหภูมิแล้วหรือยัง?”

“ตอนที่ผมจะออกไปหาคุณวัดแล้ว 39 องศา”

เฉียวเมิ่งเยวได้ยินอย่างนั้นก็ตกใจ เด็กไข้ขึ้นถึง 39 องศา อันตรายมาก

“ที่บ้านมียาไหม?”

“แพทย์ประจําครอบครัวได้เตรียมไว้แล้ว แต่เสี่ยวเป่าไม่ ให้ใครแตะต้องเขาเลย

เฉียวเมิ่งเยว่อยากจะพูดว่า เสี่ยวเป่าไม่ยอมให้ใครแตะ ต้อง คุณสามารถช่วยเขาฉีดยาก็ได้
แต่พอคำพูดมาถึงคอแล้ว ก็กลืนกลับลงไปอีกครั้ง

การฉีดยาให้เด็กนั้นก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายแม้จะเป็นมืออาชีพ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงในกรณีที่ค่อนข้างพิเศษของ เสี่ยวเป่าแบบ นี้

“คุณช่วยวัดอุณหภูมิร่างกายให้เขาอีกครั้ง เดี๋ยวฉันจะไปดู ยาพวกนั้นหน่อย

“ได้ครับ ยาอยู่ในห้องข้างๆ เดี๋ยวพ่อบ้านจะพาคุณไปเอง”

เฉียวเมิ่งเยวพยักหน้า แล้วหมุนตัวเดินออกไป

เธอตรวจสอบยาในกล่องยาที่อยู่ในห้องถัดไป พบว่ายาที่ แพทย์ประจําครอบครัวได้เตรียมไว้ให้นั้นครบถ้วนมาก จาก นั้นเธอก็หยิบกล่องยากลับไปที่ห้องของเสี่ยวเป่าอีกครั้ง

ภายในห้อง เห้ออี้ลัวอุ้มร่างเล็กๆของเสี่ยวเป่าไว้ในอ้อม แขน เอนกายพิงที่หัวเตียง กล่อมเขาเสี่ยงเบา มือใหญ่ลูบ อยู่ที่เท้าเปล่าที่เล็ดลอกออกมาอยู่ในอากาศเป็นครั้งๆ

ตอนนี้เห้ออี้ลั่วถอดเสื้อตัวนอกออกแล้ว และสวมแค่เสื้อ เชิ้ตสีขาวเท่านั้น

แขนเสื้อถูกดึงไปถึงตำแหน่งของข้อศอก อุ้มร่างเล็กๆ ของเสี่ยวเป่าไว้อย่างมั่นคง เต็มไปด้วยพลังความปลอดภัย


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ