อยู่ๆฉันก็กลายเป็นภรรยาของประธาน

บทที่ 13 กลับบ้าน



บทที่ 13 กลับบ้าน

หลังจากนั้น ซูยี่ก็สั่งให้คนขับรถขับกลับไปที่บ้านตระกูลซู ก่อนเพื่อไปเอาของขวัญ เพื่อจะไปบ้านตระกูลเถียนเพื่อไป เยี่ยมเถียนไม่เขียนเป็นเพื่อนเธียนจิ้ง

พอถึงบ้านตระกูลเถียน ซูยี่ก็ลงมาเปิดประตูรถให้เถียนจิ้ งอย่างสุภาพบุรุษ

ในตอนนั้นเอง จู่ๆโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้น เขาจึงไปรับ โทรศัพท์อยู่ด้านข้าง

ในสายโทรศัพท์คือผู้ช่วยของเขาที่โทรมารายงานเกี่ยว กับเรื่องที่งาน เขาได้แต่ฟังเงียบๆโดยที่ไม่ได้ตอบอะไร กลับไป

พอได้ยินเสียงเครื่องยนต์รถแล่นเข้ามา เหอลี่หย่าก็รีบ วางนิตยสารความงามในมือลงละเดินออกมารับแขกทันที

เธอเห็นแต่เถียนจิ้ง แต่ไม่ได้ทันสังเกตเห็นซูยี่ที่โดนรถบัง ไว้อีกฝั่งนึง

ตอนนั้นเธอก็คิดในใจว่า การที่เถียนจิ้งแต่งงานเข้าบ้าน ตระกูลซูไปอย่างไม่รู้ประสีประสา อาจจะไม่ได้มีวันเวลาที่ดี เท่าไหร่นัก ซูยี้คงไม่มีทางกลับมาเยี่ยมบ้านเป็นเพื่อนเธอ หรอก

ดังนั้น เธอจึงเบ้ปากอย่างดูถูก แล้วพูดจาเยาะเย้ยว่า“ทำไม? พึ่งจะแต่งงานได้สองวันก็หน้าเศร้าตาซึมกลับบ้าน มาคนเดียวแล้วงั้นเหรอ? จิ้งจิ้ง เธอนี่ก็เข้มแข็งเหมือนกัน เนอะ ถ้าเกิดว่าเป็นผู้หญิงคนอื่นเนี่ย คงทุกข์ใจจนอยากจะ ร้องไห้ออกมา จิตใจเธอนี่ยอดเยี่ยมจริงๆ ยังกล้ามายืนอยู่ ตรงนี้เหมือนไม่มีอะไรได้อีก?”

เถียนจิ้งขมวดคิ้ว เมื่อก่อนเธอแค่รู้สึกไม่ชอบยัยแม่ใหม่คน นี้ แต่ตอนนี้ยิ่งเกลียดเธอมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว

“พอเห็นเธอหน้าเศร้ากลับบ้านมาคนเดียวแบบนี้ เรื่องกู้ ธนาคารก็คงจะไม่ได้เรื่องแล้วสินะ? ฉันรู้อยู่แล้วว่าผู้ชายที่ บ้ากามอย่างซูน่ะ….. เหอหย่ายิ่งพูดยิ่งแรงขึ้นเรื่อยๆ

เถียนจิ้งรีบตัดบทเธออย่างไม่เกรงใจ “พอแล้ว คุณนาย รองโปรดระวังคำพูดของตัวเองด้วย

เหอลี่หย่าพูดต่ออย่างไม่สนใจ “ถึงฉันจะไม่พูดแบบนี้ แต่ หนังสือพิมพ์ก็เขียนแบบนี้กันทั้งนั้น หนังสือพิมพ์ทั่วบ้านทั่ว เมืองก็ต่างเขียนว่าซูยี่ชอบนอกใจภรรยาตอนกลางคืน ส่วน เธอก็เป็นผู้หญิงขายตัว….

ทันใดนั้นคำพูดต่อไปของเธอติดอยู่ในลำคอ ดวงตาเบิก โพลงขึ้นมาทันที เธออับอายจนหน้าแดง

นั่นก็เพราะว่า ผู้ชายที่เธอเรียกว่าบ้ากามกลับโผล่มาอยู่ที่ ตรงหน้าของเธอ

บรรยากาศน่ากลัว แถมเย็นยะเยือก ทำให้เธอรู้สึกเย็นไปถึงขั้วกระดูกจนตัวสั่น

ซูยี่เงยหน้าขึ้นมองหน้าเธอ แล้วก็ส่งสัญญาณให้คนขับ รถเอาของขวัญออกมา น้ำเสียงที่มีมารยาทเอ่ยออกมานิ่งๆ ว่า “ผมมาเยี่ยมบ้านเป็นเพื่อนภรรยา แล้วก็เพื่อมาคุยเรื่องกู้ ธนาคาร”

เหอลี่หย่ารู้สึกอับอายจนถึงขีดสุด……….

“คุณนายรอง ได้โปรดระวังคำพูดของคุณด้วย คนที่ยืน อยู่ตรงหน้าของคุณคือคุณชายรองแห่งตระกูลซูและภรรยา ของเขา นี่เป็นรังนกจากมาเลเซีย ของขวัญที่พบกัน” ทันที ที่ซูยี่ส่งสัญญาณ คนขับรถก็นำของขวัญไปมอบให้เหอ หย่า

เหอลี่หย่ามองดูของขวัญที่พวกเขานำมาให้ ทันใดนั้น สายตาก็ปรากฏประกายแห่งความโลภ ใบหน้าที่เก้ๆกังๆ ของเธอก็คลี่ยิ้มออกมา “ใช่ค่ะ เมื่อกี้ฉันตื่นเต้นจนพูดอะไร ไร้สาระไปหน่อย ก็เพราะว่าตอนนี้พวกเธอมากันแล้ว ฉันก็ เลยตื่นเต้นไปหน่อยน่ะ รีบเข้าไปข้างในกันเถอะ”

ซูยี่เดินมาโอบเอวของเถียนจิ้งไว้ “เข้าไปกันเถอะ

เหอลี่หย่าเดินนำหน้า แล้วเสแสร้งพูดจาว่า “จิ้งจิ้ง เธอ คงจะเหนื่อยสินะ? ตอนนี้อุ้มท้องอยู่ด้วย เดี๋ยวฉันช่วยถือ กระเป๋าให้ดีไหม?”

ตอนที่เถียนจิ้งยืนอยู่จ้างเธอนั้น ก็พูดออกมาเบาๆว่า “เมื่อก็หน้าแตกเลยไหมล่ะ? เจ็บไหม? ผิดหวังมากไหมล่ะ?”

ทันใดนั้น ใบหน้าของเหอลี่หย่าก็ซีดลงทันที

หลังจากซูยี่กับเถียนจิ้งเข้าบ้านมา เถียนโม่เลียนก็ลงมาร ออยู่ข้างล่างแล้ว

หลายวันมานี้เขาทํางานหนักเกินไป แถมยังมีเรื่องให้ เครียดมากมาย สีหน้าของเขาเลยดูไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่

ทันทีที่เห็นหน้าลูกสาว เขาฉีกยิ้มกว้างแถมดูอ่อนแอออก มา “คุณชายรอง จิ้งจิ้ง กลับมากันแล้วเหรอ?”

จิ้งจิ้งรู้สึกว่าพ่อของเธอดูแก่ลงไปเร็วมาก เธอรู้สึกเศร้า โศกในใจ “พ่อ สบายดีไหมคะ?”

เถียนโม่เฉียนพยักหน้า “อืม พ่อสบายดี ไม่ต้องห่วง”

ตอนที่ซูยี่เดินเข้ามา ก็สบตาเขาพอดี

พวกเขามองหน้ากัน เถียนโม่เชียนก็รู้สึกกระวนกระวาย อย่างบอกไม่ถูก ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เขาสบตากับซูยี่ ในงาน แต่งเมื่อคืน ทุกคนยุ่งมาก เขาจึงไม่มีเวลาได้คุยอะไรกับซูยี่

ราวกับว่าเขาเคยมีความรู้สึกคล้ายๆแบบนี้เกิดขึ้นมา ก่อน ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เขารู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว รู้สึก กระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก
สายตาของซูยี่รีบมองข้ามอารมณ์ที่ซับซ้อนของคนตรง หน้าไป หลังจากนั้นก็ทักทายอย่างนิ่งเรียบว่า “สวัสดีครับ พ่อตา”

เถียนโม่เชียนทนไม่ไหวจึงถามออกมา “คุณชายรอง เรา เคยรู้จักกันมาก่อนใช่ไหม?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ