ตอนที่ 5 สติแตก 3
14.00 u.
มหาลัย
“เมื่อคืนไปไหนมา” มิกถามขณะที่ฉันกำลังเก็บของ
“ไปผับมา”
” “ไปกับใคร
“ก็…เพื่อนสักคน”
“อาแกโทรหาฉันทุกชั่วโมงเลยนะ”
“อา…อาจหรืออาติ” ทำไมต้องอยากรู้ด้วยวะ ต้องเป็นอาจอยู่ แล้วสิ “ช่างเถอะ ไม่เห็นจะอยากรู้” ฉันลุกขึ้นและเดินออกไปนอก
ห้อง
“อาเจียว…แกไหวเปล่าวะ” ดรีมถามฉันพลางกอดคอ
“อืม พอไหว” จะให้พูดยังไงดีล่ะ เมื่อคืนคงหนักไปหน่อย ตอน เข้าถึงได้เพลียขนาดนี้
“เดินเหมือนวิญญาณ ไปหาไรกินให้ชื่นอุรากันดีกว่าค่ะ” ดรี หลากฉันไปยืนรอรถรางหน้าตึกเพื่อไปแคนทีนใหญ่ของมหาลัย
ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายโมงแล้ว แต่ก็ยังมีคนวนเวียนไปมาที่ บริเวณนี้มากมายอยู่เหมือนเดิม ร้านอาหารบางร้านก็เริ่มปิดเพราะไม่มีของจะขาย ฉันยืนกอดอกมองร้านอาหารอยู่สักพักก็ ตัดสินใจที่จะสั่งอาหารที่ร้านอาหารตามสั่ง
“เอากะเพราหมูกรอบไข่ดาวไม่สุกค่ะ”
“รอสักครู่นะอีหนู…พ่อหนุ่มเอาอะไร”
“เอาแบบเธอครับ”
ฉันก็ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง เพราะปกติเวลาฉันไม่รู้จะกินอะไร ก็จะสั่งตามคนข้างๆ แบบนี้เหมือนกัน สมองคิดอะไรไม่ออกสัก อย่างนอกจากยืนรอเพื่อจะกินอาหาร…
“อีหนู เอาเผ็ดไหม”
“เผ็ดไปเลยค่ะ เอาแบบเผ็ดสุดๆ ” ทั้งที่ฉันก็กินเผ็ดไม่ค่อยได้
นะเหรอ ดีจริงๆ
“แล้วของพ่อหนุ่ม เอาเผ็ดไหม”
“เอาแบบเธอเลยครับ”
” ไอ้บ้าน ไม่รู้จักคิดเอาเองหรือไง น้ำเสียงก็ดูคุ้นจังแฮะ เหมือนเคยเจอ…
ฉันตัดสินใจหันไปมองผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ ซึ่งเขาก็มองฉันอยู่
เหมือนกัน
“หวัด ”
คุ้มจริงด้วย เหมือนเคยเจอที่ไหน…
“อาเจียว….แกรู้จักเขาด้วยเหรอ” เสียงดรีมกระซิบข้างหูเบาๆ ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่
“เปล่า…
“แต่เขามองเหมือนรู้จักแกเลย…”
“จ่าผมไม่ได้เหรอ” ผู้ชายคนนั้นมองฉันแล้วพูดขึ้น
“เรา… ” ฉันหันไปมองรอบข้าง มีแค่ฉันกับครีมยืนอยู่ด้วยกัน งั้นถามฉันมั้ง “เราเคยรู้จักกันเหรอ”
“เราเป็นแฟนกันแล้วนะ คุณจำแฟนตัวเองไม่ได้เหรอ
แฟนบ้าแฟนบออะไรวะเนี่ย
“แฟน!! แกกับฐานัสเป็นแฟนกันตั้งแต่เมื่อไหร่ !! ” ดรีมเอะอะ โวยวายจนฉันต้องยกมือขึ้นมาปิดหูด้วยความรำคาญ
“พูดจาบ้าๆ ฉันไปรู้จักนายตอนไหนมิทราบ!! ”
“กะแล้วเชียว ว่าคุณคงจําไม่ได้” เขาส่ายหน้าไปมาก่อนจะ หยิบโทรศัพท์แล้วกดหาอะไรบางอย่าง ไม่นานก็ยื่นส่งมาให้ฉัน
คุณพระ!!
“บ้า!! อาเจียว!! แก!! ทำไมไม่บอกเพื่อนว่าเป็นแฟนกับฐาน
“!!??”
มันเป็นรูปที่ฉันกอดคอเขาแล้วหอมแก้มอย่างสนิทสนมชิดเชื้อ แถมยังมีรูปที่เขาหอมแก้มฉันกลับ ทั้งที่ใบหน้า ในตอนนั้น แดง เหมือนลูกตำลึงคล้ายคนกำลังเขินอาย…
“ไม่ ไม่จริง ตัดต่อ มันเป็นรูปตัดต่อ” ฉันส่ายหน้าไปมาไม่ ยอมรับสิ่งที่เห็น
“คุณให้ผมถ่ายเก็บไว้เอง
“ฉันจะทําอะไรแบบนั้นได้ยังไง ในเมื่อฉัน…”
มองด้วยสายตาแบบนั้นไม่ดีนะครับ
ครับ?
ไปนอนด้วยกันไหม
‘ช่างเถอะ…
‘คุณพูดตรงดี…ผมชอบ
แล้วฉันก็เป็นคนพาเขาขึ้นไปที่ห้องชั้นบนของโรงแรมกับ มือ…อาเจียว แกพาผู้ชายขึ้นห้อง งั้นแสดงว่าผู้ชายที่นอนอยู่บน เตียงเดียวกับฉันก็คือเขางั้นสิ…
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ