บทที่207คุณคิดว่าจะมาก็มาจะไ ปก็ไปหรือ
บทที่ 207
คุณคิดว่าจะมาก็มาจะไปก็ไปหรือ
เสิ่นอีเวยค่อยค่อยเงยหน้าขึ้นมาด้วยใบ หน้าที่มีความเยือกเย็นและได้มองไปยั งเจิ้งอวิ๋นชวน
เป็นเพราะว่าเส้นเลือดที่เต็มไปบนใบห น้าเลยทำให้รู้สึกว่าผู้ชายคนนี้มีความห ล่อเหลือเกิน
โดยเฉพาะสายตาคู่นั้นทำให้เธอนั้นไม่ สามารถหลีกห่างได้เลย
ในเมื่อไม่สามารถที่จะหาได้ก็ใช้ความก ล้าไปตอบสนองเถอะในใจเธอคิดว่าแบ บนน เธอไดคิดถึงคำที่เจงอวิ๋นชวนพูดว่า
“กักบริเวณ”
เธอก็ไม่รู้สึกว่ามีความสงสารอะไรแต่รู้
สึกถึงสมน้ำหน้าเพราะว่าคนอย่างเจิ้งอ วิ่นชวน ชอบหนีออกไปข้างนอก
ชอบหาเรื่องให้คนอื่น
ไม่งั้นตอนที่อยู่อังกฤษในตอนนั้นก็คงไ ม่ได้จะเลวร้ายขนาดนี้
ณ
ตอนนี้เสิ่นอีเวยได้มองไปยังเจิ้งอวิ๋นชว นที่มีท่าที่สะใจ
ก็โกรธตัวเธอเองที่ทำร้ายผู้ชายคนนี้น้
อยไป
ชัดเจนว่าเจิ้งอวิ๋นชวนมาหาเรื่องตัวเอง ก่อน แต่ว่าเรื่องก็ผ่านไปห้าปีแล้ว แต่เขาก็ยังที่จะมาหาเรื่องอยู่เสมอ ๆ
“รู้ว่าเป็นคนของบริษัทเซิ่งซื่อ ผมก็ได้ดูขาวเรืองบริษัทของคุณนะ
บริษัทที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้
เวลาเกิดเรื่องอะไรก็ต้องลงข่าว ดังนั้นเมื่อสามปีก่อนผมก็ได้ติดตามเรื่อ งงานมงคลของเซิ่งเจ๋อเฉิง ฮาฮา ในรูปตอนนั้นคุณยิ้มกว่าสวยงามมาก ๆ เลย แต่ว่าไม่คิดว่า คนที่ให้ร้ายผม และลงรูปในเว็บไซต์
ก็คือผู้หญิงที่ปัญญาอ่อน ก็คือผู้หญิงของประธานบริษัทเซิ่งชื่อ”
เจิ้งอวิ๋นชวนมีน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยควา มแปลกและน่ากลัว
เสิ่นอีเวยก็ได้ฟังออกมาอย่างชัดเจน เธอก็เลยคิ้วขมวดและมองไปยังเจิ้งอวิ๋ นชวน
เจิ้งอวิ๋นชวนก็ได้มองไปยังสายตาคู่นั้น
ของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งใบหน้าที่สวยงามของเธอ
โดยเฉพาะสายตาที่สวนงามคู่กัน แต่กลับซ่อนบางอย่างอยู่ข้างใน เขาไม่สามารถรู้ได้ว่าเป็นอย่างไร แต่เหมือนรู้สึกถึงหมอก ฝน ลม เช่นไรเช่นนั้น
เจิ้งจวิ้นชวนก็ไม่ใช่นักศิลปะอะไร แต่ทำไมกลับเปรียบเทียบสายตาคู่นั้น องเธอด้วยการใช้จินตนาการแห่งศิลปะ แปลกประหลาดจริง ๆ
หลังจากนั้นเจิ้งอวิ๋นชวนก็ยิ้มขึ้นพูดว่า
“แต่ว่าคุณหญิงเสิ่น
มีอีกเรื่องที่ผมอยากจะรู้แจ้งสักหน่อย
พ่อของผมคือเจิ้งโป๊หง
ในเมื่อคุณก็ได้อยู่ในบริษัทมานาน คุณก็น่าจะได้ยินชื่อนี้ พอของผมเป็นคนที่แต่ไหนแต่ไหนมเห็ นเรื่องการค้าเป็นสำคัญ คุณได้พูดว่าผมได้ทำการพูดกรอกหูเข า เขาจึงได้ทำการลงนามกับบริษัท”
“บริษัทเซิ่งซื่ออยู่แนวหน้าของประเทศ ทำให้ทุกคนต่างล้วนจับตามอง
ดังนั้นคุณพูดประโยคนั้นขึ้นมา ไม่ใช่เป็นการดูถูกบริษัทเซิ่งซื่อหรอกห
รือ ? ”
เจิ้งอวิ๋นชวนได้พูดด้วยถ้อยคำที่เสียดสี เสิ่นอีเวยได้กระแทกเสียงพอหนึ่งแล้ว
พูดว่า
“ในเมื่อคุณรู้ว่าบริษัทของเราเป็นที่มีชื่อ
เสียง
ทำไมต้องใช้ชั้นในการบีบบังคับเซิ่งเจ๋อ เฉิงล่ะ ? คุณพูดว่าชั้นดูถูกตระกูลเซิ่ง ที่คุณใช้วิธีการเช่นนไม่ใช่ว่าเป็นการดูถู กบริษัทเซิ่งซื่อหรอกหรือ ? ”
พอเสิ่นอีเวยพูดเสร็จ
เจิ้งอวิ๋นชวนก็ได้หยุดไปชั่วครู่ หลังจากนั้นเขาก็ได้หัวเราะขึ้นมา
เจิ้งอวิ๋นชวนก็ได้เอาบุหรี่ออกจากปาก
แล้วมองไปยังเสิ่นอีเวย
แล้วได้พ่นควันบุหรี่ใส่หน้าเธอ
เสิ่นอีเวยไม่สามารถควบคุมอาการเธอ
ได้ แล้วก็ไอออกมา
เธอสูบบุหรี่ไม่เป็น
ถึงแม้เซิ่งเจ๋อเฉิงจะสูบบุหรี่ต่อหน้าเธอ แต่ว่าผู้ชายคนนั้นมีควันบุหรี่ที่เบาบาง
ไม่เหมือนกับเจิ้งอวิ๋นชวนที่อยู่ตรงหน้า เธอ ที่มีกลิ่นแรงมาก ซึ่งทำรายสัมผัสการสูดดมของเธออย่า งไม่หยุดยั้ง
หลังจากที่เจิ้งอวิ๋นชวนทำแบบนั้นไปทำ ให้เสิ่นอีเวยรู้สึกถึงความไม่สบายใจ เขาจึงแสดงออกถึงความพึงพอใจเป็น อย่างมากเพราะเขาคือคนที่ชอบทรมา นผู้หญิง
หลังจากที่ไฟในห้องถูกเจิ้งอวิ๋นชวนเปิ
ดมา
เสิ่นอีเวยที่มีความกลัวและเสียงนั้น ทำให้ในใจเขารู้สึกถึงความชอบใจ
โรคอาหารหวาดกลัวในที่มืด ? ชื่อโรคนี้ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยฟัง แต่สิ่งที่เขาไม่เชื่อคือเสิ่นอีเวยมีโรคนี้อ ยู่ด้วย หลังจากที่รับรู้ เขาก็ตัดสินใจในการที่จะจัดการเธอ สายตาของเจิ้งอวิ๋นชวนมีความลึกล่า สายตาของเขาอยู่ถึงจุดน่ากลัวที่สุด และได้มองไปยังเสิ่นอีเวย
“คุณหญิงเสิ่น คุณอย่าลืมสิ บริษัทเซิ่งชื่อเป็นของเซิ่งเจ๋อเฉิง ไม่ใช่ของผม ทำไมผมต้องไปแคร์ด้วย
?”
น้ำเสียงที่ไม่มีความสนใจใดๆของเจิ้งอ วิ่นชวน
แน่นอนล่ะว่าคนที่ต้อยต่ำก็คือคนที่ต้อ ต่ำ ใจในของเสิ่นอีเวยก็คิดว่า ในที่สุดก็ไม่ไปคิดถึงการปรับเปลี่ยนมุม มองในการมองคนๆ นี้
เสิ่นอีเวยค่อยๆลุกขึ้น
หลังจากที่เปิดไฟ อาการกลัวก็เลยหายไป เธอก็พยายามที่เก็บอารมณ์ให้มากที่สุ
เพื่อไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามเห็นในสภาพที่ไ ม่น่าดู
สีหน้าของเธอขาวสะอาด อากาศที่มีอุณหภูมิต่ำ เมื่อเรื่องเมื่อสักครู่ทำให้มีเหงื่อไหลออ
กมา
หน้าผากของเธอก็ได้ขยายใหญ่
มีอะไรมาบังตาเอาไว้
ทำให้รู้สึกถึงความเจ็บปวด แต่เสิ่นอีเวยก็ไม่สามารถที่จะจัดการมัน
ได้
เจิ้งอวิ๋นชวนในวันนี้แสดงให้เห็นถึงแก้ ดังนั้นในตอนนี้ควรจะรีบออกไปเร็วที่สุ
แค้น
เพราะว่าคนอย่างเจิ้งอวิ๋นชวน เงินอีเวยไม่ได้สามารถรับรองได้ว่าจะไ กิดอะไรขึ้นกับเธออีก
เธอพยายามเข้าสู่อารมณ์ปกติ เพื่อให้ไม่ได้เกิดตื่นเต้นในใจ
เสิ่นอีเวยได้มองหน้าเจิ้งอวิ๋นชวน แล้วพูดว่า “คุณเจิ้ง เรื่องมาถึงวันนี้ ชั้นคิดว่าคุณก็คิดออกแล้วว่า บทสนทนาของเราสองคนนั้นไร้สาระม ากถึงมากที่สุด ชั้นขอพูดอีกรอบว่า วันนี้ที่ชั้นมาคุณมีจุดประสงค์คือ
พอพูดถึงตรงนี้
เสิ่นอีเวยก็ได้หยุดลงเพราะว่าอยากดูว่ าเจิ้งอวิ๋นชวนมีการตอบสนองหรือไม่
ซึ่งเป็นไปได้คาด
เขาไม่ได้สนใจอะไรเลย
เรื่องเกิดมาถึงขั้นนี้
เธอก็จะไม่สนใจในความรู้สึกของเจิ้งอ วินชวนแล้ว
เสิ่นอีเวยได้คิดแล้วพูดต่อไปว่า
“ชั้นเพียงแต่มาขอโทษตามที่คุณต้องก ารเท่านั้น ส่วนเรื่องห้าปีก่อนนั้น คุณจะให้อภัยหรือไม่ก็สุดแล้วแต่คุณเถ
อะ
“คุณทำให้คนอื่นลำบากใจด้วยวิธีเช่นนี้
แต่ว่าชั้นก็มีการยืนหยัดและจุดต่ำสุดข เกรงว่าจะไม่สามารถอยู่ต่อเพื่อรอคุณ
องชั้นเช่นกัน
ทำแบบนี้ได้แล้ว”
เสิ่นอีเวยได้พูดอย่างชัดเจน เธอมั่นใจว่าเจิ้งอวิ๋นชวนจะฟังไม่ออก
พอพูดเสร็จก็ไม่ได้จะรีบออกไปเสียทีเ
ดียว เธอไดมองเจิ้งอวิ๋นชวนอย่างเงียบ ๆเหมือนกับกําลังจะพร้อมสู้รบอย่างไร อย่างนั้น
เจิ้งอวิ๋นชวนได้ยิ้มไปครู่หนึ่ง หลังจากที่เสิ่นอีเวยพูดเสร็จ ซึ่งรอยยิ้มที่เต็มด้วยความสะใจและเสีย ดสี
เขาได้เงยหน้า และเปิดปากพูดว่า
“คุณหญิงเงินคิดว่าผมนั้นมันอะไรก็ได้ หรือ ? คิดว่าจะมาก็มา จะไปก็ไปหรือ?
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ