บทที่ 8 เจ้าของโรงน้ำชานามอาเซียน
ครานี้เขาเป็นฝ่ายเดินวนรอบร่างของนาง เขาเดินวนอยู่สาม รอบสำรวจนางจนทั่วแล้วพยักหน้าเหมือนเข้าใจในบางสิ่ง
“เจ้าไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นเซียน เป็นเซียนที่ตบะสูงส่งเสียด้วย”
เขาหรี่ตา “เจ้าจะโกหกข้าว่าไม่รู้ว่าเข้ามาที่นี่ได้อย่างไรหรือ
“เอ่อข้า ไม่รู้จริงๆ ขอรับ”
“เจ้าเป็นสตรี” เขาเอ่ยต่อ
ฮวาเห์หยวนไม่อาจสัมผัสไอเซียนจากบุรุษผู้นี้ได้ เหตุใดเขา จึงสัมผัสตบะของนางได้กันนะ โลกภายนอกตำหนักทักษิณของ เจ้าแม่คงมีอีกหลายสิ่งที่นางไม่รู้ ครั้นเห็นสายตารู้ทันของเขา แล้วก็ได้แต่ทอดถอนใจ นางไร้ซึ่งความสามารถในการปลอมตัว เสียจริงหากดึงดันไม่ยอมรับว่าตนเองเป็นสตรีเห็นทีว่าจะทำให้ ตนเองขายหน้าผู้อื่นเปล่าๆ
“ข้ายอมรับ”
เมื่อโดนจับได้นางจึงเปิดหมวกออก ครานี้ดูเหมือนว่าผู้ที่ลม หายใจติดขัดจะกลายเป็นเขา เขาหยุดมองนางคล้ายตื่นตะลึงอยู่ ชั่วครู่
“เพราะตบะของท่านเซียนกล้าแข็งเลยฝาข่ายอาคมของข้าเข้า มาได้เรื่องนี้ไม่แปลก แต่ที่แปลกคือท่านเซียนมาที่นี่ด้วยเรื่องใด ปกติเซียนชั้นสูงนอกจากพวกที่องค์เง็กเซียนส่งมาทำสงครามกับจอมมารก็แทบไม่มีผู้ใดโผล่มาที่นี่
ดวงตาสีเทาเงินที่ตัดกับสีผมของเขามองนางราวกับคมมีด
“ข้าหาใช่เซียนชั้นสูงไม่ อีกอย่างท่าทางของข้าท่านคงรู้ว่าเพิ่ง ได้ตบะเซียนมาไม่นาน” นางก้มหน้าบ่นอุบอิบ คนผู้นี้ดูเหมือนจะ มองนางทะลุไปถึงเนื้อในจิ้งจอกเก้าหางแล้วกระมัง
“แม้กระนั้นท่านก็ยังมีกลิ่นเซียนที่หอมยิ่งนัก
เขามองนางด้วยดวงตาสดใสและจริงใจยิ่ง จริงใจจนทำให้ นางไม่อาจกล่าวหาว่าคนผู้นี้กำลังล่วงเกินนางหรือไม่ ฮวาเล่ห์ หยวนหน้าแดงแล้ว นางบิดมือไปมาด้วยไร้ซึ่งประสบการณ์ที่จะ ต่อกรกับบุรุษอีกทั้งเป็นบุรุษที่รูปงามเหนือผู้ใดอีกต่างหาก “เอ้อ..ขอบคุณท่าน”
เพียงนางเอ่ยคำขอบคุณออกมา คนผู้นี้ก็อมยิ้มในหน้าทำท่า เหมือนกำลังกลั้นหัวเราะ ฮวาเห์หยวนสำรวจตนเอง นางทำสิ่ง ใดให้เขาขบขันเช่นนั้นหรือแต่ก็ไม่กล้าเอ่ยปากถามออกไป
“แล้วท่านเล่า มีนามว่าอะไรข้าน้อยเสียมารยาทแล้วที่มา รบกวนคุณชาย” น้ำเสียงของนางดูสุภาพลงมากด้วยตระหนักว่า ตนเองเป็นฝ่ายล่วงล้ำเข้ามาภายในโดยไร้มารยาทเช่นนี้
“ข้าเสียมารยาทแล้ว ข้ามีนามว่าอาเซียนเป็นเจ้าของโรงน้ำ ชาแห่งนี้ที่แห่งนี้เป็นห้องลับของข้าเองปกติไม่มีผู้ใดผ่านเข้ามา ได้ทานเซียนมีตบะแก่กล้านักถึงสามารถผ่านขายอาคมของข้า เข้ามาได้” เขาประสานมือค้อมกายลงอย่างนอบน้อม ใบหน้า อมยิ้มนั้นช่างหล่อเหลายิ่ง
ฮวาเยห์หยวนรีบประสานมือรับน้อมกายตอบอย่างเกรงใจ คนผู้นี้สุภาพอ่อนโยนยิ่งท่วงท่าของเขาช่างงดงามราวกับกำลัง ร่ายรำอยู่ท่ามกลางท่วงทำนองอันไพเราะไม่ว่าจะขยับทำสิ่งใด ล้วนน่ามองดึงดูดใจ
“ท่านอาเซียนเป็นข้าเองที่เสียมารยาท” นางกล่าวอุบอิบสติ พลันล่องลอย
เขาเงยหน้ามองนางส่งยิ้มน่ารักสดใสกลับมาให้ แล้วเอ่ย อย่างอ่อนโยน
“เราสองคนขอโทษกันไปมาเห็นท่าว่าวันนี้คงได้ยืนอยู่เช่นนี้ ข้าขอเสียมารยาทถามนามของท่านเขียน
“ข้ามีนามว่าฮวาเห์หยวน รบกวนท่านอาเซียนแล้ว”
เขายิ้มงดงามอบอุ่นมาให้นางอีกครั้ง ฮวาเห์หยวนจึงยิ้ม ตอบ ทั้งคู่สนทนาอย่างถูกคอกันอยู่ชั่วครู่ เป็นเพราะกิริยาเป็น กันเองของเขาทำให้เซียนจิ้งจอกน้อยลดอาการประหม่าเมื่อพูด คุยกับเขาลงไปได้มาก
ฮวาเย่ห์หยวนเล่าเรื่องที่นางต้องการสมัครงานให้เขาฟัง อา เซียนรับปากตกลงรับนางโดยทันใด
“ข้ายังไม่ได้แสดงฝีมือให้ท่านดูเลย” นางกล่าวพลางกินขนม ดอกกุ้ยฮวาทีอาเซียนนำมาให้อย่างเอร็ดอร่อย ใช่นางยอมรับ ว่าหิวมากหิวยิ่งนัก แม้จะดูไร้มารยาทของสตรีที่พึงมีแต่ความหิว นี้ทำให้นางลืมเรื่องพวกนั้นที่ตำหนักเจ้าแม่กวนอิมพร่ำสอนมา เสียสิ้น
“ข้าจะรอชมวันแสดง หวังว่าท่านจะไม่ทําให้ข้าผิดหวัง
เขาหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นท่าทางหิวโหยของนาง นางจะแตก ต่างจากเซียนผู้อื่นอยู่มาก บริสุทธิ์สดใสนักแล้วเซียนน้อยเช่นนี้ ออกมายังโลกที่เต็มไปด้วยปีศาจโดยไม่เกรงกลัวอันตรายได้ อย่างไร เซียนเกิดใหม่ก็ประดุจทารกมีเนื้อที่เหล่าปีศาจ โปรดปรานนัก แต่อาเซียนก็หาได้ถามสิ่งใดเพื่อเป็นการล่วงเกิน นางออกไป
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ