๒.๓ ความสุขอันแสนสั้น
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นเบาๆ ในตอนสายของวันใหม่ เอมมาลิ นมองคนที่เข้ามาในห้องอย่างไม่รู้สึกรู้สา ต่างกับคนที่เข้ามาซึ่ง มองสาวน้อยอย่างเห็นใจแกมเวทนา ป้าแก้วพยักหน้าให้เตือน ใจสาวใช้ที่เดินประคองถาดอาหาร เอาถาดไปวางไว้ที่โต๊ะข้าง หัวเตียงแล้วบอกให้ไปรอข้างนอก ส่วนตัวนางเองขยับเข้าไปหา คุณหนูของตน
“เป็นยังไงบ้างคะคุณหนู ดูสิทูนหัวของป้าตาบวมหมดเลย ไป อาบนําอาบท่าก่อนสิคะ จะได้มาทานข้าว ป้าทของโปรดของ คุณหนูมาให้ค่ะ”
“เอมไม่หิวหรอกค่ะป้าแก้ว” เสียงอันหม่นเศร้าเอื้อนเอ่ย เช่น
เดียวกับแววตาที่ไร้ชีวิตชีวาทว่าเจ็บปวด
“ไม่หิวก็ทานสักนิดเถอะนะคะ จะได้มีแรง
“เอมอยากออกไปจากที่นี่ เอมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ป้าแก้ว ปล่อยเอมไปได้ไหม”
“ป้า…เอ่อ…” ป้าแก้วมีท่าทีอึกอัก สงสารคุณหนูก็สงสาร ทว่า ก็กลัวเจ้านายซึ่งเป็นคนที่มีอำนาจที่สุดในบ้านหลังนี้ด้วย แม้ตน จะเป็นคนเก่าคนแก่และสงสารคุณหนูเอมมากเพียงใด ก็ยัง ตัดสินใจไม่ได้เด็ดขาดว่าจะกล้าทำตามที่ถูกขอร้อง
“นะคะป้า ช่วยเอมสักครั้ง พ่อไม่รักเอมแล้ว เอมก็ไม่รู้จะอยู่ บ้านหลังนี้ไปทำไม” เอมมาลินเว้าวอนอย่างน่าสงสาร ซึ่งป้าแก้ว ก็เห็นว่าอย่างนั้นเช่นกัน หลายๆ ครั้งที่คุณท่านทำไม่ถูก และ เหมือนจะลำเอียงจนน่าสงสารคุณหนู
“แล้วคุณหนูจะไปอยู่ที่ไหนคะ “เอมจะไปหาพี่อิสร์กับน้ากรอง
“แต่คุณพ่อท่านห้าม แล้วถ้าคุณหนูหายไป คุณพ่อท่านก็คงไป ตามคุณหนูได้ไม่ยาก
“เอมไม่ได้คิดจะไปอยู่ที่นั่นหรอกค่ะ เอมแค่จะแวะไปลาพอิสร กับน้ากรอง แล้วเอมจะลงไปหาน้าอร เอมจะไปอยู่กับน้าอร” เอม มาลินตั้งใจเช่นนั้นจริงๆ เพราะตอนนี้ญาติคนเดียวที่เธอเหลืออยู่ ก็คืออินทุอร น้าสาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับแม่ของเธอ ซึ่งแต่งงาน และตั้งรกรากอยู่ที่ภูเก็ต
“วันนี้คงไม่ได้ค่ะ คุณท่านกับคุณนงนภาอยู่บ้านทั้งวัน เอาไว้ วันพรุ่งนี้นะคะคุณหนู ตอนเย็นๆ เห็นว่าจะพากันไปงานเลี้ยง แต่ คุณหนูต้องทานอาหารนะคะ จะได้มีแรง
“แต่เอมไม่หิวเลย มันซื้อไปหมด
“ป้าเข้าใจค่ะ แต่ฝืนหน่อยนะคะ”
“เอมจะพยายามค่ะป้าแก้ว”
ป้าแก้วยกมือขึ้นโอบไหล่คุณหนูของนางแล้วกอดกระชับอย่าง รักและสงสาร ตั้งแต่ทำงานที่นี่นางไม่เคยขัดคำสั่งเจ้านายเลยและนั่นคือสิ่งที่ทำให้คุณธนินรักและไว้ใจจนแต่งตั้งให้เป็น หัวหน้าแม่บ้าน ทว่าพรุ่งนี้นางอาจจะต้องทำในสิ่งที่ไม่ถูกใจเจ้า นาย แต่มันอาจเป็นหนทางที่ถูกต้องที่สุดก็ได้
คฤหาสน์หลังใหญ่ในช่วงเที่ยงวันเดียวกัน ขณะที่สาวน้อย นอนซมอยู่กับกองน้ำตาและความเศร้าในใจ แต่ตอนนี้ที่ชั้นล่าง ของคฤหาสน์กลับมีรอยยิ้มอันแฝงไปด้วยความสุขและสมหวัง ของใครอีกคน เมื่อมีอาคันตุกะหนุ่มมาเยี่ยมเยือนถึงบ้าน แผนการอันแยบยลปนร้ายลึกผุดขึ้นมาในใจทันที ขณะตาเพ่ง มองชายหนุ่มผู้มีฐานะเป็นลูกชายของเพื่อนสามี
จริงอยู่ที่อีกไม่กี่วันเอมมาลินก็จะถูกส่งไปเรียนต่อต่างประเทศ ทว่านงนภาก็ยังไม่แน่ใจนักว่าเอมมาลินจะเรียนจบกลับมา ซึ่ง หากเป็นอย่างนั้นจริงๆ แน่นอนว่าเธอต้องดีใจที่เอมมาลินจะด้อย กว่าลูกสาวตัวเอง และถ้ายิ่งเอมมาลินลงเอยกับเด็กหนุ่มคนเมื่อ วานได้ยิ่งดี เอมมาลินจะได้ไม่มีอะไรสู้ลูกสาวของเธอได้ แต่ใน อีกมุมหนึ่งนั่นเท่ากับว่าเอมมาลินต้องกลายมาเป็นภาระให้คุณ ธนิน ทรัพย์สินบางส่วนต้องถูกแบ่งไปจุนเจือลูกเขยที่มีแต่ตัว ดัง นั้นผู้สนับสนุนให้เอมมาลินได้ลงเอยกับคนที่มีฐานะดีพอ ประมาณดีกว่า เพราะถึงยังไงซะเธอก็มั่นใจว่าจะหาคู่ครองที่ เพียบพร้อมกว่านี้หลายเท่า ให้กับลูกสาวของตนได้อย่างแน่นอน
“เป็นไงบ้างตาแทน กลับมาเมื่อไหร่” ธนินทักทายบุตรชาย ของเพื่อนสนิท ซึ่งเป็นเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง
“เพิ่งกลับมาถึงเมื่อวันก่อนนี่เองครับ พอดีคุณพ่อมีของฝากมา ให้คุณอา เป็นชาจากทิเบตครับ ผมเลยอาสาโอกาสแวะมาสวัสดีคุณอากับคุณนงนภาด้วย
“ขอบใจมากนะแทน ฝากความคิดถึงหาพ่อเราด้วย วัน อาทิตย์อาว่าจะชวนไปไดรฟ์กอล์ฟอยู่เหมือนกัน ไม่ได้ออกรอบ ด้วยกันนานแล้ว แล้วนี่จะทำงานที่โรงพยาบาลตัวเอง หรือจะทำ ที่อื่นก่อน”
“คงเป็นโรงพยาบาลตัวเองนั่นแหละครับ ทำที่อื่นพ่อคงไม่
ยอมแน่ๆ
“ดีแล้วละ เป็นอาอาก็คงไม่ยอมเหมือนกัน”
“แล้วนี่น้องเอมไม่อยู่เหรอครับ ได้ข่าวว่ากำลังจะไปเรียนต่อ ต่างประเทศเหมือนกัน”
การไถ่ถามของแทนไททำให้ธนินแอบดีใจอยู่ลึกๆ เพราะตนก็ แอบหวังจะให้เอมมาลินได้ลงเอยกับแทนไท ทว่าเอมมาลินกลับ ไปมีใจปฏิพัทธ์กับกวินภพเด็กหนุ่มที่ไม่มีอะไรเหมาะสมกับ ลูกสาวของเขาเลย
“อยู่ข้างบนน่ะ ไม่ค่อยสบาย
“ให้คุณแทนตรวจดูอาการหนูเอมหน่อยไหมคะคุณพี่” นงนภา รีบเสนอเพื่อที่ทุกอย่างจะได้เป็นไปตามแผนที่ตัวเองแอบวางไว้ ในใจ
“ผมจบด้านจิตแพทย์มา ไม่แน่ใจว่าจะตรวจอาการน้องเอมได้ แค่ไหนนะครับ แต่ลองหน่อยก็ได้ครับ จะได้ถือโอกาสทักทาย น้องเอมด้วย”
“งั้นเดี๋ยวอาจะให้แม่บ้านไปตามยัยเอมให้นะ”
สินค้าของเจ้าของคฤหาสน์ ป้าแก้วก็ถูกใช้ให้ไปตามเอมมาลิ นลงมาที่ห้องรับแขก ซึ่งครั้งแรกเอมมาลินคิดว่าจะไม่ลงมา ทว่า พอนึกอะไรบางอย่างได้จึงลงมา
“สวัสดีค่ะพี่แทน”
มือเรียวบางยกขึ้นไหว้ พยายามจะคลี่ยิ้มให้อีกฝ่าย แต่ก็ ทำได้เพียงแค่ฝืนยิ้มบางๆ เท่านั้น เธอจำแทนไทได้ว่าเป็น ลูกชายของเพื่อนสนิทของพ่อ แทนไทมีอัธยาศัยดีกับเธอพอ สมควร ทว่าเธอก็ไม่ได้มีใจผูกพันเหมือนกับที่ผูกพันกับพี่อิสร์
“เรียกว่าพี่แทนไม่ได้แล้วนะหนูเอม หนูเอมต้องเรียกว่าพี่หมอ เพราะคุณแทนจบหมอเรียบร้อยแล้ว นงนภาบอกเสียงระรื่น ประดุจดั่งว่าไม่เคยมีเรื่องขุ่นข้องหมองใจกับเอมมาลิน ทั้งๆ ที่ที่ ผ่านมาเธอพยายามทำทุกวิถีทางให้ลูกสาวตนเป็นลูกรัก และ เอมมาลินเป็นลูกชังของคุณธนิน
“ยินดีด้วยนะคะพี่หมอแทน” เอมมาลินคร้านจะขัดจึงเปลี่ยน คำที่ใช้เรียกแทนไท ถึงอย่างไรมันก็ไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร
“ได้ข่าวว่าไม่ค่อยสบายเหรอ”
“ค่ะ…” เสียงหวานตอบสั้นๆ เรียบๆ เนือยๆ เช่นเดียวกับ
สีหน้า
“ไปเดินเล่นกันไหม” จิตแพทย์หนุ่มที่เพิ่งจบมาหมาดๆ ฉลาดพอจะดูออกว่าตอนนี้เอมมาลินอาจจะอยากคุยอะไรบางอย่างกับเขาตามลำพัง ซึ่งเขาก็เดาถูกเพราะเอมมาลินพยักหน้า
“ไปสิคะ”
เมื่อสองหนุ่มสาวเดินตามกันไปยังสวนหย่อมด้านนอก ธน นมองตาม โดยไม่ได้ว่าอะไร เขากลับดีใจเสียอีกที่ลูกสาวคนดูจะ เปิดรับไมตรีจากแทนไท
ในสวนหย่อม งจัดอย่างสวยงาม เสริมให้บรรยากาศของ คฤหาสน์ดูร่มรื่นเย็นสบาย ทว่าเอมมาลินไม่เคยรู้สึกว่าตัวเอง เดินที่นี่แล้วจะสบายใจแต่อย่างใด เท้าเล็กๆ เดินทอดน่องไปบน พื้นหญ้าหนานุ่ม โดยมีจิตแพทย์หนุ่มอย่างแทนไทเดินอยู่ข้างๆ
“พี่ดูว่าเอมไม่ค่อยสบายใจนัก มีอะไรในใจหรือเปล่า หรือ ว่ากังวลเรื่องไปเรียนต่อต่างประเทศ” แทนไทคาดเดาจาก ประสบการณ์ของตัวเอง
“ใช่ค่ะ นั่นก็ส่วนหนึ่ง” ส่วนอีกเรื่องหนึ่งเอมมาลินเลือกที่จะ
เก็บมันไว้ในใจคนเดียว
“พี่เข้าใจเอมนะ เพราะพี่เคยผ่านความรู้สึกแบบเอมมาแล้ว ตอนนั้นพี่อยากเรียนต่อที่เมืองไทย จะได้เรียนกับเพื่อนๆ แต่พ่อ พี่อยากให้ไปเรียนต่อต่างประเทศ เพราะอยากให้พี่ได้ประสบกา รณ์ใหม่ๆ เจอเพื่อนใหม่ๆ บรรยากาศใหม่ๆ และได้มุมมองชีวิต ใหม่ๆ ซึ่งพี่ไม่เห็นด้วยกับพ่อสักนิด แต่สุดท้ายก็ต้องไปตามใจ พ่อ พอไปแล้วมันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไร มันกลับดีด้วยซ้ำ”
“ถ้าพ่อส่งเอมไปด้วยเหตุผลเดียวกับพ่อพี่หมอก็คงดีสิคะ”
“ถ้าไม่ใช่ด้วยเหตุผลเดียวกับพ่อ แล้วเพราะอะไร
“ช่างมันเถอะค่ะ เอมก็พูดไปเรื่อยเปื่อย ถึงยังไงก็คงไม่มี อะไรเปลี่ยนแปลง” น้ำเสียงกับแววตาหม่นเศร้าลงอย่างควบคุม ไม่ได้ แทนไทจึงเดินอ้อมมาข้างหน้า มองสาวน้อยด้วยสายตา พินิจ และเป็นไปด้วยความอบอุ่นอ่อนโยน
“มีอะไรอยากระบาย หรืออยากให้พี่ช่วยมั้ย
“ช่วยพาเอมออกไปข้างนอกได้มั้ยคะ”
“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้” แทนไทรับปากอย่างรวดเร็ว เมื่อน้ำ เสียงยามที่พูดออกมานั้นเหมือนจะเลือไว้ด้วยการอ้อนวอนนิดๆ
แทนไทกลับเข้าไปขออนุญาตธนิน เรื่องที่จะพาเอมมาลินอ อกไปข้างนอก ซึ่งพอธนินเอ่ยปากอนุญาต เอมมาลินก็กลั้นความ ดีใจเอาไว้แทบไม่อยู่ เพราะในที่สุดเธอก็มีอิสรภาพอีกครั้ง โดย ไม่ต้องทำให้ป้าแก้วหรือใครเดือดร้อน เธอตั้งใจว่าจะให้แทนไท พาออกไปข้างนอก แล้วใช้โอกาสนี้หนีไปหาน้าสาวอย่างที่ตั้งใจ เอาไว้แต่แรก
ร่างบางกลับขึ้นห้องตัวเองแล้วหยิบเอากระเป๋าสะพายข้าง โดยไม่มีโทรศัพท์มือถือ เพราะถูกนงนภายึดไปตั้งแต่เมื่อวาน แต่นั่นไม่เป็นไร…เพราะเธอจําเบอร์มือถือของพี่อิสรได้ขึ้นใจ
ก่อนจะขึ้นรถของแทนไท ร่างบางหันมามองบ้านหลังใหญ่ เป็นครั้งสุดท้ายด้วยสายตาหม่นเศร้า เพราะนับจากนี้ไปเธอคง ไม่มีโอกาสได้กลับมาบ้านหลังนี้อีกแล้ว พ่อคงตัดขาดลูกที่ไม่รัก ดีอย่างเธอ และอยู่กับครอบครัวใหม่ของพ่ออย่างมีความสุขหลังจากไม่มีเธอ…
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ