แพทย์หญิงอันดับหนึ่ง

บทที่ 4 การใส่ร้ายป้ายสี เรื่องง่ายดาย



บทที่ 4 การใส่ร้ายป้ายสี เรื่องง่ายดาย

บทที่ 4 การใส่ร้ายป้ายสี เรื่องง่ายดาย

“พระเจ้า…..”ทุกคนต่างเห็นนายหญิงซูในสภาพที่เสื้อผ้า ขาด ต่างก็งงไปหมดแล้ว

นี่คือนายหญิงใหญ่ของจวนไท่ซือ นายหญิงสูงสุด! มีศักดิ์ที่สูงส่ง สง่าและมีบารมี

แต่เพลา……….

“นางชั้นต่ำ อย่ามาแสดงเป็นคนดี! อีกเดียวกลับตำหนัก ดูสิว่าข้าจะจัดการเจ้าอย่างไร!” นายหญิงซูกริ้วโกรธมาก โกรธจนสั่นทอนไปทั้งตัว

“เกิดอะไรขึ้น?” องค์รัชทายาทเซียวจิ๋นยวนลงจากรถ ก็ เห็นหน้าจวนซูวุ่นวายไปหมด จึงถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่เป็น มิตร

ทุกคนต่างก็หลีกทาง!

เซียวจิ๋นยวนเห็นนายหญิงซูเสื้อผ้าไม่เรียบร้อย สีหน้า เขียวทันที “นี่อะไรกัน!”
แล้วหันหน้าไปอีกทาง เพราะไม่อยากปนเปื้อนสายตา

ของตน

เขาคนนี้ ไม่ว่าทำอะไรมักจะคำนึงถึงแค่ตนเอง ไม่เคย สนใจความรู้สึกของผู้อื่น

ถึงตอนนี้เขาอยากประจบจวนซู แต่เรื่องของนายหญิงซู เขาก็ไม่ใส่ใจเช่นกัน

“ท่านแม่!” สีหน้าของซูซือแย่ไปหมด รีบเดินเข้าไป แล้ว ดึงเสื้อผ้าของสาวใช้ที่อยู่ข้างๆห่มให้นายหญิงซู

เสียงของนางสั่นทอน

ซูเฉียวยืนอยู่ข้างๆด้วยความเรียบร้อย มีดผ่าตัดในมือก็

เก็บเข้าไปแล้ว

บนใบหน้ามีรอยน้ำตา

“โอ๊ย…..” นายหญิงซูถึงรู้ตัวว่าตนเองเสียมารยาท ไม่ เพียงแต่เสียมารยาท ยังเสียหน้าอีก เลยร้องดังๆแล้วเอา มือมาปิดหน้า

เสื้อผ้าของนางโดนกรีดจนฉีกขาด ไม่สามารถปิดบัง ความอวบอิ่มที่ทรวงอกได้เลย!
แม้กระทั่งแขนและไหล่ยังโผล่ออกมา

เวลานี้ซูเฉียวจึงเดินเข้าไปพยุงแขนอีกข้างของนาย หญิงซู แล้วพยุ่งนางเดินเข้าไปในตำหนัก พร้อมกับพูด กับซูซือ “พี่ใหญ่เจ้าคะ ท่านไปดูแลองค์รัชทายาทเถอะ เจ้าค่ะ ข้าพยุงท่านแม่กลับห้องเอง”

แล้วยังไม่ลืมพูดเตือนนายหญิงชิว “ท่านแม่คะ รีบปิด ประตูเจ้าค่ะ!”

นายหญิงชิวสติหลุดนานแล้ว พอซูเฉียวเตือน ถึงรีบสั่ง ให้หัวหน้าแม่บ้านไปปิดประตูจวน

ในตอนแรกนั้นซูซือก็อยากพยุงนายหญิงซือกลับจวน แต่ตอนนี้นางสนใจความรู้สึกของเซียวจิ๋นยวนมากกว่า

และการเกิดเรื่องเช่นนี้ นางเองก็ไม่อยากให้เซียวจิ๋น ยวนอยู่ต่อ!

“องค์รัชทายาทเพคะ!” ซูซือน้ำตาคลอ พูดพร้อมกับมอง เขาด้วยสีหน้าที่น่าสงสาร “ท่านแม่ของข้าต้องโดนคน อื่นวางแผนทำร้ายแน่เลยเพคะ หวังว่าท่านจะคืนความ ยุติธรรมให้ข้าด้วยเพคะ”

“นี่คือเรื่องของจวนซู ข้าจะยุ่งได้อย่างไร!” คนอย่าง เซียวจิ๋นยวนนั้นเห็นแก่ตัวเสมอ ตอนนี้เขาไม่ยอมให้ตนเองไปยุ่งเกี่ยวเรื่องนี้หรอก เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น บางที แม้แต่ซูไม่ซื้อก็ไม่อาจเก็บนางไว้ได้

พูดอยู่นั้น เซียวจั่นยวนกีสะบัดมือของซูซือออก “รีบไป จัดการเรื่องให้เรียบร้อย ไม่เช่นนั้นอาจมีผลกระทบต่อ ตำแหน่งของเจ้าในจวนรัชทายาทได้”

คำพูดนี้ชัดเจน ซูซือนั้นเป็นชายารอง นายหญิงซูเกิด เรื่องเช่นนี้ ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางเลื่อนตำแหน่งให้นาง ได้ขึ้นเป็นชายาหลัก

แต่ว่า เขาเองก็ไม่ได้ชี้คำขาด

หากซูซือสามารถนำของซูเฉียวมาให้เขาได้ เขาก็อาจ จะคิดทบทวนใหม่ได้

พูดจบเซียวจิ๋นยวนก็หันหลังแล้วขึ้นรถม้าไปเลย

จากไปโดยไม่ใยดี

ประตูจวนไท่ซือปิดแน่น แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นั้น กลับโดนลือไปทั่วแล้ว

สองคนที่อยู่ในโรงสุรายังคงดื่มสุราในมือกันอย่างมี ความสุข
โจวไป๋มู่เบิกตากว้าง “ยัยหนูนี้ช่างเจ้าเล่ห์นัก..……..….

แลกมาด้วยการเหลือกตาของเซียวยี่หัน ราวกับว่ากำลัง มองคนโง่อยู่

เห็นสายตาของเซียวยี่หัน โจวไป๋มู่ก็ยิ้ม “ข้าคิดง่ายเกิน ไป ก่อนหน้านี้นางกล้าถึงขั้นหลอกใช้ข้า ยังมีเรื่องอะไร อีกที่นางไม่กล้าทํ

“กลับกัน!” เซียวยี่หันทิ้งเงินไว้ วางแก้วสุราลงแล้วออก ไปเลย

“ไปไหน?” โจวไป๋มู่เองก็รีบลุกขึ้น “ไม่เอาของแล้วหรือ?” “ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา!” เซียวยี่หันขยับปากเล็กน้อย เขา

อยากรอดูว่าซูเฉียวคนนี้จะมีชีวิตได้นานแค่ไหนเชียว หลังจากที่กลับจวนไท่ซือแล้วปิดประตู มีเรื่องมากมายที่ ไม่อยู่ในสายตาของผู้คน การจะทำอะไร ก็มีความยาก มากขึ้น

ซูซื่อชังสีหน้าแย่ นั่งอยู่ที่เก้าอี้หลัก แล้วมองนายหญิง ซูที่ปิดหน้าร้องไห้ จากนั้นก็จ้องซูซือที่ตามมาทีหลังด้วย แววตาที่โหดร้าย “ข้ายังไม่ตาย ร้องไห้อะไรนักหนา!”

คนที่เห็นแก่ตัวอย่างซูซื่อชัง ก็ย่อมที่จะรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่แล้ว

คนที่เสียหน้าไม่ได้มีเพียงนายหญิงซู แต่ยังมีไท่ซือคน ปัจจุบัน คนที่เป็นหัวหน้าซางกง(หมายถึง ไท่ฟู่ ไท่ซือ ไท่ เป่า)!

นายหญิงซูไม่มีความเคลื่อนไหวอีกต่อไป เขามองซูซื่อ ชังด้วยแววตาที่น้ำตาคลอ “คุณท่านเจ้าคะ ข้า…..ข้าไม่ อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วเจ้าค่ะ!”

จากนั้นก็หันไปมองซูเฉียวด้วยแววตาที่โหดร้าย

ซูเฉียวคุกเข่าอยู่ข้างๆ

ไม่ว่ายังไงก็ไม่ได้กลับทั้งคืน สิ่งที่รอนานอยู่คือการ

ลงโทษ

นายหญิงซูชี้คำขาดว่าซูเฉียวเป็นคนทำให้นางเสียหน้า

นายหญิงชิวมองสีหน้าของซูซื่อชัง แล้วกรอกตาไปมา ถึงเอ่ยปากพูด “นายหญิงเจ้าคะ บนตัวคุณหนูรองนั้นหนึ่ง ไม่มีมีด สองไม่มีของมีคม นางทำได้อย่างไร?”

นางโดนนายหญิงซูข่มขี่มาโดยตลอด และตอนนี้
เหมือนจะเห็นโอกาสที่ทําลายผู้หญิงคนนี้ได้

เพียงแค่นายหญิงซูตาย นายหญิงชิวที่เป็นที่โปรดปราน มาโดยตลอดก็จะได้ขึ้นตำแหน่งเป็นนายหญิงหลวง!

เพราะเช่นนั้น เวลานี้ นางไม่มีเวลามาโกรธหรือเกลียด เฉียวที่หลอกใช้ลูกสาวของนางมาบางหน้าแล้ว!

พอได้ยินเช่นนี้ ซูเฉียวก็ก้มหน้าแล้วยิ้ม หัวใจคนเราก็ เป็นเช่นนี้แหละ เมื่ออยู่ต่อหน้าผลประโยชน์ ก็สามารถ ทอดทิ้งทุกอย่างได้

“ท่านแม่ ทำไมท่านใส่ร้ายข้าเช่นนี้…” ซูเฉียวเองก็ พยายามก่อความวุ่นวาย “เมื่อครู่นี้ข้าพยายามช่วยท่าน บังตลอด อยากจะบอกท่านตั้งหลายครั้ง ท่านไม่ให้ข้าได้ พูดเลย ยังผลักข้าออกด้วยซ้ำ ท่านแม่เจ้าคะ แม่แท้ๆของ ข้านั้นเสียไปนานแล้ว ข้าเห็นท่านแม่เป็นแม่แท้ๆของข้า มาโดยตลอดเลยนะเจ้าค่ะ!”

สีหน้าที่ดูแล้วอ่อนแอมาก

ระหว่างที่พูดนั้นก็เช็ดน้ำตาไปด้วย

ราวกับว่าได้รับความลำบากถึงที่สุด
นางต้องทำให้คนพวกนี้กัดกันเอง

นางแค่รอดูผลลัพธ์ ก็พอแล้ว

นายหญิงซูหยุดร้อง แล้วจ้องซูเฉียวกับนายหญิงชิว “พวกเจ้าสองคนวางแผนใส่ร้ายข้าแน่นอน!”

“ท่านแม่เจ้าคะ นายหญิงซูก็แค่พูดความจริง ท่านอย่า กริ้วโกรธเลย!” ซูเฉียวพูดเสียงเบา ท่าสีหน้าราวกับว่า กลัวนายหญิงมาก

“นายหญิง ข้าวหลันเซียงเคารพท่านมาโดยตลอด ฟัง คำสั่งของท่านทุกอย่าง แต่เมื่อครู่อยู่ต่อหน้าผู้คน ท่านไม่ ช่วยพูดให้ลูกสาวข้าสักคำ ท่านบอกว่าให้ข้าช่วยท่านำ จัดซูเฉียว ก็จะส่งชิงเอ๋อไปที่จวนรัชทายาท อยู่ข้างกาย องค์รัชทายาท แต่ตอนนี้ ชื่อเสียงของชิงเอ๋อพังไปหมด แล้ว!” ชิวหลันเซียงเองก็พูดด้วยความโมโห

เพียงแต่ว่านางไม่ได้แสดงออกถึงความโอหัง ยังคง ความอ่อนแออยู่ พูดพลางร้องไห้ไปด้วย

ราวกับว่าตนเองลำบากถึงที่สุด

นางเด็กกว่านายหญิงซูสิบกว่าปี และหน้าตาก็สะสวย และตอนนี้ก็ร้องไห้ได้ถูกจังหวะมาก น้ำตาคลอเบ้า แต่ก็ ไม่ร่วง ทำให้คนมองแล้วรู้สึกถึงความสงสาร
ในตอนแรกนั้นซูชื่อฟังอยากจะลงโทษทุกคน แต่พอเห็น นายหญิงชิวแบบนี้ ก็ทำไม่ลง

และเวลานี้ซูเฉียวก็มองนายหญิงซูด้วยแววตาที่เหลือ เชื่อ “ท่านแม่เจ้าคะ ท่าน ทำไมท่านทำกับข้าเช่นนี้? เป็น เพราะว่าข้าทำอะไรให้ท่านโกรธหรือ? เมื่อคืน ถ้าไม่ใช่ เพราะข้าหนีทัน ก็โดนขืนใจไปแล้ว คนนั้นโหดร้ายมาก แถมยังอยากจะฆ่าข้าเพื่อปิดปากด้วย!”

ในแววตาเต็มไปด้วยความเสียใจ

บนร่างกายของนางยังมีรอยเลือด เสื้อผ้าก็สกปรกและ เก่า บวกกับใบหน้าที่อ่อนโยนเล็กๆ สีหน้าที่ลำบาก มอง ไม่เห็นความโอหังและแม้แต่น้อย

แต่กลับทำให้ซูซือคิดว่าก่อนหน้านี้ตนเองดูผิด

นี่สินะถึงจะเป็นซูเฉียว!

ระหว่างที่พูด ซูเฉียวก็หันไปพูดกับซูซื่อชัง “ท่านพ่อเจ้า คะ ท่านเองก็ได้ยินหมดแล้ว โปรดคืนความยุติธรรมให้ ลูกด้วยเจ้าค่ะ! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ