แผนลวงรัก บอกรักคุณ99วัน

บทที่ 12 ผมเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้ว



บทที่ 12 ผมเป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้ว

เมื่อวางสาย เชียงชิงฉือก็ลูบตรงจมูกของตัวเอง เพราะรู้สึกปวดหัว ยังคิดอยู่เลยว่าเรื่องมันดูสงบราบ เรียบเกินไป แต่ก็คิดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นอีก

เขาโทรอีกครั้งหนึ่ง เพื่อเรียกให้ลู่เย่นเข้ามาจัดการ ทําเรื่องออกจากโรงพยาบาล แล้วตัวเขาก็ขับรถกลับ ไปยังคฤหาสน์เพื่อไปอธิบายกับเซี่ยเสว่

หลังจากจอดรถในโรงรถแล้ว ก็เห็นมู่ซิงเหยวอ้อยอิ่ งอยู่หน้าคฤหาสน์อย่างไม่คาดคิด

มู่ซิงเหยวสวมชุดกระโปรงสีเหลืองสดใส ผิวขาวราว หิมะ บนศีรษะสวมที่คาดผมประดับมุก ที่หูก็ใส่มุกแบบ เดียวกัน มองแล้วดูดีและสง่างาม

เมื่อมู่ซิงเหยวมองเห็นเซียงชิงฉือ ดวงตาก็เป็น ประกาย “ชิงฉือฉันกำลังตามหาคุณอยู่พอดีเลยค่ะ”

เซียงชิงฉือเอ่ยปากอย่างสุภาพว่า “มีธุระอะไรหรือ เปล่า?”

“ไม่มีธุระอะไร มาหาคุณไม่ได้เหรอคะ?” มู่ซิงเหยว ตอบด้วยท่าทางหยอกเย้า วันนี้เธอแต่งตัวมาเป็นพิเศษ เพื่อให้เซียงชิงฉือเห็นว่าเธอสวยแค่ไหน คาดหวังว่าจะ ได้เห็นสายตาประหลาดใจของเซียงชิงฉือ

แต่เห็นได้ชัดว่าเธอต้องผิดหวัง เพราะเซียงชิงฉือไม่ได้หวั่นไหวเลยสักนิด แต่เธอจำได้อย่างชัดเจนว่าก่อน หน้านี้เซียงชิงฉือชอบที่เธอสวมชุดนี้มากที่สุด

“ถ้าหากไม่มีธุระ ผมว่าพวกเราจะติดต่อกันน้อยลงจะ ดีกว่า เพราะยังไงผมก็เป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้วน่ะครับ” เซียงชิงฉือยกมือขึ้น แหวนแต่งงานที่หรูหราบนนิ้วกลาง เป็นการบอกทุกคนอย่างชัดเจนว่าเขามีภรรยาแล้ว

มู่ซิงเหยวกำหมัดแน่นไว้ที่ด้านหลัง ปลายเล็บแหลม จิกเป็นเครื่องหมายพระจันทร์บนมือ แต่บนใบหน้ากลับ ไม่มีอารมณ์ใดๆ

“ชิงฉือ คุณต้องการให้เป็นแบบนี้จริงๆใช่มั้ย? พวก เราเองรู้จักกันมาหลายปีแล้ว ถ้าจะให้พูดถึงความรู้สึก มันย่อมลึกซึ้งนะคะ”

เซียงชิงฉือไม่ตอบ และหันกลับมา “มาหาผมมีธุระ อะไร?”

“ไม่มีอะไรค่ะ แค่ไม่ได้เจอคุณมาสองสามวันแล้ว เลย อยากจะทานข้าวด้วย”

มู่ซิงเหยวเห็นเขายืนนิ่งไม่ขยับ และไม่คิดที่จะเปิด ประตู จึงรีบเปลี่ยนท่าทางเป็นชวนให้สงสารและเห็นอก เห็นใจแทน : “ฉันมาถึงบ้านคุณแล้ว คุณจะไม่เชิญให้ ฉันนั่งเหรอคะ”

เซียงชิงฉือขมวดคิ้วเล็กน้อย เซี่ยเสว่ต้องอยู่ในบ้าน แน่ๆ ถ้าเซี่ยเสว่เห็นมู่ซิงเหยวจะต้องไม่พอใจ และเซี่ยเสวี่เองก็เข้าใจผิดเขาไปแล้ว เขาไม่อยากจะให้เข้าใจ ผิดมากขึ้นไปอีก

“เรื่องทานข้าว แล้วผมกับเซี่ยเสว่จะเชิญอีกทีแล้วกัน ตอนนี้ยังไม่สะดวกจะให้คุณเข้าไปน่ะ”

มู่ซิงเหยวคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีวันที่เซียงชิงฉือปฏิเสธ คำขอร้องของเธอ สีหน้าของเธอเริ่มมีความอับอาย

“ถ้าอย่างนั้นคุณให้ฉันเข้าไปล้างมือก็พอแล้วล่ะค่ะ” มู่ซิงเหยวกัดฟันกรอดแล้วยกมือของเธอขึ้น ทำให้เห็น รอยเปื้อนเล็กน้อยบนมืออันบอบบาง

เมื่อพูดกันมาจนถึงส่วนนี้แล้ว ถ้ายังไม่ให้มู่ซิงเดียว เข้าไปอีก เขาก็จะดูเป็นผู้ชายตัวโตที่จิตใจคับแคบมาก เกินไป

“ห้องน้ำอยู่ห้องสุดท้ายทางด้านขวามือ”

“ฉันรู้ค่ะ คุณลืมไปแล้วเหรอคะว่าฉันเคยมาที่นี่?” ซิงเหยวพยยามทำให้ชายหนุ่มนึกถึงความทรงจำที่เคย มีของพวกเขา

เซียงชิงฉือหลบสายตาและไม่ตอบคำถาม

“คุณผู้ชายกลับมาแล้ว”

ป้าจางลงมาต้อนรับ และรู้สึกแปลกใจที่คุณผู้ชายพา ผู้หญิงคนหนึ่งมาด้วย
“อืม” เซียงชิงฉือถอดเสื้อโค้ทออกแล้วส่งให้ป้าจาง “คุณนายล่ะ?”

“คุณนายอยู่ในห้องวาดภาพค่ะ เข้าไปตั้งแต่บ่ายยัง ไม่ออกมาเลย”

เซียงชิงฉือม้วนแขนเสื้อขึ้น เผยให้เห็นท่อนแขนอัน แข็งแกร่ง แล้วมองดูอาหารที่เพิ่งจะจัดเตรียมเสร็จบน โต๊ะ “ไปเรียกคุณนายให้ลงมากินข้าวเถอะ”

เซี่ยเสว่มักจะกินข้าวไม่ตรงตามเวลา ในระยะยาว กระเพาะอาหารจะเกิดปัญหาได้

มู่ซิงเหยวล้างมือเสร็จแล้วก็ออกมา พลางมองออกไป ด้านนอกของคฤหาสน์ ลืมไปแล้วว่ามาที่นี่ครั้งสุดท้าย เมื่อไหร่ ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่เหมือนกับครั้งก่อนที่มา ทั่วบริเวณของคฤหาสน์เต็มไปด้วยพรรณไม้สีเขียว และดอกไม้ที่สดใสมีชีวิตชีวา โซฟาที่แข็งกระด้างใน ห้องทำงานก่อนหน้านี้ก็ถูกแทนที่ด้วยโซฟาสไตล์ยุโรป ขนาดใหญ่ มีเบาะรองนั่งอย่างหรูหราสองสามอัน โดย เฉพาะพื้นที่ของสวนกุหลาบขนาดใหญ่ทางด้านซ้ายมือ มันช่างทิ่มแทงสายตาของมู่ซิงเหยวจริงๆ

ดูเหมือนว่าเซี่ยเสว่จะเปลี่ยนเขาไปแล้วจริงๆ ดวงตา ของมู่ซิงเหยวเกิดประกายชั่วร้ายขึ้นมา แล้วหายวับไป อย่างรวดเร็ว

“ซิงเหยว” เซียงชิงฉือเดินเข้ามาเห็นมู่ซิงเหยวที่ก้ม หน้าไม่รู้ว่าคิดอะไรอยู่
“ฉันล้างมือเสร็จแล้วล่ะค่ะ ควรจะไปได้แล้ว”

มู่ซิงเหยวเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาว่าต้องการจะออกไป ทำ ให้เซียงชิงฉือไม่รู้จะตอบว่าอย่างไรไปชั่วขณะ แล้วที่ หางตาของมู่ซิงเหยวก็มองเห็นร่างผอมเพรียวบางกำลัง เดินลงบันไดวนลงมา ก้นบึ้งหัวใจของเธอยิ้มอย่าง เย็นชา

“ชิงฉือ…” มู่ซิงเหยวตะโกนเรียก จงใจหาตำแหน่ง ที่จะทำให้เซี่ยเสว่หันมาเห็นได้อย่างชัดเจน และใช้ ประโยชน์ในขณะที่ชายหนุ่มไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบ สนอง จูบลงไป

เซียงชิงฉือเงยหน้าขึ้นอย่างรวดเร็ว จูบของมู่ซิงเหย วตกไปที่อยู่ใบหน้าด้านข้างของเขา ถึงแม้ว่าเป้าหมาย จะเบี่ยงเบนไปจากเดิม แต่ก็คือบรรลุตามเป้าหมาย มู่ ซิงเหยวกอดแขนของเซียงชิงฉือไว้แล้วมองเซี่ยเสว่ อย่างยั่วยุ

เซี่ยเสว่ได้ยินป้าจางบอกว่าเซียงชิงฉือกลับมาแล้ว ในตอนแรกก็ไม่อยากจะสนใจ แต่พอคิดว่าอยากจะรู้ว่า เขาจะพูดอะไรกับเธอจึงได้ลงมาที่ชั้นล่าง แต่คิดไม่ถึง เลยว่าจะได้เห็นฉากนี้

เป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมมาก! เซี่ยเสบู่จ้องมองอย่าง เย็นชา และพยายามเพิกเฉยต่อความเจ็บปวดในใจ

“ป้าจาง นี่คืออาหารเรียกน้ำย่อยเหรอคะ?”
ป้าจางเองก็สะดุ้งตกใจ เธอต้องชักกแม่น้ำทั้งห้าออก มาหว่านล้อมจนคุณนายยอมลงมา แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิด เรื่องนี้ขึ้น!

“เซี่ยเสว่ คุณฟังผมนะ!” เซียงชิงฉือหันกลับไปมองมู่ ซิงเหยวด้วยสายตาเย็นชา แล้วผลักหล่อนออก ก่อนจะ ก้าวเท้ายาวๆไปด้านหน้าเซี่ยเสบู่เพื่ออธิบาย

ทันทีที่แขนสัมผัสตัวเซี่ยเสว่ ก็ถูกเธอเบี่ยงตัวหลบ “อย่ามาแตะตัวฉัน ฉันรู้สึกสกปรก!”

“สกปรก?” มือของเซียงชิงฉือที่ยื่นออกมาก็แข็ง ค้างอยู่กลางอากาศ เขาไม่เคยถูกใครรังเกียจขนาดนี้ มาก่อน ใจที่เร่งร้อนต้องการจะอธิบายค่อยๆเย็นชาลง ไป

“ใช่ค่ะ! มันสกปรก! ฉันไม่สนใจหรอกว่าตอนอยู่ข้าง นอกคุณกับเธอจะคอยส่งสายตาหยอกล้อกันหรือไม่ แต่ถ้าคุณพาหล่อนกลับมาที่บ้านด้วยก็แปลว่าก้าวก่าย ขอบเขตของฉัน!”

เซี่ยเสว่ตะโกนอย่างร้อนรน คฤหาสน์นี้เป็นป้อม ปราการสุดท้ายของเธอ เมื่อได้รับบาดเจ็บเธอสามารถ ซ่อนตัวเพื่อรักษาอาการ แต่ว่าตอนนี้แม้แต่ที่นี่ก็ยัง โดนผู้หญิงคนนี้รุกราน เธอย่อมที่จะไม่สามารถสงบ ใจไว้ได้

“ชิงฉือ เซี่ยเสว่ดุร้ายเกินไปแล้วนะคะ..
“คุณหุบปากไปเลย!” ทั้งสองสามีภรรยาด่ามู่ซิงเหยว พร้อมกัน มู่ซิงเหยวสะดุ้งตกใจและไม่กล้าพูดอะไรอีก

“ตอนแรกผมคิดว่าจะกลับมาอธิบายให้คุณฟัง แต่ ตอนนี้เห็นได้ชัดเลยว่าคุณตัดสินผมไปแล้ว!”

เซียงชิงฉือรู้สึกว่าเรื่องเมื่อกี้นี้ตัวเขาบริสุทธิ์ น้ำ เสียงจึงมีความไม่พอใจ

เซี่ยเสว่ก็ฟังออกเช่นกัน และเพราะอยู่ใน สถานการณ์ที่ร้อนใจยิ่งทำให้เลือกใช้คำพูดไม่ถูก

“ฉันไม่ได้ต้องการให้คุณมาอธิบายอะไรกับฉัน คำ อธิบายของผู้ชายก็ดีแต่เล่นลิ้นเถียงข้างๆคูๆ ฉันยอม ให้คุณหลอกไปครั้งหนึ่งแล้วยังคิดว่าฉันจะเชื่อคุณเป็น ครั้งที่สองงั้นเหรอ!”

เซี่ยเสว่อ้างถึงเรื่องอุบัติเหตุ ขนาดเรื่องอุบัติเหตุยัง หลอกเธอได้ แล้วจะอะไรที่หลอกลวงไม่ได้อีกล่ะ!

ตอนนี้ท่าทางของเซียงชิงฉือกำลังพูดอย่างชัดเจนว่า เธอกำลังโมโหอย่างไร้เหตุผล เห็นอยู่ชัดๆว่าเป็นความ ผิดของเขา แต่กลับเอาความผิดนั้นมาวางใส่บนหัวเธอ เซี่ยเสว่เจ็บปวดใจจนเป็นทุกข์

“เซี่ยเสว่ แล้วคุณจะเอายังไงกันแน่!” เซียงชิงฉือ

โมโห

“คุณและเธอ!”เซี่ยเสว่ชี้ไปที่มู่ซิงเหยวที่ยืนดูฉากนี้อยู่อีกด้าน “ออกไปให้พ้นหน้าฉันเลย!” พูดจบเซี่ยเสวก็หัน กลับไปที่ห้อง แล้วปิดประตูเสียงดังลั่น

เซียงชิงฉือขว้างแจกันลงพื้นด้วยความโมโห

มู่ซิงเหยวที่อยู่อีกด้านมองดูด้วยสายตาเย็นชา วุ่นวายเข้าไปเถอะวุ่นวายเข้าไป ยิ่งมีปัญหายิ่งใหญ่ยิ่ง ดี เธอไม่เชื่อว่าคนที่ภูมิใจในตัวเองอย่างเซียงชิงฉือถูก เซี่ยเสวตบหน้าต่อหน้าสาธารณะจะทนเฉย นเฉยอยู่ได้

ชิงฉือ มีแต่ฉัน มู่ซิงเหยวคนนี้เท่านั้นแหละถึงจะเป็น ผู้หญิงที่เหมาะสมกับคุณที่สุด


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ