แค้น มิอาจซ่อนรัก

บทที่ 8



บทที่ 8

ในที่สุดภาคินก็ได้ตัวน้ำเหนือไปอยู่ที่เรือนไม้ท้ายไร่สมใจ อยาก ตอนนี้รถจิ๊บสองคันขับตามหลังกันไปยังท้ายไร่ ซึ่งเป็นที่ ตั้งของเรือนไม้ที่พ่อเลี้ยง โอภาสสร้างไว้เมื่อหลายปีก่อน เพื่อใช้ เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจและรับแขกผู้มาเยือน ในบางครั้งคราว นั่น เพราะที่แห่งนี้แวดล้อมไปด้วยป่าธรรมชาติ มีธารน้ำใสไหลผ่าน แถมอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปีอีกด้วย

หลังจากพ่อเลี้ยง โอภาสและภรรยากลับไปแล้ว น้ำเหนือ เข้าไปหมกตัวอยู่ในห้องนอนตัวเอง จัดของเข้าตู้ให้เรียบร้อย โดยไม่ลืมที่จะล็อกห้องเพื่อกันไม่ให้ภาคนถือวิสาสะเข้ามากวน ใจ เมื่อจัดของเรียบร้อยแล้วก็นอนแผ่หลาบนเตียงนุ่ม หลับตา พริ้มฟังเสียงน้ำไหลจากลำธาร บวกกับเสียงนกร้องดังเจื้อยแจ้ว ทําให้เขาลืมเรื่องกังวลในใจไปได้ชั่วขณะ

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

“จะล็อกประตูทำไมเหนือ”

เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้องหนุ่มน้อยก็เบิกตาโพลงด้วย ความตกใจ หันขวับไปมองประตูอย่างเหนื่อยใจ
น้ำเหนือหยัดตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วลงจากเตียงเดินไปยังประตู อย่างอิดออด เพียงแค่หมุนลูกบิดประตูอีกฝ่ายก็ดันตัวเข้ามา โดยแทบตั้งรับไม่ทัน

“จะล็อกประตูทำไม” เมื่อสบตากันเขาก็เอ่ยคำถามเดิมอีก

ครั้ง

“ก็นี่มันห้องส่วนตัวจะล็อกก็ไม่เห็นแปลก พี่คนมีธุระอะไร น้ำเสียงเจ้าของห้องแข็งกระด้าง บ่งบอกว่าตอนนี้ไม่มีอารมณ์ที่ จะมาต่อล้อต่อเถียงด้วย

“พี่หิว…ไปทำกับข้าวให้กินหน่อยสิ” ตอนแรกนึกว่าจะมาหา

เรื่องกันเสียอีก “แล้วทำไมไม่กินมาตั้งแต่ตอนอยู่บ้านโน้นล่ะ พี่ก็รู้ว่าเรา

เพิ่งย้ายมาจะมีของอะไรให้ทำได้ล่ะ”

“ยังไม่ได้ไปดูในครัวแล้วรู้ได้ยังไงว่าไม่มีของ รีบไปพี่หิวจะ แย่แล้ว ถ้าไม่ได้กินข้าวภายในยี่สิบนาทีจะกินนายแทนรู้ไว้ ด้วย” กล่าวจบชายหนุ่มก็เดินออกไปจากห้อง ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ ให้น้ำเหนือต้องรีบวิ่งแจ้นเข้าไปในครัวทันที

เดินเข้ามาในครัวแล้วก็ตรงไปเปิดตู้เย็นเป็นลำดับแรก ไม่ น่าเชื่อว่าจะมีของในนั้นจนเต็ม เข้าใจว่ามารดาของเขาคงจะ เตรียมไว้ให้ ตอนช่วงที่เข้ามาทำความสะอาด

“ยี่สิบนาทีจะทำอะไรได้นอกจากไข่เจียว”

น้ำเหนือรีบหุงข้าวก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นหยิบไข่ไก่ในตู้เย็นออกมาสองฟอง ตอกใส่ถ้วยก่อนจะปรุงรสเล็กน้อย ตั้ง กระทะบนเตาแก๊สด้วยไฟอ่อน ๆ เทน้ำมันพืชลงพอประมาณ จาก ៗ นั้นซอยกระเทียมเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงไปในน้ำมันเดือด ในวินาที นั้นกลิ่นกระเทียมเจียวหอมคละคลุ้งไปทั่ว เรียกน้ำย่อยคนที่ยืน กอดอกพิงไหล่อยู่ประตูห้องครัว ภาคินยืนจ้องมองหนุ่มน้อยทำ กับข้าวอย่างขะมักเขม้น โดยอีกฝ่ายยังไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ

ไข่เจียวร้อน ๆ ถูกวางไว้บนโต๊ะในห้องครัว หลังจากนั้นไม่ นานน้ำเหนือก็ตักข้าวสวยร้อน ๆ ใส่จานวางไว้ข้างกัน เมื่อทุก อย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว น้ำเหนือตั้งใจจะเดินไปเรียกชายหนุ่ม ให้มารับประทาน แต่ต้องชะงักฝีเท้า เมื่อเห็นอีกฝ่ายยืนกอดอก ยิ้มมุมปากอยู่ก่อนแล้ว

“พี่คิน!”

“ทําไมต้องตกใจขนาดนั้นด้วยล่ะ

“พี่อยู่ตรงนี้นานหรือยัง

“ก็ตั้งแต่นายทำข้าวไข่เจียวห่วย ๆ ให้พี่น่ะสิ ไม่มีเมนูอื่นที่ มันดีกว่านี้แล้วเหรอ” ชายหนุ่มต่อว่า

“ก็พี่ดินให้เวลาแค่ยี่สิบนาที จะทำอะไรได้ล่ะ แค่หุงข้าวก็ แทบจะไม่ทันแล้ว คราวหลังถ้าอยากกินอะไรก็ทำเอาเองสิ กล่าวจบก็จะเดินออกไปจากห้องครัว แต่ทว่าร่างสูงกลับกางแขน กั้นไว้ไม่ให้ออกไปไหนได้

“จะไปไหน?”
“จะกลับเข้าห้อง ผมตั้งโต๊ะไว้เรียบร้อยแล้วก็ไปกินดี”

“นายต้องนั่งรอจนกว่าจะอิ่ม เพื่อเก็บจานไปล้าง” เขา ยียวนกวนประสาทอีกฝ่ายไม่ยอมเลิก ทำเอาใบหน้าหวานงอม แสดงความไม่พอใจออกมา

“กินเสร็จแล้วก็วางไว้บนโต๊ะนั่นล่ะ เดี๋ยวผมจะมาจัดการ เอง”

“นายไม่มีสิทธิ์ต่อรองอะไรทั้งนั้น กลับเข้าไปนั่ง” เขาออกค่า สั่งเสียงเข้ม น้ำเหนือจำยอมเดินกลับเข้าไปนั่งที่เก้าอี้อย่างไม่สบ อารมณ์

เขาจะอดทนให้ถึงที่สุดเพื่อมารดา

น้ำเหนือนั่งจ้องมองอีกฝ่ายทานข้าวด้วยความเบื่อหน่าย หลายครั้งที่เบนหน้าหนีแต่เขาท่าเป็นกระแอมไอ เชิงออกคำสั่ง ให้หันกลับมามอง

“พี่ทำอย่างนี้เพื่ออะไร” น้ำเหนือเอ่ยถามหลังจากข้าวไข่ เจียวถูกตักเข้าปากเขาจนเกลี้ยงจานแล้ว

“ความสะใจไง เห็นนายไม่มีความสุขที่ยิ่งสะใจ” เขาตอบ กลับอย่างน่าหมั่นไส้ ก่อนจะหยิบแก้วน้ำเย็นที่วางอยู่ข้างมือมา ดื่ม

“ใครบอกว่าผมไม่มีความสุข” น้ำเหนือยิ้มสู้ราวกับไม่ได้ รู้สึกรู้สาอะไรเลย ตั้งใจไว้ว่าจะไม่อ่อนแอให้เขาเห็นและจะต้อง ทําให้ได้
“ไม่จริง! ตอนนี้นายไม่มีความสุข นายเป็นคนบอกเองว่า เกลียดพี่ ไม่ต้องมาทําเป็นเข้มแข็งหรอกแค่มองตาก็รู้แล้วว่า นายไม่ได้ยินดีปรีดามาอยู่ที่นี่เลย” ภาคนจ้องมองเข้าไปใน ดวงตาสวยเพื่อจับผิด เขารู้ว่าอีกฝ่ายกำลังโกรธมากแค่ไหน ความเข้มแข็งที่ประดิษฐ์ขึ้นมาถึงยังไงก็มองออกอยู่ดี


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ