บทที่ 4
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“คินอยู่ข้างในใช่ไหมลูก”
เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง ร่างสูงที่นอนหลับใหลอยู่บน เตียงก็ค่อย ๆ ขยับเปลือกตา ก่อนจะคลี่ขึ้นอย่างช้า ๆ จากนั้นจึง ลุกขึ้นนั่งบนเตียงด้วยอาการงัวเงีย อ้าปากหาวหวอดราวกับอด หลับอดนอนมาทั้งคืน เมื่อเริ่มได้สติชายหนุ่มก็หันไปมองยัง ประตูห้องด้วยอาการหงุดหงิด นั่นเพราะไม่อยากเจอหน้าบิดาใน ตอนนี้
“พ่อมีอะไร!” เจ้าตัวตะโกนถามทั้งที่ยังนั่งอยู่บนเตียง
“มาเปิดประตูก่อนสิไอ้ลูกคนนี้” คนที่ยืนอยู่นอกห้องเอ่ย ด้วยความร้อนใจ คิดว่าลูกชายคงจะโกรธมากที่กลับมาเห็นเรื่อง เมื่อคืนด้วยตัวเอง เขาจึงอยากจะมาอธิบายให้เข้าใจ
ภาคนลุกขึ้นจากเตียงอย่างอิดออดเดินไปเปิดประตู เจ้า ตัวยืนกอดอกขวางทางเข้าห้อง เผชิญหน้ากับบิดาด้วยสีหน้าเป็น เฉย สื่อให้รู้ว่าเขาไม่พอใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นมากแค่ไหน
“แกรู้เรื่องที่พ่อกับน้าจันทร์แต่งงานกันแล้วใช่ไหม” โอภาส ถามย้ำอีกครั้ง หลังจากเมื่อเช้าน้ำเหนือได้บอกว่าภาคนกลับมา แล้ว น้ำเสียงและสีหน้าของพ่อเลี้ยงเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด เขา ควรจะบอกลูกชายไปตรง ๆ แต่ทว่า ในช่วงเวลานั้นกลัวว่า ลูกชายจะเสียใจ จนไม่มีสมาธิเรียนให้จบ หากจะจัดงานแต่ง หลังจากลูกชายกลับมาคงจะไม่ยอมแน่
“ผมตั้งใจจะมาเซอร์ไพรซ์พ่อ แต่ที่ไหนได้พ่อกลับเซอร์ไพรซ์ ผมซะงั้น ยินดีด้วยนะครับกับการแต่งงานครั้งใหม่ ก็ยังดีที่แต่ง หลังจากแม่ตายแล้ว” ภาคินเอ่ยประชดประชันบิดา
“แกจะประชดฉันให้ได้อะไรขึ้นมา ในเมื่อสุดท้ายแล้วสมบัติ ทุกอย่าง มันก็ต้องตกเป็นของแกอยู่แล้ว ปล่อยให้ฉันมีความสุข บ้างไม่ได้ไงกัน” ตอนแรกก็ว่าจะมาอธิบายให้เข้าใจ แต่พอเห็น ท่าทางของลูกชายก็อด โมโหไม่ได้
“พ่อจะยกให้เมียใหม่ก็ได้นะผมไม่ว่า เพราะผมเองก็ไม่ อยากได้สมบัติของพ่อสักเท่าไหร่หรอก ผมเกลียดที่พ่อให้คำ สัญญากับแม่ ว่าจะไม่รักใครอีก ทำไม่ได้แล้วจะสัญญาทำไมกัน ต๊ะ!” ยิ่งได้ระบายความเดือดดาลยิ่งปะทุขึ้น จนภาคนห้าม อารมณ์ตัวเองไม่อยู่ ตะโกนใส่หน้าบิดาเสียงดังอย่างไร้มารยาท
ผิวะ!
“มันจะมากไปแล้วนะ แกกล้าตะโกนใส่หน้าฉันอย่างนี้ได้ยัง ไงกัน” โอภาสซัดหมัดเข้าที่ใบหน้าลูกชายสุดแรง ก่อนจะชี้หน้า อย่างเอาเรื่อง อารมณ์ร้อนไม่ต่างกันเลยสักนิด
ในตอนนั้นนําจันทร์และน้ำเหนือก็รีบวิ่งเข้ามา เมื่อได้ยิน เสียงพ่อกับลูกทะเลาะกันเสียงดัง จนคนทั้งบ้างได้ยินถนัดหู
“เกิดอะไรขึ้นคะพ่อเลี้ยง ว้าย! ถึงขนาดกับต้องลงไม้ลงมือ กันเลยหรือนี่” เมื่อเห็นมุมปากของลูกเลี้ยงมีเลือดไหลซิบออกมา เจ้าหล่อนก็อุทานร้องด้วยความตกใจ ส่วนน้ำเหนือได้แต่ยืนก้ม หน้า ไม่กล้ามองหน้าชายหนุ่มที่ทำลายเขาเมื่อคืนนี้
“มันสมควรโดนกล้ามาปากเก่งกับพ่อตัวเอง
“ใช่! ผมปากเก่งกับพ่อ นั่นเพราะใครล่ะ ถ้าพ่อกับน้าจันทร์ ไม่แอบเป็นชู้กันก่อนที่แม่จะเสีย ผมคงไม่เดือดขนาดนี้หรอก ไม่ นึกเลยว่าน้าจันทร์จะเป็นคนอย่างนี้ ทั้งที่แต่ก่อนแม่รักและเอ็นดู น้ามาก” คนพูดจ้องเขม็งมองหน้าแม่เลี้ยงอย่างไม่พอใจ ความ รู้สึกที่เสียไปไม่มีวันจะคืนกลับมาแน่แล้ว
“น้าไม่เคยเป็นชู้กับพ่อเลี้ยงเลยนะคะ เรารักกันก็จริงแต่ไม่ เคยมีอะไรเกินเลยน้าสาบานได้” น้ำจันทร์รีบปฏิเสธข้อกล่าวหา เพราะรู้ตัวว่าไม่ได้ทำเรื่องอะไรเสื่อมเสีย
“ผมไม่มีทางเชื่อคำพูดของใครอีกแล้ว อยากเป็นแม่เลี้ยง ของไร่จนตัวสั่นล่ะสิท่า คงจะแช่งให้แม่ผมตายมาตลอดเลย สินะ” ภาคินแค่นยิ้มอย่างสมเพชเวทนาแม่เลี้ยงคนใหม่
“ไอ้ภาคิน! ขอโทษน้าจันทร์เดี๋ยวนี้”
“ไม่เป็นไรค่ะพ่อเลี้ยง ฉันไม่ได้ถือสาหาความอะไร “แต่ฉันถือตอนนี้เธอเป็นเมียฉันแล้ว ทุกคนในไร่ต้องให้ความเคารพนับถือเธอไม่ต่างจากฉัน รวมถึงไอ้ลูกเลวคนนี้ด้วย อุตส่าห์ส่งเสียไปเรียนถึงเมืองนอกเมืองนา แต่กลับแยกแยะ อะไรไม่ได้ เอาแต่ใจตัวเองเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน”
“ผมไม่ได้ขอให้พ่อส่งไปเรียนสักหน่อย ถ้าพ่อไม่ส่งผมไป ผมคงจะมีเวลาอยู่กับแม่มากกว่านี้ พ่อคงวางแผนไว้ตั้งนานแล้ว สินะ ดีไม่ดีที่แม่ตายพ่อกับน้าจันทร์อาจเป็นคนอยู่เบื้องหลังก็ได้ แม้จะโดนกดดันจากบิดาแต่ทว่าภาคนกลับไม่ยอมลดราวาศอก ยืนเผชิญหน้าอย่างไม่ยอมแพ้
ผัวะ!
“พอแล้วค่ะพ่อเลี้ยง ฉันว่าเราออกไปก่อนเถอะ ใจเย็นแล้ว ค่อยมาคุยกันอีกครั้ง” ภาคินดึงแขนสามีไว้ ดึงตัวให้ออกห่าง จากลูกชาย ด้วยกลัวว่าจะบันดาลโทสะทำร้ายภาคินอีกครั้ง
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ