เสือกองถ่าย 18+

บทที่ 16 ศัตรูหัวใจ



บทที่ 16 ศัตรูหัวใจ

เยฉันอาศัยอยู่ในคฤหาสน์เดี่ยวหลังหนึ่ง บริเวณกว้างใหญ่ ไพศาลเพราะมีแม่บ้านคอยดูแล ข้าวของทุกอย่างทุกส่วนในมุม คฤหาสน์หลังนี้จึงสะอาดมีระเบียบเรียบร้อยราวกับของใหม่อยู่ เสมอ

ขณะนี้ ผมนั่งอยู่ในห้องรับแขกชั้นสองของคฤหาสน์

เยฉันกำลังอาบน้ำอยู่ เมื่อถึงห้องเธอรีบวางกระเป๋าตรงเข้าไป อาบน้ำทันที ภายในห้องรับแขกที่กว้างขวางนี้จึงมีเพียงผมคน เดียว

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมมีโอกาสได้นั่งในห้องรับแขก ใหญ่โตทอ ประกายเรืองรองเช่นนี้ ยังไงซะก็เพิ่งก้าวเท้าเดินออกจากบ้าน นอกคอกนา จู่ๆได้มาอยู่ในที่ชั้นสูงขนาดนี้ ก็ต้องไม่คุ้นชินกัน บ้างเล็กน้อย

ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ยังไงซะผมก็ต้องคิดหาวิธีสลัดเดินออกไป ให้ได้เสียก่อน

หักโหมทำการบ้านอย่างหนักติดต่อกันหลายคืนสูญเสีย พลังงานไปมากโข หากคืนนี้ยังต้องต่อบทเรียนอีกแล้วละก็ ผม เกรงว่าผมอาจพิการกะทันหันจนไม่สามารถลุกออกจากเตียงได้

ยังไงซะจินตนาการก็ส่วนจินตนาการ ในความเป็นจริงแล้ว แต่ไหนแต่ไรสมองย่อมว่องไวกว่าอยู่แล้วในเวลานี้ผมคิดไม่ออกเลยจริงๆ จะมีวิธีไหนบ้างที่สลัดเดินออกไปได้บ้าง

ผู้หญิงเป็นแบบนี้เสมอ อยากให้เธอรักมันเป็นเรื่องยาก มาก หากติดรักจริงแล้ว อยากสลัดทิ้งนั้นยากยิ่งกว่า อย่างน้อย ในตอนนี้สถานการณ์ของผมเป็นเช่นนี้

ในขณะที่ผมหน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะมัวคิดหาทางเอาตัวรอด นั้น จู่ๆเฉันเดินออกจากห้องน้ำมา

ถึงผมกับเฉินจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันแล้ว แต่นี่เป็น ครั้งแรกที่ผมเห็นเยฉันเดินออกจากห้องน้ำด้วยเรือนร่างอัน เปลือยเปล่า ผมไม่สามารถละสายตาออกจากตัวเธอได้ราวต้อง มนต์สะกด

มีเพียงผ้าขนหนูตัวเดียวที่ห่อหุ้มร่างของเฉินเอาไว้ ปลายผ้า

ขนหนูถักทอด้วยลูกไม้สีขาวนวลสวยสดมีชีวิตชีวาชวนหลงไหล

หัวที่ยังคงเปียกปอนยุ่งเหยิงปรากฏหยดน้ำปะปรายบนเส้นผมที่

พาดตรงหน้าอก เผยให้เห็นสัดส่วนได้รูปของเรือนร่างอันมีเสน่ห์

อย่างเป็นธรรมชาติของหญิงสาวที่โตเต็มวัย มันช่าง…..อุดม

สมบูรณ์เสียจริง

หัวใจเต้นรัวไม่เป็นจังหวะราวกำลังจะระเบิดออกมา ชั่วครู่ผม หาคําบรรยายที่เหมาะสมไปกว่านี้สาธยายไม่ได้เลย

“ตาบ้า มองอะไร? ตาค้างแล้ว” เยฉันถามผมด้วยรอยยิ้ม เธอ สาวเท้าอย่างแผ่วเบาเดินตรงมานั่งข้างผม

เย่ฉันเพิ่งนั่งลง เธอเอนกายประชิดตัวผม กลิ่นหอมละไมของ สบู่ลอยมาแตะจมูก ผมสูดลมหายใจลึกเข้าเต็มปอด ราวคนโลภที่หิวกระหายกลิ่นหอมรัญจวนใจที่แผ่ซ่านออกจากตัวเฉิน แต่ที่ จริงแล้วไม่ใช่แบบนั้นนะ แค่ปรากฏการสรีรวิทยาอะไรสักอย่าง เท่านั้นเอง

“ตาบ้า ทนไม่ไหวแล้วหรือ? ไปอาบน้ำเร็วเข้า เฉันไม่สนใจ อะไรทั้งนั้น คงคิดว่าฮอร์โมนในตัวผมพลุ่งพล่านแล้วแน่ๆ

ทีแรกผมครุ่นคิดเอ่ยปากถามเย่นตรงๆเลยดีไหม น้อง

สาวของผมเจอปัญหาอะไรในกองละครกันแน่

ลองไตร่ตรองดูแล้ว ช่างเถอะ ช้าๆได้พร้าเล่มงาม จะรีบร้อน ไม่ได้เป็นอันขาด

คิดได้ดังนั้น ผมจึงผุดลุกขึ้นไปอาบน้ำอย่างว่าง่าย หลังเดินเข้าห้องน้ำ ผมรีบส่งข้อความหาเสี่ยวเฟยทันที ที่รัก ผมต้องดูแลลูกค้า คืนนี้กลับดึกหน่อยนะ

อันที่จริงแล้วเมื่อก่อนผมกลับดึกเป็นประจำอยู่แล้ว แต่วันนี้ เสี่ยวเฟยผ่านการคัดเลือก ตามหลักแล้วผมควรไปฉลองให้กับ เธอสักหน่อย ฉะนั้นตอนนี้ ผมทำได้เพียงส่งข้อความบอกสาเหตุ กับเธอ

ส่งข้อความเสร็จผมรีบลบประวัติการสนทนาออกทันที ยังไงซะ ตอนนี้ความสัมพันธ์ของผมกับเยฉันเราใกล้ชิดกันมาก

หากเธอค้นโทรศัพท์ผมพบอะไรขึ้นมา สถานการณ์ไม่ดีแน่ๆ สิบนาทีให้หลัง ผมเดินออกไปพร้อมผ้าขนหนูที่เยฉันเตรียมไว้ให้
ออกจากห้องน้ำผมเห็น เยฉันกำลังกึ่งนอนบนโซฟา ขาเรียวคู่ สวยทั้งสองข้างไขว้เข้าหากันมงอเล็กน้อยพลอยทำให้คน พบเห็นจินตนาการไปไกล

เยฉันสังเกตผมอยู่ห่างๆด้วยรอยยิ้มแพรวพราว นัยน์ตาคู่งาม กวาดไปทั่วกายก่าย่าของผมด้วยความซุกซน

ราวกับเชยชมผลงานศิลปะของจิตรกรฝีมือดี

“ตาบ้า กำลังคิดเรื่องชั่วร้ายอะไรอยู่?” เฉินเอ่ยแกมหยอก

ล้อ

“เปล่านี่” ผมปฏิเสธ “เพียงแต่ ผมอยากลงโทษพี่สาวก็ เท่านั้น”

ใบหน้าเฉันเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ เธอยกนิ้วเรียวยาวได้ รูปลูบไล้ปาดวาดผ่านอกแกร่งของผมไปมาแผ่วเบา ทันใดนั้น เสมือนไฟฟ้าสถิตแล่นผ่านทั่วร่าง ผมสั่นสะท้านด้วยความเสียว ซ่าน

รีบเสร็จกิจรีบกลับบ้าน จากนั้นคิดหาวิธีสลัดเดินออกจาก ชีวิต ผมคิดเช่นนี้

ฉะนั้น รอบนี้ผมกระตือรือร้น เอื้อมแขนกระชากผ้าขนหนูออก จากร่างเย่ฉินอย่างรุนแรงด้วยความบ้าคลั่ง จากนั้น……..

“เดี๋ยวก่อน” เย่ฉินหยุดการกระทำของผมในขั้นตอนถัดไป อย่างกะทันหัน จากนั้นเธอเอ่ยภายใต้ความประหลาดใจของผม “เรามาคุยเรื่องสำคัญกันก่อนเถอะ ก่อนที่ฉันจะลืมซะก่อน
เรื่องสำคัญ? ผมคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องที่กองละครของเสียว เฟย ก็ดี ผมกำลังคิดหาโอกาสถามเธอเรื่องนี้อยู่พอดี

“พี่สาวรีบพูดเข้าสิ พูดจบผมจะได้เผด็จศึกพี่ต่อ” แม้พูดไป แบบนั้น แต่ในใจกังวลอย่างมาก

เฉินเอื้อมมือผลักอกผมเบาๆ ใบหน้าเปื้อนยิ้ม “คิดแต่จะ

ลงโทษพี่ วันไหนที่ถูกเธอลงโทษจนบอบช้ำเธอจะทำยังไง

“ทำยังไงดีนะ?” ผมโน้มตัวลงกระซิบข้างหูเฉินอย่างแผ่วเบา กล่าวด้วยลมหายใจร้อนระอุ

“พี่สาว เนื้อชิ้นโตขนาดนี้ ไม่ว่าผมจะลงโทษยังไงก็ไม่บอบช้ำ ง่ายๆหลอก”

เย่นระเบิดหัวเราะออกมา เสียงของเธอดังระลอกปานปีศาจ ร้าย แม้ชายฉกรรจ์อย่างผมยังอดหวั่นเกรงไม่ได้

“ตาบ้านจริงๆเลยนะ” เฉินผลักอกผมอีกครั้ง จากนั้นเธอหุบ

รอยยิ้มลง เอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง

“ฉันจะบอกอะไรให้ นักแสดงนำชายในกองละครเขามีชื่อว่า หยางกวาง เป็นไอดอลที่มีชื่อเสียง เธอไปบอกน้องสาวของเธอ ให้ระวังตัวไว้ด้วย ไม่อย่างนั้น……….

เฉินหยุดชะงักไม่พูดต่อ ไม่รู้เพราะเธอตั้งใจหรือเพราะความ ลับอะไรบางอย่างที่ไม่สามารถเปิดเผยกันแน่

ผมแสร้งไม่ใส่ใจตามเดิม นิ้วเรียวลูบไล้ไปตามเรือนร่างอัน ขาวนวลหมดจดของเฉิน พลางเอ่ยถามต่ออย่างไร้เดียงสา “ไม่อย่างนั้นอะไรครับ?”

เฉินหักห้ามความต้องการไม่ไหวกับนิ้วมือเย็นเฉียบของผมที่ ลูบไล้ไปมาทั่วเรือนร่างเซ็กซี่ของเธออย่างเห็นได้ชัด

ไม่เพียงเอื้อมมือลงต่ำกอบกุมท่อนเอ็นแข็งแกร่งของผม เธอ ยังเผยให้เห็นรอยยิ้มชั่วร้ายปานจะกลืนกิน ไม่อย่างนั้น น้อง

สาวที่ไร้เดียงสาของเธอ ถูกหยางกวางกลืนกินแน่ๆ

ได้ยินแบบนั้น ผมอดไม่ได้ที่จะเผยด้านมืดออกมา หยาง กวาง? ฉันไม่ลืมนายแน่

“เหมือนผม ที่กำลังกลืนกินพี่สาวใช่ไหม?” แต่ผมยังแสร้ง เสมือนไม่มีใดๆเกิดขึ้น แถมยังเอื้อมมือบีบนวดคลึงทรวงอกที่ ดีดตัวอวดโฉมเต็มตาของเฉิน

“ห้าห้า แล้วแต่เธอแล้วกัน ยังไงหล่อนก็เป็นน้องสาวของเธอ พี่สาวคนนี้เตือนเธอแล้ว เธอตัดสินใจเอาเองแล้วกันจะทำยังไง ต่อไป” จบ เฉินพลิกตัวคร่อมผมไว้ด้านล่าง ทันใดนั้นบท เรียนครั้งใหม่ได้ริเริ่มขึ้นอีกครั้งอย่างดุเดือด

กิจกรรมครั้งนี้ต่อเนื่องเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง เมื่อเสร็จกิจ ผม กับเฉิน ต่างทิ้งตัวลงนอนแน่นิ่งบนโซฟา

หลังจากนั้น เยฉันพูดกับผมเพียงไม่กี่ประโยค เธอผลอยหลับ

ลงบนโซฟา

ส่วนผมทนความปวดเมื่อยทั้งตัวสวมเสื้อผ้าเตรียมกลับบ้าน บางที นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายของผมกับเยฉัน แล้วก็ได้ เมื่อผมเดินถึงหน้าประตูห้องรับแขกจึงอดไม่ได้ที่จะหันหลังกลับมามอง ยังสาวร่างกายบนโซฟาที่หลับลึกของเฉิน

ในเวลานี้ ความรู้สึกผิดแล่นเข้ามาภายในใจของผม

อันที่จริงแล้ว เนเธอเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งที่ ต้องการขายที่รักเธอ แถมยังเป็นหญิงที่มีหน้ามีตามีการงานที่ดี

ถึงยังไง เธอก็เป็นหญิงที่ชายทุกคน ให้ความชื่นชม ส่วนผม กลับโกหกเธอ หลอก ใช้เธอ

หากวันหนึ่ง มีชายคนอื่นใช้วิธีเดียวกันนี้หลอกใช้เสี่ยวเฟย

ของผม…….

ผมไม่กล้าคิดต่อ ยื่นมือหยิกแขนตัวเองเต็มแรง ที่จริงแล้วก็ แค่ชายชอบหญิงรัก ผมกำลังฟุ้งซ่านอะไรกัน

ท้ายที่สุด ผมอุ้มร่างของเฉิน ไปไว้บนเตียงภายในห้องนอน

ของเธอ ห่มผ้าให้เธอ จากนั้นปิดไฟแล้วเดินจากไป

กลับถึงบ้านเป็นเวลาตีหนึ่งเข้าไปแล้ว เสี่ยวเฟยกำลังนอน หลับลึก

ผมทำการชำระล้างอีกครั้ง เตรียมเอนตัวลงนอน ทันในนั้น โทรศัพท์ของเสี่ยวเฟยดังขึ้น

เสียงข้อความแชทแจ้งเตือน

ด้วยความสงสัย ผมเอื้อมมือหยิบโทรศัพท์ของเสี่ยวเฟย ปลด ล็อคเปิดข้อความดูใครกันแน่ส่งข้อความมาดึกดื่นป่านนี้
อบบันทึกกลับเป็นชื่อที่คุ้นเคยแต่แปลกตาอย่างบอกไม่ถูก หยางกวาง เหมือนเคยได้ยินชื่อนี้จากไหนสักที่

ทันใดนั้น อะไรบางอย่างลอยเข้ามาในหัว ก่อนหน้านี้เฉิน บอกกับผมให้เตือนเสี่ยวเฟยระวังนักแสดงชายในกองละคร นัก แสดงชายคนนั้นชื่อ หยางกวางไม่ใช่หรือ

หรือว่า

ผมเปิดข้อความที่หยางกวางส่งมาด้วยความร้อนรน เลื่อนดู ประวัติการสนทนาของเสี่ยวเฟยกับหยางกวาง

“สวัสดีครับคนสวย ผมขอหยางกวาง เป็นนักแสดงนำชายใน กองละคร พวกเราได้พบกันแล้วเมื่อเช้านี้” นี่เป็นข้อความแรกที่ หยางกวางส่งมา เวลาส่งมาคือช่วงเย็น6:30

“สวัสดีค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ต่อไปพวกเราเป็นเพื่อนร่วมงานกัน แล้ว หวังว่าพวกเราจะเป็นคู่หูที่ดีต่อกันน่ะค่ะ”

ข้อความนี้ของหยางกวางตอบทันที เพราะเวลาส่งยังคง เป็น6:30

ต่อเนื่อง ด้านล่างยังคงเป็นข้อความที่หยางกวางส่งมา “เพื่อ ให้คุ้นเคยกันในกองละคร ผมขออนุญาตเรียกคุณเสี่ยวเฟย ส่วนคุณเรียกผมเสียวกวางแล้วกัน เสี่ยวเฟยคุณว่าดีไหม?”

อ่านมาถึงตรงนี้ ในใจผมเต็มไปด้วยไฟแค้นปะทุกระหน่ำ เป็น ผู้ชายเหมือนกัน ผมจะดูไม่ออกได้อย่างไรว่าหยางกวางต้องการ อะไร
ทั้งยัง เยฉันกำชับผมเป็นอย่างดีให้ระวังนายหยางกวางคนนี้ ด้วย เพราะงั้นตอนนี้ ในใจผมเต็มไปด้วยไฟแค้นที่สามารถ จินตนาการได้ ถึงอย่างนั้น ผมยังคงกลั้นโทสะทนดูประวัติการ สนทนาจนจบสิ้น


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ