ตอนที่12ความอยากรู้อยากเห็นนี้จะนำไปสู่ความซวย
นึกไม่ถึงว่าความอยากรู้อยากเห็นนี้จะนำไปสู่ความ ซวยพอเปิดประตูปุ๊ปก็เห็นภาพที่เด็กคนหนึ่งผลักลี่หลิน เย่จากนั้นก็หันหลังวิ่งออกไป
ถึงแม้ว่าลี่หลินเย่จะแค่เสียการทรงตัวไปแค่แวบเดียว แต่ลี่หลินเย่ก็ยังรู้สึกแปลกใจคนที่ผลักตัวลี่หลินเย่แล้ว ยังออกไปได้ดื้อๆนี้จะมีก็แต่เป็นเทวดาเท่านั้นแหละ
“เรื่องในบริษัทของนายถามฉันมันไม่แปลกไปหน่อย เหรอ?”
ในตอนแรกลี่หลินเย่ก็รู้สึกว่าหลิวเซี้ยวหนิงเด็กคนนี้ ก็เหมือนแม่ของเขาที่ชอบคิดเพ้อเจ้อแต่พอได้ยินเสียง เด็กร้องไห้นั้นไม่ทำเพราะอะไรจู่จู่ใจของเขาก็รู้สึกไม่ สบายขึ้นมา
“เรื่องในบริษัทของผม?”ลี่หลินซูมึนงงไปสักพัก จากนั้นก็ควักโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรไปที่ฝ่าย ประชาสัมพันธ์ เด็กที่ขึ้นมาเมื่อกี้นี้มันเรื่องอะไรกัน?”
“เด็ก?ใช่เด็กคนที่เสี่ยวฟังส่งขึ้นไปใช่ไหมคะ?เห็นเขา บอกว่าคุณเป็นคนสั่งให้เขามาสมัครนักแสดงเด็กค่ะ”
“นักแสดงเด็ก?”ลี่หลินซูยิ่งงงเข้าไปใหญ่วันนี้เขาไม่ ได้ให้เด็กผู้ชายคนไหนใสัมภาษณ์นิพอนึกถึงภาพที่ เด็กคนนั้นผลักลี่หลินเย่ในตอนนั้นก็ทำให้เขาแอบรู้สึก ชอบใจ
“อืมเขาถูกเลือกแล้วเดี๋ยวเขาลงไปก็ให้ทิ้งช่อง ทางการติดต่อไว้ด้วยแล้วให้เขามาเริ่มงานที่บริษัทใน วันพรุ่งนี้ได้เลย”มองดูใบหน้าเด็กคนนั้นที่พยายามเขย่ง ปลายเท้ากดลิฟท์นั้นเขาชอบเด็กคนนี้ชอบมากๆด้วย
บนโลกนี้ที่จะเห็นคนที่ยั่วโมโหพี่ชายเขาแล้วพี่ยังไม่ โกรธระเบิดแตกนั้นไม่ง่ายเลย
ถ้าเกิดเป็นแค่เด็กน้อยงั้นก็ยิ่งไม่ง่ายเลย
เด็กคนนี้เขารับแน่นอน
ลี่หลินเย่ส่งสายตาพิฆาตไปที่ลี่หลินซู“เล่นพิเรนทร์ อะไรเนี่ย”
โถงชั้นหนึ่ง
ลิฟท์แค่เพิ่งจอดสนิทไม่รอให้หลิวเซี้ยวหนิงได้เดิน ออกไปก็มีพี่สาวคนสวยมารอต้อนรับถึงที่แล้ว“หลิว เซี้ยวหนิงคะมีช่องทางการติดต่อของผู้ใหญ่ไหมคะ?”
“ทำไมหรอครับ?”หลิวเซี้ยวหนิงจ้องมองไปที่พี่สาว คนสวยอย่างระมัดระวังจุดประสงค์ของเขาก็ได้ทำแล้ว และก็ได้เห็นถึงความเท่และเย็นชาของบอสใหญ่ของที่
ผู้ชายอย่างนี้ม๊ามี้ไม่เอาก็ช่างเถอะ
เขาสนับสนุนม๊ามี้เขาก็จะไม่เอา
“เด็กน้อยหนูถูกคัดเลือกแล้วดังนั้นพวกเราจึงจะต้อง ของช่องทางการติดต่อของที่บ้านหนูแล้วต้องมาเจรจา คุยกันถึงเรื่องละครที่หนูจะต้องแสดงด้วย”
หลิวเซี้ยวหนิงฟังถึงตรงนี้เขาพยักหน้าทันทียกมือชื้ ไปทางประชาสัมพันธ์ เดี๋ยวผมเขียนให้ครับ
เร่งฝีเท้าเดินไปหยิบปากกาเด็กน้อยตั้งอกตั้งใจเขียน หลิวเซี้ยวหนิงชื่อนี้ลงไปส่วนเบอร์โทรศัพท์นั้นเขานั้น ไม่อยากให้ลี่หลินซูนั้นรู้หรอก
ลี่หลินซูชีวิตนี้อย่างหวังเลยว่าจะได้เจอเขาอีกเชอะ
เสียงเชอะที่แฝงความเยือกเย็นเด็กก็เขียนเบอร์ไปมั่ว ชั่วจากนั้นก็หันหลังวิ่งออกไปจากอาคาร
ยืนอยู่หน้าอาคารยังหันหัวกับไปจ้องตาเขม็งแล้วค่อย
เรียกแท็คซี่ขับไปส่งที่มหาวิทยาลัยโ
พอขึ้นไปที่รถแท็คซี่เสียนาฬิกาที่ข้อมือดังขึ้น
หลิวเซี้ยวหนิงไม่ดูก็รู้ว่าต้องเป็นหลิวเซียนเซียนเพ ระานี้คือรุ่นโทรศัพท์แบบนาฬิกา”ม๊ามีอยู่ไหนครับ?”
เขาถามอย่างละอายใจหลิวเซี้ยวหนิงกลั้นหายใจไว้ เขาคิดว่าหลิวเซียนเซียนในเวลานี้น่าจะยังไม่กลับไปที่ มหาวิทยาลัยโน่าจะเพิ่งกำลังทำงานแปลเสร็จแล้วอยู่ ระหว่างทางกลับบ้าน
แต่ก่อนทุกครั้งเมื่อถึงเวลานี้หลิวเซียนเซียนก็ จะโทรศัพท์หาเขาถามว่าเขาเป็นอย่างไรบ้างและ สถานการณ์ในบ้านเป็นอย่างไร
“กำลังรอรถอยู่อีกเดี๋ยวก็คงถึงบ้านแล้วอยากกินอะไร ไหม?เดี๋ยวม๊ามี้ซื้อไปให้กิน”ใช่จริงๆด้วยว่าหลิวเซียน เซียนนั้นพูดไม่ต่างจากที่เขาเดาไว้
เด็กน้อยโล่งอกไป ผมอยากกินอะไรก็จะซื้อให้ผม หรอครับ?”
“นอกจากไอศกรีมที่เหลือได้หมด”รู้ใจลูกนั้นก็คือแม่ หลิวเซียนเซียนนั้นรู้อยู่แล้วว่าเด็กน้อยอยากกินอะไร
หลิวเซี้ยวหนิงแอบเบ้ปาก“ถ้างั้นผมไม่อยากกินอะไร แล้วครับผมยังนอนไม่อิ่มเลยผมขอนอนต่อก่อนนะครับ อย่ามากวนผมแล้ว”พูดจบก็รีบตัดสายไป
ก็เหมือนกับว่าเด็กที่ทำความผิดแล้วกลัวว่าจะถูกจับ ได้
“เด็กน้อยหนีออกจากบ้านเองอย่างนี้ไม่ดีนะหนูยัง เล็กถ้าหากเจอคนชั่วก็ซวยแล้วทีหลังถ้าไม่มีม้ามออก มาด้วยห้ามแอบหนีออกมาอีกนะได้ยินไหม?”คนขับรถ แท็คซี่ใจดีตักเตือนหลิวเซี้ยวหนิง
“ขอบคุณครับคุณลุงผมจะจำไว้ครับ”หลิวเซี้ยวหนิงก็ ไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผลสำหรับคำพูดที่มีเหตุผลนั้นเขาจะ ตั้งใจฟังตลอด
รถแท็คซี่หยุดจอดหลิวเซี้ยวหนิงจ่ายค่าโดยสารไปก็ วิ่งเข้าไปในเขตมหาวิทยาลัย กลับเข้าไปในหอพักขึ้น ชั้นไปล้างๆหน้าแล้วก็นอนแกล้งทำเหมือนว่านอนกลาง วันอยู่
แต่ว่าไม่รู้ทำไมทั้งทั้งที่หมั่นไส้ลี่หลินซูขนาดนั้นแต่ว่า ถึงตอนนี้ในสมองเขาก็ยังคงมีแต่ภาพหล่อๆเท่ของของ ผู้ชายคนนั้น
ถ้าให้พูดตามตรงถึงแม้ว่าเขาจะไม่ชอบลี่หลินซูสัก เท่าไหร่แต่ว่าลี่หลินซูนั้นหล่อจริงๆหล่อมากด้วย
แต่ไม่ว่าจะหล่อแค่ไหนก็หล่อสู้เขาไม่ได้ถึงแม้เขานั้น จะคล้ายหน้าคล้ายตากับม๊ามีแต่ม๊ามีนั้นก็สวยใช่ย่อย เลย
คิดอยู่คิดอยู่เด็กน้อยก็ค่อยๆเผลอหลับไป
ในตอนที่หลิวเซียนเซียนกลับมาถึงบ้านเด็กน้อยนั้นก็ หลับปุ๋ยไปเหมือนหมูตัวน้อย
เช้าวันต่อมาหลิวเซียนเซียนตื่นแต่เช้าหลังจากที่กิน อาหารเช้าเสร็จก็จูงมือน้อยๆของหลิวเซี้ยวหนิงเพื่อที่จะ พาเขาไปโรงเรียนอนุบาล
บริษัทหมิงเทียน
ออฟฟิศของท่านประธาน
“ปัง”เสียงดังขึ้นกองเอกสารที่ถูกโยนลงไปที่พื้นของ ออฟฟิศ กับไอแค่หมายเลขโทรศัพท์ก็จดมาผิดคุณคิด ว่าบริษัทเรานั้นเลี้ยงแต่คนสโมสรเก่าๆพวกนั้นกันหรือ ไง?เก็บข้าวเก็บของออกไปจากบริษัทเดี๋ยวนี้ที่นี่เราจะ ไม่เลี้ยงให้เสียข้าวสุกกับคนที่ทำงานไม่ได้เรื่อง”
เสี่ยวฟังบิดนิ้วบิดมือของเธอด้วยความกระวนกระวาย ใจพูดเสียงเบาๆว่า”เบอร์โทรศัพท์….เด็กคนนั้นเป็น คนเขียนเองค่ะและก็คิดไม่ถึงว่าเด็กที่น่ารักขนาดนั้นจะ เขียนเบอร์มั่วๆให้
“ทำไมตอนนั้นไม่โทรเช็คดูก่อน?”ลี่หลินซูก็เขวี้ยง ปากกาออกไปทำให้เขาต้องอารมณ์เสียแต่เช้า
ทั้งทั้งที่ก็หย่ากันแล้วแต่ผู้หญิงคนนั้นสองสามวันก็ยัง ตามมาตอแยไม่เลิกถ้าไม่ใช่มารังควานเขาก็จะตรงไป หาเรื่องพี่ชายของเขาทำให้เมื่อวานเขาโดนลี่หลินเย่สั่ง สอนไปชุดใหญ่
เสี่ยวฟังเงียบปากไปแทบไม่กล้าจะหายใจ
ถึงแม้ว่าเมื่อวานคนที่สั่งให้ขอเบอร์โทรของเด็กคนนั้น จะไม่ใช่เขาแต่ก็ไม่กล้าที่จะพูดอธิบายอะไรแล้ว
มองไปดูเธอที่ไม่กล้าพูดอะไรลี่หลินซูขมวดคิ้วไสหัว ออกไปซะแล้วเรียกผู้จัดการจางเข้ามา”
“ค่ะ”เสี่ยวฟังนั้นอยากจะมีปีกแล้วรีบบินออกไปจากที่นี่
หากยังอยู่ต่อไปเธอกังวลว่าโรคหัวใจเธอคงจะกำเริบ แน่
เลิกเรียนแล้ว
หลิวเซียนเซียนรีบเร่งไปถึงที่โรงเรียนอนุบาล
วันนี้เป็นวันแรกที่หลิวเซี้ยวหนิงเข้าเรียนดังนั้นเธอนั้น ต้องห้ามไปสายเด็ดขาด
“ม๊า….….…..พอหลิวเซี้ยวหนิงเห็นหลิวเซียนเซียนก็ดีใจ พุ่งเข้าไปหา
ทั้งห้องมีทั้งหมด20กว่าคนก็เหลือแค่3คนแล้วส่วน อีกสองคนนั้นก็คือเด็กที่อยู่เรียนประจำที่นั้นหรือก็ หมายความว่าจะไม่มีผู้ปกครองมารับ
หลิวเซียนเซียนรู้สึกผิดเล็กน้อยช่วยไม่ได้เพราะวัน นี้ช่วงบ่ายนั้นมีเรียนและก็เป็นคลาสแรกด้วยเธอเลย เกรงใจไม่กล้าที่จะขอลาหยุด”ลูกรักขอโทษนะ
“ไม่เป็นไรครับไม่เป็นไรระหว่างที่รอผมก็ได้ชมดูพี่ สาวสวยๆเดินผ่านไปมาแบบฟรีๆมันเยี่ยมมากๆเลย ครับ”เด็กน้อยพูดปลอบใจเธอไม่อยากให้เธอรู้สึกผิด
หลิวเซียนเซียนยิ้มดีใจและจูงมือน้อยของลูกชายเดิน ไปทางของป้ายรถเมล์
ทันใดนั้นก็รู้สึกได้ว่าตลอดทางที่เดินมาทุกคนก็จ้องมาที่เธอกับหนิงหนิง
ถึงขั้นที่ว่าคนที่มองพวกเขาแล้วพากันหันไปซุบซิบ อะไรบางอย่าง
หลิวเซียนเซียนก้มหัวลงมาสแกนยิบบนตัวเธอรอบ หนึ่งเสื้อผ้าก็ไม่ได้มีอะไรแปลกไปนิ
แล้วก็สแกนดูหลิวเซี้ยวหนิงเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนสั้นคู่กับ กางเกงยีนต์ขาสั้นหลังก็สะพายเป้ของเขาไว้มองแล้วก็ ดูเท่ไม่เบาก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
หลังจากที่รอจนได้ขึ้นไปบนรถเมล์แล้วหลิวเซียน เซียนดึงแขนหลิวเซี้ยวหนิงและยืนไว้ตรงหน้าจอทีวีบน รถเมล์พอได้เห็นข่าวด่วนที่ถ่ายทอดสดอยู่ดวงตาของ เธอถึงกับโตขึ้น
ทั้งเมืองนั้นประกาศตามหาหลิวเซี้ยวหนิงและผู้ให้ เบาะแสนั้นจะได้รับเงินรางวัลหนึ่งหมื่นหยวนส่วนผู้ที่ พบเห็นหลิวเซี้ยวหนิงแล้วแจ้งเบาะแสนั้นจะได้รับเงิน รางวัลมากถึงหนึ่งแสนหยวน
ผู้จ่ายก็คือบริษัทบริษัทหมิงเทียน
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ