บทที่ 7 จูบที่ยากจะต้านทาน
เขาถามจนเธอพูดไม่ออก ใช่ กลัวอะไร? คิดซะว่าเขา เป็นน้องชายก็ได้ น้องชายตัวเองก็อายุไล่เลี่ยเขาไม่ใช่ หรือ?
“ก็ได้ค่ะ งั้นรบกวนคุณไปเอาเสื้อผ้าคุณมาให้ฉันด้วย ค่ะ”
เธอพูดพร้อมกับเดินเข้าห้องน้ำไป เขาช่างเป็นคนละ เอียดอ่อน ปรับน้ำอุ่นให้เธออุ่นกำลังพอดี
เขาค้นอยู่นาน ก็ไม่เจอกางเกงที่เธอพอจะใส่ได้ จึง หยิบเสื้อเชิ้ตผ้าฝ้ายตัวใหญ่ของตนมาให้เธอ
“ถอดให้หมด แล้วส่งมาให้ผม” เขายืนรอเธออยู่หน้า ประตู
เธอถอดทุกชิ้นบนกาย หลบอยู่หลังประตู แง้มประตู แล้วยื่นออกมา ดู๋หยุนฮุยรับเสื้อผ้าเธอจากช่องประตู เล็กๆ เห็นมีแต่เสื้อผ้าตัวนอกไม่มีชุดชั้นใน
“ชั้นในก็ส่งมาให้ผมด้วย เปียกขนาดนั้นจะใส่ยังไง ครับ?”
เธออายมาก อายจนหน้าแดง ยังดีที่เขามองไม่เห็น
จับชั้นในพวกนั้นไว้ในมือ ครุ่นคิดอยู่นาน ก็ยังรู้สึกว่า ไม่เหมาะที่จะเอาให้เขาไป
“คุณวางใจได้ครับ เดี๋ยวถ้าคุณออกมา ต่อให้ไม่ใส่ อะไรเลย ผมก็จะไม่ดู เอามาให้ผมเร็วเข้าเถอะครับ”
เขาพูดขนาดนี้แล้ว งั้นก็ให้เขาก็ได้ เธอเอาสองชิ้นนั้น ล้างน้ำจากก๊อกน้ำก่อน แล้วส่งให้เขา
ดู๋หยุนฮุยหาถุงหิ้วมาใส่เสื้อผ้าเปียกที่เธอถอดออกมา ให้ทั้งหมด แล้วนำไปยังร้านซัก อบ แห้ง
อาบน้ำที่นี่ ยังไงก็รู้สึกไม่ค่อยดี ตักอาบสองสามวัน เมื่อรู้สึกไม่หนาวแล้ว ก็รีบเช็ดตัวให้แห้งแล้วสวมใส่เสื้อ เชิ้ตตัวโตของเขาเดินออกมา
ในเมื่อนั่งก็ทำได้แค่นั่งอยู่เฉยๆ เธอจึงช่วยเขาเก็บ นิตยสารที่รกรุงรังอยู่บ้านโต๊ะ
เมื่อดู๋หยุนฮุยกลับมา เห็นเธอกำลังก้มจัดของอยู่พอดี
เธอสวมใส่เพียงเสื้อเชิ้ตตัวโตของเขา ข้างในว่าง เปล่า เขามองจากมุมนี้ สามารถมองเห็นขาอ่อนของเธอ ที่ปรากฏตามที่เธอเคลื่อนไหว
ถึงจะรู้สึกว่ามองเธอแบบนี้ไม่ค่อยดี แต่เขาก็ไม่อาจที่ จะละสายตาได้
“คุณกลับมาแล้วหรอคะ?” เธอเงยหน้ายิ้ม เห็นเขา จ้องมองตนเองอยู่ ถึงนึกขึ้นได้ว่าตัวเองใส่ชุดแบบนี้ แล้วโป๊ะมาก อายจนไม่รู้จะทำยังไง
สถานการณ์ต่างก็เก้อเขิน ตู้หยุนฮุยยื่นมือไปรับของ ในมือเธอมา
“คุณนั่งก่อนครับ ของพวกนี้ผมจัดการเก็บเองครับ”
ด้วยความตื่นเต้น มือของเขาคว้าจับโดนมือเธออย่าง ไม่ได้ตั้งใจ
เธอรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อต ปล่อยมือ “โต๊ะ” เสียง นิตยสารตกหล่นลงพื้น
รู้สึกได้ถึงความตกใจของเธอ ที่จริงเขาเองก็รู้สึกใจ เต้นผิดปกติหลังจากที่จับโดนมือเธอเหมือนกัน
“คุณกลัวผม?” เขาถามด้วยน้ำเสียงต่ำ
เสียงนั้นดั่งแม่เหล็ก ฟังแล้วทำให้น่าหลงใหล
“ฉัน…” เธอเงยหน้าขึ้น สบตากับเขาพอดี ดั่งมีใยแก้ว นำไฟ ครอบงำคนทั้งสอง
เขารู้สึกใจคึก ทนต่อไปอีกไม่ไหว ยื่นแขนโอบเอวเธอ ในขณะที่เธอกำลังตกใจ ริมฝีปากของเขาก็กดทับลง มา
“อือ…ไม่ค่ะ” โดนเขาจูบกะทันหันแบบนี้ เธอตกใจจน แทบจะกลั้นหายใจ แต่เธอก็ยังมีสติ ใช้แรงผลักเขาให้ ออกห่าง
เขาไม่สามารถสนใจอะไรแล้ว ในตาเขา โลกทั้งใบ จดจ่ออยู่ที่ปากน้อยๆของเธอ
จับมือน้อยของเธอที่ตวัดไปมาอย่างอ่อนโยนแต่หนัก แน่น เขายิ่งจูบลึกซึ้ง
ริมฝีปากเขาจูบปากเธออย่างรุกเร้า ดื่ม
เริ่มแรกเธอพยายามปฏิเสธ พอตอนหลังก็ค่อยๆอ่อน ระทวย และก็ไม่รู้ว่าเธอตอบสนองเขาไปตั้งแต่เมื่อไหร่
ได้ยินเสียงครางเคลิ้มของตัวเอง เธอสะดุ้ง ได้สติ กลับมาทันที
เธอรีบผละออกจากปากของเขา หายใจเข้าเต็มปอด
“ไม่ค่ะ ไม่ทำแบบนี้” เสียงเธออ่อนระทวย เป็นเพราะ ความตื่นเต้นเมื่อกี้ทำให้เสียงเธอแหบแห้ง
“ไม่ทำแบบนี้?” เขาหายใจหอบ ถามทั้งที่รู้
“ไม่…ไม่ต้องจูบฉันค่ะ” เธอพูดอย่างหมดเรี่ยวแรง
เธอรู้ตัวเองดี หวังอยากที่จะมีผู้ชายคนหนึ่งมารักและ ทะนุถนอมแบบนี้มาตลอด ตอนนี้สำหรับเธอ ที่จริงก็ ยากที่จะปฏิเสธเขาเหมือนกัน
บทที่ 8 โดนรังแกอย่างน่าสงสาร“แต่ผมชอบจูบ คุณก็ชอบให้ผมจูบ” เขาพูดอย่าง เอาแต่ใจ ไม่สนใจความต่อต้านของเธอ ก้มลงจูบปาก เธออีกครั้ง
เธอหันหัวหลบหนี ท่าทางจริงจัง
“ไม่ค่ะ”
“คนดี ให้ผมจูบนะ” เขาพูดอ้อนอย่างอ่อนหวาน พร้อม กับโอบเอวเธอมาแนบชิด
ว่องไว กะทันหันจนเธอมึน ยังไม่ทันได้ตั้งตัว เขาก็ ประทับริมฝีปากจูบอีกครั้ง
“อย่าค่ะ….” เธออ้าปากปฏิเสธ
ปลายลิ้นของเขายิ่งรุกเร้าเอาแต่ใจ ไม่ให้เธอได้มี โอกาสหายใจ ดูดดื่มเธออย่างดื่มฉ่ำ เขาตั้งใจที่จะดูด ดื่มเธออย่างหมดสิ้น ไม่ให้เธอเหลือเรี่ยวแรงต่อต้าน
เธอก็ไม่ได้ทำให้เขาเสียความตั้งใจ แรงที่ต่อต้าน ค่อยๆอ่อนลง ร่างกายค่อยๆอ่อนระทวยดั่งปุยนุ่น
รู้สึกเหมือนจะขาดใจอีกครั้ง โดนเขาจูบจนร้อนผ่าว ไปทั้งร่าง
เขาจูบเธอ พร้อมกับก้าวเท้าพาเธอไปยังห้องนอน
เดินไปด้วย จูบไปด้วยแบบนี้ ทำให้เธอยิ่งมึนเมา ด้วยความกลัวหล่นตกลงมา แขนของเธอโอบรัดคอเขา แล้ว เริ่มตอบสนองเขาอย่างเร่าร้อน
เมื่อถึงปลายเตียง เขาวางเธอลงอย่างแผ่วเบา โดยที่ ปากไม่ยอมละห่างจากเธอ
แล้ว ร่างเขาก็ทับตามลงมา ทิ้งทั้งร่างทับอยู่บนร่าง บางของเธอ
สติบอกเธอว่า จะต้องผลักผู้ชายคนนี้ออก แต่ร่างกาย กลับอยากที่จะแนบชิดกับเขาลึกซึ้งกว่านี้
เธอต่อสู้กับความคิดของตัวเองอย่างหนัก จนเกือบที่ จะคล้อยตาม
“ไม่…ไม่……ไม่ได้” เธอร้องเรียก ขยับตัว อยากที่จะ สลัดออกจากเขา แต่อีกใจก็ทำใจไม่ได้ที่จะสลัดออก
ในขณะที่เธอกำลังมีความสุขเคลิบเคลิ้มจนไม่อาจ ต้านทาน เสียงเพลงสายเรียกเข้าจากโทรศัพท์ของเธอ ก็ดังขึ้น
เรียกสติเธอให้ตื่นขึ้นมา ดีที่โทรศัพท์สายนี้มาได้ทัน จังหวะ ไม่อย่างนั้น…
“ฉัน…ฉัน…..รับโทรศัพท์
เขาสุดที่จะเสียอารมณ์ แต่ก็ยอมคลายมือ ให้เธอได้ ยืนขึ้น
เธอรัดเสื้อเชิ้ตแนบชิดตัว วิ่งไปเอาโทรศัพท์ที่วางอยู่ บนโซฟา เป็นสายแม่ยายโทรมา
เธอรู้สึกผิด จ้องมองโทรศัพท์อย่างไม่กล้ารับสาย กลัวว่าน้ำเสียงจะบ่งบอกถึงสิ่งที่เพิ่งกระทำไป
ไม่รู้ว่าเขามานั่งบนโซฟาด้านข้าง จ้องมองเธออยู่ ตั้งแต่เมื่อไหร่
“รับเถอะ ไม่ต้องกลัว ฟังไม่รู้หรอกครับ
เขามักที่จะรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่เสมอ เธอมอง หน้าเขา แล้วกดรับสายอย่างกล้าๆกลัวๆ
“เธอทําไมยังไม่กลับมา? ไม่กลับมาทำกับข้าวก็ แล้วไป ลูกของตัวเองแท้ๆก็จะให้ฉันดูแลหรือไง?” เมื่อ รับสาย ยังไม่ทันเรียกแม่ แม่ยายก็ด่าทอเธอมาเป็นชุด
เสียงนั้นดังฟังชัด ดู๋หยุนฮุยได้ยินอย่างชัดเจน เขา ขมวดคิ้วมองดูท่าทางเธอที่เปลี่ยนเป็นเซื่องซึมนั้น
เดาก็รู้ว่าเป็นแม่ยายโทรมา ผู้หญิงคนนี้ช่างดูน่า สงสารที่โดนเอาเปรียบ
“ขอโทษค่ะคุณแม่ หนูหาที่ชาร์จแบตรถอยู่ค่ะ” เป็น เพราะเมื่อกี้เพิ่งกระทำเรื่องที่ไม่ให้เกียรติสามีไป เธอ จึงรู้สึกผิด น้ำเสียงที่พูดกับแม่ยายจึงอ่อนลงกว่าปกติ
“ยังมีเวลาชาร์จแบตอีกหรือ? อีกนานแค่ไหน เข็นกลับมาเลยก็ได้ไม่ใช่หรือ?” ยังไงแม่ยายก็ยังไม่ยอม ลดลา
“ข้างนอกฝนยังตกหนักด้วยค่ะ” เธออธิบายต่ออย่าง อ่อนน้อม
“ฝนตกแล้วยังไง? ตากฝนแค่นั้นจะเปียกตายไหม? ยิ่งอยู่ยิ่งทำเป็นบอบบาง เคยบอกเธอแต่แรกแล้วว่า เมื่อเข้ามาเป็นสะใภ้บ้านนี้ นิสัยคุณหนูผู้ดีให้สลัดทิ้งไป
ดู๋หยุนฮุยทนฟังต่อไปไม่ไหว แย่งโทรศัพท์มา กดวาง สายแล้วปิดเครื่องทันที
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ