บทที่ 7 ของขวัญวันเกิดของทั่วถั่ว
“ยังไม่เลิกแล้วค่ะ”
อินซินคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วบอกไป
“ได้ค่ะคุณผู้หญิง ทางเราจะยกเลิกการจองให้นะคะ”
สํานักกิจการพลเรือนวางสายโทรศัพท์
อินซินหันกลับไปมองฉินเฟิง เงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดขึ้นว่า “คุณได้ยินชัดเจนแล้วนะ ว่าชั้นพูดว่ายัง วันนี้คุณต้องกลับไปกับ ฉันก่อน”
พูดจบฉินเฟิงก็เดินหน้าต่อไปโดยไม่รอให้ฉันเพิ่งตอบกลับ
พูดจบ ยังไม่มีการตอบรับจากฉินเฟิง เธอก็ได้เดินนำหน้าไป
แล้ว
“ครับ”
ฉินเฟิงขานรับ แล้วรีบเดินตามไป
เห็นแค่อินซินไปที่ร้านเค้กและซื้อเค้ก จากนั้นเธอก็ขึ้นรถและ กลับบ้าน แน่นอนว่าเธอพาฉันเพิ่งมาด้วย เมื่อมาถึงหน้าบ้าน ฉัน เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นว่า “เค้กนี่คือ?”
“กั่วถั่ววันนี้อายุครบหกขวบแล้ว ทีแรกฉันไม่อยากให้คุณเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะว่าคุณไม่คู่ควรที่จะเป็นพ่อ แต่ในชีวิตของ วถั่ว ถึงยังไงก็ต้องการพ่อ แต่ก็วันนี้เท่านั้น”
อินซินยังคงทําหน้าเย็นชา แล้วเดินเข้าไปในบ้าน
ไม่ว่าเงินพวกนั้นฉันเพิ่งจะเป็นคนเอาไปหรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่ หลายปีมานี้ทำให้อินซินไม่สามารถให้อภัยเขาได้ คือการจากไป โดยไม่ร่ำลา
“ถั่วถั่ว หกขวบแล้ว”
ฉินเฟิงตัวสั่นเทา ใช่แล้ว เขาไม่คู่ควรที่จะเป็นพ่อจริงๆ 7 ปี แล้ว ลูกของเขาอายุหกขวบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นวันครบเดือน ครบปี งานวันเกิดเขาไม่ได้มีส่วนร่วมเลย
หลังนั้น ฉันเฟิงก็เข้าไปในบ้าน และพบว่า ในห้องโถงนอกจาก พ่อแม่ของอินซินแล้ว ยังมีฉินกั๋วคั่ว และยังมีชายชุดสูทอีกหนึ่ง คน ในมือสวมนาฬิกาโรเล็กซ์ ท่าทางดูมีภูมิฐาน
“ฉินเฟิง แกยังกล้าเข้ามาอีก
สีหน้าของจางหลี่เปลี่ยนเป็นไม่เป็นมิตรขึ้นมาทันที
“อ้อ คุณคือฉินเฟิงเหรอ? ไอ้ขอทานคนนั้นนั่นเอง ผมได้ยินมา ว่าเมื่อคืนคุณช่วยตัดสินใจแทนอื่นซิน ทำให้เสียหุ้นไป 10% คุณ ยังกล้ากลับมาที่บ้านนี้อีกเหรอ? ”
ชายในชุดสูทลุกขึ้นแล้วมองไปที่ฉันเพิ่งอย่างเหยียดหยาม จากนั้นเขาก็เดินมาหากิ๋นซินแล้วพูดว่า “อิ่นซิน ถ้าผมเป็นคุณ ผมจะจัดการหมอนแล้วโยนมันออกไปเดี๋ยวนี้เลย ถ้าคุณไม่อยากลงมือ ผมจะช่วยคุณเอง
พอพูดจบเท่านั้น ชายชุดสูทก็ถูกแขนเสื้อขึ้นเตรียมจะจัดการ
อินเฟิง
“ฟางเย้น หยุด”
แต่ถูกลิ่นซินห้ามไว้
“อินซิน ไอ่คนที่มันจงใจทำให้คุณเสียหุ้นถึง 10% มันคือขยะ ไม่มีประโยชน์ ไม่เหลือศักดิ์ศรีอะไรแล้ว ไล่มันออกไป หรือไม่ก็ แจ้งตำรวจว่าถูกก่อกวนขังมันไว้ได้สักครึ่งเดือน”
ฟางเย็นทําหน้าเหยียดหยาม
แล้วอิ่นซินก็พูดว่า “ฉันไม่ได้เสียหุ้น 10% ฉันชนะแล้วฉันยัง ได้เข้าคณะผู้บริหารอีกครั้ง ฉันเพิ่งเป็นช่วยฉัน ฉะนั้นวันนี้เขาเป็น แขก”
“อะไรนะ”
พ่อแม่ของอินซินและฟางเส้นตกใจมาก
โดยเฉพาะฟางเย้น เขานั้นมีใจให้อินซินมาโดยตลอด ก่อน หน้านี้เขาคิดว่าฉันเพิ่งเป็นพวกไร้ประโยชน์ คิดไม่ถึงว่าฉันเพิ่งจะ ช่วยอินซินเดิมพันได้สำเร็จ
จากนั้นอินซินก็ได้อธิบายให้พวกเขาฟัง
หลังจากอธิบายเสร็จ ฟางเย็นก็ถอนหายใจออกมาด้วยความ
โล่งอก แล้วมองไปที่ฉินเฟิง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “เหอะ อาศัยบารมีของคนอื่นหรือหนี้บุญคุณที่มีต่อกันล่ะ ของแบบนี้ใช้แล้วก็หมดไป แล้วพวกเขาก็จะไม่ช่วยคุณอีก
หนี้บุญคุณที่มีต่อกัน คุณกลับเอามาใช้แบบนี้
“ผมก็คิดว่าจะเก่งขนาดไหน ที่แท้ก็ยังคงเป็นพวกไร้ประโยชน์ เหมือนเดิม แต่ถ้าเทียบกับเมื่อก่อนแล้วตอนนี้โง่ขึ้นนิดหนึ่ง หนึ่ บุญคุณที่มีต่อกัน คุณกลับเอามาใช้แบบนี้ ไม่แปลกใจเลยว่า ทําไมถึงกลายเป็นไอ้ขอทาน”
จางหลี่ฟังจบ ก็ยิ่งดูถูกฉันเพิ่งมากขึ้นไปอีก คนโง่ยังรู้เลยว่าหนี้บุญคุณที่มีต่อกันนั้นมีค่าขนาดไหน แต่ฉัน เฟิงนี่มันช่างโง่จริงๆ
“เฮ้อ”
พ่อของอินซินฟังจบถึงกับลูบหน้าผากตัวเอง
มีเพียงอินซินเท่านั้นที่ไม่ได้พูดอะไร เพราะเธอรู้ว่าฉันเพิ่งใช้ หนี้บุญคุณนี้ก็เพราะเรื่องเมื่อวานนี้
อินซินรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเมื่อคิดถึงเรื่องนี้
เสียดายที่มันดูโง่มาก
“ถั่วถั่ว ออกมาฉลองวันเกิดค่ะลูก”
ในตอนนี้ อินซินกวาดตามองทั่วห้องโถงแต่กลับไม่เจอฉินกั๋ วถั่ว เธอจึงเคาะประตูแต่ไม่มีเสียงตอบรับ จากนั้นอินซินก็เดิน เข้าไปในห้อง แล้วก็มีเสียงร้องไห้ดังออกมา “แม่คะ การที่ทั่วกัจะเจอพ่อไม่ง่ายเลย พ่อกับแม่ไม่ต้องหย่า ได้ไหมคะ? ” หลังจากนั้นไม่นานเสียงร้องไห้ก็หายไป
อินซินพาฉันถั่วถั่วออกมา เด็กหญิงตัวเล็กๆ ในชุดสีชมพู กระโปรงเก่า ตาของเธอแดงเล็กน้อย แต่เมื่อเธอเห็นฉันเฟิง ก็ได้ วิ่งเข้าใส่อ้อมกอดของฉินเฟิง “พ่อ กั่วกั๋วคิดถึงพ่อมากเลย ฮือ ฮือฮือฮือฮือฮือ”
“พ่อก็คิดถึงลูก”
ดวงตาของฉันเพิ่งอ่อนยวบ เขาลูบผมของลูกสาวและสัมผัส ได้ถึงความนุ่มนวลที่สุดในใจเขา
“ให้ตายเถอะ”
ฟางเย้นมองไปข้างๆ ดวงตาของเขาลุกโชนด้วยความโกรธ เขาตามจีบอุ่นซินมาโดยตลอด ด้วยเหตุนี้เขาถึงได้เอาใจฉัน วถั่ว และซื้อโน่นอนให้แต่ฉันถั่วถั่วไม่เคยรับของจากเขาเลย ไม่สนใจเขาเลยด้วยซ้ำ
แต่ตอนนี้อยู่ต่อหน้าฉันเฟิง ฉินถั่วถั่วยัยเด็กบ้านั่นกลับกระตือ
รือร้นสุดๆ
“พอแล้ว พอแล้ว กินเค้กเร็ว”
อิ่นซินพูดขึ้น แล้วทุกคนก็มากินเค้กด้วยกัน ในขณะที่กำลังขอ พรฉินกั๋วกั๋วก็พูดว่า “หนูขอให้พ่อกับแม่อยู่ด้วยกันตลอดไป นี่ คือพรที่หนูขอค่ะ”
เมื่อพูดประโยคนี้ สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไป พ่อแม่ของอินซิน สีหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ ฟางเส้นมีใบหน้าที่ดูน่ากลัวอยู่ลึกๆ ถ้ากิ๋นซินกับฉันเพิ่งคืนดี
กันจริงๆ แล้วเขาจะทำยังไง แต่แล้วเขาก็ต้องเก็บซ่อนความรู้สึก เอาไว้
หลังจากกินเค้กเสร็จ ฟางเย็นก็หยิบกล่องของขวัญเล็กๆออก มา และพูดกับฉินกั๋วทั่วว่า “กั่วถั่ว นี่คือของขวัญที่ลุงให้หนูค่ะ ” พูดจบเขาก็เปิดมันออก ทันใดนั้นก็มีแสงสีฟ้าก็กระจายออก
มา
“นี่คือ? เพชรสีฟ้า (บลูไดมอนด์) !”
จางลี่มองไปที่กล่องของขวัญนั้น แล้วเธอก็เอามือปิดปากตัว เองทันที รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เพราะบนสร้อยคอน้อยๆนั้นมี เม็ดเพชรสีฟ้า(บลูไดมอนด์) เล็กๆอยู่ ถึงแม้ขนาดจะเล็ก แต่ เพชรสีฟ้า(บลูไดมอนด์) มีมูลค่าสูง มากกว่าสิบเท่าของเพชร ธรรมดา
“คุณป้าพูดถูกครับ นี่คือเพชรสีฟ้า (บลูไดมอนด์) เปิดตัวโดย บริษัท LV สุดหรูแบรนด์ ASD สร้อยคอแต่ละเส้นมีสรรพคุณใน การบำรุงรักษาพลังระบบประสาทและช่วยให้นอนหลับครับ”
ฟางเย้นพูดอย่างภูมิใจ
“ฉันรู้จักรุ่นนี้ ได้ยินมาว่าแต่ละเส้นราคามากกว่าหกแสน ฟาง เย้นคุณช่างเป็นคนใส่ใจรายละเอียดดีจังเลย อิ่นซินดูสิฟางเส้นเขากลับมาจากการเรียนต่อที่ต่างประเทศ จบการศึกษาระดับ ปริญญาโท ประสบความสําเร็จในหน้าที่การงาน มีสองถึงสาม บริษัท แล้วยังเป็นทายาทของบริษัทฟางชื่อกรุ๊ป มันไม่ดีกว่าไอ้ คนขยะที่อยู่ข้างๆลูกเหรอ? ”
นัยน์ตาของจางลี่เป็นประกาย เธอไม่ได้สนใจความรู้สึกของ ฉินเฟิงแม้แต่น้อย ค่าก็ขยะสองคําก็ขยะ แสดงออกอย่างชัดเจน ว่าอยากได้ฟางเย็นเป็นลูกเขย เธอได้ตัดสินใจแล้ว
“ฉินเฟิง ของขวัญที่จะให้ทั่วถั่วล่ะ อย่าบอกว่าไม่ได้เตรียมนะ หรือว่าไม่มีเงินที่จะเตรียมของขวัญ
ฟางเส้นมองไปที่ฉันเพิ่งด้วยสายตาที่เยาะเย้ย
“เขาจะหาของขวัญดีๆอะไรได้ เป็นแค่ขอทานจนๆคนหนึ่งไม่มี อะไรเลย ไร้ประโยชน์ ยังจะซื้อของขวัญ เขาจะมีเงินซื้อของขวัญ ราคาแพงๆอย่างนั้นเหรอ”
จางลี่พูดกับฟางเย้น
ฉินเฟิงควานหาเชือกสีแดงที่คอของเขา แล้วถอดมันออกมา ให้กับฉินกั๋วทั่ว
“กั่วถั่ว เชือกเส้นนี้ เคยกันกระสุนไม่ทำให้พ่อถูกยิงได้
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ