เทพบู๊สายเปย์

บทที่ 3 สินสอดของตระกูลร่ำรวย



บทที่ 3 สินสอดของตระกูลร่ำรวย

บทที่ 3 สินสอดของตระกูลร่ำรวย

ช่างเถอะ เพื่อหลินเสี่ยวเข่อแล้ว ต่อให้สละชีวิตก็ยอม กะอีแค่คุกเข่ามันจะอะไรกันเชียว?

เขากำลังคิดที่จะพูด ก็ได้ยินเสียงของหลินเสี่ยวเข่อพูด ขึ้นอย่างเย้ยหยันขึ้นมาก่อน”คิดว่าหนูอยากเป็นคนของ ตระกูลหลินมากเลยหรือไง! พวกเราไปกันเถอะ!”

อะไร? ทุกคนพากันช็อก หลินเสี่ยวเข่อปกป้องไอ้คนไร้ ประโยชน์นี่เกินไปแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะถึงขั้นยอมออกจาก ตระกูลหลิน

“เห้อ ไม่เอาๆ เข้าใจผิดกันแล้วๆ”หลินเจี้ยนไห่วิ่งมาจาก ข้างหลัง เขาเหงื่อท่วมหน้าด้วยความลุกลี้ลุกลน เขาทั้ง สองสามีภรรยาใช้ชีวิตอย่างสุขสบายอยู่ดีกินดี ไร้ความ สามารถทําอะไรไม่เป็นสักอย่าง เอาแต่พึ่งพาหลินเสี่ยว เข่อที่ทำงานอยู่ในบริษัทของตระกูล ถ้าเกิดถูกไล่ออกล่ะ ก็ คนในครอบครัวนั้นก็จบเห่กันทันที

“แม่ อย่าเพิ่งโกรธสิ เรื่องนี้เสี่ยวเข่อใจร้อนเกินไปหน่อย เดี๋ยวผมพูดโน้มน้าวกับเธอเองนะ”

หลินเจี้ยนไห่ผลักจูหมิง“ไอ้คนไร้ประโยชน์แบบแก คิดอะไรอยู่? ถ้าเกิดถูกไล่ออกไปจริงๆ แกจะเลี้ยงครอบครัว นี้ไหวเหรอ? แค่ทำเรื่องเล็กๆน้อยๆให้กับตระกูล แกยังไม่ เต็มใจ แกคิดจะทำอะไร?”

หลินเสี่ยวเบ่อปกป้องเขาเอาไว้อยู่ข้างหลัง”พ่อ ตระกูล หลินเคยเห็นพวกเราเป็นคนไหม? ทำไมถึงเอาแต่อะไรๆก็ ตระกูลหลินอยู่ได้?”

คนของตระกูลหลินเหมือนกับกำลังดูละครอยู่ สายตา เต็มไปด้วยความดูถูกและเย้ยหยัน

พอเห็นหลินเสี่ยวเข่อที่กำลังทะเลาะกับพ่อ และกำลัง เผชิญหน้ากับตระกูลหลิน เพื่อปกป้องตนเองอยู่ จูหมิงก็ เจ็บปวดหัวใจสุดๆ เขาในตอนนี้ทําอะไรเพื่อเธอได้บ้าง?

“เสี่ยวเบ่อ…….”เขาดึงหลินเสี่ยวเบ่อไว้

“ไม่ได้ ฉันจะยอมให้คุณโดนรังแกไม่ได้ ก็แค่ไม่ได้เป็น คนของตระกูลหลินแต่นั้นเอง” หลินเสี่ยวเข่อทั้งโกรธทั้ง ลนลาน เพราะเธอเดาความคิดของเขาออก

จูหมิงรู้สึกอบอุ่นในใจ คว้ามือของเธอไว้แน่น มือของ เธอโชกไปด้วยเหงื่อ เห็นได้ชัดว่าเธอรู้สึกเครียดและกด ดันสุดๆ

“เสี่ยวเบ่อ เพื่อคุณแล้วผมยอมทำทุกอย่าง”หลินเสี่ยวเข่อสั่นไปทั่วทั้งร่างกาย ตาเริ่มแดง

“ผมยอม ผมจะไป! “จูหมิงพูดเสียงดัง ด้วยใบหน้ายิ้มๆ

ทั้งห้องโถงเงียบสงัดลงทันที ถึงขนาดที่เสียงเข็มตกก็ยัง ได้ยิน

“อื้อจูหมิง ก็พอจะรู้งานอย่างที่คิดไว้ดีนี่ วันนี้ก็ถือว่าแก เป็นคนในตระกูลหลินของพวกเราก็แล้วกัน เรื่องนี้ก็ช่วย ทำให้ดีๆด้วยล่ะ ต้องแสดงความจริงใจให้กับตระกูลฉู่ให้ มากๆ ต้องรู้ว่าเรื่องนี้สำคัญกับตระกูลหลินของพวกเรา ขนาดไหน การที่จะได้กลับขึ้นไปเป็นตระกูลแนวหน้าอีก ครั้ง ในที่สุดก็มีความหวังสักที”

คำพูดนี้ออกมาได้ตรงจังหวะมาก คนของตระกูลหลินพา กันหัวเราะ ต่างเข้าใจความหมายกันดี

ในขณะนี้เอง ข้างนอกก็มีเสียงดังขึ้น เสียงนั้นเป็นเสียง ของรถสปอร์ตนับสิบคัน คุณนายใหญ่หลินตื่นตัวขึ้นมา ทันที ก่อนจะเดินนำไปยังประตูอย่างรวดเร็ว

รถสปอร์ตเฟอร์รารี่นับสิบคันจอดเรียงกันด้านนอก เป็นระเบียบเรียบร้อย สีแดงเพลิงเหมือนกันหมดทุกคัน ราวกับเปลวไฟภายใต้แสดงอาทิตย์ ดูสะดุดตา และหรู หราสุดๆ รถทุกคันจะมีคนแต่งกายชุดสูทเป็นระเบียบเรียบร้อยยืนประกบอยู่ข้างๆ ดูมีสไตล์ไม่น้อย

ลักษณะแบบนี้ สไตล์แบบนี้ สมกับที่เป็นตระกูล จริงๆ เหล่าคนของตระกูลหลินต่างพากันทำเสียงจุ๊ๆไปตามๆกัน ในตาของพวกผู้หญิงต่างเต็มไปด้วยความอิจฉา

ผู้นำพูดเปิดขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางภาคภูมิใจ”สวัสดี คุณนายใหญ่หลิน พวกเราเป็นตัวแทนของตระกูลฉู่นำ สินสอดมามอบให้กับคุณหวั่นฉิงแห่งตระกูลหลินณ ที่นี้ อีกทั้งยังเชิญคนมาเพื่อเป็นเกียรติเป็นศรีอีกด้วย! ”

“ค่ะๆๆ รอสักครู่นะคะจูหมิง ยังไม่รีบไปอีก”คุณนาย ใหญ่หลินตื่นเต้นดีใจจนใบหน้าเปล่งประกาย

ภายใต้สายตาที่กำลังจับจ้องของบรรดาผู้คน ภายใน สายตาที่แสนเจ็บปวดใจของหลินเสี่ยวเข่อ จูหมิงค่อยๆ เดินตรงไปยังรถเฟอร์รารี่ของผู้นำคนนั้นอย่างช้าๆ เหตุการณ์แบบนี้ตอนเด็กเขาก็เคยผ่านมาแล้ว

คำพูดของคุณท่านแห่งตระกูลจูดังขึ้นมาข้างๆหู: คน ของตระกูลจูของพวกเรา คุกเข่าให้ฟ้าให้ดินให้พ่อแม่ได้ แต่จะโค้งคำนับคนที่อยู่ต่ำกว่าไม่ได้

แต่ว่า เขาเลือกที่จะละทิ้งทุกอย่างแล้ว ตอนนี้มีชีวิตอยู่ เพื่อหลินเสี่ยวเข่อคนเดียวเท่านั้น ขอแค่หลินเสี่ยวเข่อมี ความสุข ต่อให้เขาต้องคุกเข่าต่อหน้าหมูเขาก็ยอม
ชายสวมชุดสูทที่เป็นตัวแทน มองสำรวจเขาอย่างหยิ่ง ผยองและดูถูกดูแคลน

จูหมิงยิ้มเล็กน้อย กำลังจะคุกเข่าเคารพ จู่ๆก็ถูกคนเข้า มาหยุดเอาไว้ก่อน เป็นชายสวมชุดสูทคนนั้น

“เกรงว่าชายคนนี้จะไม่ใช่คนของตระกูลหลินใช่ไหม ครับ? ถ้าเกิดเดาไม่ผิดล่ะก็ เขาน่าจะเป็นจูหมิงไอ้คนไร้ ประโยชน์ผู้ที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ไปทั่วเมืองไห่เทียนของ พวกเราใช่ไหม? ไม่คิดว่าพวกคุณจะให้เขามาเป็นตัวแทน ทําพิธีแบบนี้? ไม่เห็นพวกเราตระกูลฉ่อยู่ในสายตาเลย ใช่ไหม?”

ทุกคนเงียบกริบลงทันที

“เปล่านะๆ เขาเป็นลูกเขยของหลานสาวของตระกูล หลิน ถือว่าเป็นคนของตระกูลหลินเหมือนกัน”หลินเฉิง เจียเริ่มกระวนกระวายแล้ว

แต่คุณนายใหญ่หลินมีปฏิกิริยาตอบสนองเร็วกว่า เธอ หัวเราะออกมาทันที“ถ้าตระกูลฉู่ไม่พอใจล่ะก็ พวกเรา จะส่งอีกคนหนึ่งมาแทนก็แล้วกันเฉิงเจี๋ย ไปสิ! นี่เป็น หนึ่งในผู้ที่จะมาสืบทอดทายาทของตระกูลหลิน จริงใจ พอแล้วใช่ไหม! ”

หลินเฉิงเจี่ยก้าวถอยหลัง เขาเป็นผู้รับช่วงต่อของตระกูลหลินเชียวนะ แล้วให้เขาไปคุกเข่าแบบนั้น เขา จะทำได้ยังไง แต่หลินหวั่นฉิงที่อยู่ข้างหลังเอาแต่ดัน เขา เธอเป็นคนที่กระวนกระวายที่สุดในบรรดาคนตรง นี้ ถ้าเกิดตระกูลฉู่กลับใจล่ะก็ ความฝันที่จะได้เข้าไปใน ตระกูลร่ำรวยของเธอก็จะพังทลายลงทันที

“ยังไม่รีบไปอีก ถ้าไม่อย่างนั้นสมบัติทรัพย์สินของ ตระกูลหลินจะไม่มีส่วนของแกนะ”คุณนายใหญ่หลิน สบถออกมา พูดแทงใจเขา

หลินเฉิงเจี่ยถูกบีบบังคับจนหมดหนทาง ทำได้แค่เดิน ไปข้างหน้า คุกเข่าก้มลง จากนั้นก็เปิดประตูออกอย่าง เคารพนอบน้อม เขารู้ดี กะอีแค่ก้มหัวมันไม่ได้ลำบาก อะไรมากมายเลย ถึงยังไงทรัพย์สมบัติของตระกูลหลินก็ สำคัญที่สุด

“อื้อ พิธีการเสร็จสิ้นแล้ว! กรุณารับสินสอด! “ชายที่ เป็นผู้นำพึงพอใจอย่างมาก

ประตูรถสปอร์ตเปิดออกพร้อมกัน สินสอดที่มูลค่า มากมายยื่นออกมาจากรถสปอร์ตทีละชุดๆ

พระหยกทองสูงสามนิ้ว หงส์หยกเขียวมรกตยาวสองนิ้ว สร้อยคอที่อัดแน่นไปด้วยอัญมณี กำไรฝังเพชรเป็นต้น เหมือนกับกวาดล้างสต๊อกมาทั้งร้านเครื่องประดับอย่างไร อย่างนั้น เครื่องหยกมูลค่ามหาศาลจำนวนสิบชุดทยอยออกมาเรื่อยๆ มาวางลงบนโต๊ะรับ ของขวัญเต็มไปหมด ท่ามกลางสายตาของเหล่าบรรดา ผู้คน ทำเอาของขวัญดั้งเดิมดูแย่ไปเลย!

“เชิญรับไว้ด้วยครับ เรื่องหมั้นหมายค่อยพิจารณากันอีก ที แล้วเจอกันครับทุกท่าน! ”

เสียงของรถสปอร์ตดังขึ้น ขับออกไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางสายตาที่อิจฉาของผู้คนตรงนั้น

ทั้งตระกูลหลินต่างก็รู้สึกตื่นเต้นสุดๆ โดยเฉพาะหลิน หวั่นฉิง ที่รู้สึกภูมิอกใจภูมิใจไม่น้อย ทำราวกับว่าตนเอง อยู่เหนือกว่าทุกคน การได้เข้าไปในตระกูลฉู่ เท่ากับได้ ก้าวเข้าไปในตระกูลที่สูงส่งร่ำรวย สามารถชูหน้าชูคอใน เมืองไห่เทียนได้อย่างไม่ต้องสนใจใครแล้ว

คุณนายใหญ่หลิน จ้องจูหมิงตาเขม็ง พร้อมกับพูดด่า ขึ้น“ไอ้คนไร้ประโยชน์ อีกนิดก็จะทำทุกอย่างพังแล้ว ยัง ดีที่แกไม่ใช่คนของตระกูลหลิน ไม่อย่างนั้นตระกูลหลิน ของพวกเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”

จูหมิงยิ้มเย้ยหยันในใจ คุณนายใหญ่คนนี้เปลี่ยนหน้า

เร็วจริงๆ

หลินเสี่ยวเข่อเข้ามาขวางข้างหน้าของเขา”ย่า พูดจา อย่าให้มันมากเกินไปสิคะ ก็ฟังคำสั่งของท่านแล้วไม่ใช่หรือไง?

ในขณะนี้เอง หลินหวั่นฉิงก็ยกชาถ้วยหนึ่งเดินเข้ามา สาดไปที่หน้าของหลินเสี่ยวเข่อทันที การกระทำเกิดขึ้น รวดเร็วเกินไป บรรดาผู้คนล้วนยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยา ตอบสนอง

ทั้งห้องโถงเงียบลงทันที ผู้คนต่างไม่เข้าใจว่าทําไมเธอ ถึงทำแบบนี้

มีแค่เธอเท่านั้นที่รู้ เธอทนมามากพอแล้ว เธอกับหลิน เสี่ยวเข่ออายุเท่ากัน แต่เมื่อก่อนหลินเสี่ยวเบ่อได้รับ ความรักความเอ็นดูจากคุณท่านของตระกูลหลิน แถม เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดของตระกูลหลินอีกด้วย กดหัวเธอ จนแทบจะเงยขึ้นไม่ได้มาโดยตลอด เธอทําได้เพียงแค่ แอบอิจฉาริษยาอยู่เบื้องหลัง แต่ตอนนี้ ในที่สุดเธอก็พลิก กลับขึ้นมาได้สักที

“เห็นแล้วยัง? หลินเสี่ยวเบ่อ เจ้าหญิงหลิน เห็นสินสอด พวกนั้นแล้วยัง? อะไรที่เรียกว่ามังกรในมังกร ฉันจะบอก เธอแล้วกัน ก็คือคุณชายฉู่ไงล่ะ เธอริษยาไหม? อิจฉา ไหม? ตาร้อนถึงขนาดที่ในใจเริ่มลุกเป็นไฟแล้วล่ะสิ?”

“ปู่มองว่าเธอเป็นเจ้าหญิง เธอยังคิดจริงๆเหรอว่าตัวเอง เป็นเจ้าหญิง เธอมันก็แค่เด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้นแถมยังแต่งงานกับไอ้คนไร้ประโยชน์ด้วย ชั่วชีวิตนี้ของ เธอก็อย่าคิดว่าจะได้เหยียบหัวฉันอีก!

“ยังกล้าจ้องฉันอีก? ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะ สิ่งที่ฉัน ด่าว่าเธอ เธอยอมรับมันอย่างโดยดีซะเถอะ ถ้าทำให้ฉัน โกรธล่ะก็ ฉันไล่ให้พวกเธอทั้งครอบครัวได้ไปนอนกลาง ถนนแน่นอน อำนาจของคุณชายฉู่ เธอไม่เชื่อเหรอ? ถ้า ให้ดีจากนี้ไปเวลาเจอฉันก็คารวะนอบน้อมแต่โดยดีซะ พี่ น้องกัน ฉันจะไม่ทำให้เธอรู้สึกล่าบากใจอะไรมากมาย แน่นอน”

“ฉันจะให้เธอรู้ไว้ว่า ฉันต่างหากที่เป็นเจ้าหญิงของ ตระกูลหลิน เธอมันก็แค่ไอ้เด็กผู้หญิงโง่ๆคนหนึ่งเท่านั้น อุ้ย! ”

นําชาไหลอาบทั้งหน้า หลินเสี่ยวเบ่อหลับสองตา แต่ นํ้าตากลับไหลเอ่อล้นออกมา หยดลงบนหลังมือของจูห มิง เขาตอนนี้ดูดุร้ายสุดๆ หลินเสี่ยวเข่อทำได้แค่พูดออก มาหนึ่งประโยค

“หวั่น….ฉิง ขอให้เธอมีความสุขนะ”

หลินเสี่ยวเข่อฝืนพูดคำอวยพรออกมาหนึ่งประโยค ก่อน จะวิ่งหนีออกไป ท่ามกลางเสียงหัวเราะเยาะของผู้คน
จูหมิงในใจเหมือนถูกมีดทิ่มแทง เขาวิ่งตามออกไป

ตอนที่เข้าไปในบ้าน หลินเสี่ยวเข่อกำลังนั่งอยู่ในห้อง นอน กำลังฉีกสมุดภาพเล่มหนึ่งอยู่อย่างสุดชีวิต ขาดเป็น เศษกระจัดกระจายเต็มไปหมด จูหมิงยื่นมือออกรับเศษ เอาไว้หนึ่งชิ้น ข้างบนดูเหมือนจะเป็นรูปของรถม้าหนึ่งคัน

“เสี่ยวเข่อ ขอโทษ! “จูหมิงรู้สึกเจ็บปวดใจไม่น้อย

หลินเสี่ยวเบ่อหันมา หน้ายิ้มเล็กน้อย แต่นํ้าตากลับไหล อาบเต็มหน้าเรียบร้อยแล้ว

“จูหมิงฉันรักคุณ ฉันไม่สนว่าคุณจะมีอนาคตหรือไม่ แล้วก็ไม่สนว่าคนอื่นจะมองพวกเรายังไง ฉันเพียงแค่ อยากที่จะอยู่กับคุณแบบเรียบง่ายเท่านั้น แต่แค่ความ ต้องการง่ายๆอันเดียวทำไมมันถึงยากขนาดนี้? พวกเรา ไปกันเถอะ คุณว่าดีไหม? พวกเราออกจากตระกูลหลิน ออกจากที่นี่ ไปใช้ชีวิตในที่ที่ไม่มีใครรู้จักพวกเรา ดีไหม? ฉันขอร้องคุณล่ะ!

ขอบตาที่อุ่นๆ เสียงที่สั่นๆ แต่ละคำราวกับมีด ที่พูดทิ่ม แทงหัวใจ!

จูหมิงเช็ดน้ำตาที่หัวตาของเธออย่างอ่อนโยน แต่ไม่นาน นิ้วมือก็เปียกน้ำตาอย่างรวดเร็ว สีหน้าที่สิ้นหวังเจ็บปวดใจของเธอราวกับแผ่นเหล็กที่ร้อนระอุ แนบล็กลงที่ หัวใจของเขา

“เสี่ยวเข่อ พวกเราไม่ไปไหนทั้งนั้น พวกเราจะอยู่ที่นี่ ผม จะไม่มีทางให้ใครหน้าไหนมารังแกคุณอีกต่อไปแล้ว!

“ผมสัญญา!

จูหมิ่งพูดจบ ก็หันเดินจากไป น้ำตาเปียกเต็มขอบตาไป

หมด

ถ้ามันทำให้เธอมีความสุขได้ เขาก็เต็มใจที่จะเป็นคนไร้ น้ำยาไปชั่วชีวิต แต่มันทำไม่ได้น่ะสิ…….


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ