เทพบู๊สายเปย์

บทที่ 2 จู่ๆก็เห็นความสำคัญ



บทที่ 2 จู่ๆก็เห็นความสำคัญ

บทที่ 2 จู่ๆก็เห็นความสำคัญ

จริงๆไม่ได้อยากจะใส่ใจอะไรเท่าไร แต่ฝีมือของคนคน นั้นเขารู้ดี ทำได้แค่ตอบข้อความกลับไป

“ห้าปีก่อนหน้านี้ ใครเป็นคนที่ทิ้งฉันไว้ข้างนอกเหมือน กับหมา ถ้าไม่ใช่เพราะโชคช่วยป่านนี้ฉันคงอดตายไป แล้ว”

“ที่นั่นไม่ใช่บ้านของฉัน ฉันไม่มีทางกลับไปแน่นอน!

“ไม่ต้องมาหาฉันอีก ฉันไม่มีความสนใจในทายาทเลย แม้แต่นิดเดียว ท่าเหมือนฉันตายไปเลยก็ได้!

พอส่งข้อความเสร็จ ก็รับสายของหลินเสี่ยวเบ่อ ให้เขา ไปหาเธอที่ห้องไพรเวทในร้านกาแฟชั้นสองของวั่นเส็ง พลาซ่า จูหมิงนึกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเธอ จึงรีบไปทันที

ใครจะไปรู้พอเข้ามาข้างใน ก็ถูกเพื่อนของเธอหย่วน เซอหวู่มองเขาด้วยสายตาเหมือนกับกำลังมองหัวขโมย พร้อมกับยิ้มๆอย่างดูถูก”จูหมิงเสื้อตัวนี้นายเลือกมาจาก แผงลอยข้างถนนใช่ไหม ทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้าแค่สาม ร้อยสินะ”
จูหมิงเห็นหลินเสี่ยวเข่อที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็ยิ้มนิ่งๆ ไม่ได้ ถือสาอะไร เดินตรงไปนั่งลงข้างๆกับหลินเสี่ยวเข่อ ไม่ สนใจสายตาดูแคลนของซูหมี่และหย่วนเซอหวู่แม้แต่ น้อย

หย่วนเซอหวู่เห็นเขาไม่ได้มอง ในใจก็ยิ่งทวีความโกรธ ขึ้น จึงพูดออกมาตรงๆ

“จูหมิง ในฐานะที่เป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเสี่ยวเข่อ วัน นี้ฉันก็ขอพูดตรงๆเลยแล้วกัน แต่งงานมา2ปี ยังมาทำตัว น่าเอือมระอาแบบนี้อยู่อีกเหรอ วันๆไม่ทำอะไรเอาแต่เล่น เกมเกาะเสี่ยวเบ่อกินอย่างสบายจิตสบายใจ เกิดมาเป็น ผู้ชายทั้งที ไม่สนหน้าตาเลยหรือไง? ถ้าเกิดใส่ใจเสี่ยวเข่ อจริงๆ ก็หย่ากับเธอซะ!”

“ใช่ ดูจากสถานะของเสี่ยวเข่อแล้ว ต่อให้หลับตาหา ก็ได้แต่งกับตระกูลที่ร่ำรวยได้อย่างง่ายๆเลย ทำไมต้อง ให้เธอมาทนทุกข์ทนลำบากกับนายด้วย?”ซูหมี่พูดเสริม

จูหมิงหัวเราะแห้งๆ ไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี แต่หลินเสี่ยว เขือไม่ยอม เข้ามาปกป้องด้านหน้าของเขา

“พวกเธอสองคนพอได้แล้ว อย่าพูดคำพูดพวกนี้อีก ไม่ อย่างนั้นฉันจะโกรธจริงๆแล้ว”

พอพูดจบ หย่วนเซอหวู่ก็ลุกขึ้นไปทันที พร้อมกับพูดขึ้นด้วยความโกรธ”หลินเสี่ยวเข่อ เพื่อนแบบพวกเราหวัง ดีกับเธอ ต่อให้เขาจะเคยช่วยชีวิตเธอสมัยเด็กก็ตาม แล้ว มันจะยังไง? หรือว่าเธอกะที่จะมอบหัวใจให้กับเขางั้นเห รอ? การชดใช้ด้วยตัวเองแบบนี้ จะช้าจะเร็วยังไงก็ต้อง เสียใจอยู่ดี”

จูหมิงนึกว่าหลินเสี่ยวเข่อจะโกรธ คิดไม่ถึงว่าเธอกลับ มองตนเองด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แววตาที่สวยงามเต็มเปี่ยม ไปด้วยความอ่อนโยน แววตาที่เอ่อล้นไปด้วยความรักมัน ทําให้ใจของเขาละลาย

ตอนที่จูหมิงยังเด็ก เนื่องจากเหตุผลทางตระกูลจึงมา แอบอาศัยอยู่ที่นี่อย่างสันโดษระยะหนึ่ง มีอยู่ครั้งหนึ่ง หลินเสี่ยวเบ่อไม่ทันได้ระวังตกลงไปในแม่น้ำ และเป็น เขาที่กระโดดลงไปช่วยเธอขึ้นมา ต่อมาในตระกูลจะเกิด เรื่องขึ้น ทําให้เขามาเจอกับเธอที่ริมแม่น้ำอีกครั้ง คิดไม่ ถึงว่าหลินเสี่ยวเข่อยังจําเขาได้ แถมไม่รังเกียจที่เขาไม่มี เงินติดตัวซักบาทเดียว ไม่สนคำคัดค้านของทุกคน อยู่ ด้วยกันกับเขาอย่างไร้ซึ่งความลังเลใดๆ

“ไม่ใช่เหตุผลนั้นสักหน่อย ที่ฉันแต่งงานกับเขา ก็เพราะ ว่าฉันรักเขา เขาก็รักฉัน”สีหน้าอารมณ์ของหลินเสี่ยวเข่ อดูอบอุ่นแบบผิดปกติ ประโยคนี้แทบจะทำให้ซูหมี่กับ หย่วนเซอหวู่ ผู้หญิงทั้งสองหัวเราะออกมา ทั้งสองคนขำ จนปวดท้องไปหมด

“เสี่ยวเบ่อเธอเลิกเสแสร้งได้แล้ว เพื่อนสาวที่สนิทที่สุดของเธอพูดอย่างจริงใจเลยนะ แม้ว่าตระกูลหลินจะ ไม่ได้สิ้นตระกูลแล้ว แต่เธอจะดูถูกตัวเองไม่ได้ ดูเธอสิ จบมาจากสถาบันที่มีชื่อเสียง ผิวพรรณขาวสวย รูปร่าง หน้าตาก็ดี ต่อให้หลับตาเลือกก็ได้ตระกูลร่ารวยอยู่ดี มี คนไหนที่ด้อยกว่าจูหมิงอีก?”

“ใช่ๆ เธอเลี้ยงดูพ่อแม่ก็ลำบากอยู่แล้ว ยังต้องหาเงิน มาเลี้ยงไอ้คนไร้ประโยชน์นี่อีก เธอคิดอะไรอยู่? หย่าให้ จบๆไป ความรู้สึกมันกินแทนข้าวไม่ได้หรอกนะ”

“แถมเธอดูเขาสิ ถูกด่าแล้วยังโกรธไม่เป็นเลยสักนิด ไร้ น้ำยากว่านี้ไม่มีอีกแล้ว มีความเป็นผู้ชายสักนิดบ้างไหม? ทำไมเธอถึงหัวรั้นได้ขนาดนี้?”

“พอได้แล้ว! “หลินเสี่ยวเข่อโมโหจริงๆแล้ว ที่เธอรับไม่ ได้ที่สุดก็คือมีคนมาต่อว่าจูหมิง

“จูหมิงดีกับฉันมาก ฉันพอใจมากแล้ว ถ้าพวกเธอยังกล้า พูดจาให้เขาไม่ดีแบบนี้อีกล่ะก็ อย่ามาโทษฉันแล้วกันถ้า ฉันจะตัดความสัมพันธ์กับพวกเธอ เพื่อนสิบกว่าปีของเรา ให้มันจบกันไปเลย

ปกติแล้วหลินเสี่ยวเข่อจะดูอ่อนโยนน่ารักแบบผู้หญิง ที่มีเสน่ห์เป็นธรรมชาติ แต่ถ้าโกรธขึ้นมา ก็เป็นผู้หญิง ที่แสนเยือกเย็นคนหนึ่งเหมือนกัน เย็นชาและโหดร้าย ทําเอาเพื่อนสาวทั้งสองตะลึงไป
หย่วนเซอหวู่จ้องจูหมิงตาเขม็ง พร้อมกับพูดขึ้นด้วย น้ำเสียงต่ำ เสี่ยวเบ่อเธอต้องคิดให้ดีๆ ว่าไม่ใช่พวกเรา ที่ดูถูกดูแคลนมัน เธอดูมันสิ ต่อให้ไม่มีเงินไม่มีความ สามารถ จะดีร้ายยังไงก็ควรจะหางานทำสักงานได้แล้ว วันๆเล่นเกมเกาะเธอกินอย่างสบายใจ มันจะไปมีอนาคต ได้ยังไง มันสนใจใยดีเธอจริงๆเหรอ?”

“ฉันไม่ได้ต้องการให้เขามีอนาคต ฉันชอบที่เขาไม่มี อนาคต เพียงแค่อยู่ข้างกายฉันก็พอแล้ว”

คำพูดของหลินเสี่ยวเข่อ ทำให้เพื่อนสาวทั้งสองพูด อะไรไม่ออกอย่างสิ้นเชิง แล้วก็ทำให้จูหมิงเริ่มร้อนผ่าวที่ ดวงตาเหมือนกับจะร้องไห้

ในห้องไพรเวทเงียบสนิททันที ในขณะนี้เอง มือถือของ หลินเสี่ยวเบ่อก็ดังขึ้น เป็นสายของหลินเจี้ยนไห่ บอกว่า คุณนายใหญ่หลินเรียกให้พวกเรากลับไป แถมยังสั่งอีก ว่าต้องให้จูหมิงตามมาด้วย

ทุกคนในตระกูลหลินมองจูหมิงเป็นคนไร้น้ำยา แล้ว ทำไมจู่ๆเห็นความสำคัญของเขาขึ้นมา?

จูหมิงไม่เข้าใจ แต่ก็ทำได้แค่ตามหลินเสี่ยวเข่อไป เท่านั้น โบกแท็กซี่กลับไปยังบ้านของตระกูลหลิน

บนรถแท็กซี่
จู่ๆจูหมิงถามขึ้นกับเธอด้วยเสียงเบาๆ”เสี่ยวเข่อคุณชอบ ที่ผมไม่มีอนาคตจริงๆเหรอ?”

หลินเสี่ยวเข่อยิ้มอย่างอ่อนโยน คว้ามือเขาไว้แน่น ใช่ น่ะสิ คุณไม่เชื่อเหรอ? แค่คุณมีสักหน่อยก็ได้แล้ว ถึง แม้ว่าจะนิดเดียว แต่คนอื่นจะได้ไม่มองคุณแบบนี้ยังไง ล่ะ”

“คุณสนใจไหมว่าคนอื่นจะมองมายังไง?”จูหมิงรู้สึกเจ็บ ปวดในใจเล็กน้อย

หลินเสี่ยวเข่ออึ้งไปสักพัก ก่อนจะส่ายหัว“ฉันไม่ใช่เด็ก ผู้หญิงที่ไม่รู้จักโตเหมือนเมื่อก่อนคนนั้นอีกแล้ว”

จูหมิงเอาเธอเข้ามากอดในอ้อมแขน สัมผัสความอุ่นจาก ร่างกายของเธอ จู่ๆกลับรู้สึกขมขื่นขึ้นมา ความหมายของ เธอชัดเจนแล้วว่า เธอในตอนนี้เพียงแค่เรียนรู้ที่จะรับ ความจริงเท่านั้น บางทีอาจเพียงแค่ไม่มีหนทางอื่นแล้ว ก็ได้

ตอนที่ทั้งสองกลับมายังบ้านของตระกูลหลินอีกครั้ง งานเลี้ยงก็เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงแค่คนใน ตระกูลที่กำลังประชุมอยู่ในห้องโถง

ทั้งสองคนรู้แล้ว ว่าทำไมคุณนายใหญ่หลินถึงกำชับให้จู หมิงมาด้วย ที่แท้ตระกูลฉู่ตระกูลที่สูงศักดิ์แห่งเมืองไห่เทียนก็ชอบพอหลินหวั่นฉิงลูกสาวของคนที่สามแห่ง ตระกูลหลิน จะเอาสินสอดทองหมั้นมาหมั้นไว้ แต่มีข้อ เสนอหนึ่งข้อ เพื่อที่จะแสดงถึงความจริงใจของตระกูล หลิน จะต้องมีผู้ชายหนึ่งคนของตระกูลหลินมาเปิดประตู รถให้ คุกเข่าก้มกราบเพื่อความเป็นมงคล

“จูหมิงตระกูลของพวกเราเลี้ยงดูให้แกกินดื่มอย่างดี ตอนนี้ถึงเวลาที่แกควรจะตอบแทนพวกเราแล้ว เรื่องนี้จะ ต้องทําออกมาให้ดี เข้าใจไหม?”คุณนายใหญ่หลินมอง เขาเป็นคนนอกสายตา

จูหมิงยิ้มเย้ยหยัน คิดในใจว่าแล้วทำไมถึงปล้ำจะให้เขา กลับมาให้ได้ ที่แท้ก็คิดจะให้เขามาเป็นตัวตลกนี่เอง

“ทําไม? ไม่เต็มใจ? คนไร้น้ำยาแบบแก การที่ให้นายเป็น คนของตระกูลหลินนายก็ควรจะยิ้มดีใจนะ ให้หน้านาย มากจริงๆนายก็แทบจะลอยขึ้นฟ้าแล้ว”หลินเฉิงเจี๋ยสบถ ห็ออกมา

เขาเป็นหลานชายของคุณนายใหญ่หลิน แล้วก็เป็น ทายาทผู้สืบทอดต่อที่คุณนายใหญ่หลินเล็งไว้ด้วย สถานะในตระกูลหลินของเขาไม่บอกก็รู้

“ใช่ๆ เป็นคนไร้น้ำยาแท้ๆ ยังจะมาทำเก๊กอีก”

“รู้ไว้นะว่าตระกูลฉู่มีความสำคัญกับตระกูลหลินขนาดไหน เรื่องสําคัญขนาดนี้ให้คนไร้น้ำยาแบบมันทำก็มาก พอแล้ว ดูท่าแล้วเป็นพวกไร้น้ำยาจริงๆซะด้วยสิ ไร้สมอง สิ้นดี”

มิง

บรรดาคนของตระกูลหลินพากันพูดจาดุด่าว่ากล่าวจูห

“พอได้แล้ว! “หลินเสี่ยวเข่อพูดต่อว่าขึ้น เข้ามายืน ปกป้องด้านหน้าจูหมิง

“ย่า ก่อนหน้านี้พวกท่านเคยเห็นเขาเป็นตระกูลหลิน ด้วยเหรอ? แล้วพอจะทําเรื่องแบบในตอนนี้กลับมองเขา เป็นคนในครอบครัวขึ้นมาซะอย่างนั้น มันน่าขำไหมคะ? ในเมื่อตระกูลฉี่สำคัญกับตระกูลหลินขนาดนั้น ทำไมถึง ไม่ให้หลินเฉิงเจียไปหล่ะ? แบบนี้มันจะคุ้มค่ากับความ จริงใจมากกว่าไหม?”

ทุกคนต่างพากันช็อก หลินเสี่ยวเข่อก็กล้าเหลือเกิน คิดไม่ถึงว่าจะพูดโต้แย้งคุณนายใหญ่หลินต่อหน้า เหล่าบรรดาผู้คนมากมายขนาดนี้เพียงเพราะไอ้คนไร้ ประโยชน์นี่แค่คนเดียวแท้ๆ

เป็นอย่างที่คิดไว้ คุณนายใหญ่หลินพูดด่าขึ้นด้วยความ โกรธ“เสี่ยวเข่ออย่าคิดว่ามีปู่คอยหนุนหลังแล้วจะทำ อะไรตามใจชอบไม่สนกฎเกณฑ์ได้นะ ในตระกูลหลิน ตอนนี้ฉันพูดคำไหนคำนั้น ใครหน้าไหนกล้าไม่ฟังคําสั่งฉัน ก็เชิญย้ายออกไปจากตระกูลหลินได้เลย!

“ไอ้คนไร้ประโยชน์ แกจะไปไม่ไป?”ไม้เท้าชี้ไปที่ปลาย จมูกของจูหมิง

ย้ายออกไปจากตระกูลหลิน? จูหมิงรู้สึกช็อกในใจ ถ้า เป็นแบบนี้ ครอบครัวของหลินเสี่ยวเข่อจะใช้ชีวิตยังไง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ