เทพบู๊สายเปย์

บทที่ 14 คนใหญ่คนโตของเมืองหยู



บทที่ 14 คนใหญ่คนโตของเมืองหยู

บทที่ 14 คนใหญ่คนโตของเมืองหยู

หลินเสี่ยวเบ่อและหย่วนเซอหวู่มาที่เมืองไห่หยูนด้วยกัน เมื่อเผชิญกับความทันสมัยและเจริญรุ่งเรืองของเมืองชั้น นำ อารมณ์ของเธอก็กว่าจะได้ดีขึ้นมาหน่อย

แต่คาดไม่ถึงว่าเพิ่งมาถึงภัตตาคารของโรงแรมร้าง เทียน ก็เจอกับคนคุ้นเคยคนหนึ่ง หลินหวั่นฉิงและเพื่อน สนิทของเธออีกสองคน คนที่เดินด้วยกันกับพวกเธอยังมี ลูกคนรวยคนหนึ่งที่ใส่ของยี่ห้อหรูทั้งตัว ชื่อว่าจ้าวหย่วน

หลินเสี่ยวเข่อรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง เพิ่งคิดจะ เปลี่ยนไปกินข้าวที่อื่น แต่กลับถูกหลินหวั่นฉิงเรียกไว้

“โย่ บุคคลที่เป็นศัตรูคู่อาฆาตไม่ปรารถนาที่จะพบ แต่ ไม่ว่าไปถึงที่ไหนก็ได้พบ หลินเสี่ยวเข่อ แกมาทำธุระให้ กับทางบริษัทนะเว้ย พักอาศัยอยู่โรงแรมที่ดีเช่นนี้ กินอยู่ ที่ภัตตาคารที่แพงแบบนี้ ช่างเพลิดเพลินหรือเกิน!ได้เงิน จากโครงการนี้ไปมากพอสมควรใช่ไหม?”

หลินเสี่ยวเข่อไม่อยากสนใจเธอ แต่หย่วนเซอหวู่ไม่ใช่ คนที่สามารถรังแกได้ง่ายๆ

“แกคิดมากไปแล้ว โรงแรมนี้ฉันเป็นคนออกเงิน ไม่มีความเกี่ยวข้องของตระกูลแก แกอย่ามาใส่ร้ายนะเว้ย!”

สีหน้าของหลินหวั่นฉิงเปลี่ยนเป็นทันที จากนั้นขำออก มา พูดพร้อมมองไปรอบๆ”ไม่ได้ใช้เงินของบริษัทก็ดีแล้ว แต่ว่ามันน่าแปลกนะ นี่เป็นโรงแรมระดับหกเดาแหล่ง เดียวในเมือง คนที่ยากจนอย่างพวกแกสองคนจะมีเงิน ที่ไหนได้ล่ะ?อ๋อ ฉันรู้แล้ว พวกแกรวมกลุ่มกันซื้อห้อง พักที่นี่ใช่ไหม?จากนั้นแวะมาที่ภัตตาคารเพื่อมาถ่ายรูป หลายใบและโพสต์ลงโซเชียล ทําตัวเหมือนแบบว่าได้มา รับประทานที่ภัตตาคารระดับมิชลินใช่ไหม?โลกของคน ยากจน น่าสงสารจัง!”

พอพูดเสร็จ หลิวเฟยเฟยสามคนก็หัวเราะขึ้นมาตาม

“หน้าตาดีขนาดนี้ ที่แท้แล้วมาปลอมถ่ายรูปลงโซเชียลนี่ เอง?ไม่กลัวขายหน้าหรือ?”

“ใช่แล้ว มาปลอมถ่ายรูปที่ภัตตาคารแบบนี้ คนจน ปัจจุบันนี้มันช่างไม่รู้จักอายเลย”

ลูกค้าที่รับประทานอยู่รอบไปต่างก็นินทาหลินเสี่ยวเข่อ สองคน

จ้าวหย่วนสังเกตหลินเสี่ยวเข่อสักรอบหนึ่ง และทอด ถอนใจออกมาอย่างต่อเนื่อง ร่างกายของหลินเสี่ยวเบ่อ สูงโปร่ง หุ่นดีมีเสน่ห์ สิ่งที่หายากที่สุดคือมีความบริสุทธิ์และสดใสบางอย่างด้วย แม้ว่าเธอไม่พูดอะไร แต่เธอเป็น ผู้หญิง งามกว่าหลินหวั่นฉิงทั้งสามคนไม่รู้กี่เท่า

หลิวเฟยเฟยเห็นว่าจ้าวหย่วนเหมือนจะสนใจหลินเสี่ยว เข่ออยู่ รู้สึกไม่ดีขึ้นมา และรีบพูดว่า”คุณชายจ้าว หลิน เสี่ยวเบ่อเป็นคนที่มีชื่อเสียงมากในเมืองไห่เทียนของเรา ทีเดียว สามีของเธอก็คือคนไร้ประโยชน์ที่ชื่อเสียงเหม็น เน่าไปทันเมือง คุณน่าจะเคยได้ยินมาก่อนนะ?คนยากจน เช่นนี้มาอยู่ที่นี่ช่างไม่เจริญตาหรือเกิน รีบไล่พวกเธอ ออกเถอะ!”

จ้าวหย่วนขมวดคิ้ว ผู้หญิงที่สวยขนาดนี้น่าเสียดายที่ แต่งงานไปแล้ว จึงโบกมือเรียกผู้จัดการมา

“ไล่ไอ้ยากจนสองคนนี้ออกไป ฉันเห็นแล้วรู้สึกหดหู่มาก เลย”

เห็นได้ชัดว่าผู้ผู้จัดการหน้าร้านรู้จักจ้าวหย่วน จึงรีบ พยักหน้า แล้วชี้ไปที่ประตู ตวาดให้หลินเสี่ยวเข่อสองคน ออกไป

“นี่มันไม่ใช่ที่สําหรับอวดของคนชนบทนะเว้ย เชิญออก ไปเลย

หลินเสี่ยวเบ่อไม่อยากจะก่อเรื่อง เพิ่งคิดจะเดินออกไป แต่กลับถูกหย่วนเซอหวู่ดึงไว้
“ดูถูกคนชนบทหรือ?ขอโทษนะคะ พวกเราได้จองที่นั่ง ล่วงหน้าแล้ว”

พอเธอพูดออกมา หลินหวั่นฉิงทั้งสามคนก็หัวเราะกัน ใหญ่ โรงแรมร้างเหียนเป็นภัตตาคารระดับสูงสุดของ เมืองไห่หยูน มากินข้าวมื้อนึงอย่างน้อยก็ต้อง3000 ขึ้นไป ไอ้หญิงสองคนนี้ปลอมตัวเก่งหรือเกิน

“ผู้จัดการ ร้านคุณยังมีโปรโมชั่นรวมกลุ่มการจองหรือ รวมกลุ่มกันจองได้ที่นั่งด้วย?”

“ไม่ ไม่มี ร้านพวกเราจะมีโปรโมชั่นแบบนี้ได้ยังไงล่ะ”ผู้ จัดการหยิ่งกำเริบมาก ในเมื่อผู้หญิงสองคนนี้บอกว่าได้ จองที่นั่งล่วงหน้าแล้ว เขาเลยต้องให้พวกเขาปรากฏหลัก ฐานออกมา

หย่วนเซอหวยื่นโทรศัพท์ออกไป ข้างบนมีข้อความSMS

“ห้องเทียน? ขอ ขอโทษครับ เชิญมาทางนี้เลยครับ”ผู้ จัดการตกใจกันใหญ่เลย คาดไม่ถึงว่าห้องที่สองคนจอง นั้นเป็นห้องพิเศษระดับสูงสุดของทั้งร้าน ตำแหน่งนั้น สามารถมองเห็นอ่าวที่สวยที่สุดในเมือง ราคาแพงจนน่า ตกใจ

“รอก่อน?คุณว่าพวกเขาจองอยู่ที่ห้องเทียนหรือ?ผิดพลาดไปหรือเปล่า?คนชนบทที่ยากจนแบบนี้มาเงินที่ไหน มาจองล่ะ?นี่เป็นห้องที่ฉันจองไว้นะเว้ย”จ้าวหย่วนทำหน้า เย็นชาใส่ และห้ามผู้จัดการร้านเอาไว้

“คุณชายจ้าว ขอโทษครับ รบกวนขอดู ข้อความSMSครับ”ผู้จัดการรู้สึกมึนงงสักนิด แต่ไม่กล้า ละเลย แต่พอหลังจากดูข้อความแล้วก็ยิ่งงงใหญ่เลย ข้อความบนโทรศัพท์ของจ้าวหย่วนก็เป็นSMSการจอง ห้องเทียนด้วย

“นี่ ทำไมเป็นSMSจองห้องเทียนด้วยเช่นกันล่ะ”ผู้จัดการ งงไปใหญ่เลย

เช่นกัน?

จ้าวหย่วนจ้องไปที่เขา และพูดเยาะเย้ยออกมา”แก ตาบอดหรือยังวะ ดูไม่ออกว่าไอ้คนชนบทสองคนนี้ปลอม ข้อความSMSหรือ?พวกเธอมีความสามารถจองห้องเทียน หรือ?”

“ใช่ไง ผู้จัดการ คุณดูดีๆนะ แม้กระทั่งห้องนอนพวกเธอ ยังต้องไปจองแบบเป็นกลุ่มเลย พวกเธอมาที่นี่ก็เพื่อที่จะ ถ่ายรูปส่งขึ้นไปอวดบนโซเชียลแค่นั้นเอง”

“รีบไล่พวกเธอออกเถอะ เสียอารมณ์ฉันจริงๆ จ้าวหย่วน เอ่ยเสียงเย็นชาออกมาเสียงนึง
“ใช่ไง รีบไล่พวกเธอออกเถอะ?แต่งกับขยะคนนั้นแล้ว ยังกล้าไปมีชู้อย่างเปิดเผยอีก ไม่กลัวขายหน้าหรือ!”หลิน หวั่นฉิงทำตาขาวใส่เธอ

ผู้จัดการร้านรีบเช็ดเหงื่อ เขาไม่กล้าไปขัดใจคุณชาย ของตระกูลจ้าว เลยต้องเร่งให้หลินเสี่ยวเบ่อสองคนรีบ ออกมา

เติมหลินเสี่ยวเข่อไม่อยากก่อเรื่อง แต่คําพูดของหลิน หวั่นฉิงทำให้เธอโกรธขรึมมาก สิ่งที่เธอทนไม่ได้ก็คือคน อื่นมาด่าจูหมิง

“แกมีสิทธิ์อะไร?พวกเราได้จองห้องวีไอพี โรงแรมของ พวกแกปฏิบัติต่อลูกค้าแบบนี้หรือ?ไม่กลัวฉันเปิดเผยอ

อกไปหรือ?”

พอเพิ่งพูดเสร็จ รอบข้างล้วนขำกันใหญ่เลย

“พอเถอะ คุณผู้หญิง ถ่ายรูปเสร็จก็ออกไปเลย ถ้าก่อ ความวุ่นวายอีกมันไม่น่าดูนะ”

“ใช่ โรงแรมร้างเทียนเป็นธุรกิจของตระกูลป้าย ถ้าพวก เขาโกรธขรึมขึ้นมานะ เทวดายังช่วยคุณไม่ได้เลย”

“คนชนบทก็แบบนี้แหละ ไม่เคยเห็นโลกกว้าง ยังคิดจะ เปิดเผยอีก โง่หรือเกิน”
หลินเสี่ยวเข่อไม่สนใจเสียงเยาะเย้ยของคนอื่น ดึง หย่วนเซอหวู่ไว้และเดินไปทางห้องเทียน แต่เพิ่งเดินได้ สองก้าวก็ถูกจ้าวหย่วนขวางทางไว้

“ไอ้สองคนนี้เจตนามาก่อเรื่อง ผู้จัดการ คุณรู้ว่าต้อง จัดการยังไงใช่ไหม?”

ผู้จัดการรับรู้ความหมายของเขา เลยโบกมือเรียกบอดี้

การ์ดร่างใหญ่สองคนมา

หลินหวั่นฉิงสามคนหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข และ รอดูการแสดงที่ดีกับคนรอบข้าง

เมื่อเห็นบอดี้การ์ดร่างใหญ่สองคนนี้ หย่วนเซอหวู่หวาด กลัวจนรีบหลบไปข้างหลังของหลินเสี่ยวเข่อ”เสี่ยวเข่ออ ย่ากลัวเลยนะ นี่เป็นที่ที่ฉันจองจริงๆ ฉันจะโทรไปหาคน นั้นทันที”

จ้าวหย่วนได้ยืนเช่นนี้ก็หัวเราะเยาะออกมา และสั่งให้ บอดี้การ์ดหยุดลง ท่าทีหยิ่งกำเริบมาก

“โอเค ให้พวกเธอโทรไปเรียกคนมา ฮ่าๆ ฉันอยาก จะลองดูว่า ทั้งเมืองไห่หยูนยังมีใครกล้ามาต่อต้านกับ ตระกูลจ้าวของเราและตระกูลป้าย?”

เขาไม่ได้โม้ ธุรกิจของเกือบจะถูกตระกูลป้ายและตระกูลจ้าวผูกขาด แต่ตระกูลป้ายน่ากลัวกว่าตระกูลจ้าว ได้ข่าวว่าฐานหลักของเขาอยู่ที่ประเทศหมี่ ที่นี่เพียงแค่ สาขาย่อย อยู่ในเครือข่ายของบริษัทป่ายฉีน้ำมันข้าม ชาติ เป็นธุรกิจชั้นนำระดับโลกอย่างแท้จริง

หย่วนเซอหวู่กดโทรศัพท์ไปสักครู่หนึ่ง สีหน้าแย่มากๆ

“เสี่ยวเข่อ โทรแล้วไม่ติด คราวนี้ตายแล้ว”

หลินเสี่ยวเข่อตะลึง หลังจากสองวินาทีผ่านไป สีหน้า ก็สงบขึ้นมา ขออภัยด้วยนะคะ พวกเราจะออกไปเดี่ยว นี้เลย”พอพูดเสร็จก็ดึงหย่วนเซอหวู่ไว้เพื่อจากไป แต่ เสียดายที่ถูกบอดี้การ์ดสองคนห้ามไว้

“เรียกคนมาสิ?ยังไง?รู้ว่ากลัวแล้วหรือ?ช้าไปแล้ว ผู้ จัดการ คุณว่าต้องทำยังไง”จ้าวหย่วนส่งสายตาสะกิด

ผู้จัดการร้านเริ่มว้าวุ่นใจแล้ว ความหมายของคุณชาย จ้าวน่าจะอยากจัดการอย่างร้ายแรง แต่สองคนนั้นแค่มา ถ่ายรูปเฉยๆ ไม่ผิดกฎหมาย แถมข้อความของพวกเธอ ยังไม่ทราบว่าเป็นจริงหรือปลอมเลย ถ้าหากทําต่อพวก เธออย่างโหดเหี้ยม เขากลัวว่าจะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้น

“ไอ้คนยากจนกล้ามาถ่ายรูปโพสต์ลงโซเชียลที่สถานที่ ระดับสูงแบบนี้ ถ้าไม่สั่งสอนสักหน่อย ทีหลังถ้ายังมีคน มาทำนี้อีกมากมาย ภาพลักษณ์ของภัตตาคารยังจะเอาไหมล่ะ?”หลิวเฟยเฟยเตือนด้วยความหวังดี

“ใช่แล้ว จัดการกะหรี่พวกนี้ ก็ต้องให้พวกเธอรู้จัก อับอาย ฉันแนะนำให้ฉีดขาดเสื้อผ้าของพวกเธอ จากนั้น ค่อยโยนพวกเธอออกไป ดีไหม?”สายตาของหลินหวั่นฉิง ปรากฏความเกลียดชันออกมา

“ใช่ ฉีกขาดเสื้อผ้าแล้วโยนทิ้งออกไป!”จ้าวหย่วนเปล่ง ประกายในดวงตาออกมา หุ่นของหลินเสี่ยวเข่อนั้นดีมาก ทีเดียวนะ

บอดี้การ์ดสองคนรีบเดินหน้าขึ้นมา เพิ่งจะลงมือ

“อย่า!”‘หย่วนเซอหวู่กรีดออกมา ตอนนี้เธอเสียใจภาย หลังเป็นอย่างยิ่ง เดิมทีนึกว่าจะได้รับผลประโยชน์จาก คนใหญ่คนโตคนนั้น แต่คาดไม่ถึงว่าโทรศัพท์โทรไม่ติด

คราวนี้ตายแล้วจริงๆ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ