เทพบู๊สายเปย์

บทที่ 12 หยิ่งกำเริบถึงขีดสุด



บทที่ 12 หยิ่งกำเริบถึงขีดสุด

บทที่ 12 หยิ่งกำเริบถึงขีดสุด

หลินเสี่ยวเข่อไม่รู้ว่าตัวเองถึงบ้านได้อย่างไร สำหรับคำ สอบถามของพ่อแม่ เธอก็ตอบไม่ได้ ปิดตัวเองอยู่ในห้อง นอน

ร้องไห้ทั้งคืน จนถึงเช้ามา เสียงนาฬิกาปลุกทำให้เธอตื่น มา “ใช่แล้ว สามีเคยสัญญากับฉันไว้ เดี๋ยวเขาก็จะกลับ มา ใช่ใช่…”

เขาเหมือนเป็นคนบ้า ลุกขึ้นมาแต่งหน้า แล้วเรียกรถไป บริษัท

ณ ห้องประชุมของบริษัทรับเหมาก่อสร้างหลินซื่อ

หลินเสี่ยวเข่อเหมือนพระสงฆ์ที่นั่งสมาธิอยู่ ไม่ได้ยินคำ ด่านินทาของคนพวกหลินเฉิงเจี๋ย และไม่สนใจสายตา ของหลินหวั่นฉิงที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังและอิจฉา เหมือนจะกินเธอเข้าไปในท้อง และไม่นาน คุณนายใหญ่ หลินก็เข้ามาห้องประชุมแล้ว

“คุณย่าคะ โครงงานของฝั่งตะวันตกของเมือง ตอนนี่ เข้าในระยะปฏิบัติแล้ว แต่การที่หลินเสี่ยวเข่อไปมีชู้นั้น ทำให้ชื่อเสียงของบ้านเราเสียหาย แม้แต่คุณหานหยุ่งก็ ไม่พอใจ ดังนั้นฉันคิดว่า เธอจึงไม่สามารถรับผิดชอบงานนี้ได้อีกแล้ว”

“ใช่ๆ ต่อหน้าคนทั้งเมืองทำจูหมิงขายหน้า มีชู้นี่ทำให้ พวกเราอายคนอื่นจริงๆ”ขบฟันด้วยความเกลียด

“ใช่ๆ อีกะหรี่ เปลี่ยนเธอเป็นคนอื่นเถอะ”ทุกคนพูดตาม ด้วย

คุณนายใหญ่หลินทำเสียงหึม ทุกคนเงียบกันหมด สายตาของทุกคนก็มองไปทางหน้าของหลินเสี่ยวเยอ

“เสี่ยวเข่อ ผู้ชายคนนั้นคือใคร อธิบายเรื่องความจริงให้ ยายฟังหน่อย”

“คือคุณจูหมิง”หลินเสี่ยวเข่อตอบด้วยแบบไม่มีสีหน้า

เขาเพิ่งพูดเสร็จ ทั้งห้องข่ากันอย่างเสียงดัง

“แกอย่าคิดจะสามารถโกหกคุณย่าได้ ใครไม่รู้เขามีเงิน เท่าไหร่ แม้ว่านำสิ่งของทั้งหมดของหลินเจี้ยนไห่ไปขาย ก็ไม่ได้เงินเยอะขนาดนั้น พูดสิ ชู้นั้นคือใคร”หลินเฉิงเจี๋ย ทำสีหน้าไม่พอใจ

“ใช่ ไอ้จูหมิงเป็นคนโง่จริงๆ เมียมีชู้ก็ยังช่วยเธออีกหลิน เสี่ยวเข่อเธอนี้สุดยอดจริงๆ”หลินหวั่นฉิงขบฟัน
“ได้ แกไม่พูดก็ได้ นี่คือสิทธิ์ของแก แต่ด้วยชื่อเสียงของ แกในตอนนี้ไม่สามารถเป็นผู้รับผิดชอบงานแล้ว คิดว่าฝั่ง หานหยุ่งก็อาจจะเข้าใจ แกกลับไปก่อนเถอะ ตอนนี้แกไม่ เกี่ยวอะไรกับงานนี้เลย”

คุณย่าหลิงทำตาโตใส่เขา

หลินเสี่ยวเข่อตอบกลับด้วยเสียงเฉยๆ แต่ก็ไม่ได้ทำ อะไร สะบัดหน้าแล้วเดินไปเลย

“เกิดไรขึ้นวะ เธอควรต้องดีใจมากสิ ทําไมทําหน้าแบบนี้ พวกเราด่าเธอก็ไม่โกรธ แปลกจัง”หลินเฉิงเจี๋ยส่ายหัว

“มันต้องคือจูหมิงโกรธแล้วไง ผัวเมียทะเลาะกัน กะหรี่นี้ กล้ามีชู้ แม้ว่าไอ้โง่คนนั้นก็ทนไม่ไหว ไม่ต้องไปยุ่งกับเขา หรอก”หลินหวั่นฉิงย่ามใจ

“เฉิงเจี๋ย คุณรีบๆไปบริษัทอสังหาริมทรัพย์หานซื่อ เปลี่ยนเธอไปคนอื่นเร็ว พูดกับหานหยุ่งดีๆ อย่าทำให้เขา โกรธ”

“ครับ คุณย่าไว้ใจผมเถอะ”

หลินเฉิงเจี๋ยดีใจมาก ถ้างานนี้เขารับผิดชอบ เงินกู้ 1 พัน ล้านนั้น เขาอยากได้เท่าไหร่เป็นของตัวเองก็แค่เป็นเรื่องจิ๊บๆ

ณ ห้องทำงานของหานหยุ่งที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์หาน

ชื่อ

หลินเฉิงเจี๋ยยืนเรียบร้อยอยู่ข้างๆ มาอธิบายเรื่องเขามา หาเพราะอะไร และพูดหลายรอบเรื่องของหลินเสี่ยวเบ่อ ไปมีชู้

“คุณหานครับ เรื่องอับอายของหลินเสี่ยวเข่อตอนนี้รู้ ทั้งเมืองแล้ว เราก็ตระหนักถึงชื่อเสียงของโครงการในฝั่ง ตะวันตกของเมือง ถ้าสมมุติเพราะเธอทำให้งานเรามีชื่อ เสีย ยังงั้นก็ไม่ดี คุณคิดว่าใช่ไหม”

หานหยุงพยักหน้า แต่ก็ยังงงอยู่

“ขอถามหน่อย มีใครสามารถมีหลักฐานยืนยันว่าผู้ชาย คนนั้นไม่ใช่สามีของเขาล่ะ?”

“ประธานหาน ยังต้องมีหลักฐานอะไรอีกล่ะ?สามีของ เธอคนนั้นคุณจะไม่ทราบได้ยังไงล่ะ?เป็นคนไร้ประโยชน์ ที่ขึ้นชื่อในเมืองไห่เทียน เขาจะมีเงินมากขนาดนั้นได้ยัง ไงล่ะ ต้องเป็น……ใช่ แค่กๆ”

หานหยุ่งยิ้มออกมา แล้วใช้มือตบโต๊ะแรงๆ ทำให้หลิน เฉิงเจี๋ยกลัวจนตัวสั่น
“ไม่มีหลักฐาน ใช่ไหม?แกนี่มันเรียกว่าใส่ร้าย เข้าใจ เปล่า?กลับไปบอกกับคุณนายใหญ่หลิน ฉันจะพูดอีกครั้ง โครงการนี้ฉันเห็นแก่ความสามารถของคุณหลินเสี่ยวเข่อ จึงมอบให้ตระกูลหลินของพวกคุณมาทำ อย่ามาไม่รู้ผิด ชอบชั่วดี! เชิญกลับไปเถอะ!”

อะไรเนี่ย?

หลินเฉิงเจี่ยจึงต้องกลับไปอย่างตะลีตะลาน และ รายงานความเป็นมาของเรื่องสักรอบหนึ่ง

“ตกลงชู้ของหลินเสี่ยวเข่อเป็นอะไรกันกับหานหยุ่ง?ถึง ช่วยเธอขนาดนี้”คุณนายใหญ่หลินขมวดคิ้ว เธอมองออก แล้ว พวกเธอทำอะไรหลินเสี่ยวเข่อไม่ได้หรอก

“คุณย่า ฉันว่าหลินเสี่ยวเข่อกับหานหยุ่งก็ไม่ธรรมดา แน่นอน ไม่นั้นเขาคงไม่โกรธขนาดนี้หรอก คุณไม่ได้เห็น เลยว่า เขาได้ไล่ฉันออกไปโดยตรง ยังไงฉันก็เป็นทายาท ของตระกูลหลิน……

“พอเถอะ แกฉลาดหน่อยได้ไหม?รีบไปตามหาเสี่ยวเข่ อกลับมา เราไม่สามารถทิ้งโครงการนี้ไป

ภายในร้านกาแฟของลี่ฮัว พลาซ่า

“เซอหวู่ คุณบอกมาตรงๆ ตกลงจูหมิงเป็นคนอะไร?เมื่อวานเกิดอะไรขึ้น?”

“โธ่เอ๊ย เสี่ยวเข่อ ฉันไม่รู้จริงๆ เมื่อวานจูหมิงแค่ให้ฉัน ช่วยเขาหน่อย ฉันไม่รู้ไรสักอย่าง คุณอย่ามาใส่ร้ายฉัน นะ คุณก็รู้อยู่แก่ใจแล้วว่า ฉันไม่ชอบไอ้ขยะคนนั้นมา ตลอด”หย่วนเซอหวู่รีบอธิบายอย่างเร่งร้อน

“เขาไปไหน?คุณรู้หรือเปล่าว่าท้ายที่สุดเขาไปกับ ใคร?”สีหน้าของหลินเสี่ยวเข่อจริงจังมาก

“ไม่ ไม่ทราบ ฉันอยู่ในห้องกับคุณ คุณ….คุณก็รู้อยู่ แล้วไม่ใช่หรือ”เสียงของหย่วนเซอหวู่ต่ำลงมา

พอดีในเวลานี้ มีเสียงที่ลากยาวๆส่งมา

“โย่ การมีชู้ถูกสามีจับได้จริงด้วย ทำให้จูหมิงโกรธจนวิ่ง หนี ใช่หรือเปล่า?ไม่รู้จักอับอายเลย!”

หลินหวั่นฉิงเดินมาทางนี้อย่างเหยียบย่ำ ข้างไปยังมีผู้ หญิงสองคนที่อายุพอๆกัน และแต่งกายเซ็กซี่ทันสมัยเดิน ตามอยู่ คนหนึ่งชื่อหลิวเฟยเฟย อีกคนหนึ่งชื่อหลันซิน เจี่ย ล้วนเป็นกุลสตรีที่มีชื่อเสียงในเมือง

“มา พูดมาสิ ชู้ของแก ลูกคนรวยคนนั้นเป็นใครกันแน่? ทำตัวแบบลึกลับไม่กล้าเปิดเผย อย่าบอกนะว่าเป็นคน ชรา?ไม่น่าทำไมแกถึงอาลัยอาวรณ์กับไอ้ขยะคนนั้นอยู่”

พอเพิ่งพูดเสร็จ คนรอบๆล้วนหัวเราะกันใหญ่

“อีกะหรี่ เมื่อคืนยังอับอายไม่พอหรือไง?แกยังนึกว่าตัว เองเป็นเจ้าหญิงจริงด้วยหรือ?”หย่วนเซอหวู่ทนไม่ไหว แล้ว

พอคำพูดนี้พูดออกมา ทุกคนก็ขำกันใหญ่อีกครั้ง สีหน้า ของหลินหวั่นฉิงแย่จนขีดสุด เรื่องเมื่อวานได้ถ่ายทอดสด ไปทั่วเมือง เธอถูกคนอื่นดูถูกหัวเราะเยาะกันใหญ่เลย

“โย่ ยังกล้ามาด่าฉันอีก?ได้ มาคนสิ เชิญเจ้านายของ พวกแกออกมาสิ บอกเขาว่าคุณหญิงของตระกูลฉี่หาเขา”

หลินหวั่นฉิงโบกมือ จากนั้นบริกรที่อยู่ข้างๆก็ไปทันที

“ร้านกาแฟระดับสูงแบบนี้ ไม่ใช่สถานที่ที่คนบ้านนอก อย่างพวกแกสามารถเข้ามาได้หรอก ออกไปให้พ้นตอน นี้ยังทันอยู่ ไม่นั้นเดี๋ยวเจ้าของร้านมา ก็จะอับอายขายขึ้ หน้าอย่างสมบูรณ์แล้วนะ”

หลินเสี่ยวเข่อกำลังหดหู่อยู่ เมื่อได้ยินเธอพูดแบบนี้ ก็ ลุกขึ้นมาอยากจะจากไปทันที
“เสี่ยวเข่อ อย่าไป เรานั่งอยู่ที่นี่เลย ฉันจะลองดูว่าตกลง เธอจะสามารถทำอะไรได้หย่วนเซอหวู่ดึงเธอไว้ หลิน เสี่ยวเข่อจึงต้องนั่งลงมาอีกทีอย่างจนปัญญา

หลินหวั่นฉิงตื่นเต้นมาก เธอยินดีที่จะเห็นหลินเสี่ยวเข่ ออยู่ที่นี่ต่อ อย่างนี้เดี๋ยวถูกไล่ออกแล้วถึงสามารถทำให้ เธอต้องขายหน้า

พอดีในเวลานี้ เจ้าของร้านเดินมาอย่างเคารพ

“เจ้าของร้าน ฉันเป็นคุณหญิงใหญ่ของตระกูลฉี่ คุณ รู้จักใช่ไหม?”

“รู้จักครับ ขอบพระคุณคุณหญิงที่มาอุดหนุน ครับ”เจ้าของร้านรีบยิ้มออกมา คนที่ทำธุรกิจในเมืองไห่ เทียน จะมีสักกี่คนที่ไม่รู้จักตระกูลฉู่ล่ะ?

“ดีมาก เดิมทีฉันยังสบายใจอยู่ แต่เนื่องจากได้กะหรี่ สองคนนี้ ทำให้ฉันอารมณ์เสีย รบกวนคุณช่วยไล่พวก เธอออกเถอะ ไม่นั้นฉันคงต้องโทรหาคุณชายฉู่แล้ว”

พอเจ้าของร้านได้ยินเช่นนี้ ก็ตกใจมาก

“อย่าครับ ผมเข้าใจครับ ร้านเราทางร้านมุ่งมั่นที่จะสร้าง บรรยากาศที่ลูกค้าพอใจที่สุด ผมจะทำให้คุณพึงพอใจ ครับ”
พอพูดเสร็จ ก็โบกมือ เรียกบอดี้การ์ดร่างใหญ่สองคนมา

“คุณผู้หญิงสองท่านครับ เชิญครับ”

หลินเสี่ยวเข่อไม่อยากก่อเรื่อง แต่หย่วนเซอหวู่กลับกด

เธอไว้ สีหน้าราบเรียบมาก แตกต่างจากคนที่ขี้ขลาดใน วันปกติ “เจ้าของร้าน ฉันจะให้โอกาสแกอีกครั้ง ไม่นั้นเดี๋ยวแก

ต้องคุกเข่าลงมาขอประทานโทษแน่ๆ”

พอเพิ่งพูดเสร็จ ทุกคนก็ขำกันใหญ่อีกครั้ง โดยเฉพาะ หลินหวั่นฉิงสามคน เหมือนได้เห็นคนที่โง่สุดๆ

“อีกะหรี่ แรกนึกว่าแกเป็นใคร?ในเมืองเมืองไห่เทียน มี ใครกล้าไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของตระกูลฉู่ล่ะ?เจ้าของร้าน ยังไม่ลงมือหรือ? ในเมื่อพวกเธอไม่ยอมจากไป นั้นก็โยน ทิ้งออกไปโดยตรงเลย”

บอดี้การ์ดสองคนรีบเดินมา

“ไปเถอะ พวกเราไปกัน”หลินเสี่ยวเข่อรีบดึงเขาไว้ แต่ หย่วนเซอหวู่กลับไม่ใส่ใจเลย”เจ้าของร้าน แกลองคิดให้ดีนะ?”

“น่าตลกจัง รีบโยนไอ้หญิงคู่นี้ที่ไร้ยางอายออกมาปะ เดี๋ยวนี้”เจ้าของร้านลงค่าสั่ง บอดี้การ์ดร่างใหญ่สองคน จึงรีบลงมือท่า


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ