ตอนที่ 7 : หยางโจ
เฟยหลงที่เดินออกจากร้านหลังขายแก่นอสูรเสร็จด้วย ประสบการณ์การหมิ่นปีของการเป็นเซียนและความรู้สึกของเฟย หลงได้รู้สึกว่ามีคนแอบมองอยู่ในความมืด
แต่ไม่ได้มีจิตสังหารหรือมีทีท่าว่าจะเข้ามาหาเรื่องยุ่งยากให้ เฟยหลงก็เลยไม่สนใจคนที่แอบมองอยู่และหายไปไม่นานหลัง จากนั้น
ระหว่าวเดินตามถนนต่อไปเพื่อหาร้านอาหารจนในที่สุดเพีย หลงก็ได้เจอกับร้านหนึ่งและเข้าไปในร้านเมื่อเดินเข้าไปก็พบกับ พนักงานต้อนรับยิ้มให้และกล่าวต้อนรับเฟยหลง
“ท่านลูกค้าไม่ทราบว่าต้องการอะไร ”
เฟยหลงได้ตอบกลับไปว่า
” ห้องส่วนตัวหนึ่งห้อง ”
พนักงานที่ได้ยินก็กำลังรีบไปจัดเตรียมให้เฟยหลงแต่ทว่า ตอนนั้นเองที่มีเสียงอันหยิ่งยโสดงออกมาไม่ไกลจากตัวเฟยหลง
” พวกเจ้าไปเตรียมห้องส่วนตัวให้ข้านายน้อยผู้หนึ่งห้อง ”
เสี่ยวเอ้อที่ได้ยินแบบนั้นได้กล่าวตอบแบบมีมารยาทว่า
” ต้องขอโทษด้วยนายน้อยหยางตอนนี้ห้องส่วนตัวพึ่งจะถูก จองห้องสุดท้ายไปเมื่อไม่นานก่อนนายน้อยหยางจะมานี้เอง
คนที่ถูกเรียกว่านายน้อยหยางได้โกรธเคืองและตวาดออกมา
* ใครเป็นคนจองห้องนั้นก่อนข้าเจ้าบอกข้ามา ”
ด้วยความที่เกี่ยวเอ้อของร้านเป็นไม่มีความสามารถพอที่จะ ยั่วยุตัวตนที่สูงกว่าจึงไม่สามารถต่อต้านได้
“เป็นท่านผู้นั้นที่จองก่อนนายน้อยท่านลองไปพูดคุยกับท่านผู้
นั้นดูเอง ”
เมื่อคนที่เรียกว่านายน้อยหยางได้หันมาและพูดกับเฟยหลง ด้วยน้ำเสียงยิ่งยะโสพร้อมกับมองด้วยสายตาดูแคลนว่า
” เจ้ามอบห้องส่วนตัวให้ข้าแล้วเดี๋ยวข้าให้เงินค่าห้องนี้คืน เฟยหลงที่กำลังอารมณ์ดีเพราะจะได้ลิ้มรสชาติอาหารอีกครั้ง หลังเกิดใหม่ก็มีสีหน้าเคร่งครึมลงทันทีและกล่าวตอบกลับไป
” เจ้าเป็นใครมีสิทธิ์มาสั่งข้าคนนี้ ”
เมื่อนายน้อยหยางโดนดูถูกดูแคลนจากคนที่อยู่เบื้องหน้าจึง ระเบิดอารมณ์และพูดว่า
” ข้าหยางโจเป็นคนตระกูลใหญ่แห่งเมืองฟ้ากระจ่างหนึ่งใน สองตระกูลใหญ่แห่งเมืองฟ้ากระจ่างเจ้าคงรู้แล้วสินะว่าข้าเป็น ใคร ”
เฟยหลงได้มองดูคนตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วตอบกลับ
ไปว่า
” ข้าไม่รู้จักพวกเจ้าและก็ไม่ให้ห้องของข้าที่จองไว้มีปัญหาอะไรไหม ”
เมื่อหยางโจได้ยินคำตอบของเฟยหลงจึงโกรธจัดและพูดขมขู่
เฟยหลง
” เจ้าบังอาจดูถูกนายน้อยผู้นี้หรือ ”
หลังจากนั้นหยางโจได้หันไปสั่งผู้คุ้มกันข้างหลัง
ในเมื่อเจ้าไม่ยอมให้ห้องส่วนตัวแก่ข้า ”
– พวกเจ้าทุบตีมันให้บิดามารดาจำมันไม่ได้ ”
ผู้คุ้มกันทั้งสี่ได้เข้าล้อมรอบเมื่อเฟยหลงได้ยินประโยคนั้นที่ พูดออกมาจากปากของหยางโจจึงยกยิ้มขึ้นอย่างเย็นชาและมอง คนเหล่านี้ที่เข้ามาล้อมรอบตัวเขา
” เป็นเจ้าที่หาเรื่องใส่ตัวก่อนข้าจะทุบตีเจ้าให้เหมือนกับที่เจ้า สั่งผู้คุ้มกันของเจ้าทำกับข้า ”
เมื่อเฟยหลงพูดจบเหล่าผู้คุ้มกันทั้งสี่ได้เข้าโจมตีซึ่งเป็นแค่ ขอบเขตก่อกำเนิดขึ้นกันทั้งหมดเฟยหลงจึงใจเย็นเพราะสำรวจ ขอบเขตและขั้นพลังของพวกนี้ไว้หมดแล้ว
เหล่าผู้คุ้มกันทั้งสี่ที่วิ่งเข้าโจมตีเฟยหลงได้ใช้หมัดเท้าเข่าศอก โจมตีเฟยหลงแต่พวกเขาไม่มีใครสักที่โจมตีโดนเลยสักครั้ง
เฟยหลงจึงตอบโต้ด้วยการเตะไปยังช่องว่างของการโจมตี ร่วมกันของผู้คุ้มกันทั้งสี่และต่อยหมัดที่อัดแน่นไปด้วยพลัง ปราณเข้าใส่ทำให้ทั้งสามลอยกระเด็นไปชนกำแพงและบาดเจ็บสาหัส
เพราะด้วยพลังของเฟยหลงที่เป็นเพียงแค่ขอบเขตก่อกำเนิด ขั้นที่ 4
แต่ด้วยทักษะเทพจักรพรรดิสงครามที่ทำให้พลังปราณของ เฟยหลงหนาแน่และบริสุทธิ์กว่าขอบเขตก่อกำเนิดขึ้นทั่วไป
จึงทำให้ผู้คุ้มกันขอบเขตก่อกำเนิดขั้นที่แสนจะธรรมดาไม่ สามารถรับการโจมตีของเฟยหลงได้นานนักก็ล้มลงไปนอนกอง กับพื้นทั้งหมด
บ ตบ ตบ ”
เมื่อจัดการกับผู้คุ้มกันทั้งสามเสร็จแล้วเฟยหลงได้เคลื่อนที่มา ข้างหน้าหยางโจที่ตกตะลึงอยู่และกล่าวว่า
” ข้าจะทุบตีเจ้าให้บิดามารดาเจ้าจำไม่ได้เลยคอยดู
เฟยหลงจึงได้ใช้หมัดต่อยเข้าที่หน้าของหยางโจหลายครั้งจน หน้าของหยางโจดูบวมเหมือนหัวหมู
เมื่อเฟยหลงหยุดมือก็ได้ก็มองหยางโจด้วยดวงตาเย็นยะ
เยือกพูดว่า
” เจ้าเคราะห์ดีที่ข้าไม่อยากสร้างเรื่องยุ่งยากมากมายข้าจึงไม่ ได้ฆ่าเจ้าทิ้งเสีย ”
เมื่อพบเหตุการณ์แบบนี้เฟยหลงที่ตั้งใจมานั่งทานอาหาร อย่างสงบก็ได้รู้สึกเบื่อขึ้นมาทันทีจึงกลับไปทานอาหารอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นจึงเดินออกจากร้านแห่งนี้เพื่อไปยังจุดมุ่งหมายต่อจากนี้
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ