ตอนที่ 5 : จุดเริ่มต้นของท่านาน
ลูกพยัคฆ์เมฆาที่ได้เฟยหลงตั้งชื่อให้เงยหน้ามองเฟยหลงใน ตาประกายเหมือนกับจะบอกว่า
‘เสี่ยวไปคือไรกินได้ไหม
เฟยหลงที่ได้เห็นท่าทีของเสี่ยวไปก็ไม่รู้จะสอนเจ้าตัวน้อยนี้ยัง
“ข้าหมายถึงชื่อเจ้าเข้าใจไหม ”
แต่รอบนี้มันเหมือนไม่ได้ทำหน้าตาแบบรอบก่อนซึ่งเฟยหลง คิดว่ามันน่าจะเข้าใจ
เฟยหลงได้ใช้พลังปราณของตนตรวจสอบเสี่ยวไปซึ่งเมื่อ ตรวจสอบไปได้สักพักก็ต้องทำหน้าแปลกใจเพราะว่าเดี๋ยวไปที่ดู เหมือนลูกพยัคฆ์เมฆาธรรมดากลับมีสายเลือดของพยัคฆ์ขาวซึ่ง เป็นสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์
ถึงแม้สายเลือดมันจะเบาบางแต่ถ้าเสี่ยวไปมีโชคและวาสนา พอคงจะกระตุ้นสายเลือดและเพิ่ความบริสุทธิ์ของสายเลือดก็มี โอกาศกลายเป็นพยัคฆ์ขาวซึ่งยืนอยู่บนจุดสูงสุดของเหล่าอสูร สายพันธุ์พยัคฆ์ทั้งหมด
หลังจากการคิดเรื่อยเปื่อยเฟยหลงก็คิดว่า
‘เสี่ยวไป๋เจ้านี้มันไม่เหมือนพยัคฆ์เลยรูปร่างเหมือนแมวขนสีขาวมากกว่า
เฟยหลงก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเสียวไปเติบโตขึ้นจะเป็นยังไง
ระหว่างทางที่เฟยหลงเดินมาได้เก็บผลไม้ป่าต่างๆมาทานและ ตอนนี้เองที่พุ่มไม้ตรงหน้าเฟยหลงสั่นไหวและมีกระทิงตัวหนึ่งที่ ทั้งตัวเป็นสีแดงและมีเขาคู่หนึ่งที่น่าหวาดกลัวอยู่บนศีรษะ
เฟยหลงได้วางเสี่ยวไปลงและบอกให้มันไปหลบอยู่ห่างจาก แถวนี้ก่อนเฟยหลงได้มองกระทิงซึ่งกำลังมองมาทางตัวเขานั้น คือสัตวอสูรกระทิงสัตว์อสูรที่ซึ่งมีขอบเขตก่อกำเนิดขึ้นเท่านั้น
สัตว์อสูรกระทิงได้พุ่งเข้าโจมตีเฟยหลงอย่างรวดเร็วด้วยการ พุ่งชนและแทงศัตรูของมันด้วยเขาคู่บนศีรษะที่น่าหวาดกลัว
แต่เฟยหลงก็ได้หลบการโจมตีของสัตว์อสูรกระทิงตัวนี้ได้ อย่างง่ายดายซึ่งเฟยหลงได้ใช้หมัดของตนต่อบบริเวณลำตัว ของมัน
ซึ่งทำให้สัตว์อสูรกระทิงได้รับบาดเจ็บและเสียหลักจากการ โจมตี และไม่สามารถตอบโต้เฟยหลงได้
เมื่อกระทิงแดงตั้งตัวได้ก็พุ่งเข้าชนเฟยหลงอีกรอบแต่เฟยหลง ไม่หลบการโจมตีนี้จนกระทั่งการโจมตีนี้มาถึงตรงหน้าเขาแต่ ด้วยประสบการณ์และความทรงจำตอนเป็นเซียน
ทำให้เฟยหลงเบี่ยงตัวตอนจังหสะสุดท้ายและหลบการโจมตี ของสัตว์อสูรกระทิงได้และรวบรวมปราณไว้บนหมัดต่อยไปที่ หน้าท้องของมันทำให้สัตว์อสูรกระทิงตนนี้โดนการโจมตีที่จุดอ่อน
และอาศัยจังหวะนั้นโจมตีโดยใช้มือทั้งสองข้างทุบไปที่ศรีษะ ของสัตว์อสูรกระทิงแล้วทำให้สัตว์อสูรกระทั่งล้มลงและประกาย ชีวิตในดวงตาของมันค่อยดับลง
เมื่อหันกลับมาเจอกับเสี่ยวไปที่นั่งหลบอยู่หลังต้นไม้ที่อยู่ไม่
ไกลจากการต่อสู้ด้วยดวงตาสีดำเปร่งประกายและมองดูสัตว์ อสูรกระทิงที่ล้มลง เฟยหลงหลงเห็นการแสดงท่าทางของเสี่ยวไปแบบนั้นแล้วอด
หัวเราะขึ้นมาไม่ได้
” ฮ่า ฮ่า ฮ่า เจ้าเสี่ยวไปมันไม่ได้ห่วงข้าเลยจริงๆ แต่มันอยาก กินเนื้อกระทิงแดงมากกว่า ”
เมื่อพูดจบเฟยหลงก็ได้ใช้พลังปราณหุ้มมือและเก็บแก่นอสูร
ของสัตว์อสูรกระทิงมา
แก่นมีลักษณะเหมือนผลึกแก้วสีแดงหม่นและมีพลังปราณที่อยู่ ข้างใน
แม้มนุษย์ธรรมดาจะไม่สามารถดูดซับแก่นอสูรถ้าไม่ผ่านการ สกัดด้วยวิธีบางอย่างหรือนำไปปรุงยาได้แต่ไม่ใช่กับเฟยหลง
เพราะในทักษะเทพจักรพรรดิสงครามสามารถกลั่นกรองแก่น อสูรให้บริสุทธิ์และสามารถดูดซับได้
ซึ่งมีบันทึกทักทักษะไว้จนเฟยหลงก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วอด ชมเชยทักษะนี้ไม่ได้
“เฮ้อ….เป็นทักษะที่แปลกประหลาดและทรงพลัง โดยแท้จริง ใครกันที่เป็นคนสร้างทักษะนี้ที่น่าอัศจรรย์ขึ้นมาแล้วตัวเขาจะมี พลังขนาดไหนกันนะ”
เมื่อเห็นสายตาของเสียวไปที่ยังต้องการกินอยู่เฟยหลงจึงได้ นำเนื้อของสัตว์อสูรกระทิงตัวนี้ออกมาและเริ่มอย่างด้วยไฟ
เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานเนื้อของสัตว์อสูรกระทิงเริ่มสุกและส่ง กลิ่นหอมน่ากินเมื่อเฟยหลงหันไปมองก็เจอกับสายตาคาดหวัง ของเสี่ยวไปที่มองเนื้อชิ้นนั้น
” ถ้าเจ้าต้องการก็เอาไปสิ ”
เฟยหลงได้ยื่นเนื้อให้เสี่ยวไปกินเมื่อเห็นเนื้อย่างเสียวไปไม่รอ ช้ากินด้วยความเร็วเหมือนมีใครจะแย่งเนื้อของมันไป
เฟยหลงที่เห็นเสี่ยวไปเป็นอย่างนี้ก็เลยลูบหัวมัน
” ต่อจากนี้เจ้ากับข้าคงเจอเรื่องลำบากไม่มากก็น้อยนะเดี๋ยว
หนึ่งมนุษย์และหนึ่งสัตว์อสูรที่อ่อนแอที่กำลังนั่งทานเนื้อกันอยู่ ในป่านั้น
ไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะกลายเป็นตำนานของโลกใบนี้
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ