บทที่ 6
ลิซ่านั่งมองอัลบาโร เด็กชายที่ตนเลี้ยงมาตั้งแต่อายุสามเดือน ด้วยประกายตาที่เปี่ยมไปด้วยความรัก แม้ว่าอัลบาโรจะไม่ใช่ สายเลือดเธอโดยตรง แต่ความที่เลี้ยงดูมาหลายปี จึงเกิดความ รักความผูกพัน ยิ่งได้เห็นความอ้างว้าง ความเหงา เหงาและโดดเดี่ยว ในแววตาใสซื่อด้วยแล้ว เธอยิ่งสงสาร หากเป็นไปได้ ลิซ่าอยาก นำพาเด็กที่ตนเลี้ยงดูไปอยู่ด้วย เพราะไม่รู้ว่า พี่เลี้ยงคนใหม่เป็น เช่นไร จะทนนิสัยเอาแต่ใจอัลบาโรได้หรือไม่ นึกถึงข้อนี้แล้ว เธอ ถึงกับถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่
อีกเรื่องหนึ่งที่ลิซ่าเป็นกังวล เรื่องนั้นคือหากอัลบาโรรู้ว่า หน้าที่ของเธอจะหมดลงในอีกไม่กี่วัน อัลบาโรจะรู้สึกเช่นไร แต่ ถึงอย่างไรเธอก็ต้องบอกให้เด็กชายรู้ล่วงหน้า ไม่ใช่อยู่ๆ ก็หาย ไปไม่บอกกล่าว แต่พอบอกเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้น
“ไม่เอา…ผมไม่ให้ลิซ่าไป ลิซ่าอยู่กับผมนะฮะ…ฮือ…ผม สัญ…สัญญาว่า….ฮือ…จะไม่ดื้อ” อัลบาโรกอดลิซ่าแน่น ร้องห่ม ร้องไห้จนตัวโยน พูดออกมาด้วยน้ำเสียงกระท่อนกระแท่นสลับ กับเสียงสะอื้นเป็นระยะ เด็กชายเมื่อรู้ว่า ลิซ่าจะจากตนไป ไม่ทำ หน้าที่ดูแลตน อัลบาโรรู้สึกว่า ตัวเองกำลังถูกทอดทิ้ง ลิซ่าเป็น ทั้งเพื่อน พี่เลี้ยงและพ่อแม่ในเวลาเดียวกัน หากไม่มีลิซ่า เด็ก ชายจะไม่มีคนสนใจหรือใส่ใจ แม้กระทั่งคนที่ขึ้นชื่อว่าพ่อ
ลิซ่ากลั้นน้ำตาไม่อยู่ เธอโอบกอดร่างเด็กชายแน่นไม่แพ้กันเท่า อยาก
“ฉันจําเป็นต้องนะอัลบาโร ฉันจำเป็นต้องไป
พาไปด้วยนะฮะฮือ…ไม่อยาก……อยากอยู่คน……เดียว
อัลบาโรรู้สึกตามคำพูด แม้จะบ้านหลังใหญ่โต ความอยากอะไรตามใจ ทว่าเด็กชายก ลับรู้สึกว่า ตนเองอยู่คนเดียวมีความเหงา ความเดียวดายอยู่ ทุกจะเพียงลิซ่าคนเดียวรู้สึก ว่า อยู่ตามลำพัง
ลิซ่าเข้าใจความรู้สึกและความหมายของคำพูดประโยคอัลบาโรพ่อเหมือนไม่มี ความรักความอบอุ่นไม่เคยได้ หาก ไม่มีลิซ่า แปลกที่อัลบาโรจะรู้สึกเช่นนั้น
“โถ…ไม่อย่างไรดี รู้ว่าคำพูดของตนไม่อาจชะล้างความ เศร้าโศกเสียใจของเด็กชายได้ ตราบทำ หน้าที่พ่ออย่างตราบนั้นอัลบาโรก็ยังคงเผชิญความรู้สึก ที่เป็นอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
อย่าฮือ…ไปนะครับ…ผม…จะไม่ดื้อ…ไม่ชน…เชื่อฟังลิซ่า……กับผมครับ”
ชายยังคงเว้าวอนต่อไป ร้องไห้ไม่หยุดน้ำตาแทบเป็นสายเด็กชายท่วมท้น ทว่าไม่จะอย่างไรดี เพราะถึงเวลาเธอไป แล้วพี่เลี้ยงคนใหม่มางานแทนที่ เรื่องเองที่ลิซ่ากังวล แพ้กัน ว่าพี่เลี้ยงคนทำหน้าที่ได้ดีสงสารนี้ได้เท่ากับเธอรักหรือเปล่า ความเป็นห่วงกังวลอาบ ทั่วจิตใจลิซ่า แต่ถึงจะเดินต่อไป
ราวเศษ
รถยนต์สุดหรูของฟรานเซสโก้แล่นมาจอดโรงก่อนเจ้าของรถจะก้าวสวยอดกันฝ่าย หอมแก้มฝ่ายทำสายออดระหว่างเดิน คลอเคลียเข้ามาในห้องโถงใหญ่ ทว่าเท้าของหนุ่มสาวชะงักเมื่อ เห็นอัลบาโรนั่งบนโซฟารับแขก
“ทำไมยังนอนครับ” ฟรานเซสโก้ถามบุตรชายเสียงลิซ่าไหน
อัลบาโรยังไม่ตอบ เด็กชายลุกขึ้นเดินมาบิดา นัยน์ตาขอ งอัลบาโรฟรานเซสโก้กับว่าผ่านการร้องไห้อย่างหนัก แต่ไม่ว่า ร้องไห้เรื่องอะไร
“ป๊ะป๋าครับ อย่าให้ลิซ่าไปนะครับอัลบาโรอ้อนวอนบิดาเสียงสั่นเครือ น้ำตาไหลพราก เสียงสะอื้นดังเบาตาใสซื่อมองแขนของบิดาวางบนบ่าสาว สวยแล้วนึกอิจฉา เพราะเขาอยากฟรานเชสโก้กอดตนบ้าง
ฟรานเซสโก้ได้ค่าตอบเรื่องที่ตนสงสัย เขาเองไม่อยาก ให้ลิซ่าไป อยากจะอยู่นี่เขามีเงิน อำนาจแต่มิอาจ ลิซ่าอยู่ต่อ ทุกชีวิตดำเนินตามของแต่ละคน สาวสวยมองฟรานเซสโก้กับเด็กชายสลับมา เธอเพิ่งว่า ชายหนุ่ม
ป๊ะป๋าทําอย่างฟรานเชสโก้ตอบตามแล้วนอนไป
ถ้าอย่างนั้นให้ผมไปอยู่กับ…ฮือ…ลิซ่านะครับ…ฮือเด็กยมองหน้าพ่อผมไม่อยาก…ฮือ…ไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว…ไม่ใคร ต้องการ”
สบตานัยน์ตาใสซื่อเคลือบด้วยแห่งความบริสุทธิ์ กำลังทำให้หัวใจคล้ายกับจะร้องไห้ตามบุตรชายอย่างไรอย่างนั้น ทว่า สาวกายน้ำตาก่อนแล้ว
“ฉันว่าคืนคุณกับลูกคะ ฉันจะคืนตัวแกคง ต้องการคุณมากกว่าฉันเธอบอกอย่างเข้าใจความรู้สึกอัลบาโร ใครจะว่า ในวัยเยาว์เธอเคยถูกบิดาเหล้างอมแงม ไร้ความรัก ความเอาใจใส่ พอไม่ไหวก็ออกจากบ้านมายืนด้วยลำแข้งของตัวเองตั้งแต่อายุสิบ ห้าปี เธอจึงเข้าใจและรู้ความต้องการของอัลบาโร
“ไม่ต้องคืน ถือว่าเป็นค่าเสียเวลา ฉันจะให้คนไปส่งที่บ้าน ตอนนี้ฟรานเชสโก้คงไม่มีอารมณ์อย่างว่า มันมอดดับตั้งแต่เห็น หน้าบุตรชายก็ว่าได้ ครั้นจะต่อว่าก็ไม่ได้อีก หากจะมีใครถูก ต่อว่าก็คงเป็นเขาเอง “ไปนอนได้แล้ว ดึกแล้ว”
เป็นครั้งแรกในรอบครึ่งปีที่ฟรานเชสโก้สัมผัสร่างกายบุตร ชาย เขาอุ้มอัลบาโรก่อนจะก้าวเดินไปยังบันไดบ้าน พาเด็กชาย ขึ้นไปบนห้อง บนใบหน้าของอัลบาโรบังเกิดรอยยิ้ม อ้อมแขน น้อยๆ ของเด็กชาย โอบรอบคอหนา ซบหน้าลงบนบ่าของผู้ เป็นพ่อที่นานๆ ครั้งจะได้สัมผัสถึงความอบอุ่น แม้ว่าเป็นเพียง ระยะเวลาสั้นๆ แต่สำหรับเด็กขาดความอบอุ่น มันคือเวลานาน แสนนาน
“นอนซะ” หลังจากวางอัลบาโรลงบนเตียง คำพูดสั้นๆ ลอด ผ่านปากฟรานเซสโก้
“ป๊ะป๋ากอดผมเหมือนกับที่กอดผู้หญิงคนนั้นได้ไหมฮะ”
ฟรานเซสโก้อึ้งอีกครั้ง รู้สึกแย่กับคำพูดของบุตรชายทุก ประโยค ยิ่งได้ฟังยิ่งรู้สึกผิด ตอกย้ำความเป็นพ่อที่แย่ ครั้งนี้เขา คงปฏิเสธอัลบาโรไม่ได้ และไม่รู้ว่าจะใช้เหตุผลใดกล่าวอ้าง เขา ทอดกายลงนอนข้างเด็กชาย ตะแคงกายใช้แขนาดตัวคนร้อง หาความอบอุ่น
“ป๊ะป่ากอดแล้ว ทีนี้นอนได้แล้วใช่ไหม”
“ฮะ” อัลบาโรยิ้มกว้าง ไม่รีรอเบียดชิดร่างกายเข้าหาไออุ่น จากคนเป็นพ่อที่ถวิลหามาตลอดตั้งแต่เกิด แขนท่อนเล็กพาดลำ ตัวใหญ่ที่พาดได้เพียงครึ่งร่าง ทว่าความอบอุ่นที่โหยหามานาน เต็มเปี่ยม
อ้อมกอดของพ่อเป็นอย่างนี้นี่เอง
ความรู้สึกที่อัลบาโรไม่เคยได้รับ บัดนี้เด็กชายได้รับรู้แล้วว่า เป็นเช่นไร รู้สึกเหมือนมีกำแพงหนาๆ ตั้งตะหง่านปกป้องดูแล และคุ้มครองตนให้แคล้วคลาดปลอดภัย ไม่รู้สึกหนาวและ อ้างว้าง คล้ายกับว่าถูกเติมเต็มความรู้สึกว่างเปล่า
ความไม่ชินกับการกอดลูก ฟรานเซสโก้รู้สึกเยอะเขิน ไม่ชิน เขาเก้ๆ กังๆ ทำอะไรไม่ถูก ไม่เหมือนตอนนอนกอดผู้หญิงเลยสัก นิด แต่พอเวลาผ่านไปชั่วครู่ ความรู้สึกบางอย่างแล่นเข้ามาใน ใจ เขารู้สึกดีที่ได้กอดร่างเล็กๆ สัมผัสได้ถึงน้ำอุ่นๆ ที่ไหลซึมเสื้อ มากระทบกับผิวเนื้อตรงช่วงอก ทำให้เขารู้ว่า อัลบาโรน้ำตาไหล ในความคิดของฟรานเซสโก้คิดว่า บุตรชายเสียใจที่ต้องจากลา ลิซ่า แต่ในความเป็นจริง อัลบาโรดีใจที่ได้หลับในอกบิดา เป็น ความปรารถนาสูงสุดของเด็กชายวัยห้าขวบก็ว่าได้
ฟรานเซสโก้ตั้งใจว่า จะรอให้อัลบาโรหลับถึงจะลุกจากเตียง ความตั้งใจของมาเฟียหนุ่มเป็นอันยุติ เมื่อการรอเวลาทำให้เขา เคลิ้มหลับไม่รู้ตัว สองพ่อลูกหลับในอ้อมกอดของกันและกัน
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ