เจ้าหญิงของลูกสาวของภรรยาคนแรก

ตอนที่ 4 การเอาคืนของหวังชื่อ



ตอนที่ 4 การเอาคืนของหวังชื่อ

ณ เรือนฟัง ที่พำนักของนายหญิงแห่งจวนตระกูลเยีย ภายใน เรือนเต็มไปด้วยเสียงก่นด่าเยี่ยหลี สวีฮูหยิน และตระกูลสวีทั้ง ตระกูลอยู่ หวัง อพ่นคำด่าทอออกมาไม่หยุดจนหน้าขาวซีดไป หมด ที่พื้นมีเศษถ้วยชาเครื่องเคลือบแตกกระจายเกลื่อนอยู่ ยอง สาวน้อยผู้อ่อนแอและแบบบางยืนอยู่เงียบๆ มองมารดา ของตนระเบิดอารมณ์ด้วยสายตาดูแคลนเล็กน้อย

“ท่านแม่ อย่าได้โกรธจนเสียสุขภาพไปเลย รีบนั่งพักก่อน เถิดเจ้าค่ะ” จนเมื่อหวังชื่ออารมณ์เย็นลงสักหน่อยแล้ว เปลี่ยนสีหน้าเป็นห่วงเป็นใยทันที

หวังบุตรที่งดงามและแสนจะว่าง่ายของตน แล้วอด ไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าโลกนี้ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย นางยอิ่งเข้าหาตัวขณะน้ำตาค่อยๆ รินไหลลงมา แม่ลำบาก จัดการเรื่องในจวนนี้มาตั้งกี่ปี เคยรังแกนางเมื่อไรกัน มาวันนี้ กับสินเดิมจำนวนเพียงแค่นั้นของเจ้า นางยังคิดจะแย่ง เอาไป คนดีของแม่ เจ้าจะแต่งเข้าตำหนักหลีออง หากสินเดิม น้อยไปเสียแล้ว ไม่เพียงเจ้าที่จะถูกผู้อื่นหัวเราะเยาะ เราเองก็ จะพลอยดูไม่ดีไปด้วย ที่แม่ต้องทำเช่นนี้มิใช่เพราะแม่คิดถึง หน้าตาของจวนเราหรอกหรือ แต่นั่งเด็กนั่นถึงกับต้องไปเอาคน ตระกูลสมาออกหน้าให้ถึงที่นี่

น้ำตาเริ่มคลอหน่วย ยิ้มน้อยๆ แล้วเอ่ยปลอบใจหวังชื่อด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “ท่านแม่ ท่านอ๋องปฏิบัติต่อข้า ด้วยความจริงใจ ไม่ถือสาเรื่องสินเดิมว่าจะน้อยหรือมากหรอก เจ้าค่ะ อีกอย่าง…เรื่องคราวนี้ก็นับว่าไม่ยุติธรรมกับพี่สามจริงๆ ให้สินเดิมนางมากหน่อยก็สมควรแล้ว คนนอกจะได้เห็นว่าท่าน แม่มีเมตตาและใจกว้างเพียงใดที่ไม่เอาเปรียบบุตรสาวของ หยิบเอกคนก่อนมิใช่หรือเจ้าคะ ส่วนพี่รอง…พี่รองจะต้อง เข้าใจความลำบากของท่านแม่เป็นแน่

หวังชื่ออึ้งไปเล็กน้อย ใจนึกไปถึงหน้าตาและกิริยาท่าทาง ที่คล้ายคลึงกันของเยี่ยหลีและสวีฮูหยิน แล้วหันกลับมามอง บุตรีของตนที่ยอมอดทนแม้ถูกรังแก ยิ่งทำให้ไฟร้ายที่อยู่ใน ตัวนางลุกโชนขึ้นอีกครั้ง นางจับมือเยี่ยถึงมาตบเบาๆ “เจ้า วางใจเถิด แม่จะไม่ให้เจ้าเสียเปรียบหรอก ต่อให้ไม่เกี่ยวกับ สินเดิมของเจ้า แม่ก็จะไม่ให้นั่งเด็กนั่นขนสินเดิมมากมายเพียง นั้นออกจากตระกูลของเราไปเป็นอันขาด! ประโยคสุดท้าย เต็มไปด้วยความขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน

เยี่ยยิ่งรู้สึกกังวลจนต้องขมวดคิ้ว “เช่นนั้นท่านแม่คิดจะทำ อย่างไรเจ้าคะ”

หวังชื่อมีความคิดดีๆ อยู่ในใจ นางยิ้มอย่างเป็นต่อ “แม่มี วิธีของแม่ เจ้าจัดเตรียมสินเดิมของเจ้าให้พร้อมก็พอ”

จานตระกูลเยี่ยมเยี่ยเจ้าอี้เป็นพระสนมที่กำลังเป็นที่ โปรดปรานอยู่ในขณะนี้ แล้วยังมีบุตรีอีกสองคนที่ได้รับ พระราชทานงานเสกสมรส คนหนึ่งจับคู่กับหลือ๋องที่เป็นที่ โปรดปรานที่สุดของฮ่องเต้ และอีกคนจับคู่กับชื่อสีอ๋องคนเดียวของต้าอย่างตั้งอ๋อง แน่นอนว่าตระกูลเยี่ยในยามนี้ย่อม เป็นเหมือนดวงอาทิตย์ในวันฟ้าใส

เมื่อข่าวการพระราชทานงานเสกสมรสแพร่สะพัดออกไป ก็มีขุนนางตำแหน่งใหญ่โตแวะเวียนเข้ามาคารวะกันอย่างไม่ ขาดสาย จนเยี่ยฮูหยินและฮูหยินผู้เฒ่าพลอยหน้าบานอย่างหุบ ไม่อยู่ ทุกคนในจวนต่างวุ่นวายกับการเตรียมสินเดิมให้คุณหนู ทั้งสองเป็นการใหญ่

ซึ่งแน่นอนว่าหนักไปทางเตรียมของให้คุณหนูสีเขียองเสีย มากกว่า ด้วยเพราะหวังซื่อสั่งการไว้ว่าฤกษ์มงคลของคุณหนู เร็วกว่าของคุณหนูสามครึ่งเดือน จึงให้เตรียมของของคุณหนู ให้เรียบร้อยเสียก่อนแล้วค่อยไปจัดการของของคุณหนูสาม ยังทัน แต่บ่าวในจวนตระกูลเยี่ยต่างรู้กันดีว่า เอาเข้าจริงหวัง ชื่อไม่อยากเตรียมสินเดิมให้คุณหนูสามสักเท่าไร มีของดีอะไร ก็รีบจัดให้คุณหนูไปให้หมดก่อนค่อยว่ากัน ยังดีที่ฮูหยินผู้ เฒ่าพอจะคิดเป็นอยู่บ้าง ถึงแม้น้ำหนักของหลีอองและตั้งอ๋อง จะมากน้อยต่างกัน แต่ทั้งคู่ก็มิใช่คนที่ตระกูลธรรมดาๆ ทั่วไป อย่างตระกูลเยี่ยจะทำให้เสียหน้าได้

เมื่อหวังซอยอมยกเรือนแปดหลัง ร้านค้าสิบสองห้อง และ ผืนป่าอีกสามฝันคืนให้เยี่ยหลีอย่างกล้ำกลืนฝืนทนแล้ว ฮูหยิน ผู้เฒ่ายังได้นำเงินกงสีอีกหนึ่งหมื่นตำลึงให้น้องสะใภ้คนหนึ่ง ในตระกูลช่วยจัดเตรียมสินเดิมให้เยี่ยหลีเพิ่มเติม แล้วยังควัก เงินส่วนตัวอีกหนึ่งหมื่นตำลึงให้เขี่ยทิ้งไปเสริมในสินเดิมเพื่อ ปลอบใจหวังชื่อ ถึงแม้หวังซื่อจะยังไม่พอใจอยู่บ้าง แต่ก็ไม่กล้าแสดงท่าทีต่อต้านฮูหยินผู้เฒ่าตรงๆ ทำได้เพียงรับตั๋วเงินที่ ฮูหยินผู้เฒ่าให้มาด้วยความคับแค้นใจ

คนที่มาช่วยเยี่ยหลีจัดการเรื่องสินเดิมคือพี่สะใภ้ของเจ้า กรมเยี่ย ถึงแม้สามีของนางจะเป็นเพียงข้าราชการชั้นห้า ไม่ได้ มีตำแหน่งใหญ่โตอย่างตระกูลเยี่ย แต่ก็ถือเป็นคนที่มีคุณธรรม มากคนหนึ่ง โดยปกติในบรรดาสะใภ้ด้วยกันเองก็มักพูดถึง คุณหนูสามของตระกูลนี้กันไม่น้อย ซึ่งพวกนางต่างก็นึกเห็นใจ ที่เยี่ยหลีซึ่งเป็นบุตรของฮูหยินเอกของตระกูลผู้นี้เป็นทุนเดิมอยู่ แล้ว น้อยครั้งนักที่เยี่ยหลีจะออกไปไหนมาไหน นางดูเป็นเพียง เด็กสาวเงียบๆ ขี้อายคนหนึ่ง ไม่เห็นว่าจะเป็นเด็กที่ใช้ไม่ได้ อย่างที่ผู้อื่นว่ากัน นางถึงได้รู้ว่าอันที่จริงที่คนเขาพูดกันอย่าง นั้นเป็นเพราะหวังชื่อตั้งใจให้คนพูดกันออกไปเช่นนั้นต่างหาก

วันนี้ได้มาเห็นกับตา ถึงแม้นางไม่ได้มีหน้าตางดงามเป็น ที่ตรึงตราตรึงใจอย่างคุณหนูรองและไม่ได้ดูแบบบางน่า ทะนุถนอมต่อทุกคนที่ได้พบเห็นอย่างคุณหนู แต่กิริยาก็ดู เรียบร้อยและสง่างามยิ่งนัก ท่าทางการพูดการจาก็พอเหมาะ พอดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายตาที่ยากจะหยั่งถึงคู่นั้นดูสงบนิ่ง ดุจน้ำที่หยุดนิ่ง ซึ่งทำให้นางดูแตกต่างจากหญิงสาวทั่วไป ถึง แม้นางจะไม่แบบบางน่าทะนุถนอมอย่างสตรีที่บุรุษโดยมากมัก ชื่นชอบ แต่เมื่อเปรียบกับคุณหนูตระกูลเยี่ยคนอื่นๆ แล้ว ก็ถือ ได้ว่าไม่น้อยหน้าผู้ใดทีเดียว

นางรู้สึกเห็นใจเยี่ยหลีมากขึ้นที่ต้องสมรสกับท่านอ๋องที่ ร่างกายพิกลพิการเป็นคนไร้สมรรถภาเรื่องเงินหนึ่งหมื่นตำลึงสำหรับจัดเตรียมสินเดิมนี่ดีกว่า สำหรับ คนทั่วไปเงินนี่ก็มากพอตัวอยู่หรอก แต่หากเทียบกับตระกูล เยี่ยคนอื่นๆ แล้ว ยังน้อยกว่าสาวๆ ที่แต่งออกไปเมื่อสองสามปี มานี้เสียอีก ยังดีที่ฮูหยินผู้เฒ่าพอเข้าใจอะไรอยู่บ้าง จึงนำสิน เดิมของฮูหยินคนก่อนมาคืนให้คุณหนูสาม มิเช่นนั้นเรื่องนี้คง ทำให้ตระกูลเยี่ยดูไม่ดีนักเป็นแน่

เมื่อเยี่ยหลีได้รับมรดกที่มารดาของนางทิ้งไว้กลับคืนมา ทำให้นางอารมณ์ดีขึ้นมาก จึงคร้านที่จะไปจุกจิกกับเรื่อง ที่ หยินผู้เฒ่าให้เงินเยี่ยยิ่งเพิ่มอีกหนึ่งหมื่นตำลึงและเรื่องที่หวัง ชื่อน่าเงินจากกงสีจำนวนมากไปจัดเป็นสินเดิมให้เยี่ยถึง ถึง อย่างไรในตระกูลตระกูลหนึ่งก็จะต้องมีการเลือกที่รักมักที่ชัง อยู่แล้วเป็นธรรมดา นิ้วสิบนิ้วยังมีสั้นมียาวนับประสาอะไรกับ จิตใจคน นางไม่ได้อะไรกับการที่ตระกูลเยี่ยจะรักและเอ็นดูเยี่ ยองมากกว่า ขอเพียงอย่าถึงกับทำให้นางเสียหน้าเป็นพอ ถึง แม้ในอนาคตนางไม่คิดว่าตระกูลนี้จะให้ความช่วยเหลืออะไร นางสักเท่าไร แต่นางก็มิอาจมีเรื่องแตกหักกับตระกูลนี้ทั้งๆ ที่ ยังไม่ทันได้ออกเรือนไปได้

เยี่ยหลีใช้เวลาสองวันในการตรวจสอบบัญชีร้านค้า ผลที่ ออกมาท่านางต้องขมวดคิ้วแน่นจนแทบผูกกัน ร้านค้าทั้งสิบ สองห้อง มีถึงห้าห้องที่ขาดทุน อีกสี่ห้องก็แค่พอเลี้ยงตัวได้ มี เพียงสามห้องเท่านั้นที่พอมีกำไรอยู่บ้าง แต่ก็น้อยนิดเต็มที่ เรือนแปดหลังมีถึงสี่หลังที่มิใช่ของเดิม

หวังชื่อให้เหตุผลว่ายามที่เขาจะถวายตัวเข้าวังไเรือนทั้งสี่หลังนั้นไปเป็นค่าใช้จ่ายหมดแล้ว จึงเอาเรือนที่จวน อยู่สี่หลังมาคืนให้ได้จำนวนเท่าเดิม เยี่ยหลีไม่ต้องดูก็รู้ว่าเรือน สี่หลังที่เอาเข้ามาเติมให้ต้องมิใช่ของดีอะไรแน่นอน หากมิใช่ เพราะนางเอ่ยเรื่อง นี้กับฮูหยินผู้เฒ่าขึ้นมาก่อน เกรงว่าหากรอ จนถึงเวลาที่นางจะเอาคืนจริงๆ เรือนของนางคงถูกเปลี่ยนไป หมดแล้ว

เช้าวันรุ่งขึ้น เยี่ยหลีเข้าไปคารวะฮูหยินผู้เฒ่าและขอ อนุญาตออกไปข้างนอก แล้วจึงพาซึ่งช่วงออกไปสำรวจร้านค้า ของนางด้วยกัน

น้อยครั้งนักที่เยี่ยหลีจะออกนอกจวน จึงแทบไม่มีคนใน เมืองรู้จักหน้าค่าตาของนางเลย การมาเดินสำรวจรอบนี้ไม่ เพียงชิงซวงเท่านั้นที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แม้แต่เยี่ยหลีที่คิดว่า ตนเป็นคนอารมณ์เย็นแล้วยังรู้สึกโกรธไม่น้อย ร้านค้าทั้งสิบ สองห้อง มีถึงเจ็ดห้องที่เพิ่งมีการเปลี่ยนหลง คุมร้านใหม่ก่อน ที่นางจะได้ร้านนี้คืนมาเพียงสองวัน พวกเขาไม่รู้เรื่องใดของ ร้านก่อนหน้านี้เลย ร้านเครื่องประดับร้านหนึ่งที่มีแต่คนเดิน ผ่านไปผ่านมาตรวจดูบัญชีแล้วก็ขาดทุนมาตลอด ถึงจะมีร้านที่ พอทำกำไรได้บ้างอยู่สองร้าน แต่ของที่ขายดูเก่าเก็บเต็มทน แม้แต่บนชั้นก็มีแต่ฝุ่นจับหนาไปหมด หากมีลูกค้าเข้าร้านก็ แปลกแล้ว

“คุณหนู ฮูหยินทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ กลับไปจะต้องไป ฟ้องฮูหยินผู้เฒ่ากับนายท่านนะเจ้าคะ!” ซึ่งช่วงเอ่ยด้วยความ คับแค้นใจ
“บอกไปแล้วได้อะไร บุตรสาวของนางสองคน ยามนี้คน หนึ่งเป็นถึงเจ้าอี้ที่มีแววว่าจะได้เลื่อนขั้นเป็นเฟย อีกคนกำลังจะ เป็นพระชายาของท่านหลีออง เจ้าคิดว่าท่านพ่อกับท่านน่าจะ ทำอย่างไรกับนางหรือ” เยี่ยหลีเหลือบมองชิงซวงแล้วยิ้มน้อยๆ ชิงช่วงถึงกับพูดไม่ออก แต่ก็ยังมิอาจข่มอารมณ์ตนให้เย็นลง ได้ หรือคุณหนูจะปล่อยผ่านไปอย่างนี้เจ้าคะ เห็นอยู่ว่าฮูหยิน อยากให้คุณหนูเสียหน้า ร้านค้าสภาพเช่นนี้มีต่างกับไม่มีที่ตรง

“ขายหน้าหรือ ก็ต้องดูว่าคุณหนูอย่างข้ารู้สึกขายหน้าหรือ ไม่ ถ้าข้าขายหน้านั้นถึงจะเรียกว่าขายหน้า แต่ถ้าข้าไม่รู้สึก ขายหน้าแล้วก็คือไม่ขายหน้า

ชิงซวงกะพริบตาปริบๆ มองหน้าคุณหนูสายตาคาดหวัง “คุณหนูมีความคิดอะไรดีๆ หรือเจ้าคะ

เยี่ยหลีเพียงหัวเราะ เดินอ้อมตัวชิงซวงไปข้างหน้า โดยไม่ กล่าวอะไร ชิงซวงบ่นจมูก สีหน้าดูอารมณ์ดีขึ้นก่อนรีบเดินตาม ไป “คุณหนู ข้างหน้านี่ก็ร้านสุดท้ายแล้ว ร้านเช่นเต๋อเซวียน เป็นร้านขายของโบราณเจ้าค่ะ”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ