บทที่ 3 : ‘ราฟาเอล ปรินซ์
ร่างเล็กปรือตาขึ้นมาท่ามกลางความมืดมิด
ความเจ็บปวดแสนปราดเข้ามาทันทีที่เธอฟื้นคืนสติ ภายในห้อง เงียบกริบ ยักษ์ร้ายตนนั้นออกจากห้องไปแล้ว หลังจากที่ทำลายเธอจน ราบคาบเขาก็ออกไป ทิ้งไว้เพียงบาดแผลสาหัสที่ไม่มีวันหาย
เลวร้าย…
มันเลวร้ายเหลือเกิน ป่าเถื่อน รุนแรงจนเธอแทบขาดใจตาย หญิง สาวนอนขดตัว เธอเจ็บจนขยับไม่ได้ โดยเฉพาะตรงกลางกาย คล้ายกับว่า เธอถูกเขาฉีกออกเป็นชิ้นๆ
เขาน่ากลัว…
เป็นจอมเผด็จการที่เอาแต่ใจตัวเอง แม้จะร้องขอเพียงใด ชายใจยักษ์ผู้ นั้นก็ไม่ยอมหยุด เขายังคงยัดเยียดตัวเองเข้ามาทั้งที่รู้ว่าเธอไม่ไหว ทั้งที่รู้ ว่านั่นอาจจะฆ่าเธอตายได้ แต่เขาก็ยังทำ เขาอยากให้เธอทรมาน
และเขาก็ทําสําเร็จ
แก้วกัลยามีช่วงเวลาลำบากมากมายในชีวิต เธอเป็นเด็กพิการตาบอด ความทรงจําช่วงวัยเด็กขาดหายไป มีคนใจดีนำเธอไปฝากไว้ที่บ้านเด็ก กำพร้าทำให้เธอเจอแม่ครู ผู้ที่เปรียบเสมือนแม่แท้ๆของเธอ เธออยู่ร่วม พี่ๆน้องๆเด็กกำพร้าและเรียนหนังสือในโรงเรียนสอนคนพิการ พยายาม ฝึกฝนหาอาชีพจนได้เป็นครูสอนไวโอลิน แต่ชีวิตของเธอมันคงน่าอิจฉา มากกระมัง เธอถึงได้ถูกเพลิงพิศ เพื่อนสาววัยเดียวกันที่มีร่างกายครบสมบูรณ์หลอกไปทำร้าย และทำให้เธอต้องมา พานพบกับชะตากรรมอันแสนเลวร้ายและเจ็บปวด
ทำให้เธอมาเจอกับคนใจร้ายอย่างเขา…
ผู้หญิงคนนั้นมันน่าหงุดหงิด
โครม!
เก้าอี้ตัวสวยถูกเตะล้มระเนระนาดเพราะอารมณ์ที่ค้างคาของเจ้าของ
เธอกล้ามาสลบไปทั้งๆที่เขายังไม่เสร็จสิ้นภารกิจได้ยังไงกัน!?! เขาก็รู้ อยู่หรอกนะว่าเด็กนั่นอ่อนแอ แต่ก็ไม่คิดว่าจะอ่อนแอ บอบบางเสียยิ่งกว่า แก้วกระเบื้องขนาดนี้
รอบหน้าฉันจะเอาคืน!
อสุราหนุ่มตั้งปณิธาน ไม่มีสิ่งใดในโลกที่เขาต้องการแล้วจะไม่ได้ เรื่อง เด็กคนนั้นก็เหมือนกัน มันจะไม่มีการออกนอกแผนเหมือนอย่างวันนี้อีก ตราบใดที่เธอยังอยู่ที่นี่ บนเกาะ รังสิมันต์ เกาะส่วนตัวของเขา เธอจะไม่มี วันหนีพ้นเงื้อมมือของเขาไปได้ และจะไม่มีวันได้ออกไปจากที่นี่จนกว่าจะ ชดใช้ให้เขาอย่างสาสม
ก็อกๆ
เสียงเคาะประตูดังขัดอารมณ์คนกำลังหงุดหงิด ด้วยสัญชาตญาณ ราพณ์พอจะเดาได้ว่าใครคือคนที่ยืนอยู่เบื้องหลังประตูบานนั้น
“เข้ามา”
ร่างสูงโปร่งของเลขาคนสนิทก้าวเท้าเข้ามาในห้อง ภาคทำสีหน้า แปลกๆ มันเต็มไปด้วยความข้องใจ คาใจ สงสัย แต่ดูรวมๆแล้วคือหมอน กำลังไม่พอใจเขาอยู่ ก็คงรู้แล้วล่ะว่าเขาไปก่อเรื่องอะไรไว้ แต่แล้วไง? เขา จะทําอะไรกับฆาตกรนั่นมันก็เรื่องของเขา
“มีอะไร” เสียงทุ้มเอ่ยถาม เป็นมองสายตาไม่พอใจของคนใต้บังคับ บัญชา ภาคถอนหายใจ ใครเล่าจะกล้าตำหนิเจ้านายของตัวเอง
มีสายจากวริศครับ เขาบอกว่าสารวัตรเตชิตต้องการคุยกับคุณ” เลขา หนุ่มรายงานตามที่ได้รับแจ้งจากคู่หูที่ยังคงอยู่ที่บริษัทแม่ในกรุงเทพ
“ฉันไม่ว่าง”
“สารวัตรยืนยันว่าถ้าไม่ได้คุย เขาจะมาหาคุณที่นี่ครับ
ร่องรอยที่แสดงออกว่าแสนรำคาญเพื่อนตำรวจ ซื้อปรากฏบนใบหน้า หล่อเหลา กะอีแค่เด็กตาบอดหายตัวไปแค่คนเดียว ทำไมต้องเป็นเดือด เป็นร้อนขนาดนั้นกัน
“บอกไปว่าเดี๋ยวฉันจะโทรหามันเอง
ร่างสูงพูดตอบไปอย่างส่งๆก่อนจะถอดเสื้อเชิ้ตที่ปกคลุมร่างกายท่อน บนออก เผยให้เห็นมัดกล้ามอย่างคนที่ถูกฝึกฝนการต่อสู้มาอย่างดี รอย แผลเป็นมากมายสลักไว้บนผิวเนื้อขาวเนียนราวกับผิวของเด็ก เป็น เครื่องหมายบ่งบอกว่าเจ้าของร่างนี้ผ่านประสบการณ์โชกโชนเฉียดตาย มานับครั้งไม่ถ้วน ยิ่งแผลเป็นใหญ่บริเวณใกล้ขั้วหัวใจที่แม้ตอนนี้จางลง มากจนแทบมองไม่เห็น แต่ก็ยังคงชวนให้สงสัยว่าราพณ์สามารถรอดตายจากเหตุการณ์นั้นมาได้อย่างไร
หากแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าแผลเป็นต่างๆ นั้นจะไม่ดึงดูดสายตาของภาค ได้เท่ากับรอยแดงเป็นทางยาวคล้ายถูกข่วนหลายรอยบนแผ่นหลังกว้าง เลขาหนุ่มเดาที่มาของมันได้ทันที เขารู้สึกสงสารเจ้าของร่างแบบบางขึ้น มาจับใจ
“เอ่อ มีอีกเรื่องครับคุณยักษ์” ภาคเรียกไว้ก่อนที่เจ้านายตัวเองจะเดิน หายเข้าไปในห้องอาบน้ำ ราพณ์หันกลับมามองสายตาไม่พอใจนัก
“เรื่องงานจัดเลี้ยงก่อนการประมูลพรุ่งนี้ ไม่ทราบว่าคุณยักษ์จะให้จอง
โรงแรมที่นั่นไว้เลยมั้ยครับ
“ไม่ต้อง ฉันจะนอนคอนโด
“เอ่อ…”
“อะไรอีกวะ!?” อสุราหนุ่ม วาดกร้าว แค่อารมณ์ค้างนี่มันยังทำให้เขา หงุดหงิดไม่พอใช่ไหม
ภาคผู้ชินกับอารมณ์ร้ายของคนเป็นนายเอ่ยต่อเสียงราบเรียบ
“ครับ คือท่านรัฐมนตรีต้องการพบคุณก่อนงานเลี้ยงครับ
“ปฏิเสธไป”
“แต่จากข้อมูลของเรา ครั้งนี้ดูเหมือนว่าคุณเรืองฤทธิ์จะได้รับเชิญด้วย นะครับ”
ร่างสูงเลิกคิ้ว ดวงตาคมมีประกายล้ำลึกยามได้ยินชื่อนั้น…
ความรู้สึกปวดแปลบที่อกข้างซ้ายไหลแล่นขึ้นมาเป็นระริ้วรอยแผลเก่า ที่สมานตัวเรียบร้อยกลายเป็นเพียงแผลเป็นจางๆกลับรู้สึกเจ็บขึ้นมาอีก ครั้งคล้ายจะตอก เหตุการณ์ในอดีตดวงตาสีนิลทอดมองวิวทะเลสีคราม ผ่านหน้าต่างกระจกบานใส
“คุณอาน่ะเหรอ”
“ครับ นอกจากนี้ยังมีประธานฝ่ายบริหารของบริษัทอื่นๆ ที่จะเข้าร่วม ประมูลไปด้วย”
“นายคิดว่าฉันควรไปรึเปล่า?”
นั่นไม่เชิงเป็นคำถามสักเท่าไหร่ ภาครู้ว่าเจ้านายของเขามีคำตอบในใจ
อยู่แล้ว แต่กระนั้นเลขาหนุ่มก็ยังคงตอบไปตามหน้าที่
“ทำความรู้จักคนพวกนั้นไว้ก็ไม่เสียหายครับ
“งั้นบอกรัฐมนตรีไปว่าฉันตกลง พรุ่งนี้ฉันจะเข้ากรุงเทพแต่เช้า เตรียม
ตัวไว้ด้วย
แล้วเจอกันครับ คุณอา
งานพบปะสังสรรค์เล็กๆถูกจัดขึ้นในห้องอาหารสุดหรูของโรงแรมระดับ ห้าดาว ราพณ์ทิ้งผู้ติดตามของเขาเอาไว้ที่ล็อบบี้ชั้นล่าง ส่วนตัวเองก็เดิน ผึ่งผายฉายเดี่ยวเข้าไปในงานในฐานะของ ราฟาเอล ปรินซ์’ นักธุรกิจ หนุ่มสัญชาติอเมริกัน ผู้เป็นหนึ่งในตัวเต็งในการประมูลสัมปทานคลื่น สัญญาณความถี่ของทางรัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นในอีกสองสัปดาห์ข้าง หน้า
เสียงคุยจ้อกแจ้กเงียบลงทันทีที่ร่างสูงปรากฏตัวใบหน้าหล่อเหลาสมบูรณ์แบบอย่างชาวเอเชียแท้ๆทำให้คนที่เคยได้ยินแค่ ราฟาเอล ปรินซ์งงกันเป็นทิวแถว ด้วยคาดว่าเจ้าของชื่อคงเป็นชาว อเมริกัน อย่างที่เคยได้ข่าว และนอกจะใบหน้าแบบเอเชียที่สร้างความ ตกตะลึงแก่คนทั้งงานแล้ว ราฟาเอล ปรินซ์ ยังเป็นชายหนุ่มที่หล่อ ดูดี เต็ม ไปด้วยความเพอร์เฟ็คต์ราวกับเป็นเจ้าชายสมชื่อ
“ตัวจริงคุณดูเด็กกว่าที่คิดอีกนะครับคุณปรินซ์” ชายชราอายุราวหกสืบ ทักทายเขาด้วยภาษาไทย สร้างความตกตะลึงต่อคนรอบข้างอีกหน น้อย คนนักจะรู้ว่านอกจากจะมีใบหน้าแบบเอเชียแล้ว ราฟาเอล ปรินซ์ยังมีเชื้อ สายคนไทยอยู่เต็มเปี่ยม
ราพณ์จ่าผู้ที่เข้ามาทักได้ทันที ในเหมืองข้อมูลของเขามีข้อมูลของชาย คนนี้อยู่เป็นกระตัก ทั้งประวัติตั้งแต่เด็กจนโต ประวัติการศึกษา การงาน อาชีพ ชีวิตส่วนตัว แม้แต่ประวัติทุจริตฉ้อโกงอันเป็นความลับดำมืดที่ แม้แต่ตำรวจยังไม่รู้เขาก็มี
เลขประจําตัวประชาชน 5007861105002
รัฐมนตรีฯกระทรวง โทรคมนาคม อดิศร รุ่งเรืองชัยกรณ์
ราพณ์ยิ้ม…
จับมือทักทายหมากคนสำคัญในเกมที่เขาจะใช้เป็นเครื่องมือในการ ‘แก้แค้น
“ก็เขาเด็กจริงๆ ครับท่าน จริงมั้ยครับ คุณปรินซ์”
เสียงหนึ่งแทรกขึ้น ดึงให้หัวใจยักษ์หนุ่มเต้นรัว หัวใจราวกับถูกบีบ ‘เจ็บ’ แม้ไม่หลงเหลือบาดแผลแล้ว ความทรงจำเมื่อสิบห้าปีก่อนไหลย้อน กลับมา ยิ่งทําให้ใบหน้าหล่อเหลาชุ่มไปด้วยเหงื่อ หลายวินาทีทีเดียวกว่าความเจ็บจะจาง หายราพณ์ค่อยๆคุมสติกลับมา ชายหนุ่มยกยิ้ม…
เขาไม่เจ็บแล้ว ตอนนี้มีเพียงความรู้สึกตื่น กระหายราวกับยักษ์หิวโซ และสิ่งเดียวที่จะดับความกระหายนี้ได้ มีเพียงการแก้แค้น แก้แค้นขายตรง หน้า คนที่เปลี่ยนชีวิตของเขาไปตลอดกาล
เลขประจําตัวประชาชน 3104441006210
ประธานกรรมการฝ่ายบริหารของ พีเอสวายคอร์ปอเรชั่น เรืองฤทธิ์ เปลวสุริยะวงศ์
อาบุญธรรมของเขา…
“ครับ ความจริงปีนี้ผมเพิ่งจะยี่สิบแปด” เสียงราบเรียบเอ่ยตอบผู้มา ใหม่ ต้องขอบคุณประสบการณ์หลายปีในหน่วยพลรบพิเศษ ที่ทำให้ราพณ์ เป็นคนเก็บอารมณ์เก่ง สีหน้าท่าทางของเขาดูเหมือนชายหนุ่มนักธุรกิจผู้ นอบน้อมและมีวิสัยทัศน์ ห่างไกลจากบุรุษผู้คั่งแค้นลิบลับ
“หม นี่ยังไม่สามสิบเลยเหรอ” รัฐมนตรีเอ่ยน้ำเสียงกึ่งตกใจ บรรดา แขกเหรื่อทั้งหลายที่ต่างก็เป็นคนสำคัญในงานประมูลสัมปทานเริ่มหูฝั่ง
“คนหนุ่มสมัยนี้มันอะไรกัน นี่คุณเป็นเจ้าของ… เอ่อ พวกคุณเรียกกันว่า
อะไรนะครับ”
“เหมืองข้อมูลเหรอครับ?”
“อ่า ใช่ๆ คุณเปิดบริษัททำเหมืองข้อมูลตั้งแต่อายุเท่าไหร่กันครับ
ราพณ์ทําท่านก
“ก็น่าจะหลังผมเรียนจบ ตอนอายุยี่สิบปีพอดีครับ
“เด็กมากเลยนะครับ น
“ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ ในอเมริกามีคนประเภทผมเยอะ พวกอยากตั้ง ตัวเร็วหรือไม่ก็ร้อนวิชาประมาณนั้น
“แต่บริษัทของคุณถือว่าโตเร็วมากนะครับ ช่วงปีสองปีมานี้คุณถึงได้ขึ้น ปกฟอร์บส์เป็นว่าเล่น” คราวนี้เป็นเรื่องฤทธิ์ที่พูดขึ้นบ้าง ดูท่าว่าเขาจะ สนใจตัวตนของราฟาเอลอยู่ไม่น้อยถึงได้รู้กระทั่งว่าเขาเคยขึ้นปกนิตยสาร เกี่ยวกับธุรกิจและการเงินชื่อดังของอเมริกา
ชายหนุ่มหัวเราะ แสร้งยกมือเก่าศีรษะแก้เขิน ในฐานะราฟาเอล ปรินซ์ผู้ อ่อนน้อมถ่อมตน เขาต้องทำตัวให้ดูน่าเอ็นดูเสียหน่อย
“ทีแรกผมก็คิดว่าจะไปไม่รอดเพราะการแข่งขันสูงเหลือเกิน อีกอย่างนัก
สิทธิฯก็เล็งธุรกิจแบบเราว่าละเมิดความเป็นส่วนตัวของประชาชน ผม
ถือว่าบุญหล่นทับน่ะครับถึงรอดมาได้
“อย่างว่านะครับ คนเราจะประสบความสำเร็จได้ก็ต้องกล้าเสี่ยง แล้วนี่
คุณปรินซ์คิดจะมาเสี่ยงลงทุนที่ไทยเพราะอะไรเหรอครับ ผมว่าตลาดของที่
นี่ยังไม่โตเท่าอเมริกานะลงทุนที่โน้นยังจะเห็นกำไรเร็วกว่าอีก “จะว่ายังไงดีล่ะครับ” เขาหยุดไป ราวกับกำลังคิดหาเหตุผลดีๆ “คงรู้ใช่
ใหมครับว่าผมเป็นคนไทย
เรืองฤทธิ์พยักหน้า
“ครับ ตามประวัติคุณปรินซ์บอกว่าคุณแม่คุณเป็นคนไทย ส่วนคุณพ่อ เป็นชาวอเมริกัน หน้าตาคุณถึงได้ออกมาเป็นเอเชียแบบนี้
“ก็ถูกครึ่งนึงล่ะครับ ความจริงคุณพ่อของผมก็เป็นคนไทย แต่ท่านถูก ครอบครัวปรินซ์อุปการะไปน่ะครับเลยได้สัญชาติที่นั่น คุณพ่อคุณแม่ท่านมี ความฝันว่าอยากจะกลับมาอยู่ประเทศไทย และก็อยากจะประสบความ สําเร็จที่นี่ด้วย การประสบความสำเร็จที่บ้านเกิดตัวเองคงเป็นความภูมิใจ ของท่านนะครับ อันที่จริงผมก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอกนะ แต่ก็ทําตามคำขอ ของพวกท่าน”
ชายแก่สองคนถึงกับบางอ้อ ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มเอ็นดู
“มีลูกชายแบบคุณ คุณพ่อคุณแม่คงภูมิใจนะครับ”
“ไม่รู้สิครับ พวกท่านอยู่ไม่ถึงวันที่เห็นผมประสบความสำเร็จด้วยซ้ำ” สีหน้าเศร้าสร้อยที่แสดงออกไม่เชิงเป็นการแสดงเสียทีเดียว จนถึงตอนนี้… เขาก็ยังคงเสียใจกับการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักทั้งสอง
“อ่า เสียใจด้วยนะครับ” เรืองฤทธิ์ว่า ถือโอกาสตบบ่าคนหนุ่มกว่า ร่าง สูงได้แต่ส่งยิ้มขอบคุณ หากแต่ดวงตากลับฉายแววแข็งกร้าว คล้ายสัตว์ ป่ายามออกล่า ทว่าชายแกไม่ทันสังเกตเห็น มิเช่นนั้นคงเลือกจะถอยห่าง จากอสุราร้ายผู้กำลังกระหายเลือดคนนี้
งานเลี้ยงดำเนินต่อไปอย่างเชื่องช้า ราพณ์ในฐานะราฟาเอล ปรินซ์ เดิน สายทักทายเพื่อนร่วมวงการธุรกิจด้านโทรคมนาคมที่อาจต้องร่วมงานหรือ ไม่ก็เป็นศัตรูกันในอนาคต
“ขอโทษนะครับคุณปรินซ์” เป็นเรื่องฤทธิ์ที่เดินเข้ามาทักเขาอีกครั้งใน ขณะที่เขากำลังจะขอตัวกลับ
“เรียกผมว่ายักษ์ก็ได้ครับ คุณแม่ผมตั้งชื่อเล่นแบบไทยให้แบบนี้” ร่าง สูงสังเกตเห็นร่องรอยความประหลาดใจบนใบหน้าของอาบุญธรรม
“ยักษ์ เหรอครับ”
“ท่านบอกว่าตอนเกิดผมตัวใหญ่เหมือนยักษ์น่ะครับ
“อ่อ ครับ แต่บอกตามตรงว่าผมเห็นหน้าคุณแล้วรู้สึกคุ้นมาก คุ้นมา ตั้งแต่เห็นคุณ ในนิตยสารแล้วล่ะครับ” ใบหน้าของเรืองฤทธิ์ดูออกว่าเจ้า ตัวคงจะคาใจจริงๆ ราพณ์หัวเราะเบาๆก่อนจะตอบเสียงสบายๆ
“หน้าผมคงโหลมั้งครับ ตอนอยู่อเมริกาผมก็ถูกทักผิดบ่อยๆ
คําอธิบายนั้นคงไม่ถูกใจคนฟังเท่าไหร่ เรืองฤทธิ์ยังทำหน้านิ่วคิ้วขมวด
“นั่นอเมริกา ครับ พวกฝรั่งเขาแยกหน้าคนเอเชียไม่ค่อยออกหรอก แต่ ผมเอเชียแท้ ดูก็รู้ว่าหน้าตาอย่างคุณนี่คงหาไม่ได้ดาษดื่น
“เอ หมายความว่าผมหน้าแปลกเหรอครับ”
“โถ คุณหล่อมากต่างหากล่ะครับ นี่ถ้ายัยหนูมาเห็น รับรองแกคงเพ้อ แน่ๆ”
คำว่า “ยัยหนู กระตุ้นให้อสุราหนุ่มหนึ่ง จะว่าไปผู้หญิงคนนั้นก็เป็น หมากอีกตัวที่สำคัญของเขา แต่เขายังไม่ได้คิดถึงเรื่องน้องสาวบุญธรรมที่ แทบไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนสักเท่าไหร่ เขารู้เพียงว่าเธอเป็นสาวสวยในแวดวงไฮโซที่เพิ่ง เรียนจบปีนี้เท่านั้น เรืองฤทธิ์มีแผนว่าจะให้เธอหมั้นหมายกับลูกชายของ บริษัทคู่ค้าเพื่อเสริมความมั่นคงในกิจการด้านเครือข่ายสัญญาณมือถือ ของพีเอสวายคอร์ป และแน่นอนว่าราพณ์ไม่อาจให้การหมั้นหมายหรือ แต่งงานนั้นเกิดขึ้นได้
“ขอบคุณที่ชมนะครับ แต่ไม่รู้สิ ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อนนะ
ร่างสูงได้ยินเสียงถอนหายใจ
“นั่นสินะครับ”
“คุณพ่อคะ… โอ๊ะ!”
เสียงหวานของใครบางคนเรียกสายตาดุร้ายหันไปมอง หญิงสาวผู้มี ใบหน้าสวย โฉบเฉี่ยวกำลังเดินยิ้มแป้นมาทางเขา ราพณ์ยิ้มตอบทันที แม้ จะจำข้อมูลทั้งหมดไม่ได้ แต่ใบหน้าแสนตราตรึงที่ทำเอาคนทั้งงานตื่น ตะลึงนี้เขาไม่มีทางลืม เธอคือลูกสาวของเรืองฤทธิ์
รสิตา เปลวสุริยะวงศ์
“กระโตกกระตากเหมือนมาติดกะโหลกเลยนะยัยสิ อายคนอื่นเค้า” คน เป็นพ่อดุ หากแต่คนถูกดุกลับไม่สะทกสะท้าน ดวงตาสวยกำลังจดจ้องอยู่ กับชายหนุ่มผู้หล่อเหลาดูดีที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็น ยักษ์หนุ่มรู้ดีว่าเวลาแบบ นี้เขาควรทำอย่างไร แค่รอยยิ้มอย่างมีไมตรีเล็กๆก็เพียงพอแล้วที่จะคว้า หัวใจแสนชื่อของผู้หญิงคนนี้มาครอง
รสิตารู้สึกราวกับโลกของเธอกำลังเป็นสีชมพู หญิงสาวแสร้งหลบตา เอื้อมมือเกี่ยวแขนคนเป็นพ่อ
“ก็รอคุณพ่อตั้งนาน คุณพ่อก็ยังไม่เสร็จซักทีนี่คะ”
“ฉันมาทำงานนี้ แกก็เดินช้อปปิ้งของแกฆ่าเวลาไปสิ”
“ช้อปจนน้องปูดไปหมดแล้ว เนี่ย ดูสิคะ” ไม่พูดเปล่าแต่กลับอวดน่อง เรียวสวยให้ดูประกอบ ราพณ์ยิ้มเอ็นดู ผิดกับเรืองฤทธิ์ที่แทบจะยกมือตบ หน้าผาก
“เฮ้อ ลูกคนนี้” ชายแก่บนก่อนจะหันมาทางเขา “ขอโทษนะครับคุณ ยักษ์ที่ลูกสาวผมเสียมารยาท
“อะไรกันคะคุณพ่อ จู่ๆมาว่าเฉยเลย”
เสียงกระเป๋ากระงอดเรียกสายตาดุๆจากคนเป็นพ่อ
“ผมขอแนะนำนะครับ นี่ลูกสาวผมเองชื่อรสิตา ปีนี้เพิ่งจบนะครับ แต่ก็ ยังหางานไม่ได้”
“เอ๊ะ คุณพ่อน ตั้งใจจะหาเรื่องกันเหรอคะ” ใบหน้าสวยบูดบึง ก่อนจะ หันมาแก้ตัวเพราะกลัวเขาเข้าใจผิด “สิไม่ได้ตกงานนะคะ แค่อยากพัก ผ่อนหลังเรียนจบ เดือนหน้าก็ว่าจะเข้าไปทำงานที่บริษัทคุณพ่อนี่แหละ
“เดี๋ยวสิ ใครบอกว่าจะให้แกไปทำงานด้วย
“ไม่รู้ล่ะค่ะ ยังไงก็จะไป” รสิตาเชิดใบหน้าอย่างคุณหนูเอาแต่ใจ กิริยาแบบนี้อาจดูไม่งามเท่าไหร่นัก แต่เมื่อคนสวยอย่างเธอทำ มันถึงได้ดู น่าเอ็นดูไปเสียหมด “แล้วคุณไม่แนะนำตัวบ้างเหรอคะ”
ชายหนุ่มเลิกคิ้วเมื่อได้ยินคำถามนั้น ก่อนเจ้าตัวจะระบายยิ้ม ใบหน้า หล่อเหลามีแววขัดเขินเล็กน้อย
“ราฟาเอล ปรินซ์ครับ เรียกผมว่ายักษ์ก็ได้”
“อุ๊ย เท่ยนชื่อ”
“เดี๋ยวเหอะ!” เรืองฤทธิ์ปรามลูกสาวที่กำลังหลงใหลได้ปลื้มนักธุรกิจ หนุ่มจากต่างแดน แต่หญิงสาวไม่สนใจบิดาของตนเท่าไหร่นัก เธอยังคง เดินหน้ารุก อยากทำความรู้จักบุคคลตรงหน้าเหลือเกิน
“ว่าแต่คุณยักษ์ทำงานอะไรคะ ที่มางานนี้นี่คุณทำบริษัทเหมือนคุณพ่อ
เหรอ”
“ครับ ผมตั้งใจจะลองประเดิมธุรกิจด้านเครือข่ายโทรศัพท์ที่ไทยนะครับ ก็เลยกะว่าจะเข้าประมูลสัมปทานด้วย เหมือนคุณพ่อของคุณนั่นแหละ”
“ว้าว ประมูลด้วย แสดงว่าต้องรวยมากแน่ๆ หล่อ รวย โปรไฟล์ดีแบบนี้ สนใจมาเที่ยวบ้านเรามั้ยคะ จะให้การต้อนรับอย่างดีเลย
“ยัยสิ!!!” เรืองฤทธิ์ตวาดเสียงดัง
“ว้า คุณพ่อดุซะแล้ว คิกๆ แต่พูดจริงนะคะคุณยักษ์”
“ครับ ถ้าไม่รังเกียจกัน คราวหน้าผมคงต้องขอรบกวน” คําตอบของ ราพณ์ทำเอาทั้งคนพ่อคนลูกตกใจ รสิตาตาลุกวาวอย่างตื่นเต้น เธอไม่คิด
ว่าเขาจะตอบตกลงด้วยซ้ำ
“คุณยักษ์พูดจริงๆนะคะ ไม่หลอกให้ดีใจเก้อน
“เชื่อเลย ลูกคนนี้” ชายแก่ยกมือตบหน้าผากฉาด แม้จะบ่นแต่ทั้ง ใบหน้าและดวงตากลับยิ้มแย้ม คนมากประสบการณ์เริ่มคำนวณ หาก เทียบด้านอำนาจและกำลังทรัพย์แล้ว ราฟาเอล ปรินซ์ มีเหนือกว่าคู่หมั้นคู่ หมายของรสตาเป็นไหนๆ หากเขาคิดจะใช้การแต่งงานของรสตาเป็นเครื่องมือในการสร้างความมั่นคงให้ตัวเอง คงไม่มีตัวเลือกไหนดีไปกว่า ชายหนุ่มตรงหน้าอีกแล้ว
“คุณสิก น่ารัก นะครับ คุณเรืองฤทธิ์อย่าเข้มงวดกับเธอนักเลย” ร่าง สูงว่าพร้อมกับยิ้มหวาน คุณหนูตระกูลดังถึงกับหน้าขึ้น
“เห็นมั้ยคะคุณพ่อ คุณยักษ์เค้าชมว่าน่ารักด้วย
เค้าคงไม่อยากหัวหน้าแกนะ แต่เอาเป็นว่าผมเชิญก็แล้วกันนะครับคุณ ยักษ์ ถ้าคุณว่างๆก็แวะมาบ้านเราได้ ความจริงผมสนใจแนวทางการทำ ธุรกิจของคุณมาก จะเป็นเกียรติอย่างมากครับถ้าเราได้มาแลกเปลี่ยน แนวคิดกัน” พอตัดสินใจได้ เรืองฤทธิ์ก็เปิดประตูเต็มขั้น ต้อนรับอสุราหนุ่ม ด้วยความยินดี รอยยิ้มกว้างเต็มใบหน้าของอีกฝ่ายบ่งบอกว่าราพณ์เข้า ใกล้เป้าหมายของเขาเข้าไปทุกที ชายแก่ไม่มีทางรู้เลยว่าตนกำลังเชื้อเชิญ ปีศาจร้ายผู้ที่จะมาทวงเอาทุกอย่างคืน เขาไม่มีทางรู้ว่าชายหนุ่มตรงหน้า คือหลานชาย ผู้ที่ตนลงมือฆ่าไปเมื่อสิบห้าปีก่อน
“ด้วยความยินดีครับ”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ