ฮองเฮาผู้อ่ามหิต

ตอนที่12 นางคือตัวเอก



ตอนที่12 นางคือตัวเอก

“ก็นิดหน่อย ทุกวันอุดอู้อยู่แต่ในห้องกินอะไรก็ล้วนไม่ อยากอาหาร”

คุณหนูอดทนสักไม่กี่วันเถิด คุณชายสี่จะช่วยคุณหนู จัดการทุกอย่างเองเจ้าค่ะ”

พี่สี่ปกติยุ่งมากเลยหรือ?”

“อืม”

“เขายุ่งอะไรบ้าง?

กิจวัตรประจำวันของจวนอ๋องทั้งหมด บัญชี ค่าใช้จ่าย รายรับ จัดซือผักวัตถุดิบอาหารห้องครัว การซ่อมแซมห้อง หับในจวน….ไม่ว่างานใดล้วนเป็นคุณชายสี่จัดการเจ้าค่ะ”

“จวนอ๋องไม่ใช่ว่ามีพ่อบ้านหรือ? อีกทั้งสกุลโจว๋คนเยอะ เช่นนี้ เหตุใดจึงให้พี่สี่ทำสิ่งเหล่านี้ผู้เดียวด้วยเล่า?

“นี่….…… นายหญิงเซียวติดอ่างล้ำอึ้ง

“มีอะไรจะกล่าวก็กล่าวเถอะ อยู่ที่นี่นายหญิงก็เป็นแม่เลี้ยง ซินเหยาก็เป็นบุตรสาว ไม่ต้องยึดติดพิธีหรือศีลธรรมใดๆ หรอก” ซินเหยาขจัดความกังวลของนาง

“คุณหนูอาจทราบเรื่องที่คุณชายสี่เกิดป่วยเมื่อยังเล็ก?”
“เคยได้ยิน พี่สี่ป่วยหนักครั้งใหญ่ ต่อมาจึงไม่อาจฝึกยุทธ์ ได้”

“ในฐานะบุตรหลานสกุลโจว๋กลับไม่อาจฝึกยุทธ์ คุณชาย สี่ชีวิตนี้นับว่าพังพินาศ! เขาชั่วชีวิตนี้เพียงสามารถอยู่ทำ งานเล็กๆในจวน ทํางานจัดการกิจวัตรประจำวันเหล่านี้

นายหญิงเซียวน้ำเสียงทอดถอนใจ สิ่งที่ได้พบว่านางรู้สึก ต่อโจว๋หยุนถิง คือความเจ็บปวดใจและความจนปัญญา

“ไม่อาจฝึกยุทธ์ได้นี่อนาถเพียงนี้เชียวหรือ?”

“ถูกต้อง ความแข็งแกร่งของวรยุทธ์ก็คือตัวแทนสถานะ ของแต่ละบุคคล นี่กระทั่งก้าวข้ามสถานะทางสายเลือดไป ไกลในหลายครั้งครา”

คนนับสิบยืนเรียงรายขนาบสองฝั่งของหอฝึกยุทธ์อย่าง เคร่งครัด ซินเหยายืนอยู่ตรงกลาง วันนี้นางเป็นตัวเอก

มือขนดกขนาดยักษ์มือหนึ่งแตะสัมผัสโครงกระดูกแต่ละ ส่วนบนเรือนร่างของซินเหยาไปมา…..

“น่าขยะแขยงจริง! อย่ามาวะจับข้านะ!” ซินเหยาก่นด่า อยู่ในใจ

ซินเหยาอดกลั้นอย่างมาก ไม่ขยับเขยื้อน ปล่อยให้มือ ใหญ่ยักษ์สัมผัสบนร่างนาง ถ้าหากอยู่ที่โลกเก่านางคงเชิญ ฝ่ายตรงข้ามกินเมล็ดบัวต้มไปนานแล้ว!
(กินเมล็ดบัวต้ม อุปมาว่า หยอดน้ำข้าวต้ม)

ทำไมถึงมีกฎวิปริตอย่างนี้ได้?

ทดสอบความสามารถเชิงยุทธ์จะต้องจับกระดูกทุกท่อนใน ร่างเลยหรือไง?

“นี่มันการกินเต้าหู้*ชัดๆ!” ซินเหยาต่อต้านอยู่ในใจ

(กินเต้าหู้ เป็นคำสแลงหมายถึง การแต๊ะอั๋งหรือลวนลาม ถูกเนื้อต้องตัว)

ถ้าหากตาหนวดแข็งผู้ที่ที่สัมผัสโครงกระดูกทั้งร่างของ นาง ชายวัยกลางคนกำยำสูงใหญ่ไม่ใช่ท่านลุงของนาง แล้วล่ะก็ นางคงจะจับเขาทุ่มข้ามไหล่ลงไปกินโคลน!

นอกจากนายท่านโจว์ พี่สี่ จัสเส้ากาง โจว์เส้าฉี โจว์เส้าหัว โจว์เส้าเหวินล้านพร้อมพรักกันที่ลาน ยังมีศิษย์สืบทอดและ ศิษย์สายนอกภายในตระกูลบางส่วนก็มารวมโจว์กันที่ลาน เพื่อรอคอยช่วงเวลาสำคัญ

คนที่คึกคักตื่นเต้นมากที่สุดเห็นจะเป็นโจวหยุนถึง

ตัวเขาเองไม่อาจฝึกยุทธ์ แต่เล็กจนโตล้วนได้รับการเย้ย หยันและถากถาง ถึงแม้เขาเป็นคุณชายสกุลโจว์ แต่เมื่อเดิน ออกไปผู้อื่นก็ชี้นิ้วใส่พากันตลกหัวร่อว่าเขาเป็นขยะ

โจว๋หยุนถึงทราบ ซินเหยาจะต้องเป็นผู้มีพรสวรรค์แน่นอน!

นางฉลาด งดงาม ดุจกับเทพธิดา โดดเด่นราวกับไม่ใช่ มนุษย์เดินดินบนโลก นางจะต้องมีพรสวรรค์เชิงยุทธ์ แน่นอน ในอนาคตนางจะต้องเป็นบุคคลผู้เก่งกาจที่สุดของ บ้านรองสกุลโจว! โจว๋หยุนถึงเต็มไปด้วยความคาดหวัง

เสียงดรุณีชุดเชียวนางหนึ่งแว่วขึ้นข้างกายโจว๋หยุนถึงก ล่าวว่า “ท่านพี่ ท่านหากมีความหวังมากเกินไปความผิดหวัง ก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น”

นางคือโจว หลัว เป็นลูกคนที่หก น้องสาวของโจวหยุ นถิงและพี่สาวของหรุง

เสียงแหบต่ำของโจว๋หยุนถึงยังคงไม่สามารถระงับความ ตื่นเต้นไว้ได้ “ไม่! ข้ามีลางสังหรณ์ น้องหญิงเล็กของพวก เราจะต้องเป็นอัจฉริยะอย่างแน่นอน! น้องหก พี่สี่หลายปีมา นี้มีแต่ความไม่เอาไหน ถูกรังแกก็ตั้งมาก ที่สกุลโจว๋วบ้าน รองของพวกเราตกอยู่ในภาวะที่ไม่อาจขัดขืน กำลังอำนาจ เปราะบางไร้ความแข็งแกร่ง ตลอดมานี้อาศัยเจ้าแบกรับ ความลำบากอยู่ผู้เดียว ยามนี้ได้พบเจอน้องหญิงเล็ก หลัง จากนี้นางสามารถช่วยเจ้าผ่อนแรงกดดัน นางสามารถทำให้ บ้านรองของพวกเราส่องประกายรุ่งโรจน์ได้!”

โจว์ปี้หลัวแค่นเสียงเย็น “นางจะได้เรอะ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ