ฮองเฮาผู้อำมหิต

ตอนที่3 สตรีโฉมงาม



ตอนที่3 สตรีโฉมงาม

ตอนที่3 สตรีโฉมงาม

ซินเหยาตื่นตัวกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ พบว่านอก เหนือจากห้องที่ตกแต่งย้อนยุคโบราณแล้ว นับได้ว่ามี ความสง่าหรูหรา อีกทั้งไม่มีบรรยากาศอันตรายใดๆอีก

นางพยายามนึกย้อนทบทวนว่าเหตุไฉนนางจึงมาอยู่ใน สถานที่แปลกประหลาดอย่างนี้ได้? แล้วอีกอย่างทำไม ร่างกายนางจึงปวดระบมและอ่อนแอเช่นนี้?

เพียงแต่ตราบใดที่นางพยายามใช้ความคิด ศีรษะก็จะ ปวดร้าวในทันที

“เฮ้!ฮัลโหล! มีคนอยู่มั้ย? ใครก็ได้มาช่วยอธิบายฉันที ว่าที่นี่คือที่ไหน?” ซินเหยาตะโกนเรียกเสียงดัง ทว่าไม่มี ใครตอบกลับนาง

จากด้านในห้องจะเห็นได้ว่านอกจากกำแพงชั้นในที่ แพทย์หลวงลงกลอนโลหะไว้แล้ว ไม่มีโทรทัศน์ ไม่มี คอมพิวเตอร์ แม้กระทั่งโทรศัพท์ก็ยังไม่มี! ไม่มีเครื่อง ใช้ไฟฟ้าหรือเฟอร์นิเจอร์ที่ทันสมัยอะไรเทือกนี้เลยสัก อย่าง! นางอยากจะติดต่อคนของนางแต่กลับจนปัญญา กล่องเครื่องมืออัจฉริยะสายลับก็ไม่พบเสียแล้ว……..

“ทำไมฉันมาอยู่ที่นี่ได้เนี่ย? แล้วทำไมพอฉันอยากจะนึกทบทวนถึงได้ปวดศีรษะขนาดนี้? ตกลงที่นี่มันคือ ที่ไหนกันแน่?…..

ปัญหาที่น่ากังวลซินเหยามีเป็นชุด แต่นางกลับจำอะไร ไม่ได้เลยเนี่ยนะ!

สิ่งที่นางจำได้อย่างชัดเจนก็คือตนคือใคร นางแค่จำไม่ ได้ว่าทำไมนางจึงมาอยู่ที่นี่ได้ แล้วแท้จริงเกิดเรื่องอะไร ขึ้นกันแน่?

ดูเหมือนว่าจะต้องใช้เวลาฟื้นตัวสักชั่วครู่ล่ะนะ

รอจนไม่มีอาการปวดศีรษะ ก็สมควรจะนึกออกบ้างสิน่า ไม่ว่าอย่างไรสิ่งแรกก็การหลบหนี แล้วค่อยคิดหาวิธีที่จะ ได้รับการติดต่อจากองค์กรอีกที

ซินเหยาถือโอกาสช่วงที่ไม่มีคนเห็น กระโดดหนีออกไป จากทางหน้าต่าง

ทว่าภายในห้องยามนี้แว่วเสียงของสตรีนางหนึ่งที่ส่ง เสียงครางสุขสมระคนเจ็บปวด…..

บนเตียงมังกรแสนวิจิตรตระการตา ใบหน้าแดงระเรื่อ ของหลี่เฟย*ทอดอยู่ใต้ร่างของมู่หรงฉู่ สุขเสียวซ่านจน แทบเจียนตาย
พลันเกิดเสียงดังขึ้น หลังคาถูกเปิดเป็นรูกว้าง สตรีนาง หนึ่งร่วงหล่นลงมาจากฟ้า

ยามนี้มู่หรงฉู่บนเตียงมังกรที่กำลังสุขสมอารมณ์ฮึกเหิม ทว่าทันใดนั้น…หลังคาก็ถูกเปิดทะลุกว้าง สตรีนางหนึ่ง

ตกลงมาจากฟ้าร่วงหล่นบนแท่นบรรทมมังกร!

“นักฆ่า! ช่วยด้วย!

ถูกเสียงร้องกรีดแหลมอันตื่นตระหนกของจนลี่เฟย ทำให้หมดอารมณ์ความใคร่!

ขันทีหลวงกลุ่มใหญ่ปรี่เข้ามาอย่างรวดเร็ว เห็นหลังคา ของพระราชวังแตกออก นึกไม่ถึงว่าบนแท่นบรรทมมังกร ยังเพิ่มสตรีประหลาดมาอีกหนึ่งคน ยามนี้ล้วนแตกตื่นลุก ลี้ลุกลน

มู่หรงฉู่รับสั่งแค่นเสียงเย็น “เงียบให้หมด!”

เช่นนี้แล้วเหล่าขันทีจึงเชื่อฟังโดยมิขยับ ไม่กล้าส่งเสียง แม้แต่น้อย
ร่างเปลือยเปล่าของหลี่เฟยราวกับอสรพิษที่เลื้อยอยู่บน แผ่นอกล่ำสันของมู่หรงฉี่ “ฝ่าบาท! หม่อมฉันตกใจแทบ ตายแล้ว!”

มู่หรงฉู่วาดเท้าเตะออก “ไสหัวไป!”

มู่หรงฉู่เย็นเยือกดุจเทพมรณะ ใบหน้าปกคลุมด้วย น้ำค้างแข็งราวกับหยกเย็น

นักฆ่าอุกอาจกล้าลอบสังหารถึงในพระราชวังเลยงั้น หรือ? มันที่แท้เป็นใครจึงได้ใจกล้าบ้าบิ่นเช่นนี้!

ทว่าเขาพบอย่างรวดเร็วว่านักฆ่านั้นประหลาดอย่างมาก

เนื่องด้วยนางทอดกายบนแท่นบรรทมมังกรโดยมิไหวติง ดูเหมือนจะสลบจนแน่นิ่งไปแล้ว

มู่หรงฉู่ฉุดดึงผ้าห่มออก ร่างสตรีผู้นั้นก็พลิกหงาย รูป ร่างหน้าตาสะสวย ใบหน้าเล็กๆทรงวงรีที่บอบบางและ ขาวซีด…กลับเป็นดรุณีงามนางหนึ่ง

นางสลบไปจริง

มู่หรงฉู่พบว่า “นักฆ่า” ที่แท้นั้นสลบเหมือดไปแล้วจริงๆ
“จะมีนักฆ่าโง่เง่าเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?” มุมปากเขายิ้ม เยาะ พลันนึกว่า ทำไมจึงมีคนร้ายรูปงามขนาดนี้ได้?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ