บทที่ 10 ทำตามที่คุณต้องการ
จมส์จับหน้าของเธอ แล้วแสยะยิ้ม
“เอมเฟ่ คุณกำลังล้อเล่นกับผมหรอ? อยากจะ แกล้งทำตัวน่าสงสารก็ควรจะมีลิมิตของมัน! สามี ของคุณเป็นนักธุรกิจหมื่นล้าน แต่ตอนหย่าคุณกลับ ไม่คิดจะเอาเงินสักบาท มาตอนนี้เข้าโรงพยาบาล แล้วยังคิดจะคืนเงินค่ารักษาอีก ยังบอกอีกว่าจะ ผ่อนชำระให้? คุณนี่มันนักแสดงหญิงยอดเยี่ยม จริงๆ ถ้าผมไม่รู้จักกับคุณมานานกว่าสิบปี ผมคงจะ โดนคุณปั่นหัวแล้วแน่ๆ”
เธอถูกเขาต่อว่าอีกแล้ว ครั้งนี้เขาบอกว่าเธอ กำลังหลอกเขา ทำเหมือนทุกเรื่องที่ผ่านมานั้น เธอ เอาแต่หลอกลวงเขา
แต่ว่า…..เมื่อกี้เขาแทนตัวเองว่า “สามี?”
ชีวิตคู่สองปีที่ผ่านมา เจมส์เคยเตือนเธอ ว่า อย่าคาดหวังกับการแต่งงานในครั้งนี้ อย่าคิดว่า หลังจากแต่งงานเขาจะกลายเป็นสามีของเธอ การ แต่งงานของเขาทำเพื่อรับผิดชอบต่อลูกในท้องก็ เท่านั้น
“ผมเป็นคนทำให้คุณป่วย ดังนั้นผมจะรับผิด ชอบค่ารักษาทุกอย่าง ส่วนเสื้อผ้าของคุณผมสั่งให้คนไปซื้อแล้ว เดี๋ยวก็คงส่งมาให้ ตอนนี้ผมจะถาม คุณเป็นครั้งสุดท้าย คุณต้องการอะไร? คิดให้ดีแล้ว ค่อยตอบคำถามผม! ในฐานะที่เราเคยรู้จักกัน ผม จะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย ”
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ถึงแม้ว่าคำพูดของเจมส์จะ ยังคงเหมือนมีดที่กรีดแทงหัวใจ แต่มือที่บีบหน้าของ เธอไว้นั้น มีช่วงสั้นๆที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น
“ไม่ว่าอะไรที่ฉันต้องการ คุณก็จะให้ทั้งนั้นใช่
ไหมคะ?”
เอมเฟ่ในตอนนี้แทบจะไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว ทุก ครั้งที่เล่นสงครามประสาทกับเขา คนที่แพ้ก็เป็นเธอ เสมอ
คำถามของเอมเฟ่ ทำให้เจมส์เงียบไปสักพัก “ใช่ ขอแค่คุณกล้าบอก ผมก็กล้าให้”
“ได้ค่ะ ฉันต้องการจะหย่า และหวังว่าคุณจะ ส่งใบหย่าที่เซ็นแล้วมาให้ฉันภายในหนึ่งสัปดาห์ ฉัน ไม่ต้องการอะไรจากคุณนอกเหนือจากนี้ ขอให้คุณ รักษาสัญญาด้วยนะคะ สา…..มี!
ขอเพียงแค่ครั้งเดียว แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ในเมื่อทุกอย่างเดินมาจนถึงตอบจบแล้ว เธอขอเรียก เขาว่าสามีแค่ครั้งเดียว
เอมเฟ่สั่นไปทั้งตัว ไม่รู้ว่าเพราะความเจ็บ ปวดที่เธอคอยอดทนมาโดยตลอดหรือเพราะอะไร เหมือนกัน หรืออาจจะเป็นเพราะมือของเจมส์สั่น ตอนนี้เอมเฟ่หลับตาลง เธอเตรียมใจเอาไว้เพราะ คิดว่าเจมส์คงต้องตบหน้าตนแน่ๆ
แต่สิ่งที่เธอคาดไม่ถึงนั้น คือเจมส์กลับคลาย มือ เขาคลายเนคไทของตนเองออก เหมือนว่าตอน นี้กำลังหายใจไม่สะดวก
“เอมเฟ่ ผมจะทำตามความต้องการของ คุณ! หวังว่าคุณจะไม่เสียใจกับการตัดสินใจของ ตนเอง! ” เจมส์ไม่แม้แต่จะปลายตามองเธอ แล้ว เดินออกไป
สองปีที่พยายื้อเขาเอาไว้ วันนี้ทุกอย่างจบลงแล้ว
เอมเฟ่ขาอ่อนแล้วนั่งลงไปกับพื้น เธอนั่งอยู่ นาน จนคนของเจมส์ส่งเสื้อผ้ามาให้
เธอรีบเปลี่ยนชุด แล้วขอใบรับรองแพทย์ จากนั้นก็รีบเข้าบริษัททันที
เป็นไปตามที่เธอคิดเอาไว้ เพราะเธอขาดงาน ติดต่อกันสามวัน ฝ่ายบุคคลจึงหักเงินเดือนของเธอ แต่โชคดีที่เธอมีใบรับรองแพทย์ทำให้รอดวิกฤตนี้ ไปได้
เพียงแต่บริษัทต้องการที่จะให้เธอฝึกงานสาม เดือนใหม่อีกครั้ง และปรับลดเงินเดือนของเธอ เหลือเดินละหนึ่งหมื่นบาท….ทำให้เอมเฟ่น้ำตาแทบ ตก แต่เธอก็พยายามมองโลกในแง่ดี เพราะอย่าง น้อยเธอก็ไม่ตกงาน
หลังจากเลิกงาน ระหว่างที่เธอกำลังเดินคิด อยู่ว่าจะผ่านสามเดือนนี้ไปได้ยังไง จู่ๆก็มีคนแจก ใบปลิวให้เธอ ซึ่งบนใบปลิวนั้นกำลังรับสมัครงานอยู่ พอดี
เวลานั้น ดวงตาของเอมเฟ่เปร่งประกาย เธอจึง รีบกรอกใบสมัครแล้วเอาไปหย่อน
เอมเฟ่กลับมาถึงห้องที่ว่างเปล่า เธอกำลังจะ หยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดโทรหาติง แต่พึ่งรู้ตัวว่า โทรศัพท์อยู่ที่เจมส์
เธอจึงใช้โทรศัพท์บ้านโทรหา หลังจากที่ติงรู้ ว่าคนที่โทรหาเธอคือเอมเฟนั้น ติงก็ร่ายยาว…..
ถึงแม้ว่าจะฟังไม่เข้าใจว่าเธอกำลังพูดอะไร แต่ น้ำเสียงสะอื้นและเป็นห่วงนั้นทำให้เอมเฟรีบขอโทษ เพื่อนรัก ขอโทษที่หลายวันมานี้ไม่ได้ติดต่อหาติง เลย
หลังจากที่คุยกับติงแล้วนั้น เอมเฟ่รู้สึกว่า ตนเองโชคดีจริงๆ ที่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยได้รู้จัก กับเพื่อนที่ดีแบบนี้
แต่คนที่เธอรู้สึกขอบคุณที่สุด ก็หนีไม่พ้นคุณ ลุงขายาวที่ทำให้เธอได้มีโอกาสเรียนมหาวิทยาลัย
ตั้งแต่เรียนจบ เขาก็ติดต่อกับเธอน้อยลง หรือ บางทีอาจจะเป็นเพราะเธอยุ่งมาก เธอยุ่งกับการหา งานทำ ยุ่งกับการคอยเดินตามหลังเจมส์…..เธอยุ่ง กับการแต่งงาน และยุ่งกับการหย่า
ในค่ำคืนที่เงียบเหงานี้ จู่ๆเอมเฟ่ก็รู้สึกคิดถึง คุณลุงขายาว คนที่คอยสนับสนุนเธอทุกอย่าง แต่ เธอไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อน
มนุษย์เรานั้นแปลกจริงๆ มักจะคิดถึงคนที่ดีกับตนในวันที่ตนโดดเดี่ยวเท่านั้น
“ท่านประธานคะ นี่คือเอกสารที่ทนายส่งมาให้ ค่ะ”
ณ ชั้น29 ของตึกสูงใหญ่ใจกลางเมือง เป็นห้อง ทำงานของเจมส์ ตอนนี้เขากำลังอ่านเอกสารที่เลขา เอามาให้ด้วยสีหน้าเรียบเฉย
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ