อย่าชนนะนาย!

ตอนที่ 36 พี่ไม่น่ารีบออกจากโรง พยาบาลเลย



ตอนที่ 36 พี่ไม่น่ารีบออกจากโรง พยาบาลเลย

ไม่อาจรับคำปฏิเสธจากเธอได้

และก็ไม่มีทางจะมองข้ามไปได้

สังหรณ์ของเขาแม่นมาก

เจอคนแบบนี้ครั้งแรกในชีวิตสำหรับเธอแล้ว ยากเกินจะ รับไหว แอบไม่รู้ว่าจะจัดการยังไง

ดื่มน้ำในมือจนหมด เธอหมุนตัววางแก้วลงแล้วหยิบมือ ถือขึ้นมาเดินตรงไปยังห้องนอน

พูดไว้แล้วว่าวันนี้จะเริ่มต้นใหม่ งั้นเธอก็ต้องทำตัวให้เข้ม แข็ง ชีวิตครั้งที่สองนี้จะไม่ปล่อยให้ตัวเองตกที่นั่งลำบากแบบ นั้นอีกแล้ว

รุ่งเช้าของวันที่ถัดมา วันจันทร์

โฟล์คสวาเกน พาสสาท ซีซี คันสีดำค่อยๆ เคลื่อนตัวบน ถนนที่มุ่งหน้าไปยังอาคารใหญ่ของสกุล

ฝนที่ตกตลอดทั้งวันของเมื่อวาน ทำให้อากาศในวันนี้ปลอดโปร่งขึ้นมาก

เงินฝานซิงลดหน้าต่างข้างที่นั่งคนขับลง แขนข้างหนึ่งเท้า กับหน้าต่างรถเอาไว้ ส่วนอีกข้างบังคับพวงมาลัยอย่างมั่นคง

เธอสวมถุงมือสีดำ คู่บาง เสื้อกันลมสีคาราเมลห่อหุ้มร่าง อันผอมบางเอาไว้ เส้นผมสีดำนุ่มอยู่หลังศีรษะ ท่าที่ผ่อนคลาย สุขุมมีภูมิฐาน

ความเรียบเฉยบนใบหน้าไม่สื่ออารมณ์ใดๆ แม้แต่น้อย ทว่าความดุดันจากนัยน์ตานิ่งเฉย เพิ่มความน่าเกรงขามและ ท่าทางอวดดี

รถค่อยๆ เทียบเข้าใกล้ตัวอาคารใหญ่ของสกุลซู เธอเปิด หน้าต่างรถสองมือหักพวงมาลัยค่อยๆ เลี้ยวเข้าไปจอดในลาน จอดรถ

ตอนที่เธอเพิ่งจะคว้ากุญแจและกระเป๋าลงมาแล้วปิดประตู

เสียงแตรรถก็ได้แผดดังท่ามกลางโรงรถใต้ดินอันกว้างขวาง

เธอชะงักฝีเท้าลง หมุนตัวหันไปมองโรลส์ – รอยซ์มอเต อร์คาร์สของซูเทิงที่วิ่งเฉียดร่างของเธอไปจอดอยู่ ณ ที่จอดรถ ไม่ห่างออกไปมานัก

ต่อมาคือภาพของซูเทิงที่รีบกระโดดลงมาจากรถเดินไป เปิดประตูที่นั่งตรงข้างคนขับแล้วยื่นมือออกไป จากนั้นมือขาว อ่อนนุ่มงดงามก็ยื่นมาวางลงบนมือของเขา

เฉินเชียนโหรว ในชุดเดรสผ้าสักหลาดกันหนาวตัวเล็กของชาแนลก้าวลงมาจากรถ

เรือนผมสีซาน จัดแต่งมาอย่างดีสยายปรกหน้า บน

ใบหน้าเล็กแต่งเติมอย่างธรรมชาติดูพิถีพิถัน เธอยืนอยู่ที่เดิม เหลือบมองมองซูเหิงที่เผลอหลุดยิ้มอ่อนหวานออกมา นัยน์ตาของเธอค่อยๆ วูบไหวอย่างไม่มีทีท่าจะหยุดลง

เธอหันกายมุ่งตรงไปยังโถงลิฟต์

“ฝานชิง”

เดินได้ไม่ถึงสองก้าว ซูเทิงก็เอ่ยเรียกเธอ

เธอไม่ยอมหยุด ทั้งมุ่งตรงไปยังหน้าประตูลิฟต์ยกมือขึ้น กดลงบนปุ่มกดอย่างว่องไว

ซูเทิงและเฉินเซียนโหรวเดินตามเธอเข้ามาหยุดอยู่ข้าง หลัง เสียงของซูเห่งดังขึ้นอีกครั้ง

“ผ่านซิง เธอออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่

เห็นบอกฉันสักคำ

เฉินฝานซึ่งไม่แม้จะหันไปมอง ยังคงหันหลังให้แก่ทั้งสอง

ในใจมีแต่ความเย็นชาและถากถาง

“เราเป็นอะไรกันงั้นเหรอ แล้วฉันจะบอกนาย ในฐานะอะไร”

เขาสีหน้าเคร่งขรึม ดวงตาลึกล้ำฉายแววอึดอัดและสับสน

เฉินเซียนโหรวที่ได้เห็นท่าทางของเขา ก้มหน้าลงขบริมฝีปากเบาๆ แล้วค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองตาเพิ่ง

สังเกตเห็นแววตาน้อยใจและอ่อนไหวของหญิงสาวข้าง กาย เขาจึงดึงสติกลับมาได้ ก้มหน้าลงยิ้มปลอบใจ

เฉินเซียนโหรวผ่อนคลายลง ต่อหน้าเพิ่งเธอเอ่ยขึ้นกับ แผ่นหลังของเฉินฝานซิงอย่างตะกุกตะกัก

“พี่คะ ว่ายน้ำไม่เป็น จมอยู่ในน้ำก็ตั้งนาน ไม่ควรจะรีบ

ออกจากโรงพยาบาลนะคะ

เงินฝานซิงค่อยๆ ดำดิ่งลงสู่ความเยือกเย็น

ว่ายน้ำไม่เป็น จมอยู่ในน้ำตั้งนาน

คนอื่นฟังไม่ออก แล้วเธอต้องฟังไม่ออกด้วยเหรอ เฉินเซียนโหรวคงอยากจะเตือนสติเธอจนแทบทนไม่ไหว….

รู้ทั้งรู้ว่าเธอว่ายน้ำไม่เป็นซูเทิงยังเลือกที่จะช่วยเฉินเซียน โหราขึ้นมาก่อนอย่างไม่ลังเล ไม่ใช่เธอ

นาทีที่ต้องเลือกว่าจะให้ใครอยู่หรือตาย เพียงพอที่จะ ทำให้เห็นว่าคนที่ถูกทิ้งนั้นช่างน่าสมเพชและเวทนาเพียงใด เรื่องนี้มันข้ามผ่านไปไม่ได้ง่ายๆ แค่เริ่มก็ยากแล้ว แต่ นึกเหรอว่าเธอจะจมปลักกับเรื่องนี้ไปตลอดชีวิตเหรอ แล้วนึกว่าคนอย่างเฉินฝานซึ่งขาดซูเทิงแล้วจะอยู่ไม่ได้?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ