อย่าชนนะนาย!

ตอนที่ 14 ดึงตัวเองขึ้นมาจาก สถานการณ์ที่ยากล่ามาก



ตอนที่ 14 ดึงตัวเองขึ้นมาจาก สถานการณ์ที่ยากล่ามาก

เงินฝานซึ่งอมยิ้มมองต่ำ

จนถึงตอนนี้แล้วเขายังคิดว่าจะทำให้เธอกลัวด้วยการ

ระเบิดอารมณ์ใส่เธออยู่อีกเหรอ รองเท้าที่เล็กกว่าเท้าไปหนึ่งเบอร์ใส่ให้ซินก็ไม่รู้สึกเจ็บ

แล้ว

ถ้อยคำบางคำได้ยินบ่อยๆ เข้าก็ไม่สะทกสะท้านได้ เหมือนกัน

“ไม่ได้เตือนคุณกรรมการเฉินมานานแล้ว ยังไงซะครั้งนี้ คนที่ให้กำเนิดคุณที่เป็นพ่อของเด็กเหลือขออย่างฉันออกมายัง อยู่ตรงหน้านี้ คุณไม่กลัวว่าจะโดนไม้เท้าในมือนั่นจะฆ่าคุณเอา เหรอ”

เฉินเมื่อผ่านอึ้งสนิท ไม่ตอบโต้ไปพักหนึ่ง คำพูดเล่นลิ้น ของเฉินฝานซิงแท้จริงแล้วต้องการจะสื่ออะไรกันแน่ เขาแอบ ทบทวนอย่างเงียบๆ ในใจก่อนที่ประสาทการรับรู้จะกลับมา อย่างสมบูรณ์อีกครั้ง

เมื่อคิดได้ว่าตัวเองถูกเธอในหัวเข้าให้แล้วใบหน้าก็แสดง ความเกรี้ยวกราดออกมาอย่างเห็นได้ชัด
เขายกมือขึ้นหน้าเฉินผ่านชิง “ฉันเสียดายที่ฉันไม่เอา เถ้ายัดปากแกให้ตายๆ ไปตั้งแต่ที่แรก! จะได้ตัดปัญหาที่แก ชอบท่าเรื่องขายหน้าให้เสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล

เฉินฝานซึ่งยิ้มเย็น “เสื่อมเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล? ตระกูล เฉินมีชื่อเสียง ให้เสื่อมเสียด้วยงั้นเหรอ บีบบังคับภรรยาที่ร่วม หัวจมท้ายมาด้วยกันจนตาย แล้วไปสู่ขอผู้หญิงที่สวย รวย ขาวมาเป็นเมีย ถ้าการประจบสอพลอและความหลงในอำนาจ เงินเรียกว่าชื่อเสียงวงศ์ตระกูลได้ละก็บ้านตระกูลเฉินก็คงเรียก ได้ว่าเป็นจ้าวแห่งวงการ

“แก…กล้าดียังไง!

เฉินเมื่อผ่านถูกยั่วโมโหจนแทบคลั่ง ไม่คิดไม่ฝันมาก่อน ว่าลูกสาวที่ดูเย็นชาไม่ยี่หระอย่างนี้ จะกล้าพันคำพูดที่ส่อความ เนรคุณแบบนี้ออกมาได้

“พอได้แล้ว!”

เจียงหรงทรงปรามขึ้น เฉินเมื่อผ่านโมโหจนขบฟันกรอด แต่กลับโดนหยางเวยรั้งแขนเอาไว้แน่น

เฉินฝานซิงตีหน้าเรียบต่อหน้าคนเหล่านี้แม้แต่ยิ้มที่เงียบ เย็นเธอก็ไม่อยากจะแสดงให้เห็น

“นึกว่าการไปอยู่เมืองนอกตั้งหลายปีจะช่วยดัดนิสัยแกได้ บ้าง ที่ไหนได้นึกไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าแกจะเป็นหนักยิ่งกว่าเมื่อ ก่อนเสียอีก”
เจียงหรงทรงพูดขึ้นพร้อมทั้งแววตาที่ลุกโชน เธอตรงเข้า มาใกล้เตียงผู้ป่วยทีละก้าวทีละก้าว

“ดูเหมือนพวกคุณคงยังไม่รู้ฉันกลับมาจากต่างประเทศได้ สามปีแล้ว” เจียงโหรว โหราหยุดนิ่งตรงหน้าเธอ สิ้นประโยคสุดท้าย

ของเฉินผ่านชิงเสียงไม้เท้าในมือก็ได้ดังขึ้น

เสียงกระเบื้องและไม้กระทบกัน สื่อให้คนบนเตียงคนไข้ ได้รับรู้ถึงความไม่สบอารมณ์

“ฉันเคยคิดว่าจะขัดเกลาความร้ายกาจผิดมนุษย์ของแก ได้ แต่ดูเหมือนเวลาสามปีคงจะยังน้อยไป

ในที่สุดเฉินผ่านซึ่งก็เกิดหน้าตวัดสายตามองเจียงทรงทรง แล้วหยุดกายขึ้นในชั่วพริบตา ถึงแม้ว่าร่างกายจะผ่ายผอมแต่ ทว่ากลับสูงสง่า คนที่ถูกมองเหยียดลดสายตาลงมองเจียงทรง ทรงที่มีส่วนสูงที่เสียเปรียบเธอ

เจียงหรงทรงใบหน้าเงื่อนไปในทันที

เธอเกลียดท่าทีที่เต็มไปด้วยความหยิ่งผยองและจองหอง เฉินฝานซิง

เหมือนแม่ของเธอไม่มีผิด ความก้าวร้าวแบบนั้นราวกับว่า มันไหลเวียนอยู่ในสายเลือดของพวกเธอตั้งและกำเนิดและจะ ไม่มีวันจางหาย

“ทำไม จะไล่ฉันไปซูดานอีกเหรอ?”
แม้ใบหน้าจะเย็นชาไร้อารมณ์ แต่ภายในใจกลับรู้สึก หนาวเหน็บ

หกปีก่อน เธอถูกคนพวกนี้จับส่งไปยังประเทศที่ล้าหลัง ทางเศรษฐกิจและมีสังคมสิ่งแวดล้อมที่เลวร้ายอย่างเช่น ประเทศซูดาน โดยไม่สนใจคำทัดทานอะไรทั้งนั้น หลังจากนั้น ก็ไม่เคยไปดู ดูดีเธออีกเลย!

นี่คือสมัยนี้ หากเป็นเมื่อก่อนก็ไม่ต่างอะไรกับการถูก

เนรเทศ!

ถ้ารอดก็ถือว่าโชคดีไป แต่ถ้าตายก็ช่วยไม่ได้ ถึงขนาดที่

ว่าต่อให้ตายก็ไม่มีใครรู้ไม่มีใครสน

หากไม่ใช่ว่าตัวเองเป็นลูกในไส้ของเฉินเต๋อฝาน เธอก็คง คิดว่าตัวเองเป็นศัตรูคู่อาฆาตของเขา

เพื่อเฉินเซียน โหรวคนเดียว พวกเขาก็แทบจะรุมกัน เหยียบเธอให้จมดิน

จะให้เธออ่อนข้อให้ได้ยังไงกัน

ชีวิตของเธอจะไม่ยอมตกเป็นลูกไก่ในกำมือคอยให้คน พวกนี้เหยียบย่ำได้ตามอำเภอ

ต้องขอบคุณที่พวกเขาทำให้เธอรู้ว่าจะต่อสู้ในศึกที่ยาก ลำบากนี้ได้ยังไง

และก็ต้องขอบคุณในความไม่แยแสของพวกเขาที่ทำให้ ถึงแม้เธอจะจากซูดานมาแล้วแอบหนีไปฝรั่งเศสด้วยตัวเองพวกเขาก็ยังไม่รู้

และยิ่งไม่ทางรู้ว่าสามปีที่ฝรั่งเศสของเธอนั้นเธอได้ทำอะไรไว้บ้าง…


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ