บทที่ 4 ฉันแต่ง
ตามที่คาด ทันทีที่เข้าไปในห้องโถงก็เห็นความยุ่งเหยิง
เศษแก้วกระจัดกระจายไปทั่วพื้น กลิ่นไหม้ยังคงอบอวล ในอากาศ
เถียนจิ้งเห็นเถียนโม่เซียนพ่อของเธอยืนหันหลังให้ประตู ยืนอยู่ที่หน้าต่างกระจกบานยาว
ภายใต้ดวงอาทิตย์ เธอเห็นผมสีขาวของพ่อดูเหมือนจะ เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
เธอเดาได้ว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นบ้าง ก้าวเข้าไปถามแผ่ว เบา “คุณพ่อคะ คุณโอเคไหมคะ”
เถียนโม่เซียนได้ยินเสียงของลูกสาว แต่กลับไม่ได้หัน กลับมาทันที
หยูจิงหยิงค่อนข้างกังวลล่วงหน้า เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง “เกิดอะไรขึ้น มีใครเข้ามาที่บ้านเหรอ มีปัญหาอะไร”
เหอลี่หย่านั่งอยู่บนโซฟาพร้อมกับยาทาเล็บด้วยท่าทีที่ ค่อนข้างพึงพอใจ “จะใครซะอีกล่ะคะ ใช้จมูกคิดยังคิดออก เลย เมื่อครู่ตระกูลโม่เพิ่งจะมาถอนหมั้นน่ะสิ”
เหอหย่าเป็นภรรยาคนที่สองของเถียนโม่เซียน เป็น ภรรยาน้อยคนที่สองของตระกูลเถียน และก็เป็นแม่เล็กของเถียนจิ้ง ซึ่งที่จริงแล้วแก่กว่าเถียนจึงไม่กี่ปี สิบปีของการ แต่งงานเข้ามา ด้วยเพราะได้รับความโปรดปรานเป็นพิเศษ จากเถียนโมเซียนจึงค่อนข้างเหิมเกริม ระหว่างนัยยะ แสดง ท่าเย้ยหยันอย่างคนเป็นใหญ่ในบ้าน
คําพูดของเธอ เถียนจิ้งได้ฟังแล้วรู้สึกผิด แต่เดิม เธอกับ โม่ลี่ฮ่าวต่างเหมาะสมกันมากเป็นกิ่งทองใบหยก พ่อก็มี ความสุขมาก เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกลัวว่าพ่อจะเสียใจและผิด หวัง
เธอเดินไปข้างหน้า ส่งเสียงเล็ก “คุณพ่อคะ เมื่อครู่ตระกูล โม่คงพูดในสิ่งที่เลวร้ายมากแน่ หนูทำให้คุณพ่อผิดหวัง”
เถียนโม่เซียนรักและเอ็นดูลูกสาวเสมอ เขาถอนหายใจ มองดูลูกสาว เขาถามด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “เด็กโง่ พ่อไม่ สนใจสิ่งที่คนอื่นพูดหรอก พ่อสนใจแค่ความสุขของหนู เดิม ที่พ่อหาลี่ฮาวเด็กคนนั้นมาให้หนูเพราะรู้สึกว่าเหมาะกับหนู สามารถทำให้หนูมีความสุขได้ ใครจะรู้ว่าจะเกิดเรื่องแบบ นี้ขึ้น วันนี้พ่อเห็นภาพของหนูถูกนักข่าวรุมล้อมที่ประตูโรง พยาบาลทางทีวี ที่คุณชายรองซูพูดเป็นความจริงใช่ไหม เด็กในท้องของหนูเป็นของเขาเหรอ”
เถียนจิ้งสีหน้าซีดขาว ส่ายหน้าแล้วพูดออกมาตามตรง “ไม่ใช่ค่ะ เขาแค่ออกหน้าช่วยฉัน”
เหอลี่หย่าอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย “ดูไม่ออกเลยนะว่า ดอกไม้งามจิ้งจิ้งจะมีผู้คุ้มครองมากมาย เรื่องอื้อฉาวทั้งหมด ที่เกิดขึ้นยังอุตส่าห์มีเหลยเฟิง (เหลยเฟิงเป็นแบบอย่างบุคคลที่อุทิศตนเพื่อประชาอย่างสุดจิตสุดใจที่คนจีนทุกคน รู้จัก เขาช่วยเหลือผู้อื่นอย่างเต็มที่ตลอดชีวิตที่ไม่ยาวนัก ของเขา) ออกมาช่วยแบกหม้อด่างั้นเหรอเนี่ย ลูกชายคน ที่สองของตระกูลซูคนนี้มีสมองยาวหรือไง หรือว่าเขาเลี้ยง ปลาเอาไว้ในสมอง
หยูจิงหยิงทนฟังไม่ไหวอีกต่อไป “ลี่หย่า พูดให้น้อยลง หน่อย เธอคิดว่าบ้านหลังนี้ยังยุ่งเหยิงไม่พอเหรอ”
ด้วยเพราะได้รับความโปรดปราน เหอลี่หย่าจึงไม่ใส่ใจกับ สิ่งที่เธอสมควรได้รับเลยสักนิด ยังพูดอย่างเย็นชา “ฉันพูด ความจริง!”
หยูจิงหยิงไม่สนใจเธอ ก้าวไปข้าวหน้าและพูดแผ่วเบา “ถึงแม้ว่าเด็กจะไม่ใช่ของคุณชายรองซู แต่คุณชายรองซูบ อกว่าจะแต่งงานกับจิ้งจิ้งของเรา และจะยอมรับว่าเด็กคนนี้ เป็นของเขา”
มีความประหลาดใจในดวงตาสีเข้มของเถียนโม่เซียน แล้ว จากนั้นเขาก็ตื่นเต้น “เป็นความจริงเหรอ
ไม่นาน เขาก็ลดความตื่นเต้นลงมาและตบไหล่ของ ลูกสาว “จิ้งจิ้ง ลูกคิดว่ายังไง พ่อตามใจลูก เพราะฉะนั้นพ่อ จึงสนับสนุนสิ่งที่หนูเลือกตัดสินใจ หนูไม่เต็มใจแต่งก็ไม่ ต้องแต่ง เรื่องอื้อฉาวก็ไม่สำคัญ สำหรับเด็กในท้องของ หนู ถ้าหนูคลอดเมื่อไหร่ พ่อก็ยินดีที่จะเลี้ยงลูกของหนูด้วย เวลาจะช่วยเยียวยาทุกอย่างเอง”
บุคคลที่อุทิศตนเพื่อประชาอย่างสุดจิตสุดใจที่คนจีนทุกคน รู้จัก เขาช่วยเหลือผู้อื่นอย่างเต็มที่ตลอดชีวิตที่ไม่ยาวนัก ของเขา) ออกมาช่วยแบกหม้อด่างั้นเหรอเนี่ย ลูกชายคน ที่สองของตระกูลซูคนนี้มีสมองยาวหรือไง หรือว่าเขาเลี้ยง ปลาเอาไว้ในสมอง
หยูจิงหยิงทนฟังไม่ไหวอีกต่อไป “ลี่หย่า พูดให้น้อยลง หน่อย เธอคิดว่าบ้านหลังนี้ยังยุ่งเหยิงไม่พอเหรอ”
ด้วยเพราะได้รับความโปรดปราน เหอลี่หย่าจึงไม่ใส่ใจกับ สิ่งที่เธอสมควรได้รับเลยสักนิด ยังพูดอย่างเย็นชา “ฉันพูด ความจริง!”
หยูจิงหยิงไม่สนใจเธอ ก้าวไปข้าวหน้าและพูดแผ่วเบา “ถึงแม้ว่าเด็กจะไม่ใช่ของคุณชายรองซู แต่คุณชายรองซูบ อกว่าจะแต่งงานกับจิ้งจิ้งของเรา และจะยอมรับว่าเด็กคนนี้ เป็นของเขา”
มีความประหลาดใจในดวงตาสีเข้มของเถียนโม่เซียน แล้ว จากนั้นเขาก็ตื่นเต้น “เป็นความจริงเหรอ
ไม่นาน เขาก็ลดความตื่นเต้นลงมาและตบไหล่ของ ลูกสาว “จิ้งจิ้ง ลูกคิดว่ายังไง พ่อตามใจลูก เพราะฉะนั้นพ่อ จึงสนับสนุนสิ่งที่หนูเลือกตัดสินใจ หนูไม่เต็มใจแต่งก็ไม่ ต้องแต่ง เรื่องอื้อฉาวก็ไม่สำคัญ สำหรับเด็กในท้องของ หนู ถ้าหนูคลอดเมื่อไหร่ พ่อก็ยินดีที่จะเลี้ยงลูกของหนูด้วย เวลาจะช่วยเยียวยาทุกอย่างเอง”เคารพผู้อื่นเขาปฏิบัติกันยังไง”
เหอ หย่าตกตะลึงกับท่าทีเย็นชาของเธอ หลังจากสะดุด ไปครู่หนึ่งก็พูดว่า “สายตาแบบนั้นของเธอคืออะไร จะกิน คนรึไง ฉันแค่พูดความจริง เธอต้องดุร้ายขนาดนี้เลยเหรอ”
เถียนจิ้งไม่อยากเถียงกับเธอ แต่ตอนนี้เธอมากวนน้ำให้ ข่นเข้าไปอีก เธอจึงต้องผสมโรงไปกับเธอเท่านั้น ความ โมโหแข็งแกร่งขึ้น ดวงตาของเธอส่องประกายแสงวาบ พลางยิ้มเยาะ “มีบางอย่างที่เดิมทีฉันไม่อยากจะพูด ไม่ใช่ ว่าพยายามปกป้องคุณ แต่ไม่อยากเพิ่มความอึดอัดใจให้ คุณพ่อ คุณหาเรื่องเอง ในเมื่อคุณชอบพูดความจริงมาก นัก ทำไมคุณไม่บอกคุณพ่อล่ะว่านักข่าวที่หน้าประตูโรง พยาบาลวันนี้คุณเป็นคนหาเข้าไป
ในห้องโถงพลันเงียบสงัดลง บรรยากาศกด หดหู่ลง เหมือนความตาย
หลังจากทีเหอ หย่าได้สติตอบสนอง สีหน้าก็กลายเป็นสี แดง แผดเสียงออกมาโดยจิตใต้สำนึก “นังแพศยา เธอเห็น ด้วยตาตัวเองหรือไงว่าฉันเป็นคนหานักข่าวเข้าไป ทำไม เธอปรักปรําฉันขนาดนี้ ตั้งใจทำให้ฉันอับอายงั้นเหรอ”
แล้วจึงแสร้งพูดทำเป็นให้เถียนไม่เซียนสงสาร “ที่รัก คะ คุณก็ไม่สนใจลูกสาวของคุณเลย ทำเป็นใหญ่คับบ้าน ปากมากไม่หยุด เธอ…”
เถียนจิ้งก้าวขึ้นมายืนต่อหน้าเธอกับพ่อ สำนวนงดงามทุกนํา “คุณไปหานักข่าวที่เป็นบริษัทเดียวกับน้องสาวของฉัน ข้อมูลนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วบริษัทของพวกเขาแล้ว อยาก ให้ฉันโทรหาน้องสาวเพื่อพิสูจน์ไหมล่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันจะ โทรตอนนี้เลยเอาไหม
เธอแกล้งทําเป็นเอาโทรศัพท์มือถือออกมาและเริ่มกดโทร ออก
ที่จริงแล้วเธอไม่มีน้องสาวเลย รอบนี้ สิ่งที่เธอเล่นกับเหอ ลี่หย่าเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยา
เธอแสร้งทําเป็นว่าเป็นความผิดของเหอ หย่า แล้วก็เป็น ไปตามที่คาด เธอด่าด้วยความโกรธ “เธอบ้าไปแล้วเหรอ ฉันไม่เข้าใจว่าเธอพูดถึงอะไร ไม่สมเหตุสมผลเลย!”
เมื่อพูดจบก็หันกลับเข้าไปในห้องแล้วยังกระแทกประตูปิด และได้แสดงสีหน้าให้ทุกคนเห็นแล้ว
เถียนจิ้งรู้ว่าพ่อเอ็นดูเธอ การโวยวายใหญ่โตไม่ใช่เรื่อง ดี ยังไงก็เป็นคนในครอบครัว เธอไม่อยากให้พ่อลำบากใจ กดหัวคิ้วเบาๆแล้วเก็บโทรศัพท์มือถือไป หันไปข้างบนเพื่อ ดูข่าวการเงิน หลังจากดูข่าวแล้วก็โทรหาเลขาฯของพ่ออีก ครั้งเพื่อยืนยันว่าบริษัทมีปัญหาจริง เธอผ่อนลมหายใจหนัก กัดริมฝีปากเศร้าโศก บริษัทมีปัญหาเรื่องเงินทุนหมุนเวียน ทำไมเธอถึงไม่เคยสังเกตเห็นเลย
ไม่สงสัยเลยว่าทำไมช่วงนี้สีหน้าคุณพ่อดูแย่ลง อารมณ์ ร้อนขึ้นทุกวัน
ในตอนที่เธอกำลังรู้สึกแย่และโทษตัวเอง เสียงโทรศัพท์ มือถือก็ดังขึ้น มันเป็นเบอร์แปลกที่ส่งข้อความเข้ามา
เนื้อหาของ SMS เป็นเผด็จการที่เกินความคาดหมาย อย่างมาก “ฉันคือซูยี่ คิดให้ดีแล้วตอบกลับฉัน!”
ในตอนนั้นเองได้มีเสียงทะเลาะกันข้างล่าง…
ตอนนี้เธอยืนอยู่ที่หน้าต่างเห็นเหอลี่หย่ากำลังอารมณ์ เสีย ดูเหมือนจะหนีออกจากบ้าน มันเป็นปกติวิสัยของเธอ ทุกครั้งที่ทะเลาะกับคุณพ่อก็จะหนีออกจากบ้าน
และพ่อก็รักเธอ คอยโน้มนาวเธอครั้งแล้วครั้งเล่า เอาแต่ ตามใจเธอ
ในตอนนี้เธอโกรธจนสะบัดหลุดออกจากคนรับใช้ที่จับ ไว้ “ฉันทำอะไรผิดเหรอ ถ้าไม่ใช่ฉันที่เป็นคนเรียกพวกนัก ข่าวมา คุณชายรองตระกูลซูจะตกลงแต่งงานกับเถียนจิ้ง ได้ยังไง ที่ฉันให้เถียนจิ้งแต่งงานกับคุณชายรองตระกูลซูมี อะไรไม่ถูก เธอเสียสละแค่คนเดียวแต่ช่วยเหลือเราได้ทั้ง ครอบครัว มีอะไรที่ผิดอีก อ้อ แต่ว่า ไม่สามารถพูดได้ว่าเธอ เป็นผู้เสียสละ คุณชายรองตระกูลซูที่จะแต่งงานกับเธอนั่น ต่างหากที่เสียสละ…
เมื่อพูดจบก็ขึ้นรถและขับออกไปทันที
เถียนโม่เซียนกังวลว่าภรรยาจะเกิดอุบัติเหตุจึงขับรถตาม
ไป
บ้านหลังนี้ มันยุ่งเหยิงไปหมด
เถียนจิ้งยืนกอดอกอยู่ที่หน้าต่าง ลมพัดเย็นเฉื่อยเข้ามา
เป็นเวลานาน เธอถอนหายใจยาว เอาโทรศัพท์ขึ้นมาแล้ว ส่งข้อความกลับไปที่เบอร์นั้น เพียงสองคำเท่านั้น “ฉันแต่ง”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ