บทที่ 14 แค่บทละครฉากหนึ่ง
บทที่ 14 แค่บทละครฉากหนึ่ง
ในสายตาของหมี่โยวเต็มไปด้วยความตะลึง เงยหน้าขึ้น อย่างรวดเร็ว ยากที่จะเดาความคิดของหนานกงห้าวฉี
“ให้เหตุผลฉันหนึ่งข้อ” หมี่โยวพูดอย่างใจเย็น
จ้องมองสายตาคู่นั้นที่คุ้นเคย ความรู้สึกในใจสับสน วุ่นวาย วนเวียนไปมาจนถึงที่ปากคือ: ถ้าผมบอกว่ารักคุณ ตั้งแต่แรกพบ คุณเชื่อไหม?”
ได้ยินดังนั้น หมี่โยวส่ายหน้าอย่างเฉียบพลัน บนหน้ามี รอยยิ้ม แล้วพูดแบบห่างเหิน: “ไม่เชื่อ เพราะรักแรกพบ ทั้งหมดนั้น มันเป็นแค่คำพูดที่หลอกลวงคน”
ผู้หญิงคนนี้ ไม่เหมือนผู้หญิงธรรมดาทั่วไปจริงๆ หนาน กงห้าวฉี่รู้สึกว่า ถ้าเป็นเธอ เขาไม่เคยปฏิเสธ
หนานกงห้าวฉีเอามือออกจากตัวเธอ ไม่ได้พูดต่อเรื่องนี้ หันตัวแล้วพูดอย่างช้าๆว่า: “ฝันดี ถ้าต้องการอะไร ติดต่อ ผมมานะ”
ยังไม่ทันก้าวเท้าออก ชายเสื้อกลับถูกดึงไว้ แปลกใจจึงมองดู เห็นหมี่โยวบิดไปบิดมาอย่างเขินอาย พูดอย่าง เกรงๆว่า: “คุณ เอาเบอร์โทรศัพท์ให้ฉันได้ไหม? ถ้าฉัน ไม่สามารถปิดความลับพ่อแม่ไว้ได้จริงๆ อาจจะต้องการ ความช่วยเหลือจากคุณ แค่สองสามวันนี้”
มองสีหน้าของเธอแล้ว แววตาของหนานกงห้าวฉียิ้มๆ หยิบมือถือของตัวเองออกมา ยืนไปที่มือของเธอ: “กด เบอร์โทรศัพท์ของคุณ”
หมีโยวพยักหน้าอย่างเต็มใจ กดเบอร์โทรศัพท์ของตัว เองใส่มือถือ แล้วกดโทรออก ได้ยินเสียงสายเข้า ก็รีบ วางสาย “คุณชายหนานกง คราวหน้าถ้าคุณมีอะไรที่ ต้องการให้ฉันช่วยเหลือ ฉันจะพยายามช่วยให้ถึงที่สุด” หมี่โยวพูดอย่างยิ้มแย้ม
เขาใช้มือลูบๆหัวของเธอ หยิบมือถือคืนแล้วเดินไปทาง ลิพท์ เธอยืนอยู่กับที่และมองตามเขาจากไป บนหน้า ของหมีโยวมีรอยยิ้มตลอดเวลา “ถึงจะดูแปลกประหลาด หน่อย แต่ก็เป็นคนดี” หมี่โยวพูดเองเออเองอยู่คนเดียว
แต่วันนี้เธอได้ค้นหาข้อมูลของหนานกงห้าวฉี ข่าวคราว ที่ว่าเขานิสัยเย็นชาเยือกเย็นผิดปกติ มีแต่คนตามจีบไม่ เคยขาดสาย สุดท้ายก็ตัวคนเดียวไม่มีคู่ ไม่เคยเข้าใกล้ผู้ หญิงคนง่ายๆ แต่นี่มันไม่ค่อยเหมือนกับสิ่งที่เธอเห็น ทั้งหมด ทำไมถึงเป็นแบบนี้?
ในห้องนอน หมี่โยวและคุณแม่หมี่นอนคุยเล่นกันบน เตียงเล็กๆคุณแม่หมี่เอามือลูบๆหัวเธอและบ่นด้วยความ ห่วงใย: “เสี่ยวหมี่จ๋า แม่หวังไว้ตลอดว่าหนูจะรีบเติบโต เป็นผู้ใหญ่ รีบมีความรักและแต่งงาน”
หมี่โยวพิงที่อกและกอดแม่ไว้ ยิ้มแย้มเบิกบานอย่าง ดอกไม้: “หนูยังไม่แต่งงานนะคะ หนูเพิ่งเรียนจบ ชีวิตเพิ่ง จะเริ่มต้น ยังแต่งงานไม่ได้”
คุณแม่หมี่หยิกแก้มของเธอและยิ้มพูดว่า: “แต่งานแล้วก็ ค่อยๆทำงานได้ ถ้าหาผู้ชายดีๆได้แล้วก็ต้องทะนุถนอมไว้ ให้ดี แม่ดูเสี่ยวฉีหนุ่มน้อยคนนี้ไม่เลวนะ นิสัยดีไว้ใจได้”
หมี่โยวได้ยินแล้วตะลึงไปพักนึง หัวเราะแล้วตอบแม่: “แม่ หนูและเขาเพิ่งจะคบกันไม่นาน ฉะนั้นเรื่องในอนาคต ใครจะไปรู้ แม่อ่า อย่าคาดหวังให้มากขนาดนั้นเลยนะ คะ”
คุณแม่หมี่ยักคิ้วหยอกล้อเธอและพูด: “ใช่หรือ? แม่รู้สึก หนุ่มคนนั้นดีกับหนูมาก ไม่แน่ หนูสองคนคบกันไปจน แต่งงานได้”
หมี่โยวหัวเราะฮ่าๆแบบแห้งๆและไม่ตอบอะไร เธอกับ เขาก็แค่เล่นละคร ไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ก็ไม่รู้ทำไม ตอน ที่เธอคิดแบบนี้ ในใจกลับรู้สึกเจ็บแปลกๆอย่างพูดไม่ถูก
มองที่นาฬิกาแล้ว คุณแม่หมี่ลุกขึ้นมาพูด: “แม่กลับห้อง นอนก่อนนะ หนูก็รีบๆพักผ่อน แม่กับพ่ออยู่เที่ยวอีกสอง วัน ก็จะกลับแล้ว”
หมี่โยวเอามือแตะบนหัวแบบขี้เล่นๆ ขนตางอนๆ พูด อย่างอ่อนหวานว่า: “ค่ะคุณแม่ ฝันดีนะคะ”
ปิดประตูห้องแล้ว หมี่โยวจ้องมองแต่เพดานอย่างเซ่อๆ คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาวันนี้ทั้งวัน รอยยิ้มบนมุมปากยิ้ม ออกมาโดยไม่รู้ตัว
เช้าของวันที่สอง หมี่โยวพาพ่อแม่ไปเที่ยวในเมืองN เดิน ข้างๆพ่อแม่ตลอดเวลา พยายามให้ดีที่สุดเพื่อให้ท่านทั้ง สองมีความสุข
“แล้วเสี่ยวฉีล่ะ วันนี้เขาไม่มีเวลาเหรอ? เมื่อวานเขามา นั่งเป็นเพื่อนเราครึ่งวัน วันนี้เราควรเชิญชวนเขามาทาน ข้าว” คุณพ่อหมี่พูดด้วยสีหน้าที่อ่อนโยน
หมีโยวโบกมือไปมา ตอบไปอย่างฉาบฉวย: “ไม่ต้องแล้ว วันนี้เขาน่าจะงานยุ่งมาก”
คุณแม่หมี่ใช้นิ้วจิ้มไปที่หัวเธอ และว่ากล่าวเธอว่า “เสี่ยวหมี่นี่โง่จริงๆ แม่กับพ่ออยากจะรู้จักเขาให้มากกว่านี้ ดูว่านิสัยใจคอเป็นอย่างไร หนูนี่ รีบไปโทรศัพท์ไป ไม่ แน่เขาอาจจะมีเวลาว่าง”
เข้าใจความห่วงใยของทั้งสองท่าน แต่เธอไม่อยาก ให้หนานกงห้าวฉีมาที่นี่ แต่ดูแววตาที่ดุคู่นั้น หมี่โยวหด คอและยักไหล่ หยิบมือถือออกมาอย่างไม่เต็มใจ: “ฮา โหล ฉันเอง ฉันขอถามอะไรหน่อยนะ วันนี้คุณมีเวลาว่าง ไหม?”
เสียงในโทรศัพท์ ที่ต่ำๆแหบๆของเขา เหมือนเศร้า เสียใจมากอย่างงั้น: “วันนี้ผมมีธุระ”
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ