บทที่3 เพื่อนสนิทหซิวหชูเฉียว
บทที่3 เพื่อนสนิท ซิวหชูเฉียว
เสียงผู้ชายในโทรศัพท์พูดอย่างกระตือรือร้น “ซูซีปู ทุกคนรอ นายอยู่นะ”
ซูซีมู่ก้มหน้ามองต่ำ มีความกระวนกระวายใจเล็กน้อย
“ไม่ว่าง” พูดสองคำนี้เสร็จ เตรียมจะกดวางสาย ผลลัพธ์คือคำ พูดที่ดังมาจากทางนั้น ทำให้การกระทำของเขาหยุดลง
“ไม่ว่างเหรอ ซูซีปูนายล้อเล่นหรือเปล่า ตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้ว่า คู่หมั้นของนายหนีงานแต่งไปแล้ว หรือว่าคืนนี้นายยังยุ่งอยู่กับ เตรียมเข้าหอเหรอ รีบมาที่คลับ เหา…”
ลูกสาวของโล่ชิงไป๋คนนั้นหนีงานแต่งงานไปแล้วเหรอ ซูซี มู่เม้มปาก พูดอย่างจืดชืด “คืนพรุ่งนี้สองทุ่ม” พูดจบก็ตัดสาย โทรศัพท์ สายตามองขึ้นมา
โล่เฟยเอ๋อพบว่าซูซีม่ว่างสายโทรศัพท์แล้ว ตกใจอยากจะละ สายตาหนี ผลลัพธ์คือเธอยังไม่ทันจะละสายตาหนี สายตาของซู ซี.ก็มองขึ้นมา ทั้งสองสบตากันผ่านกระจกมองหลัง ดวงตาเย็น ชาของซูซึมู่ ราวกับทะเลตอนเที่ยงคืน แม้ว่าจะมีกระจกมองหลัง กั้น แต่กลับทําให้ใจของโล่เฟยเอ๋อเต้นผิดจังหวะอย่างแรง
เธอก้มหน้าลงอย่างใจหวิว
สายตาของโล่เฟยเอ๋อเบือนหนี ทำให้ดวงตาของซูซีฟูที่มีความ หวังเหมือนน้ำนิ่งที่ถูกทำให้เกิดคลื่น แต่ทว่าในไม่ช้าคลื่นก็หาย ไปกลับคืนสู่ความเยือกเย็นก่อนหน้า
ในรถเงียบสงบ รถค่อยๆหยุดลง
“ถึงชุมชนไห่ปิงแล้ว
โล่เฟยเอ๋ออุทาน ‘อ๊า’ คำหนึ่ง ตอนที่สายตามองไปที่ถนนอันคุ้น ตาด้านนอก ก็ได้สติกลับมา “ฉันมาถึงแล้ว ขอบคุณพวกคุณมาก
“ไม่ต้องเกรงใจ” โจวเฉิงส่ายหน้า
โล่เฟยเอ๋ออดมองผ่านกระจกมองหลังไม่ได้ ชำเลืองมองซูซี แวบหนึ่ง
มือขวาของเขาวางไว้ในกระเป๋ากางเกง มือซ้ายกดเลื่อน
โทรศัพท์ ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงเล็กน้อย มองไม่เห็นอารมณ์บน หน้าของเขา
ประมาณว่าเยือกเย็นมั้ง โล่เฟยเอ๋อเบือนสายตาหนี จากนั้นพูด กับโจวเฉิง “คือ…ฉันไม่ได้เอากระเป๋ามาด้วย ดังนั้น… หรือว่าคุณ ทิ้งช่องทางการติดต่อของคุณไว้ให้ฉัน ฉันจะเอาเงินค่ารถให้พวก คุณ
ในน้ำเสียงของโล่เฟยเอ๋อ มีความรู้สึกอัดอัดเล็กน้อย
โจวเฉิงชำเลืองมองซูซีฟูที่ในกระจกมองหลังแวบหนึ่ง แล้วตอบ “ไม่ต้อง ไม่เป็นไร
“งั้นขอบคุณมาก ๆ” โล่เฟยเอ๋อขอบคุณอีกครั้ง จากนั้นลงจากรถ
ในขณะที่โล่เฟยเอ๋อลงจากรถ ซูซีปูเดิมที่กำลังจ้องโทรศัพท์ ก็เงยหน้าขึ้น สายตามองไปที่เงาด้านนอกหน้าต่างรถที่ยิ่งไกล ออกไป ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไร
โจวเฉิงคิดว่าซูซีฟูกำลังโกรธ ก็รีบอธิบาย “ประธานซู เธอก็คือ โล่เฟยเอ๋อ”
ตอนที่ได้ยิน โล่เฟยเอ๋อ สามคำนี้ แม้ว่าสีหน้าของซูซีปูไม่มี การเปลี่ยนแปลงอะไร แต่มือที่กำลังถึงโทรศัพท์ ปลายนิ้วมือก็ กระตุกเล็กน้อย
เธอก็คือโล่เฟยเอ๋อ…
ผ่านไปประมาณสองวินาที ซูซี.ก็พูดออกมาสองคำอย่างเย็นชา “กลับไป”
“ครับ” ไม่เสียแรงที่เป็นประธานซู แม้จะรู้ว่าเมื่อกี้ผู้หญิงคนนั้น คือโล่เฟยเอ๋อคู่หมั่นของเขา แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาอะไร โจวเฉิงถอน หายใจในใจ จากนั้นขับรถจากไป
หลังจากที่โล่เฟยเอ๋อลงจากรถ ก็ตัวสั่นระริกๆ เดินเข้าไปใน ชมชนให
เธอไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่ คนที่อาศัยอยู่ที่นี่คือหซิว ซูเฉียวเพื่อนที่ ดีที่สุดของเธอ
ผ่านประตูและถนนที่คุ้นเคยมาถึงด้านหน้าที่พักของเพื่อนสนิท หซิวหชูเฉียว , โล่เฟยเอ๋อกดกริ่ง
ตามด้วย ด้านหลังประตูมีเสียงฝีเท้าวิ่งออกมาอย่างรีบร้อน “มา แล้ว”
ประตูถูกเปิดออก เป็นใบหน้าที่สวยงาม ผมยาวคนหัวไหล่ มองดู เหมือนกับเด็กสาวที่อ่อนโยน ถ้าคิดว่าเธอเป็นคนอ่อนโยน งั้นคุณ ก็คิดผิดแล้ว หซิวหชูเฉียวคือผู้หญิงที่แข็งแกร่งและได้มาตรฐาน
ตอนที่เธอเห็นโล่เฟยเอ๋อทั้งตัวดูไม่ได้และได้รับบาดเจ็บ เธอ ถามอย่างตะหนกตกใจ “เฟยเอ๋อ เธอไม่ใช่ไปร่วมงานแต่งของโล่ หยิวชิวหรอกเหรอ ทําไมถึงเป็นสภาพนี้ได้
ได้ยิน ‘งานแต่ง’ สองคำ โล่เฟยเอ๋อก็หน้าเสีย “ไอ้ คำเดียวไม่ สามารถอธิบายให้ชัดเจนได้”
“อย่าเพิ่งพูดเลย รีบเข้าข้างในก่อน” หซิวหชูเฉียวพูดแล้วดึงโล่ เฟยเอ๋อจากด้านนอกประตูเข้ามา หลังจากที่หยิบรองเท้าแตะจาก ชั้นวางรองเท้าคู่หนึ่งให้โล่เฟยเอ๋อ ก็ปลีกตัวเข้าในห้องครัว
โล่เฟยเอ๋อเดินเข้าไปในห้องรับแขก มองไปรอบ ๆ แวบหนึ่ง จาก นั้นตัวอ่อนปวกเปียกลงบนโซฟา
หซิวหชูเฉียวยกนำออกมาจากห้องครัว ส่งให้เธอ จากนั้นพูด “เธอไปอาบนําก่อนไป หลังจากนั้นฉันค่อยใส่ยาให้เธอ ถ้าแผล ติดเชื้อขึ้นมาก็จะยุ่งยากเอา
หลังจากโล่เฟยเอ๋อดื่มนําในแก้วหมดก็ตอบกลับ “ติดเชื้อตายไป แล้วก็ดี”
“พูดบ้าอะไร” หซิวหชูเฉียวหัวเราะและด่าว่าโล่เฟยเอ๋อประโยค หนึ่ง จากนั้นฉุดเธอลุกขึ้นจากโซฟา “รีบไปอาบน้ำ ฉันจะไปเอา เสื้อผ้ามาให้เธอ
โล่เฟยเอ๋อเอนตัวไปซบตัวของหซิวหชูเฉียว ถอนหายใจแล้วพูด “ก็ยังเป็นที่รักที่ห่วงใยฉัน”
“ฉันไม่เป็นห่วงเธอ แล้วฉันจะไปเป็นห่วงใคร” หซิวหชูเฉียวพูด แล้วผลักโล่เฟยเอ๋อเข้าไปในห้องอาบน้ำ
หลังจากครึ่งชั่วโมง โล่เฟยเอ๋อก็ออกมาจากห้องน้ำ
หซิวหชูเฉียวช่วยใส่ยาบนแผลบนแขนและขาของเธอ และโล่ เฟยเอ๋อก็เริ่มพูดเรื่องที่เธอพบเจอคืนนี้
หซิวหชูเฉียวพูดอย่างโมโห “ให้เธอแต่งงานแทนโล่หยิวชิว นั้น ใช่พ่อแท้ๆของเธอเหรอ”
สายตาของโล่เฟยเอ๋อกระพริบตา ไม่พูดอะไร
หซิวหชูเฉียวเคร่งขรึมอยู่สักพัก ถึงถาม “งั้นเธอยังจะกลับไป
ไหม”
โล่เฟยเอ๋อส่ายหน้า “รอให้เรื่องผ่านไปก่อนค่อยว่ากัน
หวหรูเฉียวสูดหายใจลึกๆ พยักหน้า “แบนนี้ก็ดี เธอก็ทำใจให้ สบายอาศัยอยู่กับฉันที่นี่เถอะ”
“อย่าพูดว่าอาศัยอยู่ แม้ว่าเธอจะเลี้ยงดูฉัน ฉันก็ยอม” โล่เฟยเอ๋ อหน้าตาแอ๊บแบ๊วมองหซิวหชูเฉียว
หซิวหชูเฉียวพูดอย่างสีหน้ารังเกียจ “เธอไปหารุ่นพี่กู้คนในใจ ของเธอให้เขาเลี้ยงดูเถอะ”
ได้ยินหซิว ซูเฉียวพูดถึงรุ่นพี่กู้ , โล่เฟยเอ๋อก็หน้าแดง
หซิวหชูเฉียวเห็นท่าทางเขินอายของโล่เฟยเอ๋อ ส่ายหน้าพูด “ฉันว่าเธอไปสารภาพรักกับรุ่นพี่กู้ของเธอให้มันจบๆ ไปเถอะ พอดียังสามารถแก้ปัญหาตอนนี้ของเธอได้”
“สารภาพเหรอ” โล่เฟยเอ๋อเงยหน้า สีหน้าเต็มไปด้วยความ ตกใจ ในไม่ช้า หน้าก็แดง แล้วก้มหน้ามองล่าง
หซิวหชูเฉียวตั้งใจวิเคราะห์แทนโล่เฟยเอ๋อ “ใช่สิ เธอสารภาพ ยืนยันความสัมพันธ์ จากนั้นก็พาเขากลับไป ถึงเวลาพวกเขายัง บังคับให้เธอแต่งงานกับคนแปลกหน้าคนนั้นล่ะก็ จากนั้นเธอและ รุ่นพี่กู้ของเธอก็สามารถอยู่ด้วยกันจนนิจนิรันด์
โล่เฟยเอ๋อไม่พูดอะไร หวหรูเฉียวเห็นเธอทั้งเขินอาย ทั้ง ราวกับว่าเต็มไปด้วยความคาดหวัง เพียงแต่ไม่มีความกล้าพอที่จะ ทำตามขั้นตอนนั้น และก็ไม่สนทนาปัญหานี้ต่อ
หลังจากที่เธอใส่ยาบนแผลตามตัวของโล่เฟยเอ๋อ เสร็จแล้ว ก็ เก็บกล่องปฐมพยาบาล แล้วก็ลากโล่เฟยเอ๋อไปนอนบนเตียง
“ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ยังต้องทำงาน รีบนอนเถอะ”
เห็นโล่เฟยเอ๋อนิ่งไป หซิวหชูเฉียวก็พูดเสริมอีกประโยค “อย่า คิดมาก เรื่องราวมักจะผ่านไป
“อึม” โล่เฟยเอ๋อพยักหน้า แล้วหลบตา
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ